หุ้นวิชั่น – SONIC บาทอ่อนหนุนส่งออก จับตานโยบายการค้าระหว่างประเทศ เล็งเจาะฐานใหม่ทำเงิน พร้อมตั้งเป้าโตแบบ Organic 10% พร้อมรับทรัพย์คลังสินค้าใหม่เต็มปี ชี้มาร์จิ้นสูง บอสใหญ่ “สันติสุข โฆษิอาภานันท์” ย่องศึกษาโปรเจ็กต์ใหม่เสริมศักยภาพ อวดกระแสเงินสดแน่น 400 ล้านบาท
ดร.สันติสุข โฆษิอาภานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โซนิค อินเตอร์เฟรท จำกัด (มหาชน) หรือ SONIC กล่าวกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า แนวโน้มการอ่อนค่าของอัตราแลกเปลี่ยนจะส่งผลดีต่อการส่งออก โดยคาดว่าแนวโน้มการขนส่งจะเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากหยุดเทศกาลปีใหม่ อย่างไรก็ตาม ในช่วงต้นปี 2568 จะมีเทศกาลตรุษจีน ซึ่งคาดว่าจะส่งผลให้มีการส่งออกสินค้าและปริมาณการขนส่ง (วอลุ่ม) เพิ่มขึ้นจากช่วงปัจจุบัน
ในขณะเดียวกัน ภาพรวมของการขนส่งในปี 2568 ยังมีปัจจัยที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะนโยบายการค้าของประธานาธิบดีคนใหม่ โดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งคาดว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายที่อาจส่งผลกระทบต่อการขนส่งและการค้าระหว่างประเทศ
แม้ปัจจุบันมีสัดส่วนการส่งออกไปยังตลาดอเมริกาเพียงเล็กน้อย รองลงมาจากการส่งออกไปยังอาเซียน แต่หากพิจารณาในด้านอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) การส่งออกไปอเมริกามีมาร์จิ้นที่สูงกว่าอาเซียน อย่างไรก็ตาม หากเกิดกรณีที่สหรัฐฯ ปิดกั้นการค้าระหว่างประเทศ เชื่อว่าลูกค้าจะปรับเปลี่ยนธุรกิจไปสู่ตลาดใหม่ และ SONIC จะขยายการขนส่งไปยังประเทศอื่นๆ เพิ่มเติม เช่น ประเทศในภูมิภาคอเมริกาใต้และแอฟริกา
สำหรับแผนการเติบโตในปี 2568 คาดว่าธุรกิจโลจิสติกส์หรือขนส่งจะเติบโตได้ประมาณ 10% โดยไม่รวมกับธุรกิจ Non-Logistic ซึ่งเป็นการเติบโตแบบ Organic
ในส่วนของธุรกิจ Non-Logistic บริษัทกำลังเดินหน้าเจรจาเพื่อหาทางเลือกในการเพิ่มโปรเจ็กต์ใหม่ๆ เพื่อเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ พร้อมกันนี้ SONIC ยังมีสภาพคล่องทางการเงินที่แข็งแกร่ง โดยมีกระแสเงินสดจำนวน 400 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเพียงพอต่อการขยายธุรกิจในอนาคต
ดร.สันติสุข กล่าวต่อว่า ในปี 2568 บริษัทจะเริ่มรับรู้ผลการลงทุนในธุรกิจแวร์เฮ้าส์ (คลังสินค้า) เต็มปี หลังจากที่ได้เข้าซื้ออาคารคลังสินค้าจากบริษัท หยังกี้ กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด ด้วยมูลค่าการลงทุนไม่เกิน 161 ล้านบาท โดยคาดว่าในปี 2568 อัตราการใช้พื้นที่ (utilization) ของคลังสินค้าจะเพิ่มขึ้นเป็น 100% จากปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ประมาณ 60% และบริษัทคาดว่าธุรกิจคลังสินค้าจะสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดี เนื่องจากมีอัตรากำไรขั้นต้น (มาร์จิ้น) สูงถึง 60-70% ซึ่งสูงกว่าธุรกิจขนส่ง
บริษัทอยู่ระหว่างการเจรจาและมองหาโปรเจ็กต์ใหม่ๆ ในการลงทุนทั้งในธุรกิจโลจิสติกส์ และธุรกิจพลังงาน รวมถึงธุรกิจที่ไม่เกี่ยวข้องกับพลังงาน เพื่อเสริมศักยภาพในการเติบโตในอนาคต
รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision