ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

HMPRO ปี 67 กำไร 6.5 พันลบ. ฝ่ากำลังซื้อชะลอ-ขยายสาขาเพิ่ม

          “โฮมโปร” ฝ่าวิกฤติเศรษฐกิจที่ท้าทาย ยังคงโชว์ศักยภาพผลการดำเนินงานปี 67 ทำกำไรสุทธิ 6,503.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.96% จากปีก่อน ด้วยกลยุทธ์บริหารต้นทุนและกระตุ้นยอดขายผ่าน Omni-Channel พร้อมลุยขยายสาขาเพิ่ม 9 แห่ง รวมถึงพัฒนา Hybrid Store ผสานโฮมโปร-เมกาโฮมในที่เดียว ขยายศูนย์กระจายสินค้า ต่อยอดแพลตฟอร์มออนไลน์ และเน้นสินค้ารักษ์โลก ตอกย้ำผู้นำค้าปลีกสินค้าบ้านครบวงจร

          นายวีรพันธ์ อังสุมาลีรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮม โปรดักส์ เซ็นเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ โฮมโปร (HMPRO) เปิดเผยถึงผลประกอบการในปี 2567 ว่า บริษัทฯ มีผลกำไรสุทธิสำหรับปี 2567 เท่ากับ 6,503.55 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 61.99 ล้านบาท หรือ 0.96% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน โดยมีรายได้รวมจำนวน   72,576.52 ล้านบาท ลดลง 0.34% จากปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลงจากภาวะหนี้ครัวเรือนสูง และต้นทุนสินค้าที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตาม อัตรากำไรขั้นต้นยังสามารถขยายตัวอยู่ที่ 26.82% เทียบกับ 26.60% ในปีก่อน

ปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อผลประกอบการปี 2567 ได้แก่

  • โครงการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ เช่น Easy E-Receipt และโครงการแจกเงิน 10,000 บาท แก่กลุ่มเปราะบาง ส่งผลให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้นในบางช่วง
  • กลยุทธ์การตลาดที่เน้นช่องทาง Omni-Channel โดยเพิ่มโปรโมชั่นอย่าง Double Day และ HomePro Super Expo ที่จัดในสาขาทั่วประเทศแทนการจัดงาน HomePro Expo แบบเดิม รวมถึงกิจกรรม HomePro 28th Anniversary 8 WONDERS จัดโปรลดราคาพิเศษตลอด 8 สัปดาห์เต็ม ส่งผลให้ยอดขายสินค้าออนไลน์รวมทุกแพลตฟอร์มมีการเติบโตขึ้น
  • ยอดขายสินค้ากลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าเติบโตสูง โดยเฉพาะเครื่องปรับอากาศและพัดลมในช่วงฤดูร้อน
  • ผลกระทบจากน้ำท่วมในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้ยอดขายในบางพื้นที่ลดลงชั่วคราว ก่อนจะมีการฟื้นตัวจากความต้องการซื้อสินค้าทดแทน

          ทั้งนี้ โฮมโปร มีกำไรขั้นต้นจากการขายสินค้าและการให้บริการลูกค้า (Home Service) รวมจำนวน 18,223.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 57.89 ล้านบาท หรือ 0.32%  เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน โดยอัตรากำไรขั้นต้นต่อยอดขาย เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 26.82% จาก 26.60% ในปีก่อน ซึ่งเป็นผลมาจากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนสินค้าที่มีอัตรากำไรสูง ทั้งจากธุรกิจโฮมโปรและธุรกิจเมกาโฮม

          นายวีรพันธ์ กล่าวอีกว่า ในปี 2567 โฮมโปรเดินหน้าพัฒนาธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งเน้น การเพิ่มประสิทธิภาพการสร้างรายได้ ผ่านการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าและปรับกลยุทธ์ด้านราคา รวมถึงการขยายบริการ Home Service และการพัฒนา Marketplace สำหรับสินค้ากลุ่มเฉพาะ เช่น สินค้าผู้สูงอายุ แม่และเด็ก และอุปกรณ์สำนักงาน นอกจากนี้ บริษัทยังขยายฐานลูกค้า B2B ไปยังโรงแรม ออฟฟิศ และร้านอาหาร ผ่านแพลตฟอร์มเฉพาะทาง พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพห่วงโซ่อุปทานด้วยการขยายศูนย์กระจายสินค้าและติดตั้งระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ (ASRS) เพื่อเพิ่มความรวดเร็วและลดต้นทุนในการกระจายสินค้า

          โดยโฮมโปรยังให้ความสำคัญกับ ความยั่งยืนและเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผ่านโครงการ Trade-in ที่เปิดโอกาสให้ลูกค้านำสินค้าเก่าที่ไม่ใช้แล้ว มาแลกรับส่วนลดในการซื้อสินค้าชิ้นใหม่ โดยโฮมโปรจะนำซากเก่าไปจัดการอย่างถูกวิธี เพื่อนำไปพัฒนาเป็นสินค้ารักษ์โลก (Circular Products) เช่น เครื่องใช้ไฟฟ้า กระเบื้อง และถุงช้อปปิ้งที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิล บริษัทฯ ยังมีการตั้งศูนย์ซ่อมสินค้าเพื่อลดปริมาณขยะ และนำเสนอสินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมภายใต้แบรนด์ของตนเอง (ECO Choice)

          บริษัทฯ ได้ดำเนินโครงการ ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม อย่างจริงจัง โดยติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์ แล้วกว่า 97 สาขา และเตรียมขยายเพิ่มเติม รวมถึงนำ รถ EV มาใช้ในการขนส่งสินค้าเพื่อลดมลพิษ พร้อมเข้าร่วมเป็นสมาชิกโครงการ United Nations Global Compact (UNGC) เป็นปีที่ 3 โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อม และต่อต้านการทุจริต โฮมโปรยังตั้งเป้าหมาย Net Zero 2050 เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกระบวนการดำเนินธุรกิจทั้งหมด ตอกย้ำความเป็นผู้นำค้าปลีกที่มุ่งสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนอีกด้วย

          นายวีรพันธ์ กล่าวเพิ่มเติมเรื่องการขยายสาขาว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยสิ้นปี 2567 บริษัทฯ จะมีโฮมโปร 94 สาขา, โฮมโปรเอส 5 สาขา, เมกาโฮม 30 สาขา และโฮมโปรในมาเลเซีย 7 สาขา โดยมีการขยายสาขาใหม่รวมทั้งสิ้น 9 สาขา ในรูปแบบของสาขาโฮมโปร 6 แห่งและเมกาโฮม 3 แห่ง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังได้เปิดสาขาในรูปแบบไฮบริดสโตร์ (Hybrid Store) เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าทั้งเจ้าของบ้านและช่างผู้รับเหมา โดยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่และลดต้นทุนการบริหารจัดการอีก

          “บริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่น ทุ่มเท รวมถึงความตั้งใจ ของบุคลากรทุกระดับ ตลอดจนการสนับสนุนที่ดีจากผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มเสมอมา บริษัทฯ เชื่อว่าการเติบโตทางธุรกิจที่สร้างคุณค่าให้กับทุกภาคส่วนไม่ว่าจะเป็นลูกค้า พนักงาน คู่ค้า ผู้ถือหุ้น ตลอดจนชุมชนและสังคม เป็นปัจจัยสำคัญยิ่งที่ช่วยผลักดันให้องค์กรก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งของประเทศในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนเช่นกัน” นายวีรพันธ์ กล่าวสรุปในตอนท้าย

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หุ้นไทย หลังสงกรานต์ รอด หรือ ร่วง?

หุ้นไทย หลังสงกรานต์ รอด หรือ ร่วง?

ตลท. ใช้ Ceiling & Floor (+/-30%) เริ่มมีผล 16 เม.ย.68

ตลท. ใช้ Ceiling & Floor (+/-30%) เริ่มมีผล 16 เม.ย.68

ก.ล.ต. กล่าวโทษ หมอบุญ วนาสิน เหตุเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ

ก.ล.ต. กล่าวโทษ หมอบุญ วนาสิน เหตุเผยแพร่ข้อความอันเป็นเท็จ

กลต. ยกเลิกไม่ให้กลุ่ม NON SET100 เป็นหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ เริ่ม 16 เม.ย.นี้

กลต. ยกเลิกไม่ให้กลุ่ม NON SET100 เป็นหุ้นที่สามารถขายชอร์ตได้ เริ่ม 16 เม.ย.นี้

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด