ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#WHAUP


WHAUP ผนึก DH Asia ตั้งบริษัทร่วมทุน ‘WHA Daiwa Solar’ ลุยธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์

WHAUP ผนึก DH Asia ตั้งบริษัทร่วมทุน ‘WHA Daiwa Solar’ ลุยธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์

          หุ้นวิชั่น - บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัท”) ขอเรียนให้ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยทราบว่า เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท ดับบลิวเอชเอ ไดวะ โซล่าร์ จำกัด โดยเป็นบริษัทย่อยที่บริษัทถือหุ้นในสัดส่วน ร้อยละ 51ผ่านบริษัท ดับบลิวเอชเอ โซล่าร์ จำกัด โดยมีรายละเอียดดังนี้ ชื่อบริษัทร่วมทุน บริษัท ดับบลิวเอชเอ ไดวะ โซล่าร์ จำกัด วัตถุประสงค์เพื่อ ลงทุนในธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ ทุนจดทะเบียน 5,000,000 บาท (ห้าล้านบาท) ประกอบด้วยหุ้นสามัญ 500,000 หุ้น (ห้าแสนหุ้น) มูลค่าหุ้นละ 10 บาท (สิบบาท) สัดส่วนการถือหุ้น บริษัท ดับบลิวเอชเอ โซล่าร์ จำกัด ถือหุ้นร้อยละ 51 DH Asia Investment Pte. Ltd. ถือหุ้นร้อยละ 49 แหล่งที่มาของเงินลงทุน เงินทุนหมุนเวียนของบริษัท

WHAUP ปี68 ขยายธุรกิจน้ำ-ไฟ รับ Data Center ปั้นรายได้-คาดโกยกำไร 5ปี 35,000 ลบ.

WHAUP ปี68 ขยายธุรกิจน้ำ-ไฟ รับ Data Center ปั้นรายได้-คาดโกยกำไร 5ปี 35,000 ลบ.

          หุ้นวิชั่น - บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ “WHAUP” เปิดแผนธุรกิจปี 2568 เร่งขับเคลื่อนธุรกิจทั้งในและต่างประเทศผ่านนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ มุ่งสู่การเป็น Tech Driven Organization รองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะกลุ่มลูกค้า Data Center ในนิคมฯ WHA พร้อมอัดงบลงทุนรวม 5 ปี (2568-2573) ที่ 29,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติรวม 5 ปี ที่ 35,000 ล้านบาท และรักษา EBITDA margin ที่ระดับไม่น้อยกว่า 50%           นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยถึงแผนการขยายธุรกิจในปี 2568 ว่า บริษัทฯ มีแผนขับเคลื่อนธุรกิจผ่านนวัตกรรม และเทคโนโลยีใหม่ๆ พร้อมก้าวสู่การเป็นการเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี (Tech-Driven Organization) โดยวางกลยุทธ์หลักในการขยายความเป็นผู้นำในด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงการมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ที่เป็น New S-Curve ให้กับองค์กร เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนจากการต่อยอดธุรกิจทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ ผ่านแผนกลยุทธ์และเป้าหมายทางธุรกิจ ดังนี้           ธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) ในปี 2567 บริษัทฯ มีปริมาณยอดขายและบริหารน้ำรวมอยู่ที่ 166 ล้านลูกบาศก์เมตร คิดเป็นการเติบโต 7% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีปริมาณยอดขายและบริหารน้ำในประเทศจำนวนทั้งสิ้น 128 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 6% ขณะที่ปริมาณยอดจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำในเวียดนาม อยู่ที่ 38 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโตขึ้นจากปีก่อนหน้า 13% สำหรับในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายการให้บริการแก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอที่มีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Data center ที่มีปริมาณความต้องการใช้น้ำสูง  และจะมุ่งเน้นการผลิตน้ำที่มีมูลค่าเพิ่ม (Value-Added Water) เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า และมองหาแหล่งน้ำดิบทดแทน เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านการจัดหาน้ำ และรองรับความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า  นอกจากนี้บริษัทฯ ยังคงมองหาโอกาสใหม่ๆ ในการขยายธุรกิจสาธารณูปโภคในพื้นที่นอกนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ รวมไปถึงการเข้าร่วมโครงการเกี่ยวกับน้ำประปาและการจัดการน้ำเสียของหน่วยงานภาครัฐรวมถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นต่างๆ          สำหรับปี 2568 บริษัทฯ ได้มีการตั้งเป้ายอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำรวมทั้งในประเทศและต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 173 ล้านลูกบาศก์เมตร เติบโต 4% จากปีก่อนหน้า แบ่งเป็นยอดการจำหน่ายและบริหารจัดการน้ำภายในประเทศประมาณ 132 ล้านลูกบาศก์เมตร และในประเทศเวียดนามประมาณ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร           ธุรกิจพลังงาน ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการเซ็นสัญญาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์กับลูกค้าอุตสาหกรรม (Private PPA) เพิ่ม 76 สัญญา หรือเท่ากับ 106 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2567 บริษัทฯ มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ารวมตามสัดส่วนการถือหุ้นจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทอยู่ที่ 965 เมกะวัตต์ สำหรับในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนทั้งภายในและภายนอกนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ และทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมุ่งเน้นการลงทุนในโครงการโซลาร์รูฟท็อป โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in-Tariff และโครงการ Direct PPA เป็นต้น พร้อมกันนี้ได้เริ่มดำเนินการศึกษาและพัฒนาโครงการ Micro Grid ที่นิคมเขตอุตสาหกรรม WHA Smart Technology Zone 1 ในจังหวัดทัญฮว้า (Thanh Hoa) เฟส 1 ซึ่งคาดว่าจะพร้อมให้บริการเชิงพาณิชย์ในปี 2569  สำหรับในปี 2568 นี้บริษัทฯ ได้ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าสะสมที่ลงนามแล้วเป็น 1,185 เมกะวัตต์ ซึ่งจะเป็นพลังงานหมุนเวียน 657 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 55% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด           นายอัครินทร์ ประเทืองสิทธิ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ WHAUP เปิดเผยเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ มุ่งมั่นนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาพัฒนาธุรกิจสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเสริมสร้างความยั่งยืนในอุตสาหกรรม โดยในส่วนของธุรกิจสาธารณูปโภค บริษัทฯ ได้เดินหน้าพัฒนา Smart Water Solutions ด้วยการนำปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้ในการบริหารจัดการระบบน้ำอัจฉริยะ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานและการให้บริการลูกค้า ลดการสูญเสียน้ำ และปรับปรุงกระบวนการทำงานให้มีความแม่นยำและยั่งยืนมากยิ่งขึ้น ในส่วนของธุรกิจพลังงานไฟฟ้า บริษัทฯ ได้นำ AI มาพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เช่น ระบบ Solar Anomaly ที่สามารถตรวจจับความผิดปกติของแผงโซลาร์ได้อย่างแม่นยำ ช่วยให้สามารถบำรุงรักษาและแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และระบบ Solar Forecasting ซึ่งช่วยคาดการณ์ปริมาณการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยในการวางแผนซ่อมบำรุงรวมถึง ลดต้นทุน และเพิ่มความเสถียรของระบบไฟฟ้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังพัฒนาแพลตฟอร์มการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าแบบ Peer-to-Peer (P2P Energy Trading) รวมถึงการซื้อขายใบรับรองเครดิตการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน (I-REC) ซึ่งช่วยส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาดและสนับสนุนเป้าหมายด้านความยั่งยืนขององค์กร  และเพื่อก้าวสู่อนาคต บริษัทฯ อยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนใน ธุรกิจ New S-Curve ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานแห่งอนาคต อาทิ เทคโนโลยีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ขนาดเล็ก (Small Modular Reactor: SMR) ซึ่งเป็นพลังงานสะอาดและมีเสถียรภาพสูง ระบบกักเก็บพลังงานด้วยแบตเตอรี่ (Battery Energy Storage System: BESS) เพื่อเพิ่มความเสถียรของโครงข่ายไฟฟ้า เทคโนโลยีการดักจับ การใช้ประโยชน์ และการกักเก็บคาร์บอน (Carbon Capture, Utilization and Storage: CCUS) ที่ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและสนับสนุนเป้าหมาย Net Zero           ด้านนายประพนธ์ ชินอุดมทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารการเงิน WHAUP กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการดำเนินงานใน 5 ปี (2568-2572) บริษัทฯ ตั้งงบลงทุนภายใน 5 ปี ที่ 29,000 ล้านบาท สำหรับรองรับการลงทุนขยายธุรกิจทั้งด้านสาธารณูปโภคและพลังงาน โดยวางแผนสร้างรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติให้เติบโต 2.5 เท่าจากปี 2567 และตั้งเป้าหมายมีรายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติของบริษัทฯ รวม 5 ปีข้างหน้าที่ 35,000 ล้านบาท รวมทั้งยังคงรักษาอัตรากำไร EBITDA margin ที่ระดับไม่น้อยกว่า 50%           นายสมเกียรติ กล่าวปิดท้ายว่า บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าต่อยอดการเติบโตและสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ โดยเน้นการใช้นวัตกรรมควบคู่ไปกับการให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และการสร้างคุณค่าให้กับสังคม ด้วยความมุ่งมั่นที่จะบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนภายในปี 2572 อาทิเช่น การเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยตั้งเป้าหมายมีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนประมาณ 1,200 เมกะวัตต์ ซึ่งจะช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 683,000 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี และการลดการใช้น้ำจากธรรมชาติลงประมาณ 25,000,000 ลูกบาศก์เมตรต่อปี เทียบเท่ากับปริมาณการใช้น้ำของภาคครัวเรือนกว่า 685,000 คน  โดยในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ที่ระดับ AAA ซึ่งเป็นเรทติ้งระดับสูงสุด เป็นปีที่สองติดต่อกัน ซึ่งสะท้อนถึงการให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนของบริษัทฯ  ตามพันธกิจของ WHA Group “ WHA : WE SHAPE THE FUTURE” ได้เป็นอย่างดี

WHAUP โบรกคาด Q4 งบสวย จับตาราคาหุ้นลง ชี้โอกาสซื้อ

WHAUP โบรกคาด Q4 งบสวย จับตาราคาหุ้นลง ชี้โอกาสซื้อ

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี จับตาหุ้น WHAUP โดยคาดว่ากำไรธุรกิจหลัก 383 ล้านบาทใน 4Q24F เพิ่มขึ้น 61% yoy และ 29% qoq เนื่องจากกำไร IPP และ SPP สูงขึ้น ฝ่ายวิจัยคาด 0.13 บาท DPS (อัตราผลตอบแทน 3.3%) ซึ่งน่าเป็นปัจจัยบวกราคาหุ้นในระยะสั้น ปัจจัยบวกต่อไปคือการบันทึกค่าธรรมเนียมการใช้น้ำมากกว่าโควต้าจำนวนหลายร้อยล้านบาทจากลูกค้าศูนย์ข้อมูล ราคาหุ้นลดลง 20% เป็นโอกาส ซื้อ คงคำแนะนำซื้อ และ เป้าหมายที่ 5.9 บาท          ราคาหุ้น WHAUP ลดลด 20% ในหนึ่งเดือนที่ผ่านมา เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบหาก รัฐบาลปรับลดอัตรา Ft การวิเคราะห์ความอ่อนไหวของฝ่ายวิจัย แนะนำว่าการปรับลดอัตรา Ft 0.01 บาทจะส่งผลให้กำไรปีFY25F ลดลงน้อยกว่า 1% คาด WHAUP จะประกาศจ่ายเงินปันผล 0.13 บาทต่อหุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 3.3% ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น ปัจจัยบวกตัว ต่อไปคือการบันทึกรายได้ค่าธรรมเนียมการใช้น้ำมากกว่าโควต้าจำนวนหลายร้อยล้านบาทปีนี้

[ภาพข่าว] WHAUP คว้าเรทติ้งระดับสูงสุด “AAA” หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings 2567

[ภาพข่าว] WHAUP คว้าเรทติ้งระดับสูงสุด “AAA” หุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings 2567

          กรุงเทพฯ - บมจ. ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ “WHAUP” ได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ที่ระดับสูงสุด “AAA” เป็นปีที่ 2 ติดต่อกันและติดอันดับหุ้นยั่งยืนในกลุ่มทรัพยากร (Resources) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 จากการประกาศผลการประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings จากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยเป็น 1 ใน 228 บริษัทจดทะเบียนที่ผ่านเกณฑ์และได้รับการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings และเป็น 1 ใน 56 บริษัทจดทะเบียนที่ได้รับการประมินระดับ AAA สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นและการให้ความสำคัญต่อเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจสู่การสร้างความเติบโตทางธุรกิจสาธารณูปโภค (น้ำ) และธุรกิจไฟฟ้าพลังงานสะอาด ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ควบคู่ไปกับการดูแลและพัฒนาสิ่งแวดล้อม สังคม และยึดหลักธรรมาภิบาล (ESG) สะท้อนการเป็นผู้นำการให้บริการสาธารณูปโภคและพลังงานอย่างยั่งยืน           นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า การได้รับการประเมิน SET ESG Ratings ปี 2567 ในกลุ่มทรัพยากร ที่ระดับ AAA ซึ่งเป็นเรทติ้งระดับสูงสุด เป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน และการติดโผรายชื่อหุ้นยั่งยืนต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น WHAUP ในการสร้างการเติบโตทางธุรกิจควบคู่ไปกับการการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการบริหารงานตามหลักบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance: ESG) ด้วยการยึดหลักแนวคิดในการดำเนินธุรกิจที่เน้นสร้างความยั่งยืน ควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้แก่สิ่งแวดล้อม ชุมชนและสังคม           นอกจากนี้ WHAUP ยังมุ่งมั่นสู่เป้าหมาย Net Zero ภายในปี 2593 เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของ WHA Group ที่ว่า “WHA : We Shape The Future”

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

[ภาพข่าว] WHAUP ลงนามกับ MAX Thailand ซื้อขายไฟฟ้า Solar Rooftop 998kW

[ภาพข่าว] WHAUP ลงนามกับ MAX Thailand ซื้อขายไฟฟ้า Solar Rooftop 998kW

          หุ้นวิชั่น - เมื่อเร็วๆ นี้ นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (กลางซ้าย) เป็นประธานในพิธีลงนามสัญญาซื้อขายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ระหว่าง บริษัท ดับบลิวเอชเอ โซล่าร์ จำกัด โดย นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (ริมซ้าย) บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) พร้อมด้วย นายคูนิมิตซึ ทาคาฮาชิ  กรรมการผู้จัดการ (กลางขวา) และ นายอิสระ เงียวชัยภูมิ กรรมการ (ริมขวา) บริษัท เอ็มเอเอ็กซ์ (ประเทศไทย) จำกัด ร่วมลงนามสัญญาฯ เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ขนาดการผลิตไฟฟ้า 998 กิโลวัตต์  ณ WHA Tower

Data Center หนุน WHA - WHAUP รับประโยชน์ BBIK คลาวด์โตก้าวกระโดด

Data Center หนุน WHA - WHAUP รับประโยชน์ BBIK คลาวด์โตก้าวกระโดด

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ได้จัดงาน KSS Cloud Connect : Data Center Day เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยมีการบรรยายจากวิทยากรที่มีชื่อเสียงสามท่าน ได้แก่ คุณวสุพล ธารกกาญจน์ รองกรรมการผู้จัดการ สายงานการตลาดและปฏิบัติการของไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย), คุณณัฐพรรษ ตันบุญเอก CFO ของ WHA และคุณพชร อารยะการกุล CEO ของ BBIK จากข้อมูลที่ได้รับ ได้ข้อสรุปสำคัญดังนี้ เริ่มต้นด้วย Data Center แห่งแรกของไมโครซอฟท์ในประเทศไทยจะทำให้มีความต้องการฮาร์ดแวร์คอมพิวเตอร์ที่เพิ่มขึ้นจากต้นทุนโมเดล AI ที่ถูกลงและการสนับสนุนจากภาครัฐ           บริษัทจะใช้โมเดลการลงทุนแบบ partnership และเช่า (leased model) พร้อมไปกับการพัฒนาทักษะ IT โดยตั้งเป้าหมายพลังงานสีเขียว 100% ภายในปี 2568 โครงการเหล่านี้เน้นความจำเป็นที่ภาคพลังงานของไทยต้องปรับตัวให้เข้ากับความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากผู้ให้บริการคลาวด์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่า WHA และ WHAUP จะได้ประโยชน์จากการขายที่ดินและสาธารณูปโภค ขณะที่ BBIK ยังคงเติบโตผ่านความก้าวหน้าของระบบคลาวด์และ AI

[PR News] WHAUP ปิดดีล บีเอ็มดับเบิลยู ติดตั้ง “Solar Rooftop” 1.5 MW

[PR News] WHAUP ปิดดีล บีเอ็มดับเบิลยู ติดตั้ง “Solar Rooftop” 1.5 MW

          กรุงเทพฯ – บมจ.ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ (WHAUP) ประกาศปิดดีล บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับชั้นนำของโลก ล่าสุดคว้างานติดตั้ง “Solar Rooftop” ในรูปแบบสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว (PPA) ขนาดพื้นที่หลังคา 12,000 ตร.ม. หรือคิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้า 1.5 MW           นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์  พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ “WHAUP” เปิดเผยว่า ล่าสุด WHAUP ร่วมลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ระดับชั้นนำของโลก เพื่อดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานจากแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) โดยมีขนาดการผลิตไฟฟ้า 1.5 MW บนพื้นที่หลังคา 12,000 ตารางเมตร ภายใต้เม็ดเงินลงทุน 40 ล้านบาท สำหรับโครงการดังกล่าวเป็นการดำเนินการด้านพลังงานหมุนเวียนที่อยู่ภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของ WHA Group อีกหนึ่งโปรเจกต์ที่ตอกย้ำความเชี่ยวชาญของ WHAUP ในธุรกิจพลังงานสะอาดผ่านการพัฒนานวัตกรรมและโซลูชันด้านพลังงานใหม่ ๆ สอดคล้องกับพันธกิจของ WHA Group หรือ WHA: WE SHAPE THE FUTURE เพื่อสร้างโอกาสสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน           นายสมเกียรติกล่าวเพิ่มเติมว่า WHAUP มีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกจาก BMW ซึ่งเป็นบริษัทที่มีมาตรฐานการคัดเลือกคุณภาพและการติดตั้งที่สูงมาก ที่เราได้รับความไว้วางใจในครั้งนี้ เป็นการตอกย้ำว่าระบบการติดตั้งของ WHAUP อยู่ในระดับมาตรฐานโลก ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจของเราต่อไปในอนาคต           ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการต่อยอดธุรกิจด้านพลังงานทางเลือกและพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และสามารถตอบโจทย์การเพิ่มคุณค่าทางธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมายของ WHA GROUP ที่จะช่วยส่งเสริมและขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ผ่านการใช้เทคโนโลยีของ WHAUP ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ดังนั้นด้วยทีมงานที่มีประสบการณ์ยาวนานจะช่วยเพิ่มศักยภาพ และยกระดับภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ไทยสู่ระดับสากลมากขึ้น           ด้าน มร. เอริค รูเก้ (Erik Ruge) กรรมการผู้จัดการ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เปิดเผยว่า โดยส่วนตัวรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งบนหลังคา (Solar Rooftop)  มีขนาดการผลิตไฟฟ้า 1.5 MW บนพื้นที่หลังคา 12,000 ตารางเมตร ตอบสนองต่อนโยบายของบริษัทในการพัฒนาการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ลดปริมาณการปล่อยคาร์บอนให้ต่ำลง           ทั้งนี้ บีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย เล็งเห็นถึงความสำคัญของการติดตั้ง Solar Rooftop นอกจากจะช่วยลดต้นทุนด้านการใช้พลังงานไฟฟ้าของบริษัทตลอดอายุการใช้งานแล้ว ยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2 Offset) สู่ชั้นบรรยากาศได้มากกว่า 12,000 ตัน ตามนโยบายรักษ์โลก ลดโลกร้อน และลดการเกิดภาวะเรือนกระจกได้อีกด้วย

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011