[Vision Exclusive] STECON ได้สีส้มหนุน ก่อสร้างปี68 ยิ้มได้!

 

          หุ้นวิชั่น – STECON แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ บริษัทลูก STEC เซ็นสัญญาร่วมค้าก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีส้ม มูลค่า 5.89 หมื่นล้าน ร่วมกับ CK คาดเริ่มรับรู้รายได้งานก่อสร้างQ1/68 หนุน Backlog สิ้นปี 2567 แตะ 1 แสนล้าน คาดรับรู้รายได้หลักใน 3-4 ปี พร้อมตั้งเป้ารายได้ปี 2568 ที่ 31,000-32,000 ล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานสะอาด-สาธารณูปโภค มองโอกาสลงทุน Startups

          นายภาคภูมิ ศรีชำหนิ ประธานเจ้าหน้าที่กลุ่ม และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด(มหาชน) หรือ STECON ขอแจ้งให้ตลาดหทรัพย์แห่งประเทศไทย ทราบว่า บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน)หรือ STEC ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของ STECON (สัดส่วนการถือหุ้นร้อนละ 99.60) ได้ทำสัญญาร่วมค้ากับ ซีเคเอสที-โออาร์ มีวัตถุประสงค์เพื่อรับจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) โดยมีสัดส่วนการร่วมลงทุนดังนี้1. บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) 51% 2. บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) 49%

          ทั้งนี้ กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-โออาร์ ได้ลงนามเป็นผู้รับจ้างในสัญญาจ้างก่อสร้างงานโยธาโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ส่วนตะวันตก ช่วงบางขุนนนท์-ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย กับบริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) โดยมีรายละเอียดของงานดังต่อไปนี้ วันลงนามสัญญา: 29 พฤศจิกายน 2567มูลค่าสัญญา: ประมาณ 58,950,000,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ระยะเวลาดำเนินการ: ประมาณ 64 เดือน ทั้งนี้น่าจะรับรู้รายได้จากงานก่อสร้างได้ตั้งแต่ ไตรมาส 1/2568

          มูลค่างานในมือ (Backlog) เมื่อรวมโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ที่ดำเนินการในนามกิจการร่วมค้า CKST (ซีเคเอสที) คาดว่าจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1 แสนล้านบาท ณ สิ้นปี 2567 โดยการรับรู้รายได้หลักจากโครงการดังกล่าวจะเกิดขึ้นในช่วง 3-4 ปีข้างหน้า ซึ่งจะช่วยหนุนผลประกอบการให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง

          สำหรับปี STEC ตั้งเป้ารายได้ในปี 2568 อยู่ที่ประมาณ 31,000-32,000 ล้านบาท เติบโตเล็กน้อยจากปี 2567 ซึ่งคาดว่าจะรับรู้รายได้ราว 30,000 ล้านบาท โดยโครงการสำคัญที่จะสนับสนุนการเติบโต ได้แก่ โครงการสนามบินอู่ตะเภา ที่มีแนวโน้มเริ่มดำเนินการได้ในช่วงกลางปี 2568 รวมถึงโครงการขนาดใหญ่ของรัฐ เช่น ทางด่วนและรถไฟทางคู่ ที่หากประมูลได้สำเร็จ คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2569
ในส่วนของการขยายธุรกิจใหม่ บริษัทมุ่งเน้นด้าน สาธารณูปโภค เช่น น้ำประปา และ พลังงานสะอาดหรือพลังงานทดแทน พร้อมทั้งเข้าศึกษาความเป็นไปได้ในตลาดเทคโนโลยีใหม่ๆ โดยเฉพาะในกลุ่ม Startups เพื่อเสริมศักยภาพการเติบโตในอนาคต

          แนวโน้มอุตสาหกรรมก่อสร้างในปี 2568 คาดว่าจะฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องจากโครงการขนาดใหญ่ที่รัฐชะลอในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา การลงทุนภาคเอกชนในประเทศมีแนวโน้มเติบโตตามการลงทุนของรัฐ และยังคาดหวังการลงทุนจากต่างประเทศเพิ่มขึ้น เนื่องจากรัฐบาลเริ่มสร้างความเชื่อมั่นและเสถียรภาพในสายตานักลงทุน โดยรวม STEC มองว่า ปี 2568 จะดีกว่าปี 2567 จากปัจจัยสนับสนุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งจะส่งผลเชิงบวกต่ออุตสาหกรรมก่อสร้างในภาพรวม.

รายงาน ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว สำนักข่าว HoonVision

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

SEAFCO ยืนหนึ่งฐานราก ขึ้นค่าแรงไม่เป็นปัญหา

SEAFCO ยืนหนึ่งฐานราก ขึ้นค่าแรงไม่เป็นปัญหา

BIZ ลุ้นเซ็นงานใหม่ 500 ล้านบาทใน Q1/68 หนุนรายได้โต 10%

BIZ ลุ้นเซ็นงานใหม่ 500 ล้านบาทใน Q1/68 หนุนรายได้โต 10%

GULF – INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ADVANC และ THCOM วันที่ 25 ธ.ค.นี้

GULF – INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ADVANC และ THCOM วันที่ 25 ธ.ค.นี้

UAC รับสินเชื่อ 100 ลบ. จาก ธ.อิสลาม เดินหน้าลงทุนต่อในอินโดฯ และลาว

UAC รับสินเชื่อ 100 ลบ. จาก ธ.อิสลาม เดินหน้าลงทุนต่อในอินโดฯ และลาว

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด