หุ้นวิชั่น – บทวิเคราะห์ บล.ดาโอระบุว่า สินเชื่อเดือน พ.ย. 24 เพิ่มขึ้นได้ดีที่ +0.6% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่และภาครัฐ ภาพรวมสินเชื่อเดือน พ.ย. 24 ทั้ง 7 ธนาคารที่เรา cover อยู่ที่ 10.7 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.7% MoM ส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อภาครัฐ ส่วนสินเชื่อรายย่อยที่มาจากสินเชื่อเช่าซื้อยังคงลดลงต่อเนื่อง โดยธนาคารที่มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ BBL เพิ่มขึ้น +1.4% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่เป็นหลัก รองลงมาเป็น KTB เพิ่มขึ้น +1.2% MoM จากสินเชื่อภาครัฐเป็นหลัก และ KBANK +1.0% MoM จากสินเชื่อรายใหญ่และรายย่อย ขณะที่ธนาคารที่มีสินเชื่อลดลงมากที่สุด MoM คือ KKP -0.7% MoM ลดลงจากสินเชื่อเช่าซื้อทั้งในส่วนของรถใหม่และรถมือสอง รองลงมาเป็น SCB -0.4% MoM จากสินเชื่อทุกประเภท แต่บริษัทลูกๆอย่าง AutoX และ Monix ยังคงเพิ่มขึ้นได้อยู่
ขณะที่ TTB ทรงตัว MoM จากสินเชื่อรายใหญ่และสินเชื่อ High yield ยังเพิ่มขึ้น แต่สินเชื่อรายย่อยและ SME ยังลดลง ส่วนภาพรวมของเงินฝากเดือน พ.ย. 24 อยู่ที่ 12.6 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น +0.2% MoM โดยธนาคารที่เงินฝากเพิ่มขึ้นมากที่สุดคือ BBL เพิ่มขึ้น +1.0% MoM รองลงมาเป็น KBANK, KTB เพิ่มขึ้น +0.5%, +0.2% จากเงินฝาก CASA เป็นหลัก ส่วนเงินฝากที่ลดลงมากที่สุดคือ SCB -2.3% MoM จากเงินฝากทุกประเภท โดยมี saving ลดลงมากที่สุด รองลงมาเป็น TTB -1.1% MoM จากเงินฝากประจำที่ลดลง (ที่มา: ข้อมูลบริษัท)
มองเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคาร มีมุมมองเป็นบวกต่อสินเชื่อในเดือน พ.ย. 24 ที่เพิ่มขึ้นได้ดีที่ +0.6% MoM จากเดือน ต.ค. 24 ที่เพิ่มขึ้น +0.2% MoM โดยการเพิ่มขึ้นส่วนใหญ่มาจากสินเชื่อรายใหญ่และภาครัฐเป็นหลัก ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อยังลดลงตามทิศทางของยอดขายรถยนต์ที่มีการปรับตัวลดลงและจากกำลังซื้อชะลอตัว รวมถึงหนี้ครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ทำให้กลุ่มธนาคารมีการเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น ขณะที่เราคาดว่าสินเชื่อรายใหญ่และภาครัฐจะมี Momentum ที่เพิ่มขึ้นได้ในช่วงเดือน ธ.ค. 24 ตามโครงการใหญ่ๆของภาครัฐที่เพิ่มขึ้น ทั้งนี้ภาพรวมการประมาณการการเติบโตของสินเชื่อรวมทั้งปี 2024E ของกลุ่มที่ +0.8% YoY น่าจะมี downside เล็กน้อยเพราะ 11M24 อยู่ที่ -1.0% YTD ด้าน NPL คาดว่ามีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เชื่อว่าจะทยอยเพิ่มขึ้นไม่น่ากังวลมากนัก เพราะแต่ละธนาคารมีการตั้งสำรองฯจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่องในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา และมีการทยอยขายหนี้เสียออกมาอย่างต่อเนื่อง โดยคาด NPL ในปี 2024E จะอยู่ที่ 3.29% จาก 2.92% ในปี 2023 คงน้ำหนักเป็น “มากกว่าตลาด” เลือก KTB,
KBANK เป็น Top pick ขณะที่ BBL จะได้รับผลบวกจากสินเชื่อที่เติบโตได้สูงสุดในเดือน พ.ย. 24 เราให้น้ำหนักการลงทุนของกลุ่มธนาคารเป็น “มากกว่าตลาด” เพราะแนวโน้มการเติบโตของกำไรปี 2024E-2025E จะยังเติบโตได้ต่อเนื่องอีก 5-6% YoY ขณะที่ valuation ยังถูก โดยเทรดที่ระดับเพียง 0.65x PBV (-1.25SD below 10-yr average PBV)
ขณะที่ยังคงเลือก KTB, KBANK เป็น Top pick ขณะที่ BBL จะได้รับผลบวกจากสินเชื่อที่เติบโตได้สูงที่สุดในเดือน พ.ย. 24
– KTB ราคาเป้าหมายที่ 24.50 บาท อิง PBV 2025E ที่ 0.85x (-0.75SD below 10-yr average PBV) เพราะกำไรสุทธิปี 2024E อยู่ที่ 4.3 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นสูงที่สุดในกลุ่มธนาคารที่ +18% YoY ขณะที่เราคาดว่าแนวโน้มกำไรสุทธิ 4Q24E จะเพิ่มขึ้น YoY แต่จะลดลง QoQ จาก OPEX ที่เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล และ KTB เน้นปล่อยสินเชื่อภาครัฐมากขึ้น ซึ่งเป็นสินเชื่อที่มีความเสี่ยงต่ำและรองรับกับสภาพเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงได้
– KBANK ราคาเป้าหมายที่ 176.00 บาท อิง 2025E PBV ที่ 0.70x (-1.00SD below 10-yr average PBV) เพราะคุณภาพของสินทรัพย์ที่ดีขึ้น และเราคาดหวัง JV AMC กับ BAM จะช่วยลด NPL ได้ในระยะยาว และคาดกำไร 4Q24E จะเพิ่มขึ้น YoY จากสำรองฯที่ลดลง โดยปัจจุบันซื้อขายเพียง 0.66x PBV (-1.25SD below 10-yr average PBV) ถูกกว่า SCB ที่ 0.81x PBV