หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน) คาดแนวโน้มตลาดวันนี้ เราประเมิน SET Index จะแกว่งตัว Sideways บริเวณ 1,160+- จุด โดยระยะสั้นดัชนีอาจ Rebound ได้บ้าง หลังจากความกังวลเรื่องผลกระทบแผ่นดินไหวเริ่มคลี่คลาย อย่างไรก็ตาม ปัจจัยที่จำกัด Upside และยังเป็นความเสี่ยงหลักต่อตลาดยังอยู่ที่การประกาศมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของทรัมป์ ในวันที่ 2 เม.ย. ซึ่งทรัมป์ระบุว่าจะเริ่มต้นกับทุกประเทศ หากมีสินค้าหลักที่กระทบต่อไทยอย่างมีนัยสำคัญ จะเป็น Downside ต่อเศรษฐกิจและกำไรของบริษัทจดทะเบียน (เราประเมินว่าทุกๆ 1% ของการส่งออกไปสหรัฐฯ ที่ลดลง จะกระทบต่อ GDP ไทยราว 0.1% ภายใต้ปัจจัยอื่นคงที่)
ด้านผลกระทบเชิงเศรษฐกิจของแผ่นดินไหวเบื้องต้น ตามข่าวมองว่าไม่ได้สร้างความเสียหายมาก และไม่ได้กระทบภาคอุตสาหกรรม ทำให้เชื่อว่าผลกระทบเชิงเศรษฐกิจยังไม่มาก แต่อาจกระทบต่อความเชื่อมั่นและการใช้จ่ายระยะสั้น รวมถึงการซ่อมแซมส่วนแตกร้าว
อย่างไรก็ตาม เม็ดเงินยังคงไหลเข้าสู่ตลาดพันธบัตรต่อเนื่อง และทำให้ Bond Yield ของไทยปรับตัวลง โดยอายุ 2 ปี และ 10 ปี เหลือ 1.7% และ 2% ตามลำดับ สะท้อนโอกาสที่ กนง. อาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมอีก 25 bps จากปัจจุบันที่ 2% ในปีนี้
กลยุทธ์: ยังเน้น Selective Buy เลือกหุ้น Defensive ที่แนวโน้มกำไรแข็งแกร่งและได้รับผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายนอก
หุ้นเด่นเดือน เม.ย.: BA, BBL, CPF, HMPRO, OSP
FSSIA Portfolio: BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR
- หุ้นเด่นวันนี้: ADVANC แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมายเฉลี่ยจาก IAA Consensus ที่ 306.40 บาท
แม้ว่าปี 2024 จะเป็นปีทองจากกำไรปกติที่นิวไฮ 3.45 หมื่นล้านบาท +22% y-y จาก Synergy ในการรวม 3BB เป็นปีแรก
แนวโน้มปี 2025 คาดโตต่อ 10% y-y จาก ARPU สูงขึ้นจากการแข่งขันที่ลดลง การนำคลื่นความถี่ถึง 6 ย่านมาประมูลพร้อมกันใน 2Q25 ควรทำให้ราคาประมูลไม่แพงนัก และการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Data Center
การกลับเข้ามาเทรดของ GULF อาจสร้างสีสันให้ราคาหุ้น ADVANC ส่วนทางธุรกิจเชื่อว่าจะมี Synergy ต่อไปในอนาคต
แนวรับ 270//265 บาท แนวต้าน 280//290 บาท
Fund Flow:
วานนี้ กระแสเงินทุนต่างชาติยังไหลออกจากภูมิภาคต่อเนื่องและเร่งขึ้นเป็น US$2,161 ล้าน จากความกังวลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ชะลอตัวจากนโยบายภาษีของทรัมป์ ส่งผลให้มีการเทขายสินทรัพย์เสี่ยง โดยเงินทุนไหลออกสูงสุดที่ เกาหลีใต้ และไต้หวัน (US$1,214 ล้าน และ US$857 ล้าน ตามลำดับ) ส่วนอาเซียนไหลออกจากทั้งไทยและเวียดนาม ประเทศละ US$44-50 ล้าน
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) กลยุทธ์ลงทุน 2Q25:
จับตานโยบายกำแพงภาษีของทรัมป์ ว่าจะกระทบต่อสินค้าไทยหรือไม่ คาดว่าหากส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ลดลง 1% จะกระทบ GDP ไทยราว 0.1% ตลาดยังคงกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐฯ ในช่วง 2Q25 หลังเฟดปรับลดคาดการณ์ GDP แต่ปรับเพิ่มคาดการณ์เงินเฟ้อ ปัจจัยหนุนในประเทศ ได้แก่ การผ่อนคลาย LTV แนวโน้มดอกเบี้ยที่ยังมีโอกาสปรับลงDigital WalletTHAI ESGX Fundโครงการซื้อหนี้เสียโดยภาครัฐงบ 1Q25 ของกลุ่มแบงก์ คาด q-q เพิ่มขึ้น และทรงตัว y-yเป้า SET Index ปี 2025 อยู่ที่ 1,390 จุด
Top Picks: BA, BBL, BTG, CPALL, MTC, NSL, PR9, SEAFCO, SHR
(+) BEYOND คาดกลับมากำไรในปี 2025 หลังหมดค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวกับกรณี แร่ Cadmiumตั้งเป้ารายได้ปี 2025 +7% บน RevPAR +5% y-yคาดกำไรปกติ 1Q25 ที่ 62 ล้านบาท ลดลงจาก 68 ล้านบาท ใน 1Q24 จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงปรับลดประมาณการกำไรปี 2025-26 ลง 38-48% สะท้อนอุปสงค์จากจีนที่อ่อนแอกว่าคาด และผลกระทบจากแผ่นดินไหวในกรุงเทพฯราคาเป้าหมายใหม่ 13 บาท – แนะนำ “ซื้อ”
(+) กลุ่มน้ำมันราคาน้ำมันดิบ WTI ปรับขึ้น +3% อยู่ที่ US$71.4/บาร์เรลทรัมป์ประกาศอาจขึ้นภาษีนำเข้าเป็นครั้งที่ 2 จาก 25% เป็น 50% หากรัสเซียไม่หยุดสงครามกับยูเครนเตือนมาตรการภาษีและการตอบโต้ทางทหารกับอิหร่าน หากไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงโครงการอาวุธนิวเคลียร์ตลาดกังวลว่า Supply น้ำมันจะตึงตัวข่าวกลุ่ม OPEC+ เตรียมเพิ่มกำลังผลิต เดือน เม.ย.-พ.ค.นโยบายภาษีของทรัมป์วันที่ 2 เม.ย. อาจทำให้สงครามการค้ารุนแรงขึ้น และกระทบต่ออุปสงค์น้ำมันโลก หุ้นเด่น: PTTEP, PTT, SPRC, BCP