นายปรมัตถ์ จุฬวนิช ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน บริษัท เชาว์สตีลอินดัสทรี้ จำกัด (มหาชน) หรือ CHOW เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แนวโน้มธุรกิจในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ยังคงมีโมเมนตัมที่ดี ทั้งในธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็ก รวมถึงธุรกิจพลังงาน
สำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายเหล็กในปีนี้ คาดว่าจะเติบโตมากกว่าปีที่ผ่านมา โดยเติบโตในระดับตัวเลข 2 หลักหรือมากกว่า 10% นอกจากนี้ ยังคาดว่าผลประกอบการในปี 2567 จะดียิ่งขึ้น เนื่องจากยอดขายมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น แม้ว่าปี 2566 จะมีอัตราการเติบโตที่สูงเนื่องจากการรับรู้รายการพิเศษ แต่หากพิจารณาผลงานจากการดำเนินธุรกิจปกติแล้ว ก็ยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีอย่างต่อเนื่อง
ในส่วนของธุรกิจรับจ้างผลิต (OEM) ในอุตสาหกรรมเหล็ก คาดว่าจะมียอดขายใกล้เคียงกับปีก่อน โดยปีนี้บริษัทคาดว่าจะมีปริมาณการขายเหล็กจาก OEM ประมาณ 400,000 ตัน และจากการซื้อขาย (เทรดดิ้ง) อีก 200,000 ตัน หลังจากที่ได้ขยายกำลังการผลิตและปรับปรุงเครื่องจักรเพื่อเพิ่มเสถียรภาพในการผลิต
ปัจจุบัน ไลน์การผลิตเหล็กของบริษัทมีกำลังการผลิตอยู่ที่ 730,000 ตันต่อปี โดยมีโอกาสเพิ่มกำลังการผลิตได้อีกในอนาคต ทั้งนี้บริษัทมีแผนโฟกัสการผลิตในช่วงกลางคืน เนื่องจากต้นทุนการผลิตในช่วงเวลาดังกล่าวต่ำกว่า
นายปรมัตถ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ธุรกิจพลังงานในภาพรวมขณะนี้มีความคึกคัก โดยเฉพาะจากโครงการที่ภาครัฐทยอยประกาศออกมา รวมถึงโครงการ Private PPA ที่เจาะกลุ่ม B2B ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างบริษัทเอกชนหรือองค์กรขนาดใหญ่ โดยมีการติดตั้งและขยายกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มห้างสรรพสินค้าที่มีการขยายตัวสอดคล้องกับเทรนด์การลดคาร์บอนเครดิต
ทั้งนี้ กระแสตอบรับจากโครงการ Private PPA มีแนวโน้มที่ดีมาก โดยขณะนี้บริษัทกำลังอยู่ในระหว่างการเจรจากับผู้ค้า (Vender) หลายรายเพื่อพัฒนาโมเดลธุรกิจในรูปแบบดังกล่าว
สำหรับปี 2568 บริษัทคาดว่าจะมีกำลังการผลิตไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็น 250 เมกะวัตต์ จากปัจจุบันที่มีกำลังผลิตเกือบ 200 เมกะวัตต์ และอาจเพิ่มขึ้นไปแตะที่ระดับ 300 เมกะวัตต์ภายในสิ้นปี 2568 ทั้งนี้ การเติบโตดังกล่าวจะขึ้นอยู่กับทิศทางของโครงการและนโยบายจากภาครัฐ
รายงานโดย มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision