ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#TFM


TFM  ชู 4 กลยุทธ์หนุนเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นลบ.ปี 73

TFM ชู 4 กลยุทธ์หนุนเป้ารายได้แตะ 1 หมื่นลบ.ปี 73

            หุ้นวิชั่น - บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย โชว์วิชั่นผู้นำอาหารสัตว์น้ำ เดินหน้ากลยุทธ์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ เร่งพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำรับดีมานด์ตลาดโลก ปักธงเป้าหมายปี 2573 รายได้แตะ 10,000 ล้านบาท หรือเติบโตเฉลี่ยต่อปี CAGR 11% ผ่านการเติบโตในทุก Segment ชู 4 กลยุทธ์สำคัญขับเคลื่อนผลการดำเนินงาน เดินหน้าขยายตลาดสู่ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำระดับเอเชีย ดันยอดขายปีนี้เติบโต 8-10% รักษาอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 18-20%             นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมกุ้งไทยถือเป็นหนึ่งในเสาหลักของอุตสาหกรรมการเกษตรของประเทศ แม้ปัจจุบันเผชิญกับความท้าทายหลายด้าน แต่ยังคงมีโอกาสสำหรับเกษตรกรไทย เพื่อให้ประเทศไทยสามารถแข่งขันในตลาดโลกได้ในระยะยาว จึงจำเป็นต้องเสริมสร้างความร่วมมือในห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ตั้งแต่เกษตรกร ห้องเย็น ภาคเอกชน ไปจนถึงภาครัฐ การมีข้อมูลที่ชัดเจนจะช่วยให้การผลิตสอดคล้องกับความต้องการของตลาด โดยต้องเปลี่ยนแนวคิดจากการมองแค่ระยะสั้น มาเป็นการมองในภาพรวมทั้งระบบ เพื่อวางแผนในระยะยาวและสร้างเสถียรภาพของอุตสาหกรรม ด้วยเป้าหมายเพิ่มผลผลิตกุ้งไปสู่ระดับ 400,000 ตันต่อปี ตามนโยบายของรัฐบาลที่มอบผ่านกรมประมง และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนยกระดับมาตรฐานฟาร์มให้เป็นไปตามมาตรฐานอาหารสัตว์ระดับโลกจากองค์กร Aquaculture Stewardship Council หรือ ASC พร้อมทั้งเน้นเรื่องความยั่งยืน เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขันและรองรับความต้องการในตลาดโลก             อย่างไรก็ตาม จุดมุ่งหมายสำคัญของ TFM นอกจากจะมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลักที่เติบโตดีในประเทศแล้ว แต่ยังมุ่งเน้นการขยายธุรกิจสู่น่านน้ำใหม่ในตลาดที่มีศักยภาพ เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตแบบยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งอย่าง บริษัท อะแวนติฟีดส์ จำกัด (Avanti Feeds) ในประเทศอินเดีย ซึ่งเป็นผู้นำตลาดอาหารกุ้ง ครองส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) เกือบครึ่งหนึ่งของประเทศ รวมไปถึงบริษัท พีที ไทยยูเนี่ยน คาริสม่า เลสทารี จำกัด หรือ TUKL ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ ในอินโดนีเซีย ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว และตั้งเป้าติดอันดับ Top 5 ภายในปี 2569 ขณะเดียวกัน บริษัทฯ พร้อมขยายการส่งออกไปเวียดนามผ่านเครือข่ายพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งในและนอกกลุ่ม ด้วยจุดแข็งของ TFM คือ การให้บริการลูกค้าทั้งก่อนและหลังการขายด้วยมาตรฐานระดับสากล จึงมีศักยภาพในการแข่งขันในตลาดโลกได้อย่างมั่นใจ             ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายตลาดสู่ผู้นำอุตสาหกรรมอาหารสัตว์น้ำระดับเอเชีย ผ่าน 4 กลยุทธ์สำคัญ ประกอบด้วย 1.) Consistent Feed Quality รักษาคุณภาพอาหารสัตว์ที่สม่ำเสมอ เพื่อให้ลูกค้าของบริษัทฯ ได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพดีที่สุดและสามารถแข่งขันในตลาดได้ 2.) Farmer Engagement สร้างการมีส่วนร่วมกับเกษตรกร โดยมุ่งเน้นเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเกษตรกรเพื่อให้สามารถพัฒนาระบบการผลิตร่วมกันและให้เกษตรกรสามารถเติบโตไปพร้อมกัน 3.) Strategic Partnership ขยายความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งช่วยเพิ่มฐานลูกค้าที่แข็งแกร่งและสามารถเข้าถึงตลาดใหม่ ๆ ได้ และ 4.) Sustainability มุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่สนับสนุนเกษตรกรในการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อมและการสร้างผลกระทบทางบวกต่อสังคม จากกลยุทธ์ดังกล่าวจะเป็นส่วนสำคัญที่จะสนับสนุนเป้าหมายรายได้แตะ 10,000 ล้านบาทภายในปี 2573 หรือคิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปี CAGR 11% ผ่านการเติบโตในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ (Segment) โดยเฉพาะอาหารกุ้งและอาหารปลา ที่เป็นผู้นำตลาดอยู่แล้ว รวมถึงขยายสู่อาหารปลาน้ำจืดอื่น ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของเกษตรกรและผู้เลี้ยงสัตว์น้ำ             ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFM  กล่าวอีกว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 5,365 ล้านบาท เติบโต 5.6% อัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 18.7% และกำไรสุทธิโตขึ้นจากปีก่อน 5 เท่าตัวคิดเป็นกำไรที่ 535 ล้านบาท สำหรับภาพรวมธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายเติบโต 8-10% และรักษาอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) อยู่ที่ 18-20% จากการเติบโตทั้งในและต่างประเทศ โดยเตรียมพร้อมเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีคุณภาพสูงและเตรียมขยายกำลังการผลิตในประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ยังมองหาความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับพันธมิตรในต่างประเทศเพื่อรุกตลาดใหม่ ๆ และขยายตลาดเดิม พร้อมสร้างฐานลูกค้าและโอกาสทางธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นในตลาดส่งออกไปยังประเทศอื่น ๆ             ทั้งนี้ สำหรับตลาดในประเทศ TFM จะรักษาความเป็นผู้นำในกลุ่มอาหารกุ้ง อาหารปลากะพง และอาหารกบ โดยจะมุ่งขยายตลาดในพื้นที่ที่ยังมีโอกาสเพิ่มส่วนแบ่งการตลาด ด้วยการรักษาคุณภาพสินค้าให้เป็นที่ยอมรับ พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ตอบโจทย์ลูกค้า และสร้างความสัมพันธ์ที่แข็งแกร่งกับเกษตรกร ผ่านบริการและองค์ความรู้เชิงวิชาการ ขณะเดียวกัน ได้เตรียมขยายสู่ตลาดอาหารปลาน้ำจืดที่มีมูลค่ากว่า 7,000 ล้านบาท ที่มีโอกาสเติบโตได้อีกมาก และตั้งเป้าก้าวเป็นผู้นำตลาดอาหารปลาน้ำจืดในอนาคต นอกจากนี้ ได้มุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจอาหารสัตว์น้ำในประเทศไทย ล่าสุด ได้เปิดตัว 3 แบรนด์ใหม่ เพื่อตอบโจทย์ตลาดเฉพาะกลุ่ม ได้แก่ "ขุนศึก" อาหารปลานิลที่โดดเด่นในเรื่องช่วยให้ปลาโตเร็วและมีรูปร่างตรงตามความต้องการของตลาด, "กบทอง" อาหารสำหรับกบขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ความต้องการของเกษตรกรที่เลี้ยงกบเชิงพาณิชย์ และ "โปรฟีดปลากดคัง" อาหารปลากดคัง ซึ่งกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นโดยเฉพาะในภาคตะวันออกของประเทศไทย             ขณะที่ตลาดต่างประเทศ นับเป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญของ TFM ในอนาคตและช่วยกระจายความเสี่ยงพอร์ตรายได้ จากจุดเริ่มต้นด้วยการส่งออกสินค้าประเทศศรีลังกา และต่อยอดสู่ประเทศที่มีอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเติบโต ได้แก่ อินเดีย และอินโดนีเซีย โดยบริษัทฯ ได้ใช้จุดแข็งจากมาตรฐานการผลิตระดับสูงของไทยแข่งขันในเวทีโลกและการมีพันธมิตรที่แข็งแกร่งในแต่ละประเทศ ช่วยเสริมสร้างศักยภาพขยายตลาดและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสมกับความต้องการในแต่ละประเทศได้อย่างตรงจุด [PR News]

บอร์ด TFM ไฟเขียวแตกพาร์ เป็น 1.00 บาท/หุ้น

บอร์ด TFM ไฟเขียวแตกพาร์ เป็น 1.00 บาท/หุ้น

           หุ้นวิชั่น -  “บอร์ด TFM” ไฟเขียวแตกพาร์เหลือ 1.00 บาทต่อหุ้น จากเดิมหุ้นละ 2.00 บาทต่อหุ้น เพิ่มสภาพคล่องและดึงดูดนักลงทุนให้เข้าถึงได้มากยิ่งขึ้น โดยหลังเปลี่ยนพาร์จำนวนหุ้นจดทะเบียนจะเพิ่มขึ้น 500,000,000 หุ้น เป็น 1,000,000,000 หุ้น โดยการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวไม่กระทบต่อทุนจดทะเบียน ทุนชำระแล้วและสัดส่วนการถือหุ้นในปัจจุบัน”            บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2568 ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 อนุมัติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4 เมษายน 2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติ การเปลี่ยนแปลงมูลค่าที่ตราไว้ของหุ้นสามัญ จากเดิม 2.00 บาทต่อหุ้น เป็น 1.00 บาทต่อหุ้น เพื่อเพิ่มสภาพคล่องของหุ้นสามัญของบริษัท พร้อมทั้งดึงดูดนักลงทุนให้สามารถเข้าถึงหุ้นได้มากยิ่งขึ้น            โดยภายหลังเปลี่ยนแปลงพาร์ จะส่งผลให้บริษัทมีหุ้นจดทะเบียนเพิ่มขึ้น 500,000,000 หุ้น จากเดิมจำนวน 500,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 2.00 บาท เป็นจำนวน 1,000,000,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนหุ้นที่ผู้ถือหุ้นแต่ละรายถือครองอยู่เพิ่มขึ้นในอัตราส่วน 1 หุ้นสามัญเดิม ต่อ 2 หุ้นสามัญใหม่

TFM โชว์กำไรปี 67 โต 513% ปรับกลยุทธ์ขายสินค้า-คุมต้นทุนวัตถุดิบ

TFM โชว์กำไรปี 67 โต 513% ปรับกลยุทธ์ขายสินค้า-คุมต้นทุนวัตถุดิบ

         หุ้นวิชั่น - บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TFM ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจของไทย รายงานผลประกอบการปี 2567 ด้วยกำไรสุทธิ 535 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก 87 ล้านบาทในปี 2566 ถึง 513 เปอร์เซ็นต์ โชว์ผลงานแกร่งสุดในรอบ 3 ปี พร้อมประกาศจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.77 บาทต่อหุ้นสำหรับครึ่งปีหลัง รวมทั้งปีปันผล 1.07 บาทต่อหุ้น นับเป็นการจ่ายเงินปันผลสูงสุดตั้งแต่ TFM เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย          นายพีระศักดิ์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมธุรกิจในปี 2567 เป็นช่วงเวลาที่ดีในการมุ่งเน้นการพัฒนากระบวนการผลิต การจัดการพอร์ตสินค้า และการพัฒนาสินค้าใหม่ๆ เพื่อขับเคลื่อนอุตสาหกรรมในฐานะผู้นำที่ผลิตอาหารสัตว์น้ำและอาหารสัตว์เศรษฐกิจที่ดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® 2030 ของกลุ่มไทยยูเนี่ยน          โดยในปี 2567 บริษัทฯ สามารถทำยอดขายได้ 5,365 ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้น 1,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 129% จากปีก่อนหน้า ผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งนี้เป็นผลมาจากการควบคุมต้นทุนการผลิต การปรับกลยุทธ์การขายสินค้า และการบริหารจัดการต้นทุนวัตถุดิบได้อย่างมีประสิทธิภาพ          นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้มีการประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการครึ่งปีหลังให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตรา 0.77 บาทต่อหุ้น รวมทั้งปีปันผล 1.07 บาทต่อหุ้น นับเป็นการจ่ายเงินปันผลสูงที่สุดตั้งแต่บริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อปี 2564          สำหรับสัดส่วนยอดขายตามผลิตภัณฑ์ในปี 2567 แบ่งเป็นยอดขายอาหารกุ้ง 62 เปอร์เซ็นต์ อาหารปลา 30 เปอร์เซ็นต์ อาหารสัตว์บก 7 เปอร์เซ็นต์ และอื่นๆ ประมาณ 1 เปอร์เซ็นต์ โดยอาหารกุ้งเป็นกลุ่มสินค้าที่เติบโตได้ดี โดยเพิ่มขึ้น 18 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อน โดยเฉพาะในประเทศอินโดนีเซียที่ยอดขายปรับตัวขึ้นถึง 127 เปอร์เซ็นต์ จากการพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์และการขยายพื้นที่การขายสินค้าให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น          ในขณะที่ยอดขายอาหารกุ้งในประเทศไทยปรับตัวเพิ่มขึ้น 6 เปอร์เซ็นต์ จากการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดอาหารกุ้งในประเทศ ในขณะที่สินค้าในกลุ่มอาหารปลาลดลง 6 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากปริมาณการเลี้ยงปลากะพงที่ลดต่ำลงระหว่างปี อย่างไรก็ดี ปัจจุบันราคาปลากะพงปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ปริมาณการเลี้ยงมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเช่นกัน          นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมุ่งขยายตลาดในกลุ่มอาหารปลาน้ำจืดเพิ่มเติม เช่น อาหารปลานิล ปลาทับทิม ปลาสลิด เป็นต้น เพื่อขยายฐานรายได้และกระจายความเสี่ยงผ่านการบริหารพอร์ตสินค้า          “กลยุทธ์ในปี 2568 ของ TFM จะเดินหน้าสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว ให้สอดคล้องกับกลยุทธ์มุ่งสู่ปี 2573 ของกลุ่มไทยยูเนี่ยน โดยเราจะมุ่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจหลัก ด้วยการขยายธุรกิจอาหารสัตว์น้ำ กลุ่มกุ้งและ ปลากะพงในประเทศไทย รวมถึง ขยายฐานธุรกิจในอินโดนีเซีย  ตลอดจนมุ่งเน้นและให้ความสำคัญในการผลิตสินค้าที่มีคุณภาพออกสู่ตลาดตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างดีที่สุด รักษามาตรฐานการผลิต บริหารต้นทุนให้สามารถแข่งขันได้ ภายใต้มาตรฐานการรับรองที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล เราเป็นผู้ผลิตสินค้าที่ได้รับการรับรอง ASC Feed แห่งแรกในเอเชีย เพื่อก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ในประเทศไทย” นายพีระศักดิ์ กล่าว

TFM เผยไตรมาส 3/67 กำไรพุ่ง 151 ล้านบาท โต 187%

TFM เผยไตรมาส 3/67 กำไรพุ่ง 151 ล้านบาท โต 187%

          บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน)  หรือ TFM ไตรมาส 3/2567 มียอดขาย 1,389.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา +6.4% เป็นผลมาจากยอดขายอาหารกุ้งที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น +29.4% ทั้งในการขายในประเทศไทย อินโดนีเซีย และการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ ในขณะที่ยอดขายอาหารปลาปรับตัวลดลง -18.3% ซึ่งส่วนมากมาจากยอดขายอาหารปลากะพงที่ลดลง ส่วนยอดขายอาหารสัตว์บกที่ปรับตัวลดลง -25.0% เป็นผลมาจากการปรับกลยุทธ์การขายอาหารสัตว์บก กำไรขั้นต้น            กำไรขั้นต้นในไตรมาสที่ 3/2567 อยู่ที่ 266.6 ล้านบาท ปรับตัวขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา +84.2% เนื่องจากการปรับกลยุทธ์การขายสินค้าโดยมุ่งเน้นสินค้าในกลุ่มที่มีความสามารถในการทำกำไร และการบริหารต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต รวมไปถึงการบริหารต้นทุนวัตถุดิบ ส่งผลให้บริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นจาก 11.1% ในไตรมาส 3/2566 มาอยู่ที่ 19.2% ในไตรมาสปัจจุบัน กำไรสุทธิ            กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 151.0 ล้านบาท ปรับตัวขึ้น +187.7% จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผลมาจากความสามารถในการทำกำไรที่ปรับตัวสูงขึ้นตามที่ได้กล่าวข้างต้น

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456