หุ้นวิชั่น – บล. ดาโอ ระบุว่า แนะนำ “ถือ” SCC ที่ราคาเป้าหมายปี 2025E ที่ 230.00 บาท อิงวิธี SOTP บริษัทรายงานกำไรสุทธิ 3Q24 ที่อ่อนแอที่ 721 ล้านบาท (-71% YoY, -81% QoQ) หากไม่รวมรายการที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงาน กำไรปกติจะอยู่ที่ 721 ล้านบาท (-76% YoY, -81% QoQ) ใกล้เคียงกับที่ consensus ประเมินที่ 760 ล้านบาท โดยกำไรลดลง YoY จากธุรกิจปิโตรเคมีที่ขาดทุนจากการที่ส่วนต่างราคาผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์ (olefins spread) ต่ำกว่าระดับคุ้มทุนของบริษัทและธุรกิจแพ็กเกจจิ้ง (SCGP) มีต้นทุนวัตถุดิบกระดาษรีไซเคิล (RCP) สูงขึ้น
ขณะที่ ลดลง QoQ จากกำไรของธุรกิจที่เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง (CBM) ที่อ่อนตัวและรายได้เงินปันผลที่ลดลง
สำหรับภาพรวม 4Q24E เชื่อว่าโครงการ LSP Petrochemical Complex (LSP) จะสามารถดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ตามแผนล่าสุดของบริษัท (ต.ค.2024)
อย่างไรก็ดี ในช่วงแรกคาดว่า SCC จะพยายามควบคุมอัตราการใช้กำลังการผลิต (utilization rate) ของ LSP และจะทำการผลิตเท่าที่จำเป็นเท่านั้นเนื่องจาก olefins spread ที่ต่ำกว่าปกติ
โดยมองด้วยว่ากำไรของบริษัทจะฟื้นตัวได้ชัดเจนมากขึ้นในปี 2025E คงประมาณการกำไรสุทธิปี 2024E/2025E ที่ 8.5/13.3 พันล้านบาท เทียบกับ 2.59 หมื่นล้านบาทในปี 2023 โดยมีสมมติฐานที่สำคัญ คือ 1) ปริมาณยอดขายปิโตรเคมีรวม (PE, PP, PVC) จะอยู่ในช่วง 2.28-2.86 ล้านตัน (mt) เทียบกับ 2.34 mt ในปี 2023 โดยมีแรงหนุนจากการ COD ของโครงการ LSP 2) HDPE spread จะอยู่ในช่วง USD335/t-USD360/t เทียบกับ USD395/t ในปี 2023 3) รายได้ธุรกิจ CBM ที่อยู่ในช่วง 1.70-1.92 แสนล้านบาท เทียบกับ 1.82 แสนล้านบาทในปี 2023 และ 4) รายได้จากSCGP ที่อยู่ในช่วง 1.30-1.33 แสนล้านบาท เทียบกับ 1.26 แสนล้านบาทในปี 2023
ราคาหุ้นปรับตัวลง 18% และ underperform SET -24% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาสะท้อนแนวโน้ม olefins spread ที่อ่อนตัวลง ราคาปัจจุบันสะท้อน 2025E PBV ที่ 0.62x (ประมาณ -2.75SD ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย PBV 5 ปีย้อนหลัง) กำไรสุทธิ 9M24 คิดเป็น 80% ของประมาณการกำไรทั้งปี
ทั้งนี้ เชื่อว่ากำไรของบริษัทจะฟื้นตัวแบบค่อยเป็นค่อยไปใน 4Q24E โดยมีแรงหนุนจากรายได้เงินปันผลตามปัจจัยฤดูกาล แต่ยังไม่มีปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น