ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

บอร์ด COCOCO ไฟเขียวตั้งโรงงานในฟิลิปปินส์ หนุนกำลังผลิตกะทิแตะ 1.55 แสนตัน/ปี / SET

          หุ้นวิชั่น – ที่ประชุมคณะกรรมการ “COCOCO” มีมติอนุมัติโครงการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ มูลค่า 430 ลบ. รองรับการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กะทิ หลังคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้น ทั้งในปัจจุบันและอนาคต หวังขยายยอดขาย สหรัฐฯ – ยุโรป เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ระบุกำลังการผลิตกะทิจะเพิ่มเป็น 155,000 ตันต่อปี จากเดิม 99,000 ตันต่อปี พร้อมคาดเริ่มผลิตและสร้างรายได้เชิงพาณิชย์ภายใน Q1/69 หนุนการเติบโตต่อเนื่อง

 

          ดร.วรวัฒน์ ชิ้นปิ่นเกลียว ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ  บริษัท ไทย โคโคนัท จำกัด (มหาชน) (“COCOCO”)  เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัทฯ ครั้งที่ 1/2568 เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 มีมติอนุมัติโครงการลงทุนในประเทศฟิลิปินส์ มูลค่าประมาณ 430 ล้านบาท เพื่อรองรับการผลิตสินค้ากลุ่มผลิตภัณฑ์กะทิ ให้สอดคล้องกับกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น และตอบสนองต่อยอดคำสั่งซื้อที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งในปัจจุบันและอนาคต

          ภายหลังการลงทุนโครงการดังกล่าว จะทำให้กำลังการผลิตสูงสุดของผลิตภัณฑ์กะทิเพิ่มขึ้นจากเดิม 99,000 ตันต่อปี เป็นประมาณ 155,000 ตันต่อปี ซึ่งการตัดสินใจลงทุนครั้งนี้ เพื่อเข้ามาช่วยสนับสนุนต่อการขยายยอดขายในสหรัฐฯ และยุโรป ให้สามารถแข่งขันได้ ประกอบกับ เป็นตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยการขยายกำลังการผลิตครั้งนื้จะส่งผลเชิงบวกต่อการเติบโตของธุรกิจ

ทั้งนี้ บริษัทฯ จะดำเนินการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ผ่านบริษัทย่อยที่จะจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นใหม่ ภายใต้ชื่อ “Novococonut” ซึ่งได้มีการทำสัญญาเช่าพื้นที่ระยะยาวเป็นระยะเวลา 25 ปี ใน Anflo Industrial Estate (AIE) เพื่อก่อสร้างอาคารโรงงานสำหรับไลน์การผลิต ผลิตภัณฑ์กะทิและส่งออกสินค้าดังกล่าวให้แก่ลูกค้าของบริษัทฯ รวมถึงลงทุนในอาคาร เครื่องจักร และระบบสาธารณูปโภคต่างๆ โดยบริษัทฯ คาดว่าการก่อสร้างอาคารโรงงานและการติดตั้งเครื่องจักรจะแล้วเสร็จและเริ่มเปิดดำเนินการผลิตได้ประมาณไตรมาสที่ 1 ปี 2569 และเริ่มรับรู้รายได้เชิงพาณิชย์

 

ดร.วรวัฒน์ กล่าวต่อว่า โครงการลงทุนในประเทศฟิลิปินส์ จะทำให้บริษัทฯ สามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากการลงทุนในประเทศฟิลิปปินส์ ช่วยให้สามารถเข้าถึงแหล่งผลิตมะพร้าวที่มีต้นทุนต่ำ สามารถควบคุมต้นทุนได้ดีขึ้น ช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขัน เนื่องจากบริษัทฯ สามารถใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้าในกรอบความร่วมมือต่าง ๆ เช่น ASEAN Free Trade Area (AFTA) และบริษัทฯ มีแผนให้บริษัทย่อยของบริษัทฯ ที่จะจดทะเบียนจัดตั้งขึ้นใหม่ขอรับสิทธิประโยชน์จากสิทธิพิเศษในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (PEZA) ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขของประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งหากได้รับการอนุมัติดังกล่าวจะทำให้บริษัทฯ สามารถใช้ประโยชน์จากจากสิทธิพิเศษในเขตเศรษฐกิจพิเศษ (PEZA) เช่น การยกเว้นภาษีนำเข้าอุปกรณ์ การลดภาษีเงินได้นิติบุคคล และการสนับสนุนอื่น ๆ

 

นอกจากนี้ การลงทุนตั้งโรงงานในประเทศฟิลิปปินส์เป็นการเปิดโอกาสให้บริษัทฯ สามารถนำส่งวัถตุดิบน้ำมะพร้าวกลับมายังประเทศไทย ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนวัตถุดิบ เสริมสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน และเพิ่มโอกาสในการขยายตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ

 

สำหรับการเข้าทำรายการครั้งนี้ บริษัทฯ จะใช้แหล่งเงินทุนจากการกู้ยืมสถาบันการเงินสัดส่วน 90% และกระแสเงินสดภายในบริษัทฯ สัดส่วน 10% โดยบริษัทฯ คาดว่าจะจดทะเบียนจัดตั้งแล้วเสร็จภายในไตรมาส 1 ปี 2568 โดยบริษัทฯ จะถือหุ้นในสัดส่วน 100%

 

“การลงทุน ในฟิลิปปินส์เป็นการเปิดโอกาสให้ COCOCO ในการขยายการเติบโต เรามองว่าเป็นการลงทุนที่เหมาะสมกับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ทำให้ COCOCO มั่นใจว่าเป็นการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนที่ดีในอนาคตให้กับผู้ถือหุ้น และจะช่วยขยายการเติบโต โดยคาดว่าจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทได้ในอนาคต ด้วยกลยุทธ์เหล่านี้ บริษัทฯ จะสามารถสร้างสมดุลระหว่างการลดต้นทุนและการรักษาคุณภาพสินค้า เพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดระดับโลกได้ สะท้อนมายังผลการดำเนินงานที่คาดมีแนวโน้มเติบโตดีในอนาคต” ดร.วรวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

[Vision Exclusive] PLANB จ่อบุ๊กงาน VGI ไร้ปมสมาคมฟุตบอล

[Vision Exclusive] PLANB จ่อบุ๊กงาน VGI ไร้ปมสมาคมฟุตบอล

BA เป้าผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน บินเส้นทางฮอต - มาร์จิ้นสูง

BA เป้าผู้โดยสาร 4.7 ล้านคน บินเส้นทางฮอต - มาร์จิ้นสูง

ORI จัด 2,965 ลบ. จ่ายหุ้นกู้ครบ  Q1 คอนโดรอโอน 5,600 ลบ.

ORI จัด 2,965 ลบ. จ่ายหุ้นกู้ครบ Q1 คอนโดรอโอน 5,600 ลบ.

ทรีนีตี้ ปี 67 พลิกกำไร เดินหน้าปรับโครงสร้างทุนเสริมแกร่ง

ทรีนีตี้ ปี 67 พลิกกำไร เดินหน้าปรับโครงสร้างทุนเสริมแกร่ง

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด