ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#SSP


SSP ครบรอบ 10 ปี

SSP ครบรอบ 10 ปี "Powering a Better Future"

              หุ้นวิชั่น - บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) จัดงานครบรอบ 10 ปี ภายใต้ธีม "Powering a Better Future" สานต่ออนาคตพลังงานสะอาดอย่างยั่งยืน นำทีมโดยผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรง นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ,นางสาวธัณฐภรณ์ ไกรพิสิทธิ์กุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร , นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน และนายภาสกร ปัญญารัตนากร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ โชว์วิสัยทัศน์และกลยุทธ์การเติบโตของ SSP ในการขับเคลื่อนอนาคตพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืน ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา จากบริษัทพลังงานหมุนเวียนขนาดเล็ก มุ่งสู่ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียนของประเทศไทย โดยปัจจุบันมีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนกว่า 285 PPA eMW และตั้งเป้าขยายสู่ 1,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2032 สะท้อนกลยุทธ์การเติบโตที่มุ่งมั่นและยั่งยืน               นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์  ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวว่า สำหรับปีที่ 10 ของ SSP ไม่ใช่เพียงปีแห่งการเฉลิมฉลองความสำเร็จในอดีต แต่จะเป็นจุดเริ่มต้นของทศวรรษใหม่ที่จะเดินหน้าสร้างอนาคตที่มั่นคงและยั่งยืน มุ่งมั่นขับเคลื่อนองค์กรด้วย FAIR Culture ที่เป็นแก่นหลักของการทำงานและการเติบโตของทุกคนในองค์กร สู่ทศวรรษแห่งการเติบโตครั้งใหม่ ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ด้วยพลังของทุกคนในองค์กร เราจะเติบโตไปด้วยกัน สร้างสรรค์พลังงานหมุนเวียน เพื่อโลก เพื่ออนาคต และเพื่อทุกคน ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เมื่อเร็วๆ นี้

[ภาพข่าว] SSP เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ ทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าต่อเนื่อง

[ภาพข่าว] SSP เข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ ทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าต่อเนื่อง

           นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล (กลาง) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน, นางสาวลินดา เอนกรัชดาพร (ที่ 1 จากขวา) ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนักลงทุนสัมพันธ์ และนางสาวฐิติรัตน์ พุทธิวงศาสุนทร (ที่ 1 จากซ้าย) ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) นำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) โชว์ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯในปี 2567  มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 3,465.5 ล้านบาท ส่วนกำไรหลักจากการดำเนินงาน (COP) อยู่ที่ 824.9 ล้านบาท และจ่ายปันผล 0.20  บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 6 พ.ค. 68 จ่อ COD โครงการแรก โซลาร์ฟาร์ม LEO 2 ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 16.4 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 4 ปีนี้  และโครงการใหม่ๆต่อเนื่องอีก 158.9 เมกะวัตต์ ภายในปี 2569 ตอกย้ำเข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุม บริษัทฯ เมื่อเร็วๆ นี้

SSP ขายไฟใหม่รอบ 4 ปี ทุ่ม 2.5 หมื่นล. ขยายอาณาจักร

SSP ขายไฟใหม่รอบ 4 ปี ทุ่ม 2.5 หมื่นล. ขยายอาณาจักร

           หุ้นวิชั่น -  SSP เดินหน้าพลังงานเต็มสูบ เล็ง COD โรงไฟฟ้าญี่ปุ่น LEO 2 กำลังผลิต 16.4 เมกะวัตต์ ในรอบ 4 ปี พร้อมเปิดยุทธศาสตร์ขายไฟ 12 โครงการ 4 ประเทศ ด้านผู้บริหาร "ชยุตม์ หลีหเจริญกุล" ตั้งงบลงทุน 2.5 หมื่นล้านบาท เดินเครื่องขยายอาณาจักรในปี 5 ปีข้างหน้า            นาย ชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า ปี 2568 จะเป็นปีที่บริษัทเริ่ม COD โครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในรอบ 3-4 ปี หลังจากโครงการล่าสุดที่ COD เมื่อเดือนตุลาคม 2564 โดยบริษัทมีแผนพัฒนาโครงการทั้งหมด 12 โครงการ ใน 4 ประเทศ ซึ่งจะทยอยเปิดดำเนินการตั้งแต่ปี 2568-2571            โครงการแรกที่บริษัทเตรียมเดินเครื่อง คือ SPN Repowering ที่จังหวัดลพบุรี มีกำลังการผลิต 40 เมกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน กลางปี 2568 ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและการเติบโตของธุรกิจ            อีกหนึ่งโครงการสำคัญคือ โรงไฟฟ้า LEO 2 ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 16.4 เมกะวัตต์ เป็นส่วนต่อขยายของ LEO 1 คาดว่าจะ COD ได้ในไตรมาส 4 ปี 2568 โดยปัจจุบันความคืบหน้าการติดตั้งแผงโซล่าร์อยู่ที่ประมาณ 10%            ในปี 2569 บริษัทเตรียม COD โครงการ Waste to Energy กำลังการผลิตรวม 16.9 เมกะวัตต์ จาก 2 โครงการ ที่จังหวัดสุราษฎร์ธานีและนครราชสีมา คาดว่าจะ เซ็นสัญญา EPC ได้ภายในเดือนมีนาคม-เมษายน และพร้อมเดินเครื่องในช่วงปลายปี 2569            นอกจากนี้ บริษัทยังเตรียม COD โรงไฟฟ้าพลังงานลม "Bago" ในประเทศฟิลิปปินส์ กำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ โดยคาดว่าภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า จะมีข้อตกลงด้าน EPC กับผู้รับเหมา ซึ่งหากดำเนินการได้ตามแผน จะช่วยหนุนรายได้ของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ            สำหรับปี 2570 บริษัทมีแผน COD โครงการ Xuejia 1 ในไต้หวัน กำลังการผลิต 18.5 เมกะวัตต์ คาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 2570 นอกจากนี้ ยังมี โซล่าร์ฟาร์ม 150 เมกะวัตต์ ใน 4 จังหวัด ได้แก่ สกลนคร หนองคาย ราชบุรี และโครงการ พลังงานลมอีก 2 โครงการ ในภาคใต้ กำลังการผลิตรวม 16 เมกะวัตต์ โดยทั้งหมดจะทยอย COD ในช่วงปลายปี 2570            ขณะที่ ปี 2571 บริษัทมีแผนเดินหน้าโครงการ วินด์ฟาร์ม อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะโครงการ Pingtung ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ไต้หวัน กำลังการผลิต 38 เมกะวัตต์ คาดว่าจะสามารถ COD ได้ภายในปี 2571            ปัจจุบัน SSP เดินหน้าขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนเต็มกำลัง โดย ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมีกำลังผลิตอยู่ที่ 258 เมกะวัตต์ และเมื่อรวมโครงการใหม่ที่เตรียม COD จะทำให้กำลังการผลิตแตะระดับ 600 เมกะวัตต์ ภายในปี 2571            สำหรับแผนลงทุนในช่วง 5 ปีข้างหน้า (2568-2572) บริษัทตั้งงบประมาณไว้ที่ 24,500-25,000 ล้านบาท โดยจะทยอยใช้ตามแผนพัฒนาโครงการต่างๆ โดยเฉพาะในช่วง ปี 2568-2569 คาดว่าจะใช้เงินลงทุนประมาณ 7,000-8,000 ล้านบาท            SSP ยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียน อย่างต่อเนื่อง ทั้ง โซล่าร์ฟาร์ม พลังงานลม และ Waste to Energy เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว [PR news]

จับตาแผน SSP ลงทุนฟิลิปปินส์ หยวนต้าเคาะเป้า 6.10 บาท

จับตาแผน SSP ลงทุนฟิลิปปินส์ หยวนต้าเคาะเป้า 6.10 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง SSP ว่า กำไรปี 2025 มีโอกาสลดลง YoY ประกาศปิดซ่อมโครงการลมบางส่วนในเวียดนามช่วง 1Q25 วานนี้ (5 ก.พ.) เราได้เข้าร่วมประชุมนักวิเคราะห์และมีมุมมองเป็นลบต่อแนวโน้มการเติบโตของบริษัทฯ ในปี 2025 โดยมีสาระสำคัญดังนี้ : 1) ผู้บริหารให้ข้อมูลว่าในช่วง 1Q25 บริษัทฯ ได้มีการปิดซ่อมสายส่งบางส่วนของโครงการลมในเวียดนาม (ขนาด 38 MWe, ถือหุ้น 80%) โดยเบื้องต้นบริษัทฯ คาดจะส่งผลให้รายได้ลดลงราว 40 ล้านบาท อย่างไรก็ตามโครงการนี้จะได้รับเงินประกันจากเหตุการณ์ดังกล่าวราว 8-12 ล้านบาท (คาดบันทึกในช่วง 2Q25) 2) ผู้บริหารมองว่ากำไรปี 2025 มีโอกาสลดลงราว 15-20% YoY เพราะถูกกดดันจากการหมดอายุของ Adder ในโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ SPN (ขนาด 40 MWe, ถือหุ้น 100%) ในเดือนม.ค. 25 และต้นทุนทางการเงินยังทรงตัวอยู่ในระดับสูง แม้อัตราดอกเบี้ย Green Loan ชุดใหม่จะลดลง เพราะบริษัทฯ อยู่ระหว่างการกู้เงินเพิ่มเพื่อลงทุนโครงการใหม่ในอนาคต 3) บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนในโครงการแสงอาทิตย์และลมในฟิลิปปินส์เพิ่มเติม โดยคาดว่าจะมีความชัดเจนมากขึ้นในช่วง 2Q-3Q25 ปรับประมาณการปี 2025-26 ลง           เราปรับกำไรปกติปี 2025-26 ลง 18% และ 17% เป็น 714 ล้านบาท (-13% YoY) และ 759 ล้านบาท (+6% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานรายได้จากโครงการพลังงานลมและโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ลงเพื่อสะท้อนความเร็วลมและความเข้มแสงที่มีแนวโน้มลดลง YoY และการปิดซ่อมสายส่งไฟฟ้าของโครงการลมในเวียดนามในช่วง 1Q25 รวมถึงต้นทุนทางการเงินที่สูงกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้า (ผลจากการกู้ยืมเงินเพิ่มเติมเพื่อเตรียมเข้าลงทุนในโครงการใหม่ของบริษัทฯ) คาดกำไร 1Q25 ลดลง QoQ แต่ทรงตัวได้ YoY แม้หมดสัญญา Adder เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 1Q25 ที่ราว 250 ล้านบาท +/- ลดลง QoQ จาก: 1) ปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น 2) การรับรู้ผลกระทบจากการหมดสัญญา Adder ในเดือนม.ค. 25 และ 3) การปิดซ่อมสายส่งไฟฟ้าบางส่วนของโครงการลมในเวียดนาม           อย่างไรก็ตาม คาดกำไรปกติจะสามารถทรงตัวได้ YoY แม้ถูกกดดันจากการหมดสัญญา Adder ของโครงการแสงอาทิตย์ SPN โดยได้รับแรงหนุนจากการเริ่มรับรู้รายได้ของวินชัยในช่วง High Season ซึ่งบริษัทฯ ได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นเป็น 100% จากเดิม 25% ในเดือนมี.ค. 24 แบบเต็มไตรมาส (ใน 1Q24 รับรู้ส่วนแบ่งกำไรเป็นระยะเวลา 2 เดือนและรับรู้รายได้ 100% เป็นระยะเวลา 1 เดือน) ปรับราคาเหมาะสมลงเป็น 6.10 บาท/หุ้น และปรับคำแนะนำลงเป็น “TRADING”           ผลจากการปรับประมาณการลง ส่งผลให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ลดลงเป็น 6.10 บาท/หุ้น มี Upside เหลือเพียง 10.9% แม้โครงการซื้อหุ้นคืน (จำนวน 35 ล้านหุ้น ภายใต้วงเงิน 200 ล้านบาท, คิดเป็นราคาเฉลี่ยที่ราว 5.71 บาท/หุ้น) ช่วยจำกัด Downside ของราคาหุ้นได้ แต่เรามองว่าในระยะสั้น-กลางการฟื้นตัวของราคาหุ้นจะยังถูกจำกัดจากแนวโน้มผลประกอบการปี 2025 ที่ลดลง YoY จึงปรับคำแนะนำจาก “ซื้อ” ลงเป็น “TRADING” โดยเรามองว่าหุ้นจะกลับมาน่าสนใจอีกครั้งที่ราคาระดับ 5.00 บาท/หุ้น +/- หรือหลังเห็นสัญญาณการฟื้นตัวของผลประกอบการ YoY (คาดเกิดขึ้นในช่วง 4Q25 เป็นอย่างเร็ว)

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

SSP โชว์ปี 67 รายได้แตะ 3.4 พันลบ. จ่ายปันผล 0.20 บ./หุ้น XD 6 พ.ค. 68

SSP โชว์ปี 67 รายได้แตะ 3.4 พันลบ. จ่ายปันผล 0.20 บ./หุ้น XD 6 พ.ค. 68

           บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) โชว์ผลงานปี 67 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ  3,465.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.8% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตรา 0.20 บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 ฟากบิ๊กบอส วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ มั่นใจ “วินชัย” หนุนรายได้สม่ำเสมอ ไม่หวั่นโซลาร์ฟาร์ม SPN Adder หมดไตรมาส 1/68 เผยเตรียมเงินลงทุนพร้อมลุยโรงไฟฟ้าใหม่ ประเดิม COD LEO 2 ปลายปี 68            นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ งวดไตรมาส 4/67 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 980.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 242.6 ล้านบาท หรือ 32.9% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และมีกำไรจากการดำเนินงาน (COP) อยู่ที่ 301.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 136.0 ล้านบาท หรือ 82.2% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน            ขณะที่ผลดำเนินงานในปี 2567 (สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567) มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 3,465.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 393.6 ล้านบาท หรือ 12.8% เทียบกับปีก่อน และมีกำไรหลักจากการดำเนินงาน (COP) อยู่ที่ 824.9 ล้านบาท            ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้บริษัทฯ เพิ่มขึ้น มาจากปริมาณการจำหน่ายไฟฟ้าสะสมปี 2567 จำนวน 619,376  เมกะวัตต์-ชั่วโมง เพิ่มขึ้น 14.3% เทียบกับปีก่อน โดยหลักจากรายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานลม จำนวน 1,219.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 624.8 ล้านบาท หรือ 105.1% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากการเข้าซื้อหุ้น บริษัท วินชัย จำกัด ทั้ง 100% ขยายพอร์ทโรงไฟฟ้าพลังงานลมจาก “โครงการร่มเกล้าวินฟาร์ม” อีก 45 เมกะวัตต์ ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2567 และเริ่มรับรู้รายได้ ค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางการเงิน ตั้งแต่ไตรมาส 1/67 เป็นผลให้กดดันกำไรหลักจากการดำเนินงานอ่อนตัวลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับปีก่อน            บริษัทฯ ยังเปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN ขนาด 40 เมกะวัตต์ ที่ Adder หมดในไตรมาส 1/68 นั้น ทำให้รายได้จากเงินสนับสนุนของภาครัฐหายไป แต่มีรายได้จากโครงการร่มเกล้าวินฟาร์ม เข้ามาช่วยสนับสนุน ประกอบกับการทำ Repowering โครงการ SPN เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้า โดยมีเป้าหมายแล้วเสร็จกลางปี 2568            ทั้งนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับงวดผลการดำเนินงานในปี 2567 เป็นเงินสดอีกในอัตรา 0.20  บาท/หุ้น เตรียมขออนุมัติจากผู้ถือหุ้นในงาน AGM วันที่ 25 เมษายน 2568 และเตรียมขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 พฤษภาคม 2568 กำหนดจ่ายเงินวันที่ 21 พฤษภาคม 2568            นอกจากนั้น เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 บริษัทฯ ประสบความสำเร็จในการออกหุ้นกู้ Green Bond 2 ชุด วงเงินรวม 2,000 ล้านบาท เพื่อนำไปชำระคืนหนี้หุ้นกู้เดิมที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอน และรองรับการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) อีกหลายโครงการในอนาคต โดยจะเริ่มประเดิม COD โครงการโซลาร์ฟาร์ม LEO 2 ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 16.4 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 4 ปีนี้ และ COD โครงการใหม่ต่อเนื่องอีก 158.9 เมกกะวัตต์ ในปี 2569            ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SSP กล่าวทิ้งท้ายว่า “แม้สภาพตลาดทุนของไทยในปัจจุบันจะมีความผันผวนสูง กระทบกับราคาหุ้นทุกบริษัทฯ แต่อยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นแผนการดำเนินงานของเรา โครงการในอนาคตตามแผน Pipeline อีกกว่า 410.3 เมกะวัตต์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ที่พร้อมจะสร้างรายได้ให้กับ SSP ต่อเนื่องในอนาคตอีก 5 ปีข้างหน้า เราพยายามอย่างเต็มที่ในการบริหารต้นทุนทางการเงิน เตรียมความพร้อมของกระแสเงินสด รองรับการขยายการลงทุนเพื่อสร้างการเติบโตอย่างมั่นคงให้กับบริษัทฯ” [PR News]

SSP กำไร Q4 พุ่ง 82% ฟัน 302ล. ได้ Windchai หนุน

SSP กำไร Q4 พุ่ง 82% ฟัน 302ล. ได้ Windchai หนุน

           หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล. ดาโอ แนะนำ SSP “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท อิง DCF (WACC 5.7%, TG 0%) ทั้งนี้บริษัทรายงานกำไรปกติ 4Q24 อยู่ที่ 302 ล้านบาท (+82% YoY, +112% QoQ) (ไม่มี consensus แต่ใกล้เคียงกับที่เราประเมิน) ฟื้นตัวเด่นจากการเข้าถือหุ้นโครงการ Windchai 45MW เพิ่มเติมอีก 75% ในช่วง 1Q24 กอปรกับกระแสลมที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 4Q24 หนุนรายได้รวมขึ้นมาที่ระดับราว 1.0 พันล้านบาท (+32% YoY, +16% QoQ) และ GPM 60% (+9ppts YoY, +8ppts QoQ) จาก contribution โรงไฟฟ้าพลังงานลมที่ทำผลงานได้ เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2025E ลดลงเล็กน้อย -4% YoY หลังโครงการ SPN หมด Adder อย่างไรก็ตามคาดผลประกอบการปี 2026E กลับมาโตได้ราว +18% YoY จากโครงการ LEO2 (16MWe), โครงการ Solar ไต้หวัน (18MWe) ช่วยหนุนราคาหุ้นกลับมา outperform SET ได้ราว +15% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา คาดตลาด priced in ประเด็นผลประกอบการถูกกดดันในปี 2024-25E ไปพอสมควรแล้ว แต่ด้วยความผันผวนของตลาดฯเชื่อว่านักลงทุนยังคง focus ที่การเติบโตของกำไรในระยะสั้นเป็นหลัก (earnings growth visibility) และเป็นการ rebound ระยะสั้น จึงอาจทำให้ราคาหุ้นยัง outperform ต่อได้ยาก            อย่างไรก็ตามในระยะยาวเชื่อว่าราคาหุ้นจะกลับมา outperform SET ได้จากการเติบโตที่ยังดีอยู่โดยเฉพาะในปี 2027E ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 170MW จะเริ่มทยอย COD และราคาปัจจุบันเทรดระดับ PER เพียง 10x อยู่ในระดับ -1.5SD เป็นกรอบต่ำสุดในรอบ 3 ปี

SSP ออกหุ้นกู้กรีนด์บอนด์สำเร็จ กระแสตอบรับล้น

SSP ออกหุ้นกู้กรีนด์บอนด์สำเร็จ กระแสตอบรับล้น

          บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ (“บริษัท” หรือ “SSP”) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน ชั้นนำในเอเชีย ได้ออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมครั้งแรกมูลค่ารวม 2,000 ล้านบาท ให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากนักลงทุน           นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานบัญชีและการเงิน บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯ ขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่าน ที่ให้ความไว้วางใจและให้ความสนใจในการลงทุนหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของบริษัทฯ โดยการเสนอขายครั้งนี้นับเป็นการเสนอขายหุ้นกู้กรีนด์บอนด์ครั้งแรกของบริษัทฯ รวมถึงมีการค้ำประกันโดยธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เป็นครั้งแรกด้วย ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ทั้งจากผู้ลงทุนสถาบัน ผู้ลงทุนสหกรณ์ รวมถึงผู้ลงทุนรายใหญ่ ท่ามกลางความผันผวนของตลาดการเงินโลก ทำให้บริษัทฯ สามารถระดมทุนผ่านการออกหุ้นกู้กรีนด์บอนด์รวมทั้งสิ้น 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากเดิมที่บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายในการเสนอขายหุ้นกู้ไว้เพียง 1,800 ล้านบาท โดยมียอดจองทะลุเกินเป้าหมายกว่า 2 เท่า ทำให้บริษัทตัดสินใจเพิ่มมูลค่าการเสนอขายหุ้นกู้อีก 200 ล้านบาท ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ขอขอบคุณ EXIM BANK ที่ให้การสนับสนุนบริษัทในฐานะผู้ค้ำประกันหุ้นกู้ในครั้งนี้ ซึ่งช่วยให้บริษัทฯ เข้าถึงแหล่งเงินทุนและสามารถขยายกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันได้เพิ่มเติม เพื่อช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจพลังงานหมุนเวียนอย่างยั่งยืนตามปณิธานที่บริษัทตั้งไว้ รวมถึงยังขอขอบคุณผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทุกรายที่ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จครั้งนี้”           บริษัทฯ ได้ดำเนินการออกหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 1/2568 ประเภทไม่ด้อยสิทธิ มีประกัน ซึ่งค้ำประกันทั้งจำนวนโดย EXIM BANK อันความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “AAA” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด มูลค่าออกหุ้นกู้รวม 1,200 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 5 ปี ที่อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี และ ครั้งที่ 2/2568 ประเภทไม่ด้อยสิทธิ และไม่มีค้ำประกัน อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ ระดับ “BBB” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด มูลค่าออกหุ้นกู้รวม 800 ล้านบาท อายุหุ้นกู้ 3 ปี 1 เดือน ที่อัตราดอกเบี้ย 4.90% ต่อปี ผ่าน 6 สถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)           สำหรับการออกเสนอขายหุ้นกู้กรีนบอนด์ในครั้งนี้นั้น บริษัทมีความประสงค์ที่จะนำเงินไปใช้ในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้เดิมของบริษัทที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอน และเพื่อรองรับการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ของบริษัทในระยะต่อ ๆ ไป ซึ่งหุ้นกู้กรีนบอนด์ในครั้งนี้ ได้รับการรับรองจาก DNV (Thailand) Co., Ltd. ในฐานะผู้สอบทานอิสระ (Second Party Opinion Reviewer) ว่าเป็นไปตามมาตรฐานสากล Green Bond Principles ที่กำหนดโดยสมาคมตลาดทุนระหว่างประเทศ (International Capital Market Association: ICMA) และมาตรฐานสากล ASEAN Green Bond Standards ที่กำหนดโดย ASEAN Capital Markets Forum (ACMF) [PR News]

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

SSP พุ่ง 8.49% เก็งกำไร Q4/67 ทำนิวไฮ

SSP พุ่ง 8.49% เก็งกำไร Q4/67 ทำนิวไฮ

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.หยวนต้า ระบุ บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) คาดกำไรปกติ 4Q67 ที่ 302 ล้านบาท เติบโต 112% QoQ และ 82% YoY ทำนิวไฮรายไตรมาส แม้ถูกกดดันจากการที่โครงการแสงอาทิตย์ SPN (โครงการรูปแบบ Adder ขนาด 40MW) ยังอยู่ระหว่างการหยุดดำเนินงานบางส่วนเพื่อเปลี่ยนแผง Solar PV และการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่น แต่ได้รับแรงหนุนจาก คาดรายได้จากโครงการลมในไทย (วินชัย ขนาด 45MW) จะเพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลและการเปลี่ยนจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเป็นการรวมงบการเงินหลังเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 100% ในช่วง 1Q67 (ในช่วง 4Q66 ถือหุ้น 25% และรับรู้ส่วนแบ่งกำไร 42 ล้านบาท) คาดรายได้จากโครงการลมในเวียดนามที่สูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล และ 3. คาดค่าใช้จ่าย SG&A ที่ 92 ล้านบาท (-12% QoQ, -25% YoY) หากกำไรปกติ 4Q67 ออกมาใกล้เคียงคาด กำไรปกติปี 2567 จะอยู่ที่ 825 ล้านบาท (-4% YoY) ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการของฝ่ายวิจัย           ปรับกำไรปี 2568-2569 ลง 10% เป็น 874 ล้านบาท (+4% YoY) และ 914 ล้านบาท (+5% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานค่าเงินเยนลงเป็น 0.21 บาท/เยน เพื่อสะท้อนแนวโน้มค่าเงินเยนที่แข็งค่าช้ากว่าที่เราประเมินไว้เดิม (ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ช้ากว่าคาด) อย่างไรก็ตามมองว่ากำไรปกติปี 2568 จะยังสามารถเติบโตได้ YoY จากการรับรู้รายได้จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในวินชัยแบบเต็มปี (ปี 2567 รับรู้ราว 10 เดือน) และปริมาณขายไฟฟ้าของโครงการ SPN ที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเสร็จสิ้นการเปลี่ยนแผง Solar PV ในช่วง 1H68 รวมถึงการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Leo 2 ขนาด 16MW ที่มีกำหนด COD ในช่วงต้น 4Q68 แนวโน้มกำไร 1Q68 ยังทรงตัวได้ YoY แม้ Adder ของโครงการ SPN หมดอายุ           เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 1Q68 ที่ราว 250 ล้านบาท +/- ลดลง QoQ จากฐานที่สูงตามปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นและโครงการลมในเวียดนาม รวมถึงการรับรู้ผลกระทบจาก Adder ของโครงการแสงอาทิตย์ SPN ที่หมดลงในเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติจะสามารถทรงตัวได้ YoY แม้รับรู้ผลกระทบจาก Adder ที่หมดลง เพราะสามารถชดเชยได้จากการรับรู้รายได้จากโครงการวินชัยซึ่งอยู่ในช่วง High Season แบบเต็มไตรมาส (ใน 1Q67 รับรู้ส่วนแบ่งกำไร 2 เดือนและรับรู้รายได้ 1 เดือน) หากมองไปช่วง 2Q68 คาดกำไรปกติจะสามารถกลับมาเติบโตได้ YoY อีกครั้งจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงหลังการปรับโครงสร้างหนี้ (บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับ Development Bank เพื่อนำ Green Loan มา Refinance หนี้สินเดิมโดยดอกเบี้ยใหม่จะลดลง 28 bps ส่งผลให้ต้นทุนลดลงราว 37 ล้านบาท/ปี)           ผลจากการปรับประมาณการลงและการปรับ WACC ที่ใช้ในการประเมินค่าหุ้นเป็น 9.3% (เดิม 8.7%) เพื่อสะท้อนสภาวะตลาดที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ลดลงเป็น 6.80 บาท/หุ้น มี Upside 28.3% เรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 16% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนปัจจัยลบจาก Adder ที่หมดอายุในเดือน ม.ค.2568 และความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาการรับซื้อไฟฟ้าของโครงการแบบ Adder ของภาครัฐไปมากแล้ว โดยราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER 2568 ที่เพียง 8.3 เท่า จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนในระยะยาว

SSP ตอกย้ำกำไรแกร่ง ทุ่ม 200 ล้านซื้อหุ้นคืน 

SSP ตอกย้ำกำไรแกร่ง ทุ่ม 200 ล้านซื้อหุ้นคืน 

          หุ้นวิชั่น - SSP ประกาศโครงการซื้อหุ้นคืน จำนวน 2.73% ของทุนจดทะเบียน วงเงิน 200 ล้าบาท           นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บัญชีและการเงิน บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ("บริษัท") หรือ SSP ขอแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ("ตลาดหลักทรัพย์ฯ") ให้ทราบว่า ที่ประชุมคณะกรรมการของบริษัท ครั้งที่ 2/2568 เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติโครงการซื้อหุ้นคืนของบริษัท เพื่อบริหารทางการเงิน (Treasury Stock) ภายในวงเงินจำนวนไม่เกิน 200 ล้านบาท และจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนไม่เกิน 35,000,000 หุ้น ซึ่งจำนวนหุ้นที่จะซื้อคืนคิดเป็นร้อยละ 2.73 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้แล้วทั้งหมดของบริษัท           บริษัทจึงขอเปิดเผยข้อมูลโครงการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน และโปรดพิจารณาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากแบบรายงานการเปิดเผยการซื้อหุ้นคืนเพื่อบริหารทางการเงิน (แบบ TS-1.2) และแบบแสดงรายงานการกระจายหุ้น ตามสิ่งที่ส่งมาด้วย เหตุผลในการซื้อหุ้นคืน 3.1 เพื่อเป็นการบริหารสภาพคล่องส่วนเกินของบริษัทให้เกิดประโยชน์สูงสุด 3.2 เพื่อเพิ่มอัตราผลตอบแทนให้แก่ส่วนของผู้ถือหุ้น (ROE) รวมถึงเพิ่มกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) 3.3 เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งและความสามารถในการทำกำไรของบริษัท

SSP จ่อออก Green Bond วงเงินรวม 2,000 ลบ. เปิดจองซื้อ 20 - 21 และ 24 ก.พ. นี้

SSP จ่อออก Green Bond วงเงินรวม 2,000 ลบ. เปิดจองซื้อ 20 - 21 และ 24 ก.พ. นี้

          หุ้นวิชั่น - บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (“SSP” หรือ “บริษัท”) เตรียมเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำนวน 2 รุ่น วงเงินรวม 2,000 ลบ. เปิดจองซื้อระหว่างวันที่ 20 - 21 และ 24 กุมภาพันธ์ 2568 มั่นใจกระแสตอบรับดี ฟากบิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ระบุเตรียมนำเงินคืนหนี้เดิมและ รองรับแผนลุยโปรเจคใหม่ หนุนผลงานโตก้าวกระโดด            นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เตรียมเสนอขายหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม (Green Bond) ระยะยาว สกุลเงินบาท ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ไม่ด้อยสิทธิ และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ รวมทั้งหมด 2 รุ่น แบ่งเป็น หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 และหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2568           โดยสำหรับหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 (จัดสรรให้กับผู้ลงทุนสถาบัน) เป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แบบมีประกัน โดยมีผู้ค้ำประกัน คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM) อายุหุ้นกู้ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 1,200 ล้านบาท โดยหุ้นกู้รุ่นดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ "AAA" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 8 มกราคม 2568           ทั้งนี้ ด้วยศักยภาพการเติบโตของบริษัทและแผนการลงทุนที่มั่นคงในพลังงานสีเขียว สนับสนุนให้ได้รับการการันตีหุ้นกู้โดย EXIM ส่งผลให้หุ้นกู้ Green Bond ชุดดังกล่าว ได้รับเรตติ้งในระดับสูงสุดที่ “AAA” แนวโน้ม “คงที่” ซึ่งถือเป็นการค้ำประกันหุ้นกู้ครั้งแรกของ EXIM ช่วยเสริมความมั่นใจและเข้าถึงกลุ่มนักลงทุนสถาบัน           สำหรับหุ้นกู้ครั้งที่ 2/2568 (จัดสรรให้กับผู้ลงทุนรายใหญ่) เป็นหุ้นกู้เพื่ออนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แบบไม่มีประกัน อายุหุ้นกู้ 3 ปี 1 เดือน อัตราดอกเบี้ย 4.90% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ มูลค่าเสนอขายรวมไม่เกิน 800 ล้านบาท โดยหุ้นกู้รุ่นดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ  "BBB" แนวโน้มอันดับเครดิต "คงที่" โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ซึ่งเป็นความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ “Investment Grade”           นายวรุตม์ กล่าวว่า "หุ้นกู้ SSP เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนคงที่ และสม่ำเสมอ ในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง  และต้องการลงทุนในบริษัทที่มั่นคง นอกจากนี้ SSP มั่นใจว่าจะสามารถชำระดอกเบี้ยได้ตามกำหนดเวลาที่วางไว้ โดยบริษัทฯ ให้ความสำคัญและตระหนักเป็นอย่างดีต่อการดำเนินธุรกิจอย่างรอบคอบ เพื่อดำรงไว้ซึ่งหลักการการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล โปร่งใส และเติบโตอย่างต่อเนื่อง"           ผู้ลงทุนรายใหญ่ที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้กรีนบอนด์ของ SSP รุ่นอายุ 3 ปี 1 เดือน สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท ได้ในระหว่างวันที่ 20 - 21 และ 24 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ ได้แก่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)           วัตถุประสงค์การออกหุ้นกู้ในครั้งนี้เพื่อนำไปใช้จะนำเงินไปใช้ในการชำระคืนหนี้หุ้นกู้เดิมของบริษัทฯ ที่กำลังจะครบกำหนดไถ่ถอน และเพื่อรองรับการขยายการลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ของบริษัทฯ ในระยะต่อ ๆ ไป           กลุ่มเสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น ถือเป็นผู้ประกอบการพลังงานทดแทนชั้นนำของไทยที่มีศักยภาพและมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในและต่างประเทศ โดยมีโครงการที่ดำเนินการแล้ว 283 เมกะวัตต์ และยังมีโครงการใหม่ที่จ่อทยอย COD ตั้งแต่ปี 2568 ไปจนถึงปี 2573 จำนวน 15 โครงการ รวม 410 เมกะวัตต์  โดยเป็นโครงการโซลาร์ฟาร์มรวม 189 เมกะวัตต์ โครงการวินด์ฟาร์มรวม 204 เมกะวัตต์ โครงการโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 17 เมกะวัตต์ โดยจะเริ่มประเดิม COD โครงการโซลาร์ฟาร์ม ลีโอ 2 ที่ประเทศญี่ปุ่น ขนาด 16.4 เมกะวัตต์ในไตรมาส 4 ปีนี้ เป็นโครงการแรกของ Pipeline ตอกย้ำความมั่นใจของ บริษัทฯ ตามเป้าหมายขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด [PR News]

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

SSP คาดลมหนุนกำไร Q4 พุ่ง 112% โบรกมองปีนี้โตต่อ แนะซื้อ เป้า 6.80 บาท

SSP คาดลมหนุนกำไร Q4 พุ่ง 112% โบรกมองปีนี้โตต่อ แนะซื้อ เป้า 6.80 บาท

           หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.หยวนต้า ระบุ โครงการลมหนุนช่วยหนุนให้ SSP กำไร 4Q67 ทำ New High คาดกำไรปกติ 4Q67 ที่ 302 ล้านบาท เติบโต 112% QoQ และ 82% YoY ทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาส แม้ถูกกดดันจากการที่โครงการแสงอาทิตย์ SPN (โครงการรูปแบบ Adder ขนาด 40MW) ยังอยู่ระหว่างการหยุดดำเนินงานบางส่วนเพื่อเปลี่ยนแผง Solar PV และการเข้าสู่ช่วงฤดูหนาวของญี่ปุ่นเพราะได้แรงหนุนจาก คาดรายได้ของโครงการลมในไทย (วินชัย, ขนาด 45MW) เพิ่มขึ้นตามปัจจัยฤดูกาลและการเปลี่ยนจากการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรเป็นการรวมงบการเงินหลังเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 100% ในช่วง 1Q67 (ในช่วง 4Q23 ถือหุ้น 25% และรับรู้ส่วนแบ่งกำไร 42 ล้านบาท) คาดรายได้ของโครงการลมในเวียดนามที่สูงขึ้นตามปัจจัยฤดูกาล คาดค่าใช้จ่าย SG&A ที่ 92 ล้านบาท (-12% QoQ, -25% YoY)            หากกำไรปกติ 4Q67 ออกมาใกล้เคียงคาด กำไรปกติปี 2567 จะอยู่ที่ 825 ล้านบาท (-4% YoY) ใกล้เคียงกับประมาณการของเรา ปรับประมาณการปี 2568-69 ลง เพื่อสะท้อนเงินเยนที่แข็งค่าช้ากว่าคาด            ปรับกำไรปี 2568-69 ลง 10% เป็น 874 ล้านบาท (+4% YoY) และ 914 ล้านบาท (+5% YoY) ตามลำดับ จากการปรับสมมติฐานค่าเงินเยนลงเป็น 0.21 บาท/เยน เพื่อสะท้อนแนวโน้มค่าเงินเยนที่แข็งค่าช้ากว่าที่เราประเมินไว้เดิม (ผลจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟดที่ช้ากว่าคาด)            อย่างไรก็ตามเรามองว่ากำไรปกติปี 2568 จะยังสามารถเติบโตได้ YoY จากการรับรู้รายได้จากการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในวินชัยแบบเต็มปี (ปี 2567 รับรู้ราว 10 เดือน) และปริมาณขายไฟฟ้าของโครงการ SPN ที่เพิ่มสูงขึ้นหลังเสร็จสิ้นการเปลี่ยนแผง Solar PV ในช่วง 1H68 รวมถึงการเริ่มรับรู้รายได้จากโครงการ Leo 2 ขนาด 16MW ที่มีกำหนด COD ในช่วงต้น 4Q25 แนวโน้มกำไร 1Q68 ยังทรงตัวได้ YoY แม้ Adder ของโครงการ SPN หมดอายุ            เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 1Q68 ที่ราว 250 ล้านบาท +/- ลดลง QoQ จากฐานที่สูงตามปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นและโครงการลมในเวียดนาม รวมถึงการรับรู้ผลกระทบจาก Adder ของโครงการแสงอาทิตย์ SPN ที่หมดลงในเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตามคาดกำไรปกติจะสามารถทรงตัวได้ YoY แม้รับรู้ผลกระทบจาก Adder ที่หมดลงเพราะสามารถชดเชยได้จากการรับรู้รายได้จากโครงการวินชัย ซึ่งอยู่ในช่วง High Season แบบเต็มไตรมาส (ใน 1Q67 รับรู้ส่วนแบ่งกำไร 2 เดือนและรับรู้รายได้ 1 เดือน)            หากมองไปช่วง 2Q68 คาดกำไรปกติจะสามารถกลับมาเติบโตได้ YoY อีกครั้งจากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงหลังการปรับโครงสร้างหนี้ (บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับ Development Bank เพื่อนำ Green Loan มา Refinance หนี้สินเดิม โดยดอกเบี้ยใหม่จะลดลง 28 bps ส่งผลให้ต้นทุนลดลงราว 37 ล้านบาท/ปี) ราคาหุ้นสะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว คงคำแนะนำ “ซื้อ”            ผลจากการปรับประมาณการลงและการปรับ WACC ที่ใช้ในการประเมินค่าหุ้นเป็น 9.3% (เดิม 8.7%) เพื่อสะท้อนสภาวะตลาดที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ทำให้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ลดลงเป็น 6.80 บาท/หุ้น มี Upside 28.3%            มองว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลง 16% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา ได้สะท้อนปัจจัยลบจาก Adder ที่หมดอายุในเดือน ม.ค. 2568 และความกังวลของตลาดเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาการรับซื้อไฟฟ้าของโครงการแบบ Adder ของภาครัฐไปมากแล้ว โดยราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER2025 ที่เพียง 8.3 เท่า จึงคงคำแนะนำ “ซื้อ” สำหรับการลงทุนในระยะยาว

SSP เล็งกำไรQ4พุ่ง83% รับเต็มโรงไฟฟ้าพลังงานลม

SSP เล็งกำไรQ4พุ่ง83% รับเต็มโรงไฟฟ้าพลังงานลม

         หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล.ดาโอระบุว่า คำแนะนำ “ถือ” และราคาเป้าหมายที่ 7.50 บาท อิง DCF (WACC 5.7%, TG 0%)          ทั้งนี้ประเมินกำไรปกติ 4Q24E ที่ 303 ล้านบาท (+83% YoY, +113% QoQ) ผลประกอบการเติบโตเด่น YoY, QoQ สาเหตุหลักจากการเข้าถือหุ้นโครงการ Windchai 45MW เพิ่มเติมอีก 75% ในช่วง 1Q24 กอปรกับกระแสลมที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 4Q24E ช่วยหนุนผลประกอบการโดยรวม หากกำไร 4Q24E ออกมาใกล้เคียงกับที่เราประเมิน กำไรปกติปี 2024E จะอยู่ที่ราว 826 ล้านบาท (-4% YoY) ต่ำกว่าประมาณการเราเล็กน้อยราว -5% เบื้องต้นเรายังคงประมาณการกำไรปกติปี 2025E ที่ 785 ล้านบาท (-5% YoY) ผลประกอบการลดลงเล็กน้อยจากโครงการ SPN ซึ่งหมด Adder ไปใน 1Q25E          ราคาหุ้นกลับมา outperform SET ได้ราว +3% ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา คาดตลาด priced in เด็นผลประกอบการถูกกดดันในปี 2024E-25E ไปพอสมควรแล้ว แต่ด้วยความผันผวนของตลาดฯเชื่อว่านักลงทุนยังคง focus ที่การเติบโตของกำไรในระยะสั้นเป็นหลัก (earnings growth visibility) จึงอาจทำให้ราคาหุ้นยัง outperform ได้ยาก          อย่างไรก็ตามในระยะยาวเชื่อว่าราคาหุ้นจะกลับมา outperform SET ได้จากการเติบโตที่ยังดีอยู่โดยเฉพาะในปี 2027E ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 170MW จะเริ่มทยอย COD และราคาปัจจุบันเทรดระดับ PER เพียง 10x อยู่ในระดับ -1.5SD เป็นกรอบต่ำสุดในรอบ 3 ปี

[Vision Exclusive] SSP ลุยอัพกำลังผลิต Q4 ขายไฟญี่ปุ่นเพิ่ม

[Vision Exclusive] SSP ลุยอัพกำลังผลิต Q4 ขายไฟญี่ปุ่นเพิ่ม

           หุ้นวิชั่น - บิ๊กบอส SSP "วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" กางแผนธุรกิจปี 68 รับรู้ขายไฟโรงไฟฟ้าพลังงานลม “วินชัย” 45 เมกะวัตต์เต็มปี พร้อมโครงการโซล่าร์ฟาร์ม "ลีโอ 2" กำลังการผลิต 16.4 เมกะวัตต์ จะรับรู้รายได้เข้า ไตรมาส 4/68 เสริมแกร่งธุรกิจ ลุยต่อจิ๊กซอร์พลังงานนดันรายได้โตต่อเนื่อง สะท้อนความมั่นใจธุรกิจ            นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมประกาศผลประกอบการปี 2567 ในเดือนกุมภาพันธ์นี้ โดยคาดว่ารายได้ (Top Line) และกำไรสุทธิ (Net Profit) จะยังคงอยู่ในระดับที่ดี            สำหรับปี 2568 จะรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “วินชัย” ขนาดกำลังการผลิต 45 เมกะวัตต์ เต็มปี ซึ่งจะเข้ามาเสริมรายได้อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมั่นคงของธุรกิจพลังงานทดแทนที่เป็นหัวใจสำคัญของ SSP ในปี 2568 บริษัทเตรียมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการใหม่ 1 โครงการ ได้แก่ โครงการโซลาร์ฟาร์ม "ลีโอ 2" ขนาดกำลังการผลิต 16.4 เมกะวัตต์ ที่ประเทศญี่ปุ่น โดยคาดว่าจะสามารถ COD ได้ในไตรมาส 4/2568 โครงการดังกล่าวจะช่วยเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าของ SSP ตามแผนที่วางไว้ หลังจากที่บริษัทไม่มีโครงการใหม่ที่ COD ตั้งแต่ปี 2565-2566 ซึ่งจะเป็นก้าวสำคัญในการเสริมความมั่นคงและขยายศักยภาพธุรกิจพลังงานทดแทนของบริษัทในระยะยาว            บริษัทไม่กังวลต่อแนวโน้มการเติบโตในปี 2568 แม้ว่าภายในประเทศจะมีประเด็นเกี่ยวกับค่าไฟฟ้าและราคาพลังงานที่ลดลง เนื่องจากบริษัทมีโครงการที่พร้อมรับรู้รายได้ตามแผนงานในไลน์ธุรกิจที่วางไว้ ความต่อเนื่องของรายได้จากโครงการพลังงานทดแทนที่กำลังดำเนินการ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ SSP อย่างมั่นคงในปีนี้            ทั้งนี้หลังจากปี 2568 บริษัทมีแผนเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ (COD) โครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2569 ตั้งเป้า COD โครงการพลังงานทดแทน 4 โครงการ รวมกำลังการผลิต 185.4 เมกะวัตต์ โครงการแรกคือโซลาร์ฟาร์มในประเทศไต้หวัน ขนาดกำลังการผลิต 18.5 เมกะวัตต์ อีกสองโครงการคือโรงไฟฟ้าขยะในประเทศไทย ขนาดกำลังการผลิต 8.9 เมกะวัตต์ และ 8 เมกะวัตต์ และโครงการขนาดใหญ่ของ SSP คือโครงการพลังงานลมในประเทศฟิลิปปินส์ ขนาดกำลังการผลิต 150 เมกะวัตต์ โดยทั้งหมดคาดว่าจะสามารถ COD ได้ในไตรมาส 4/2569 การ COD ของทั้ง 4 โครงการจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของ SSP อย่างยั่งยืน และเพิ่มศักยภาพในการสร้างรายได้จากพลังงานทดแทนให้กับบริษัท            ส่วนการดำเนินธุรกิจในปี 2570-2571 บริษัทเตรียม COD โครงการพลังงานทดแทนเพิ่มเติม ซึ่งประกอบด้วยโครงการโซลาร์ในประเทศไทย และโครงการพลังงานลมในประเทศไทยและไต้หวัน การ COD ดังกล่าวสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SSP ในการขยายธุรกิจพลังงานทดแทนอย่างต่อเนื่อง            ทั้งนี้บริษัทลงนามกับ EXIM BANK ในสัญญาให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ครอบคลุมการค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) เพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ “กลุ่มเสริมสร้าง” ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ จากผู้ค้ำประกันที่มีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ทำให้เข้าถึงกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับบริษัทฯ            นับว่าเป็นโอกาสสำคัญของ SSP ที่มี EXIM BANK ให้การสนับสนุนในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ในบทบาท Green Development Bank ให้คำปรึกษาทางการเงิน จัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ Green Projects รวมถึงค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) แก่ SSP ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG)  ครอบคลุมในทุกมิติ รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

abs

ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร

[ภาพข่าว] SSP ส่งต่อพลังงานสะอาด เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน

[ภาพข่าว] SSP ส่งต่อพลังงานสะอาด เพื่ออนาคตที่ยั่งยืน "Light for Life"

          หุ้นวิชั่น - กลุ่มบริษัทเสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP Group) เดินหน้าสร้างความยั่งยืนควบคู่ไปกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ใน โครงการ "Light for Life" “พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” นำทีมโดยผู้บริหาร นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน และนายภาสกร ปัญญารัตนากร ประธานเจ้าหน้าที่สายงานปฏิบัติการ พร้อมด้วยพนักงานจิตอาสา เข้าติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา มอบให้กับโรงเรียนนาข่าวิทยา ตำบลดงหม้อทอง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร ขนาด 19 ตร.ม กำลังการผลิต 4.27 kW และ วัดท่าสำราญ ตำบลดงหม้อทอง อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร ขนาด 14 ตร.ม กำลังการผลิต 3.05 kW เพื่อส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก   สนับสนุนการพัฒนาคุณภาพชีวิตและส่งต่อโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กๆ และชุมชน               นอกจากการดำเนินธุรกิจให้บรรลุเป้าหมายตามแผนกลยุทธ์ กลุ่มบริษัทฯ ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนทั้งในด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social, and Governance: ESG) ด้วยความมุ่งมั่นที่จะนำความเชี่ยวชาญด้านพลังงานสะอาดมาสร้างประโยชน์ให้กับสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้โครงการ "Light for Life"  “พลังงานสะอาดเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” ด้วยการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ให้กับโรงเรียน วัด และสถานที่ราชการ ในจังหวัดสกลนคร เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้า ส่งเสริมและสนับสนุนการเข้าถึงพลังงานสะอาด ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ตลอดจนยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน กลุ่มบริษัทฯ  เชื่อมั่นว่า โครงการ " Light for Life"  จะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการสร้างสังคมที่ยั่งยืนและพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

SSP สุดสตรอง! EXIM BANK รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน-ค้ำประกันหุ้นกู้

SSP สุดสตรอง! EXIM BANK รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน-ค้ำประกันหุ้นกู้

          หุ้นวิชั่น - SSP สุดสตรอง! EXIM BANK รับเป็นที่ปรึกษาทางการเงิน-ค้ำประกันหุ้นกู้หนุนความเชื่อมั่น - ช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ยเล็งออกหุ้นกู้ค้ำประกัน Green Projects ดันพอร์ตโรงไฟฟ้าเติบโต 2 เท่า            บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) ประกาศความสำเร็จครั้งแรกร่วมกับ EXIM BANK ลงนามสัญญาให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน ครอบคลุมการค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) สำหรับการออกหุ้นกู้ค้ำประกัน Green Projects ฟากบิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ระบุความร่วมมือครั้งนี้ เป็นการเสริมความแข็งแกร่งของแหล่งเงินทุน เพิ่มความเชื่อมั่น ช่วยลดต้นทุนดอกเบี้ย  เพื่อการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนทุกรูปแบบ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมเดินหน้าทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าในมือตั้งแต่ปี 68 ต่อเนื่องยาวอีก 5 ปี หนุนพอร์ตโรงไฟฟ้าเติบโต 2 เท่าตัว           นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ลงนามกับ EXIM BANK ในสัญญาให้บริการที่ปรึกษาทางการเงิน ที่ครอบคลุมการค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) เพื่อสนับสนุนการลงทุนในโครงการพลังงานสะอาด อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของ “กลุ่มเสริมสร้าง” ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ จากผู้ค้ำประกันที่มีอันดับเครดิตภายในประเทศระยะยาวที่ AAA(tha) ซึ่งเป็นระดับสูงสุด ทำให้เข้าถึงกลุ่มนักลงทุนสถาบัน ช่วยลดต้นทุนทางการเงินให้กับบริษัทฯ ทั้งนี้ นับว่าเป็นโอกาสสำคัญของ SSP ที่มี EXIM BANK ให้การสนับสนุนในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงการคลัง ในบทบาท Green Development Bank ให้คำปรึกษาทางการเงิน จัดหาเงินทุนสำหรับโครงการ Green Projects รวมถึงค้ำประกันหุ้นกู้ (Bond Guarantee) แก่ SSP ในฐานะผู้ประกอบธุรกิจที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการที่ดี (Environmental, Social, and Governance : ESG)  ครอบคลุมในทุกมิติ ขณะที่ กลุ่มเสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น ถือเป็นผู้ประกอบการพลังงานทดแทนชั้นนำของไทยที่มีศักยภาพและมีการลงทุนอย่างต่อเนื่อง โดยมีโครงการในมือที่ดำเนินการอยู่กว่า 283 เมกะวัตต์ ทั้งในและต่างประเทศ และยังมีโครงการใหม่ที่จ่อทยอย COD ตั้งแต่ปี 2568 ในประเทศไทย 170.5 เมกะวัตต์ จากการชนะการประมูลโครงการพลังงานทดแทน PDP 1 รวมไปถึงโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม 150 เมกะวัตต์ ในประเทศฟิลิปปินส์ ที่บอร์ดได้อนุมัติการลงทุนไปล่าสุด และโครงการอื่นๆ รวมกว่า 400 MW “ตลอดปี 2567 ถือเป็นปีที่บริษัทฯ มีพัฒนาการการการเติบโตตามเป้าหมาย ตั้งแต่การเข้าซื้อสัดส่วนการลงทุนในโครงการร่มเกล้าวินฟาร์ม ขนาด 45 เมกะวัตต์ ครบ 100% ในเดือนมีนาคม ช่วยสนับสนุนรายได้และช่วยทดแทนการอ่อนตัวลงของรายได้โครงการโซล่าร์ฟาร์ม SPN ที่อยู่ระหว่างการ Repowering ในส่วนของปี 2568 บริษัทฯ จะทยอย COD เริ่มด้วยโซล่าร์ฟาร์มในญี่ปุ่น Leo 2 ขนาด 22 เมกะวัตต์ มั่นใจพอร์ทเติบโตต่อเนื่องมุ่งสู่ 1 GW ภายในปี 2575 “นายวรุตม์ กล่าว

SSP คว้า ESG Ratings 2024 ระดับ “AA”

SSP คว้า ESG Ratings 2024 ระดับ “AA”

           บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP ภายใต้การบริหารของ CEO คนเก่ง “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" ไม่ทำให้ผิดหวัง ล่าสุดได้รับผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Rating ระดับ “AA” (คะแนนรวม 80-89) ในกลุ่มอุตสาหกรรมทรัพยากร (Resources) จากการประกาศผลประเมินหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้ต่อเนื่องจากรางวัล CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ” มาก่อนหน้านี้ นับเป็นความสำเร็จและความภาคภูมิใจของบริษัทฯเป็นอย่างมาก และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน ยกระดับการดำเนินงานภายใต้กรอบ ESG ครอบคลุมในทุกมิติ ทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม เศรษฐกิจและการกำกับดูแลกิจการ โดยคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสียทุกภาคส่วน และแสดงให้เห็นถึงศักยภาพการเติบโตขององค์กรในระยะยาว มุ่งเน้นการลงทุนในพลังงานสีเขียวทุกรูปแบบ ตอกย้ำความพร้อมด้านความยั่งยืน เพื่อการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ขอปรบมือดังๆ ให้เลยคร้าบบบ!! [PR News]

abs

Hoonvision

[ภาพข่าว] SSP สุดปลื้ม! คว้ารางวัล Sustainability Disclosure Recognition 2024

[ภาพข่าว] SSP สุดปลื้ม! คว้ารางวัล Sustainability Disclosure Recognition 2024

          นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล (ขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เป็นตัวแทนบริษัทฯ เข้ารับรางวัล (ประกาศเกียรติคุณ) "Sustainability Disclosure Recognition 2024" จาก นายวรณัฐ เพียรธรรม (ซ้าย)  ผู้อำนวยการสถาบันไทยพัฒน์ ในพิธีมอบรางวัลการเปิดเผยข้อมูลความยั่งยืนประจำปี 2567 ซึ่งรางวัลดังกล่าว สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทฯ จากการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานทดแทนซึ่งช่วยสร้างความยั่งยืนให้แก่สังคม ตลอดจนตระหนักและให้ความสำคัญกับการเผยแพร่ข้อมูลการดำเนินงาน โดยครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม หรือ ESG (Environmental, Social and Governance) และคำนึงถึงผู้มีส่วนได้เสีย อันเป็นประโยชน์ต่อทุกภาคส่วน ตลอดจนมุ่งเน้นการพัฒนาองค์กร เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาวต่อไป งานดังกล่าวจัดขึ้น ณ หอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ เมื่อเร็วๆ นี้

เปิดโลกธุรกิจพลังงาน มุ่งสู่อนาคต | จัดเต็มการลงทุน

เปิดโลกธุรกิจพลังงาน มุ่งสู่อนาคต | จัดเต็มการลงทุน

https://youtu.be/hBHh7bz0WSo เปิดโลกธุรกิจพลังงาน มุ่งสู่อนาคต | จัดเต็มการลงทุน ติดตามรายการ #จัดเต็มการลงทุน ทุกวันจันทร์-อังคาร เวลา 9.00-9.30 น. ทาง ททบ.5 #SSP #หุ้น #SET #หุ้นวิชั่น #HoonVision

SSP ส่งซิก Q4/67 เข้าสู่ไฮซีซั่นพลังงานลม ดันผลงานพุ่ง

SSP ส่งซิก Q4/67 เข้าสู่ไฮซีซั่นพลังงานลม ดันผลงานพุ่ง

หุ้นวิชั่น - นายชยุตม์ หลีหเจริญกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารสายงานบัญชีและการเงิน, นางสาวลินดา เอนกรัชดาพร ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์และนักลงทุนสัมพันธ์ และนางสาวฐิติรัตน์ พุทธิวงศาสุนทร  ผู้จัดการแผนกนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) นำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) โชว์ผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2567 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 845.8 ล้านบาท และงวด 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 2,484.9 ล้านบาท ขณะที่แนวโน้มในช่วง Q4/2567 รับปัจจัยบวกเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นพลังงานลมต่อเนื่องถึงยาวไตรมาส Q1/2568 พร้อมปักหมุดเข้าสู่โหมดการเติบโตรอบใหม่ เริ่มทยอย COD โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนต่างๆ ตั้งแต่ปี 2568 ต่อเนื่องยาวไปอีก 5 ปี ทั้งในประเทศและต่างประเทศกว่า 400 MW ดันพอร์ตโตเกิน 2 เท่าตัว ตามแผนกำลังการผลิตแตะ 1 GW ภายในปี 2575  ซึ่งงานดังกล่าวจัดขึ้น ณ ห้องประชุม บริษัทฯ เมื่อเร็วๆ นี้

SSP บริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำแห่งเอเซีย

SSP บริษัทพลังงานหมุนเวียนชั้นนำแห่งเอเซีย

[Gossip] SSP ติดปีก! รุกขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ

[Gossip] SSP ติดปีก! รุกขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าในต่างประเทศ

                หุ้นวิชั่น - ในช่วงนี้…แม้หุ้นกลุ่มโรงไฟฟ้าจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยการระงับเปิดรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนเฟส 2 ชั่วคราว... แต่ไม่ใช่สำหรับ บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) แน่ๆ เพราะมีหมัดเด็ดจากแผนลุยขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในต่างประเทศ ทั้งโซลาร์ฟาร์มไต้หวัน ขนาด 17 MW และล่าสุดโรงไฟฟ้าพลังงานลม “บาโก” ประเทศฟิลิปปินส์ ขนาด 150 MW หนุนผลงานโตสวนกระแส ขณะที่บิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" มั่นใจกลยุทธ์ขยายพอร์ตโรงไฟฟ้าต่างประเทศ จะเริ่มทยอย COD โครงการต่างๆ ตั้งแต่ปี 68 ต่อเนื่องยาวไปอีก 5 ปี สนับสนุนพอร์ตโรงไฟฟ้าโต 2 เท่า จาก 283 MW สู่ 600 MW เรียกว่ามีเรื่องดีๆเตรียมเสิร์ฟอีกเพียบ! ชัดเจนขนาดนี้ ใครยังไม่มีหุ้นติดพอร์ตไว้ เสียดายแทนเลยคร้าบ!!

SSP งบ Q3 กวาดรายได้ 845.8 ลบ. บอร์ดฯ เคาะงบ 8,000 ลบ. ลุยลงทุนวินฟาร์ม “บาโก” ฟิลิปปินส์ 150 MW

SSP งบ Q3 กวาดรายได้ 845.8 ลบ. บอร์ดฯ เคาะงบ 8,000 ลบ. ลุยลงทุนวินฟาร์ม “บาโก” ฟิลิปปินส์ 150 MW

          บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) เปิดผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 845.8 ล้านบาท และมีรายได้จากการขายไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 7.5% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ฟากบิ๊กบอส “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์” ระบุ จับตาไตรมาสสุดท้ายโรงไฟฟ้าพลังงานลมวินชัยเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่น หนุนผลงานต่อเนื่องถึงไตรมาส 1 ปีหน้า ด้านบอร์ดบริษัทฯ มีมติอนุมัติลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานลม “บาโก” ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 150 MW อัพฐานกำลังการผลิตไฟฟ้าเติบโตเท่าตัว           นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (SSP) เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ในไตรมาส 3/2567 (สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 845.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.4% เทียบงวดเดียวกันปีก่อน และงวดสะสม 9 เดือนของปี 2567 มีรายได้จากการขายไฟฟ้าและบริการ 2,484.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% เทียบงวดเดียวกันของปีก่อน           ปัจจัยที่สนับสนุนให้รายได้บริษัทฯ เพิ่มขึ้น มาจากการรับรู้รายได้โรงไฟฟ้าพลังงานลม “วินชัย” ขนาด 45 เมกะวัตต์เต็มไตรมาส และเชื่อว่าจะช่วยหนุนรายได้ต่อหลังผ่านจุดต่ำสุดช่วงโลว์ซีซั่นในไตรมาส 3/2567 โดยต้นไตรมาส 4/2567 เริ่มมีสัญญาณที่ดีจากกระแสลมที่เพิ่มขึ้น หลังเข้าสู่ช่วงช่วงไฮซีซั่น ซึ่งจะต่อเนื่องไปถึงไตรมาส 1/2568 โดยคาดว่ารายได้จากวินชัยจะสามารถชดเชยรายได้ที่ลดลงของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN ที่ Adder จะหมดอายุในต้นปีหน้า และจากการปรับปรุงประสิทธิภาพโรงไฟฟ้า (Repowering) SPN ที่จะสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตได้ 15 – 20% ภายหลังเสร็จสมบูรณ์           นอกจากนั้น คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติเข้าลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “บาโก” ประเทศฟิลิปปินส์ ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 150 เมกะวัตต์ ด้วยงบลงทุนกว่า 8 พันล้านบาท โดยมีเป้าหมายเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ปลายปี 69 ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของบริษัทฯ เติบโตจาก 283 เมกะวัตต์ ไปสู่ 475 เมกะวัตต์ เมื่อรวมกับ 4 โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ได้แก่ ลีโอ 2 ขนาด 16.4 เมกกะวัตต์ โซล่าร์ฟาร์มไต้หวัน ขนาด 17.0 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน 2 โครงการรวมกัน  ขนาด 8.9 เมกะวัตต์ ซึ่งโครงการทั้งหมดมีความคืบหน้าตามแผน ด้านแผน PDP ของประเทศไทย ที่ (กกพ.) เดินหน้าประมูลโครงการพลังงานทดแทน เฟส 2 บริษัทฯ ก็ไม่ปิดโอกาสที่จะเข้าร่วมประมูลในครั้งนี้เช่นเดียวกัน           “ปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ดำเนินการตามแผนขยายการลงทุนโดยแสวงหาโอกาสการลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง เราเน้นการลงทุนในโรงไฟฟ้าทุกรูปแบบ เพื่อสร้างสมดุลของกระแสเงินสด และขยายการเติบโต ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมด้านเงินลงทุน บริหารความเสี่ยงทั้งในส่วนของดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน อยากเน้นย้ำให้นักลงทุนทราบว่า จุดแข็งของเราคือความเชี่ยวชาญในการสร้างและบริหารโรงไฟฟ้า อยากให้ติดตามการเติบโตของบริษัทฯ ต่อจากนี้ในอีก 5 ปีข้างหน้า ที่จะมุ่งสู่เป้าหมาย 600 เมกะวัตต์ต่อไป” นายวรุตม์ กล่าวในที่สุด [PR News]

