[Vision Exclusive] BEM สัญญานปีทอง ผู้โดยสารแน่นทุกขบวน

          หุ้นวิชั่น – BEM ชูปี 2568 เป็นปีทอง ผู้โดยสายรถไฟฟ้าแน่นเติบโตต่อเนื่องโครง ส่วนทางด่วน หวังแรงส่งจากนักท่องเที่ยวช่วยกระตุ้น พร้อมลุยขยายโครงการใหญ่ ทั้งทางด่วน 2 ชั้น(Double Deck)  และรถไฟฟ้าสายสีส้ม ดันศักยภาพรับการเดินทางที่เพิ่มขึ้น โบรกคาดว่ากำไรปี 67 จะเติบโต 11% สู่ระดับสูงสุดใหม่ที่ 3.8 พันล้านบาท ราคาเป้าหมาย  10.40 บาท

          ดร.สมบัติ กิจจาลักษณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เปิดเผยว่า ปี 2568 ถือเป็นปีที่สดใสสำหรับบริษัท โดยปริมาณการจราจรและผู้โดยสารรถไฟฟ้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในช่วงวันทำงาน (Weekday) ที่มีผู้โดยสารรถไฟฟ้าเฉลี่ยถึง 500,000 เที่ยวต่อวัน ส่งผลให้อัตราการเติบโตของรายได้ในส่วนนี้คาดว่าจะเพิ่มขึ้นในระดับ ตัวเลขสองหลัก หรือมากกว่า 10% ต่อปี

          การเปิดโครงการขนาดใหญ่ เช่น One Bangkok ยังช่วยเพิ่มปริมาณผู้โดยสารให้มากขึ้น ขณะเดียวกัน ธุรกิจทางด่วนยังคงสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง แม้จะไม่เติบโตสูงมาก โดยคาดการณ์ว่าปริมาณจราจรอาจแตะ 1.2 ล้านเที่ยวต่อวัน ทั้งนี้ การเติบโตในส่วนของทางด่วนยังขึ้นอยู่กับกิจกรรมการเดินทางและการท่องเที่ยว ซึ่งปัจจุบันยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดยเฉพาะจากนักท่องเที่ยวจีนที่ยังไม่กลับมาในระดับที่คาดหวัง

          นอกจากนี้ โครงการร่วมลงทุน ทางด่วน 2 ชั้น (Double Deck) ยังคงอยู่ระหว่างรอความชัดเจน ซึ่งหากได้รับการอนุมัติจะเป็นปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญของบริษัท ส่วนโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มตะวันออกที่มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงต้นปี 2567 คาดว่าจะช่วยเพิ่มจำนวนผู้โดยสารในระบบให้มากขึ้น บริษัทอยู่ระหว่างทยอยลงทุนรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเพิ่มอีก 21 ขบวน และสายสีส้มตะวันออกอีก 32 ขบวน เพื่อตอบรับความต้องการของผู้โดยสาร โดยจะมีการทดลองวิ่งก่อนเปิดให้บริการจริง

          ในส่วนของการบริหารจัดการทางการเงิน BEM มีหุ้นกู้ในตลาดมูลค่ากว่า 48,000 ล้านบาท และในปีนี้มีหุ้นกู้ครบกำหนดอายุกว่า 7,000 ล้านบาท บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการชำระคืนที่เหมาะสม ซึ่งบริษัทมีศักยภาพในการดำเนินการได้หลากหลายวิธี

          ดร.สมบัติ กล่าวทิ้งท้ายว่า การเติบโตของ BEM ในปีนี้จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพของบริการ ขยายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน และสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในระยะยาว พร้อมทั้งเสริมศักยภาพเพื่อรองรับการเติบโตของการเดินทางในอนาคต

          บล.กรุงศรี ระบุถึง BEM ว่าข้อมูล BEM เดือนธันวาคม มีรายงานที่ทำให้เห็นว่าภาพรวมรายได้จากธุรกิจทางด่วนและรถไฟฟ้า เพิ่มขึ้น 0.3% และ 2% QoQ ใน 4Q24 อย่างไรก็ตาม คาดว่ากำไรสุทธิของกลุ่มจะลดลง QoQ เนื่องจากไม่มีรายได้จากเงินปันผลของ CKP และ TTW คงประมาณการกำไรต่อหุ้นปี 2567F ไว้ที่เติบโต 11% YoY

          ปริมาณการจราจรทางด่วนลดลง 1.8% MoM ขณะที่จำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้าลดลง 7% MoM ในเดือนธันวาคม อย่างไรก็ตาม แรงส่งผลการดำเนินงานยังคงเป็นบวก YoY สำหรับธุรกิจรถไฟฟ้า โดยจำนวนผู้โดยสารเพิ่มขึ้น 6.3% YoY และรายได้เพิ่มขึ้น 15% YoY ในทางกลับกัน ปริมาณการจราจรทางด่วนลดลง 1.3% YoY

          คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2567 ไว้ที่เติบโต 11% YoY และปี 2568 ที่ 8% ข้อมูลเดือนธันวาคมทำให้จำนวนผู้โดยสารเฉลี่ยใน 4Q24 อยู่ที่ 445,000 เที่ยวต่อวัน (+7% YoY, +2% QoQ) และปริมาณการจราจรทางด่วนอยู่ที่ 1.12 ล้านเที่ยวต่อวัน (-0.5% YoY, +0.3% QoQ) ปริมาณการจราจรทางด่วนรายวันทรงตัว YoY เนื่องจากปัจจัยชั่วคราว (การก่อสร้างใกล้ทางด่วนของ BEM) และปัจจัยถาวร (ระบบการทำงานแบบไฮบริด) ในขณะเดียวกัน อัตราการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารรถไฟฟ้ารายวันชะลอตัวลงเหลือเพียง +7% YoY (จาก 13-15% ใน 1H24) แต่เป็นผลมาจาก BEM ได้ปรับขึ้นค่าโดยสารมีผลตั้งแต่วันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา อัตราการเติบโตของรายได้ – รวมถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นค่าโดยสาร – ยังคงอยู่ในระดับกลางถึงสูงที่ +16% YoY แม้ว่าข้อมูลใน 4Q24 จะเป็นไปในทิศทางที่ดี (QoQ) แต่คาดว่ากำไรจะลดลง QoQ เนื่องจากไม่มีรายได้จากเงินปันผลของ CKP และ TTW คงประมาณการกำไรสุทธิทั้งปีไว้ที่ 3.8 พันล้านบาท (+11% YoY)

          คงคำแนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมายที่ 10.4 บาทต่อหุ้น ราคาหุ้น BEM มีผลการดำเนินงานที่ต่ำกว่า SET และ BTS เนื่องจากความกังวลด้านกฎระเบียบ (รัฐบาลอาจซื้อสัมปทานคืน) และโครงการรถไฟฟ้าชั้นสอง อย่างไรก็ตาม BEM เป็นหุ้นป้องกันความเสี่ยงที่น่าสนใจ และมีการเติบโตของกำไรที่ดี โดยคาดว่ากำไรจะเติบโต 11% YoY สู่ระดับสูงสุดใหม่ที่ 3.8 พันล้านบาทในปีนี้

รายงานโดย : ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว