หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ระบุถึง NETBAY ว่า เข้าสู่แลตฟอร์ม AI ขับเคลื่อนการเติบโตปี 2025 โครงการใหญ่ขยายรายได้ ตอกย้ำความแข็งแกร่งธุรกิจดิจิทัล
บริษัทรายงานกำไรสุทธิในปี 2024 อยู่ที่ 216 ล้านบาท ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการของเรา การเติบโตในปีนี้ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจหลักของบริษัทคือการให้บริการแพลตฟอร์ม โดยมุ่งเน้นให้บริการลูกค้าในกลุ่ม Logistics ที่ได้รับประโยชน์จากการเติบโตของยอดนำเข้า-ส่งออกในปี 2024 นอกจากนี้บริษัทยังดำเนินโครงการพัฒนาระบบ Digital Smart Zoo ซึ่งเป็นความร่วมมือแบบ Synergy ระหว่าง DITTO กับ NETBAY รวมถึงโครงการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มกลางสำหรับจัดเก็บฐานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก ทั้งสองโครงการนี้ช่วยเสริมสร้างรายได้และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดเทคโนโลยีดิจิทัลในปี 2024
ยกระดับ I-BOX สู่ AI-BOX เพิ่มพลัง AI ใน Digital Document
บริษัทพัฒนาแพลตฟอร์มจาก I-BOX มาเป็น AI-BOX เพิ่มศักยภาพโดยการนำ AI เข้ามาช่วยใช้ในแพลตฟอร์มด้าน Digital Document และงานโครงการพัฒนาระบบอย่างโครงการพัฒนาระบบ Digital Smart Zoo ซึ่งเป็นความร่วมมือแบบ Synergy ระหว่าง DITTO กับ NETBAY รวมถึงโครงการพัฒนาระบบแพลตฟอร์มกลางสำหรับจัดเก็บฐานข้อมูลก๊าซเรือนกระจก
Fynnet Venture ตอบโจทย์ IT Compliance ให้สถาบันการเงิน
บริษัทได้จัดตั้งบริษัทในเครือภายใต้ชื่อ Fynnet Venture โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้บริการตรวจสอบข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับสถาบันการเงิน ซึ่งจำเป็นต้องรายงานตามมาตรฐานของ ปปง. โดยมุ่งหวังให้ได้มาตรฐานการตรวจสอบที่สอดคล้องกับข้อกำหนดผ่านแพลตฟอร์ม Check+ ซึ่งเป็นการพัฒนา Feature ใหม่ๆ เพิ่มขึ้นจากแพลตฟอร์ม CDD Gateway บริการนี้มีเป้าหมายเพื่อรองรับความต้องการของกลุ่มสถาบันการเงิน ผู้ประกอบอาชีพภายใต้มาตรา 16 และผู้ประกอบการอื่นๆ ที่นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการตรวจสอบ
วางแผนแพลตฟอร์ม Carbon Credit เชื่อมข้อมูลดิจิทัล วางแผนเข้าสู่ S-curve ใหม่ Green Technology
บริษัทกำลังพัฒนาแพลตฟอร์มตรวจสอบเกี่ยวกับ Carbon Credit และศูนย์รวมข้อมูลดิจิทัลสำหรับรวบรวมข้อมูลและรายงานก๊าซเรือนกระจกของกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะนำเทคโนโลยีสีเขียวมาประยุกต์ใช้ในกระบวนการตรวจสอบ เพื่อเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันและตอบรับความต้องการของตลาดในยุคที่มีการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างรวดเร็ว
คำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 24.00 บาทสิ้นปี 2025
เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยปรับลดราคาเป้าหมายเป็น 24.00 บาทจากเดิมที่ 26 บาท ณ สิ้นปี 2025 โดยอิงจากการประเมิน PER ที่ 18.0 เท่าซึ่งสอดคล้องกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มเทคโนโลยีในตลาด นอกจากนี้เราได้ปรับลดประมาณการสำหรับปี 2025-2027 ลง 5-6% ตามลำดับ เนื่องจากการเพิ่มจำนวนพนักงานด้านการพัฒนาซอฟต์แวร์เพื่อรองรับโครงการที่คาดว่าจะขยายตัวในอนาคต ส่งผลให้คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะปรับตัวลดลงจาก 80% เป็นประมาณ 78-79% ในช่วงประมาณการปี 2025 ถึง 2027.