หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.กรุงศรี ระบุจากการประชุมนักวิเคราะห์ มีมุมมองเป็นบวกต่อแนวโน้มการเติบโตของ MINT โดยบริษัทยังคงมั่นใจต่อแนวโน้มใน 4Q24F-2025F จากการดำเนินงานโรงแรมในไทย เอเชีย และยุโรปที่ RevPar ยังเติบโต แผนการปรับปรุงและขยายโรงแรม และแผนการลดภาระหนี้ที่คาดว่าจะเห็นชัดเจนขึ้น
ดังนั้นยังคงประมาณการผลประกอบการของเรา โดยคาดว่ากำไรปกติจะเติบโต YoY และ QoQ ใน 4Q24F และกำไรในปี 2024F จะยังคงเติบโต 17% YoY มาที่ 8.3 พันล้านบาท
ปัจจุบัน MINT ซื้อขายอยู่ที่ 7x EV/EBITDA, 16x PER 2025F ซึ่งคิดเป็น -1SD ของค่าเฉลี่ยในอดีตแล้ว
ดังนั้น ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” มูลค่าเหมาะสม 38 บาท
คงเป้าหมายการเติบโตและแผนการลดหนี้
- โรงแรม:
- สำหรับยุโรปและละตินอเมริกา RevPar ตุลาคม +4-5% YoY ในขณะที่รายได้จากยอดจอง (On-the-Book) เติบโตระดับ High Single Digit ในพฤศจิกายน-ธันวาคม
- สำหรับเอเชีย (ไทยและอื่นๆ) RevPar +9-10% ในตุลาคม และเติบโตสองหลักสำหรับที่เหลือของปี
- สำหรับปี 2025F บริษัทมีมุมมองระมัดระวัง โดยคาดเติบโตเลขตัวเดียว (Mid-Low) แต่จะใช้กลยุทธ์ในการ Rebranding และ Repositioning โรงแรมเพื่อขยับขึ้นค่าห้องพัก
- แผนการขยายโรงแรม:
- MINT ตั้งเป้าเพิ่มจำนวนโรงแรมจาก 561 เป็น 780 โรงแรมในปี 2026F ด้วยจำนวนห้องเพิ่มขึ้นจาก 8.1 หมื่นห้องเป็น 1.2 แสนห้องในปี 2026F
- จะเน้นการเพิ่มสัดส่วน Asset Light จาก 31% ในปัจจุบันเป็น 50% ใน 2026F
- อาหาร:
- ไทยและสิงคโปร์ยังเป็นพื้นที่หลัก ด้วย TSSSG ที่ยังเป็นบวก (ไทย SSSG ลบเล็กน้อย (vs -0.8% ใน 3Q24), สิงคโปร์ +2% (vs -1.1% ใน 3Q24))
- หลักๆ จากแบรนด์สำคัญ เช่น Sizzler, The Pizza Company และ Dairy Queen
- ออสเตรเลียดีขึ้นด้วย Flat YoY (vs -1.6% ใน 3Q24) มีกำรปรับปรุงร้าน The Coffee Club และจีนติดลบน้อยลง มาอยู่ที่ลบเลขตัวเดียว (vs -20% ใน 3Q24)
- บริษัทมีการปรับกลยุทธ์เพิ่มแบรนด์ใหม่และเน้นควบคุมต้นทุน สำหรับระยะกลาง บริษัทตั้งเป้าขยายสาขาจาก 2.6 พันสาขาใน 3Q24 เป็น 3.7 พันสาขาในปี 2026F โดยจะเน้นรูปแบบแฟรนไชส์
- แผนการลดหนี้:
- อัตราส่วนหนี้สุทธิต่อทุน (Net IBD/E) ลดลงเหลือ 0.98 เท่าใน 3Q24 ต่ำกว่าค่าที่กำหนดไว้ที่ 1.3 เท่า และตั้งเป้าอยู่ที่ 0.8x ใน 2024F จากการจ่ายชำระคืนหนี้ตามผลการดำเนินงานและฐานเงินทุนที่สูงขึ้น
- บริษัทมีแผนออก REITs ภายใน 12-18 เดือนข้างหน้า เพื่อช่วยลดภาระหนี้และความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน แต่ปัจจุบันยังไม่มีการเปิดเผยรายละเอียด
คงประมาณการผลประกอบการ แนะนำ BUY ราคาเป้าหมาย 38 บาท
คาดว่ากำไรปกติใน 4Q24F จะเติบโต YoY และ QoQ จากการดำเนินงานโรงแรมที่เติบโตทั้งในไทยและยุโรป
นอกจากนี้ การจัดการหนี้สินของ MINT เห็นผลจากการเร่งจ่ายชำระหนี้ใน 3Q24 และภาระดอกเบี้ยลดลงเหลือ 9.8 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของกำไรใน 4Q24-2025F
ทั้งนี้ ราคาหุ้นของ MINT ลดลงในช่วงที่ผ่านมาและซื้อขายในระดับต่ำกว่ากลุ่มที่ EV/EBITDA ที่ 7 เท่า และ P/E ที่ 16 เท่า หรือ -1SD จากค่าเฉลี่ยในอดีต
ดังนั้น จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินมูลค่าที่เหมาะสมที่ 38 บาท (DCF)