หุ้นวิชั่น – บทวิเคราะห์ บล.ดาโอ ระบุว่า รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยข้อมูลจำนวนนักท่องเที่ยวสัปดาห์ที่ผ่านมา (28 ต.ค.-3 พ.ย.) มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งสิ้น 701,962 คน (+20% WoW/+26% YoY) คิดเป็นจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศไทยเฉลี่ยวันละ 100,280 คน โดยประเทศมี % เพิ่มขึ้นตามลำดับดังนี้ 1) มาเลเซีย 123,121 คน (+52% WoW/+68% YoY), 2) รัสเซีย 41,397 คน (+27% WoW), 3) อินเดีย 40,956 คน (+6% WoW/+34% YoY), 4) เกาหลีใต้ 32,593 คน (+6% WoW/+8% YoY) และ 5) จีน 96,756 คน (+5% WoW/+44% YoY)
โดยนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมากในทุกกลุ่มตลาด ทั้งนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) และกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) เดินทางเข้ามาจำนวน 243,204 คน หรือเพิ่มขึ้น 25% WoW ซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่มีจำนวนนักท่องเที่ยวจากกลุ่มตลาดระยะไกลเดินทางเข้ามาแตะระดับ 200,000 คน นับตั้งแต่เดือนมี.ค. โดยมีปัจจัยจากการเข้าสู่ High season ของนักท่องเที่ยวยุโรป อเมริกา และโอเชียเนีย โดยเฉพาะตลาดรัสเซียและเยอรมันที่เดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้นกว่า 8,000 คน
ขณะที่นักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะใกล้ (Short haul) ฟื้นตัวด้านการเดินทางเช่นกัน โดยเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น 18% WoW จากการมีวันหยุดต่อเนื่อง (เทศกาลดิวาลี) ในหลายประเทศ อาทิ อินเดีย มาเลเซีย และสิงคโปร์
สำหรับจำนวนนักท่องเที่ยวสะสมตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-3 พ.ย. 24 ทั้งสิ้น 29,080,399 คน เพิ่มขึ้น +29% YoY (ที่มา: กองเศรษฐกิจการท่องเที่ยวและกีฬา)
DAOL: เรามองเป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจากตัวเลขนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น WoW ทุกประเทศ โดยจำนวนนักท่องเที่ยวรวมทำจุดสูงสุดในรอบ 11 สัปดาห์ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นได้ดีเพราะการเข้าสู่ช่วง High season ของไทย ขณะที่นักท่องเที่ยวรัสเซียเริ่มเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่องมา 3 สัปดาห์ติดต่อกัน (CENTEL มีสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวรัสเซียมากสุดที่ 5% รองลงมาเป็น ERW ที่ 3%) โดยเราประเมินจำนวนนักท่องเที่ยวรวมเฉลี่ยรายสัปดาห์ในช่วง 4 ต.ค.-10 พ.ย. 67 จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นได้อย่างต่อเนื่อง จากการเข้ามาของนักท่องเที่ยวกลุ่มตลาดระยะไกล (Long haul) โดยเฉพาะตลาดภูมิภาคยุโรป ประกอบกับมีมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวที่มีผลต่อจำนวนที่นั่งเข้าไทย (Seat Capacity) ระหว่างเดือน ก.ค. มาจนถึง ธ.ค. ที่จะเพิ่มขึ้น 10% รวมถึงการกระตุ้นและส่งเสริมให้สายการบินเพิ่มจำนวนเที่ยวบินมากยิ่งขึ้น ขณะที่เราคาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวจะเริ่มมากขึ้นอีกในเดือน ธ.ค. 24 ที่มีหลายเทศกาลเข้ามาช่วยหนุน ทั้งนี้ ภาพรวมของจำนวนนักท่องเที่ยวทั้งปี 2024E ยังอยู่ในกรอบประมาณการนักท่องเที่ยวรวมและนักท่องเที่ยวจีนที่เราประเมินไว้ โดยหุ้นที่ได้รับประโยชน์จากนักท่องเที่ยวจีนที่เพิ่มขึ้น เรียงลำดับจากมากไปน้อยตามสัดส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวจีน ได้แก่ ERW, CENTEL, MINT, SHR
คงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E เพิ่มขึ้น +21% YoY และนักท่องเที่ยวจีน +84% YoY เรายังคงประมาณการจำนวนนักท่องเที่ยวรวมปี 2024E จะอยู่ที่ 34 ล้านคน เพิ่มขึ้น +21% YoY และคาดจำนวนนักท่องเที่ยวจีนจะอยู่ที่ 6.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นถึง +84% YoY
ให้น้ำหนักการลงทุนเป็น “เท่ากับตลาด” โดย Top pick ของกลุ่มท่องเที่ยวยังชอบ AAV, AOT และ MINT
- AAV (ซื้อ/เป้า 3.60 บาท) 3Q24E จะยังมีกำไรปกติได้แม้จะอยู่ในช่วง low season จากผู้โดยสารและค่าตั๋วโดยสารที่ยังดี ขณะที่ 4Q24E จะดีขึ้นโดดเด่นจากการเริ่มเข้าสู่ high season
- AOT (ซื้อ/เป้า 72.00 บาท) จากแนวโน้มกำไร 1Q-2QFY25E ที่จะยังโต YoY ดีต่อเนื่อง
- MINT (ซื้อ/เป้า 34.00 บาท) จาก valuation ยังถูกกว่ากลุ่มฯซื้อขาย 2024E EV/EBITDA ที่ 10x (-2.00SD below 10-yr average EV/EBITDA) ถูกกว่า ERW และ CENTEL ที่ average EV/EBITDA ขณะที่คาดกำไรปกติ 3Q24E จะโต YoY ได้ต่อ โดย RevPAR ที่ยุโรปยังเพิ่มขึ้นที่ +9% YoY และไทย RevPAR เพิ่มขึ้น +15% YoY ส่วน 4Q24E จะมี High season จากไทยและมัลดีฟส์ช่วยหนุน