ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตเสนอขายโทเคนดิจิทัลแบบกลุ่ม (shelf filing) เพื่อรองรับการระดมทุนของอุตสาหกรรม soft power ส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การอนุญาตเสนอขายโทเคนดิจิทัลแบบกลุ่ม (shelf filing) และการปรับปรุงสัดส่วนและมูลค่าการเสนอขายต่อผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อรองรับการระดมทุนของกลุ่มอุตสาหกรรมวัฒนธรรมสร้างสรรค์ (soft power) ช่วยส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของประเทศ โดยมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
ก.ล.ต. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ shelf filing และการปรับปรุงสัดส่วนและมูลค่าการเสนอขายต่อผู้ลงทุนรายย่อย เพื่อเพิ่มทางเลือกและความยืดหยุ่นในการขออนุญาตเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน (ICO) ให้ภาคเอกชนสามารถเลือกใช้ได้สอดคล้งลักณะของโทเคนดิจิทัล และเพื่อให้ข้อกำหนดเกี่ยวกับการระดมทุนรวมจากผู้ลงทุนรายย่อยมีความยืดหยุ่นและเหมาะสมกับลักษณะของโครงการ โดยยังมีการคุ้มครองผู้ลงทุนอย่างเพียงพอเหมาะสม อันเป็นการส่งเสริมการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการระดมทุน ซึ่ง ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นต่อหลักการและร่างประกาศการปรับปรุงหลักเกณฑ์ดังกล่าวแล้วเสร็จเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา และผู้เกี่ยวข้องส่วนใหญ่เห็นด้วย ก.ล.ต. จึงออกประกาศเพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ข้างต้น โดยมีสาระสำคัญดังนี้
(1) หลักเกณฑ์เกี่ยวกับการขออนุญาต ICO แบบกลุ่ม (shelf filing) กำหนดให้โทเคนดิจิทัลที่สามารถเสนอขายแบบ shelf filing ต้องเป็นโทเคนดิจิทัลที่เป็นโครงการซึ่งมีทรัพย์สินอ้างอิงหรือทรัพย์สินที่ลงทุนในลักษณะเดียวกันหรือโครงการในทำนองเดียวกันตามที่ ก.ล.ต. ประกาศกำหนด ได้แก่ โครงการในกลุ่มอุตสาหกรรม soft power เช่น ดนตรี ภาพยนตร์ ละคร ศิลปะ เป็นต้น โดยผู้ที่ได้รับอนุญาตให้เสนอขายแบบ shelf filing จะสามารถเสนอขายโทเคนดิจิทัลได้โดยไม่จำกัดมูลค่าและจำนวนครั้งที่เสนอขายภายในระยะเวลา 2 ปีนับแต่วันที่ได้รับอนุญาต ทั้งนี้ การยื่นคำขออนุญาต แบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (แบบ filing) การชำระค่าธรรมเนียม และข้อกำหนดเกี่ยวกับ ICO จะต้องเป็นไปตามที่ประกาศกำหนด
(2) ยกเว้นการกำหนดสัดส่วนและมูลค่าการเสนอขายโทเคนดิจิทัลรวมต่อผู้ลงทุนรายย่อยกรณีที่เป็นโครงการในกลุ่มอุตสาหกรรม soft power จากเดิมที่มีการจำกัดมูลค่าการระดมทุนรวมต่อผู้ลงทุนกลุ่มดังกล่าวไว้
ทั้งนี้ การออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ดังกล่าว* ได้เผยแพร่ลงในราชกิจจานุเบกษาและมีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
นายเอนก อยู่ยืน รองเลขาธิการ และโฆษก ก.ล.ต. กล่าวว่า “ก.ล.ต. ในฐานะเป็นหน่วยงานที่มีบทบาทในการพัฒนาตลาดทุน เห็นถึงความสำคัญของการส่งเสริมให้เกิดการนำเทคโนโลยีมาใช้ในตลาดทุน โดยเฉพาะด้านการระดมทุนของกิจการผ่านเครื่องมือที่หลากหลายเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ การปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ ก.ล.ต. คาดัว่า จะมีส่วน่วยส่งเสริมโครงการในกลุ่มของาหกรรม soft power ให้เข้าถึงแหล่งทุนในตลาดทุนได้สะดวกขึ้น ตลอดจนเป็นหนึ่งในกลไกที่จะช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรม soft power สามารถสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (creative economy) ของประเทศให้เติบโตก้าวหน้าต่อไป”
______________________
หมายเหตุ:
* ประกาศที่เกี่ยวข้องจำนวน 5 ฉบับ ดังนี้
- ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 26/2567 เรื่อง การเสนอขาย
โทเคนดิจิทัลต่อประชาชน (ฉบับที่ 13) (https://publish.sec.or.th/nrs/10366s.pdf) และตารางการมี
ผลใช้บังคับของแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัล (https://publish.sec.or.th/nrs/10367s.pdf)
- ประกาศคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ กจ. 27/2567 เรื่อง หลักเกณฑ์ เงื่อนไขและวิธีการให้ความเห็นชอบผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ฉบับที่ 12) (https://publish.sec.or.th/nrs/10370s.pdf)
- ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 24/2567 เรื่อง การกำหนดลักษณะและประเภทของโทเคนดิจิทัลที่สามารถเสนอขายแบบกลุ่ม (https://publish.sec.or.th/nrs/10371s.pdf)
- ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 25/2567 เรื่อง การเสนอขาย
โทเคนดิจิทัลที่ไม่ต้องกำหนดมูลค่าสูงสุดของการเสนอขายรวมต่อผู้ลงทุนที่มิใช่ผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุน
รายใหญ่พิเศษ หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ (https://publish.sec.or.th/nrs/10372s.pdf) - ประกาศสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ที่ สจ. 26/2567 เรื่อง หลักเกณฑ์
ในรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลของผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ฉบับที่ 2)
(https://publish.sec.or.th/nrs/10373s.pdf) และตารางแนบท้ายประกาศ (https://publish.sec.or.th/nrs/10374s.pdf)