[Vision Exclusive] STEC ปรับแผนรับค่าแรงสูง พร้อมก้าวสู่ STECON Group มุ่งสร้างอนาคตยั่งยืน

          STEC เผยแนวทางรับมือค่าแรงขั้นต่ำ 400 บาท เน้นเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน พร้อมปรับโครงสร้างเป็น STECON Group เพื่อมุ่งสู่การเป็น Holding Company ต่อยอดธุรกิจรับเหมาก่อสร้างด้วยการลงทุนในธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง เสริมสร้างความยั่งยืนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในอนาคต

          นายภาคภูมิ ศรีชำนิ ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ “Ticker: STEC” เปิดเผยถึง ความคิดเห็นของผู้ประกอบการเอกชนเกี่ยวกับการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน โดยเชื่อว่ารัฐบาลมีความตั้งใจที่จะดูแลผู้ใช้แรงงาน ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญในสภาวะค่าครองชีพปัจจุบัน อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการหวังว่ารัฐบาลจะมีมาตรการสนับสนุนที่เหมาะสมเพื่อช่วยบรรเทาภาระที่อาจเกิดขึ้น เนื่องจากหากภาระดังกล่าวหนักเกินไป อาจส่งผลให้ผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินกิจการต่อไปได้ และนำไปสู่การปิดกิจการ ซึ่งอาจย้อนกลับมาสร้างปัญหาการว่างงานให้กับแรงงาน

          ในส่วนของการรับมือ กลุ่มซิโนทัยเน้นที่การเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน เพื่อให้ผลผลิตที่ออกมาสามารถครอบคลุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาทักษะแรงงาน การนำเครื่องมือและเครื่องจักรมาใช้แทนแรงงาน หรือการจ่ายค่าจ้างตามผลผลิตที่ทำได้ ปัจจุบันบริษัทมีแรงงานที่จ้างโดยตรงประมาณ 10,000 คน ซึ่งการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำอาจส่งผลกระทบต่อต้นทุนบ้าง โดยค่าแรงงานในโครงสร้างต้นทุนของบริษัทคิดเป็นประมาณ 10-15% ขึ้นอยู่กับลักษณะงานที่ดำเนินการ หากคำนวณโดยใช้สมมุติฐานการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 400 บาทต่อวัน จะทำให้ต้นทุนค่าแรงเพิ่มขึ้นโดยตรงประมาณ 2-3%

          ดังนั้น การแก้ไขปัญหานี้เป็นความรับผิดชอบร่วมกันระหว่างผู้ประกอบการและภาครัฐ เพื่อให้ผลประกอบการของธุรกิจสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างยั่งยืน

          ในส่วนของภาพรวมธุรกิจงานรับเหมาก่อสร้างในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ยังคงเผชิญกับภาวะการประมูลงานจากภาครัฐและเอกชนที่ออกมาน้อยมาก ซึ่งสาเหตุหลักมาจากการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลและความล่าช้าในการอนุมัติงบประมาณ ซึ่งเป็นผลสืบเนื่องมาจากปี 2566 ที่มีการเลือกตั้ง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกระบวนการอนุมัติงบประมาณได้ผ่านพ้นไปแล้ว และรัฐบาลชุดใหม่ยังคงมีผู้นำในพรรคเดิม จึงคาดว่าการเร่งรัดแผนการลงทุนของภาครัฐจะมีความต่อเนื่องมากขึ้น ขณะเดียวกัน ภาคเอกชนก็คาดว่าจะมีความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้นตามไปด้วย ซึ่งจะช่วยกระตุ้นภาพรวมของธุรกิจรับเหมาก่อสร้างในช่วงครึ่งปีหลัง

          สำหรับแผนการปรับโครงสร้างของ STEC อยู่ในช่วง การนำหุ้น STEC มาแลกเป็น STECON group ซึ่งจะเปิดให้แลกจนถึง 21 ตุลาคม 2567  เป็นไปตามการการปรับโครงสร้างการถือหุ้นและการจัดการ เพื่อมุ่งสู่การเป็น Holding Company ภายใต้ชื่อ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทโฮลดิ้ง” หรือ “Ticker: STECON”) เพื่อประกอบธุรกิจในลักษณะบริษัทลงทุนที่ไม่ได้ทำธุรกิจของตนเอง (Non-operating Holding Company) แต่เข้าถือหุ้นในบริษัทอื่นโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการมีอำนาจควบคุมกิจการในบริษัทอื่น เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต โดยบริษัทมีแผนลงทุนในธุรกิจที่สร้าง Recurring Income และธุรกิจใหม่ที่มีการเติบโตสูง (New S-Curve) วางเป้าหมายในช่วง 5 – 10 ปี ข้างหน้า ดันรายได้ในธุรกิจใหม่เติบโตอย่างโดดเด่น หวังกระจายความเสี่ยง สร้างรายได้ประจำ เสริมแกร่งธุรกิจรับเหมาก่อสร้างเพื่อกระจายความเสี่ยง และเพิ่มความสามารถในการสร้างรายได้ไปยังธุรกิจอื่นที่นอกเหนือจากธุรกิจวิศวกรรมและก่อสร้างเดิม

          ที่ผ่านมา STEC มีประสบการณ์ด้านธุรกิจรับเหมาก่อสร้างมาอย่างยาวนาน สามารถรักษา Backlog ใกล้เคียงระดับ 1 แสนล้านบาทได้อย่างต่อเนื่อง มีผลประกอบการที่เป็นกำไรมาโดยตลอด รวมทั้งมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้บริษัทสามารถสร้างผลตอบแทนในรูปแบบเงินปันผลในแก่นักลงทุนมาอย่างต่อเนื่อง สำหรับการปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งนี้ เพื่อสร้างรายได้ประจำที่ยั่งยืนให้กับธุรกิจ สร้างโอกาสในการเข้าถึงธุรกิจที่มีการเติบโตสูงและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน

รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว สำนักข่าว Hoonvision
แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ปตท.สผ. รักษามาตรฐานการดำเนินงานด้านความยั่งยืนระดับสากลอย่างต่อเนื่อง

ปตท.สผ. รักษามาตรฐานการดำเนินงานด้านความยั่งยืนระดับสากลอย่างต่อเนื่อง

ORI ทุบสถิติขายต่างชาติพุ่ง 5,700 ลบ. เล็งโรดโชว์มุ่งตลาดโลก

ORI ทุบสถิติขายต่างชาติพุ่ง 5,700 ลบ. เล็งโรดโชว์มุ่งตลาดโลก

PR9 คาด Q4 รายได้โตจากผู้ป่วยไทย-ต่างชาติ โบรกแนะ “ซื้อ” ขยับเป้าที่ 29.50 บาท

PR9 คาด Q4 รายได้โตจากผู้ป่วยไทย-ต่างชาติ โบรกแนะ “ซื้อ” ขยับเป้าที่ 29.50 บาท

ความงามดาวรุ่งปี68 MASTER พร้อมสวย

ความงามดาวรุ่งปี68 MASTER พร้อมสวย

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด