หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มอง บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ASW คาด Presales 4Q67 เติบโตเด่นจากต่างชาติ
► แนวโน้มผลประกอบการ 4Q67 จะได้รับแรงหนุนจากการโอนต่อเนื่องของโครงการแนวสูงที่สร้างเสร็จใน 2Q-3Q67 ได้แก่ Kave Town Island, Kave Universe บางแสน, Kave Pop ศาลายา รวมถึงโครงการในจ.ภูเก็ตอย่าง The Title Halo1
► บริษัทฯ มีแผนการเปิดโครงการใหม่ใน 4Q67 จำนวน 4 โครงการ มูลค่ารวม 1.8 หมื่นลบ. ประกอบด้วย 1) โครงการในกรุงเทพและ EEC 2 แห่ง ได้แก่ Aquarous จอมเทียน พัทยา ในธีมที่พักตากอากาศหรู (Luxurious Staycation Residence) มูลค่า 5.0 พันลบ. และ Kavalon ม.กรุงเทพ ธีม Campus Condo มูลค่า 4.5 พันลบ. และ 2) โครงการในภูเก็ต 2 แห่ง ได้แก่ The Modeva บางเทา มูลค่า 6.2 พันลบ. และ The Title Artrio บางเทา มูลค่า 2.6 พันลบ.
► สิ้น 3Q67 บริษัทฯ มียอด Backlog ทั้งหมด 2.3 หมื่นลบ. โดยส่วนที่มีกำหนดการรับรู้เป็นรายได้ในปี 2567 มูลค่า 4.9 พันลบ. (สัดส่วน JV 30% ราว 1.5 พันลบ.)
► ทิศทางปี 2568 บริษัทฯ วางแผนเปิดโครงการใหม่ตามแหล่งท่องเที่ยว เน้นกลุ่มลูกค้าต่างชาติมากขึ้น เช่น ในจ.ภูเก็ต คาดมูลค่าโครงการใหม่เติบโต YoY ขณะที่โครงการพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑลคาดมูลค่าทรงตัว YoY ปรับตัวตามอุปสงค์ในประเทศที่ชะลอตัว
► สินค้าของบริษัทฯ อยู่ในพื้นที่ที่มีความต้องการที่อยู่อาศัยจริงจากกลุ่มนักเรียน-นักศึกษา (Campus Condo) รวมถึงชาวต่างชาติ (เมืองท่องเที่ยว) ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับผลกระทบจากสภาพตลาดอสังหาฯ ซบเซาค่อนข้างจำกัด
► คาด Presales 4Q67 เติบโตเด่น QoQ และ YoY โดยมีแรงหนุนสำคัญจากแผนเปิดโครงการใหม่ที่เน้นกลุ่มลูกค้าต่างชาติและเข้าสู่ช่วง High Season ได้แก่ Aquarous จอมเทียน พัทยา มูลค่า 5.5 พันลบ. และโครงการในภูเก็ต 2 แห่ง มูลค่ารวมกว่า 8.8 พันลบ. ซึ่งเราประเมินยอด Presales ปี 2567 มี Upside ราว 5-10%
► แม้เราคาดผลประกอบการ 4Q67 ชะลอตัว QoQ และ YoY จากการโอนสินค้าแนวสูงลดลง เนื่องจากโครงการแนวสูงสร้างเสร็จใหม่ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง 2Q-3Q67 อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการ 9M67 คิดเป็น 89% ของประมาณการกำไรปกติปี 2567 ของเราที่ 1.4 พันลบ. (+68% YoY)
► ปี 2568 เราคาดผลประกอบการเติบโต 10% YoY ทำนิวไฮต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมี Backlog รองรับ คิดเป็น Secure Revenue 73% ของประมาณการรายได้ของเรา
► ประเมินราคาเหมาะสมสิ้นปี 2568 ที่ 10.30 บาท ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายอยู่บน PER เพียง 5.1 เท่า ซึ่งเทียบเท่ากับ -1.5 SD บนค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี และยังถือว่าถูกกว่า ค่าเฉลี่ยกลุ่มฯ แนะนำ “ซื้อ”