SSP โบรกคาดกำไรปกติ Q3/67 เริ่มฟื้น Q4 ลุ้น New High คงคำแนะนำ “ซื้อ”

SSP โบรกคาดกำไรปกติ Q3/67 เริ่มฟื้น Q4 ลุ้น New High คงคำแนะนำ “ซื้อ”

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.หยวนต้า คาด SSP กำไรปกติ 3Q67 ที่ 138 ล้านบาท เติบโต 8% QoQ แต่ลดลง 38% YoY โดยคาดกำไรปกติสามารถฟื้นตัวได้ QoQ แม้โรงไฟฟ้า SPN (โครงการแสงอาทิตย์แบบ Adder ในไทย ขนาด 40MW) มีการหยุดดำเนินงานบางส่วน เพื่อเปลี่ยนแผงพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PV) เพราะได้แรงหนุนจากปัจจัยฤดูกาลของโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่น (เข้าสู่ช่วงฤดูร้อนทำให้ Capacity Factor สูงขึ้น) ขณะที่ YoY คาดกำไรปกติลดลง แม้มีการรวมงบของวินชัย (โครงการลมแบบ Adder ในไทยขนาด 45MW) หลังเพิ่มสัดส่วนการลงทุนเป็น 100% ในเดือน มี.ค. 2567 แต่ถูกกดดันจาก 1) Capacity Factor ของโครงการแสงอาทิตย์ SPN ที่ลดลง YoY และ 2) คาดค่าใช้จ่าย SG&A ที่ 86 ล้านบาท (ทรงตัว QoQ, +18% YoY) และคาดต้นทุนทางการเงินที่ 220 ล้านบาท (+3% QoQ, +29% YoY) จากการรวมงบวินชัย (เนื่องจากเป็นช่วง Low Season ของวินชัย ทำให้ค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมากกว่ารายได้) หากกำไรปกติ 3Q67 ออกมาใกล้เคียงคาด กำไรปกติ 9M67 จะคิดเป็นสัดส่วน 62% ของกำไรทั้งปี ลุ้นกลับมาทำ New High ใน 4Q67 หลังได้แรงหนุนจากโครงการลมในประเทศ           เบื้องต้นคาดกำไรปกติ 4Q67 ที่ระดับ 300-350 ล้านบาท กลับมาเติบโตทั้ง QoQ และ YoY รวมถึงทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาส แม้โครงการ SPN ที่เป็นแหล่งรายได้หลักยังอยู่ระหว่างการหยุดดำเนินงานบางส่วนเพื่อเปลี่ยน Solar PV เพราะได้แรงหนุนจาก 1) การเข้าสู่ช่วง High Season และการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในวินชัย 2) ปัจจัยฤดูกาลของโครงการลมในเวียดนาม และ 3) ต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงต่อเนื่องหลัง เฟดและ กนง. เริ่มเข้าสู่รอบของการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (เฟดมีการปรับลดไปแล้ว 50bps ในการประชุมเดือน ก.ย. และ กนง. มีการปรับลดไปแล้ว 25bps ในการประชุมเดือน ต.ค.) โดยบริษัทฯ มีแผนในการกู้ยืม Green Loan จาก Development Bank (อัตราดอกเบี้ยต่ำกว่าเงินกู้ปกติ) เพื่อนำมา Refinance หนี้สินที่มีอยู่ในปัจจุบัน หากมองไปปี 2568 คาดกำไรปกติที่ 971 ล้านบาท เติบโต 15% YoY จากการรับรู้รายได้จากวินชัยแบบเต็มปี (ในปี 2567 รับรู้รายได้เพียง 10 เดือน และส่วนแบ่งกำไรอีก 2 เดือน) และต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลง YoY ราคาหุ้นอยู่ในโซนถูก...คงคำแนะนำ “ซื้อ”           เราปรับไปใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ที่ 9.00 บาท/หุ้น มี Upside 57.9% โดยราคาปัจจุบันซื้อขายบน PER2568 ที่เพียง 8.1 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่ซื้อขายอยู่บนระดับ 12.0-20.0 เท่ามาก ขณะที่คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดของรอบไปแล้ว นอกจากนี้ในระยะสั้น-กลางหุ้นยังมีปัจจัยหนุนจาก 1) การเข้าลงทุนในโครงการลมในประเทศฟิลิปปินส์ขนาด 150MW ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ โดยคาดมีความชัดเจนภายใน 4Q67 เป็นอย่างเร็ว (ยังไม่รวมไว้ในประมาณการ) และ 2) การเข้าร่วมการเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนส่วนขยายจำนวน 2.2GW (คาดมีความชัดเจนภายใน 4Q67) คงคำแนะนำ “ซื้อ”

[Gossip] SSP สุดปลื้ม! คว้า CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ”

[Gossip] SSP สุดปลื้ม! คว้า CGR ระดับ 5 ดาว “ดีเลิศ”

          ขอปรบมือดังๆ ให้กับ บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือ SSP ภายใต้การบริหารของ CEO คนเก่ง  “วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" ที่ได้รับคะแนนประเมินการกำกับดูแลกิจการ (CG Rating) ระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ประจำปี 2567 จากสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สะท้อนถึงการกำกับดูแลกิจการของบริษัทฯ ที่โปร่งใสยึดมั่นตามหลักธรรมาภิบาลต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม (ESG) สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย และด้วยผลการดำเนินงานที่เติบโตอย่างมั่นคง มุ่งเน้นการลงทุนในพลังงานสีเขียวทุกรูปแบบ ตอกย้ำความพร้อมด้านความยั่งยืนเพื่อก้าวสู่การประเมินเรทติ้งระดับโลก

[Vision Exclusive] SSP อัพเป้าผลิตไฟฟ้าใหม่ 1GW

[Vision Exclusive] SSP อัพเป้าผลิตไฟฟ้าใหม่ 1GW

          หุ้นวิชั่น -  บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านพลังงานหมุนเวียนในหลายประเทศในภูมิภาคเอเชีย โดยเน้นการลงทุนและพัฒนาโครงการพลังงานหมุนเวียน และดำเนินงานโครงการพลังงานหมุนเวียนทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ เช่น ประเทศญี่ปุ่น เวียดนาม มองโกเลีย อินโดนีเซีย และไต้หวัน บริษัทมีความมุ่งมั่นที่จะเพิ่มความสามารถการผลิตพลังงานที่ยั่งยืนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างอนาคตที่มั่นคงด้านพลังงานให้กับภูมิภาคนี้​           โดย SSP ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2558 และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 16 มิถุนายน 2558 และย้ายหลักทรัพย์เข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทสไทย (SET) ในเวลาต่อมา           ปัจจุบัน SSP อยู่ระหว่างพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “LEO 2” ขนาด 22 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการใน Q4/68 ส่วนในประเทศไทย กำลังพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จำนวน 2 โครงการด้วยกำลังการผลิตรวม 19.8 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการในช่วงปลายปี 2569 รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อีก 3 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 134.5 เมกะวัตต์ และมีกำหนดจะเริ่มเปิดดำเนินการในระหว่างปี 2570 - 2571           นอกจากนี้ บริษัท ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอีก 2 โครงการในไต้หวัน กำลังการผลิตตั้งรวม 56.5 เมกะวัตต์ โดยโครงการเหล่านี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 และ 2571 ตามลำดับ           SSP เตรียมยกระดับการลงทุนในธุรกิจพลังงานอย่างต่อเนื่อง โดย คุณวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจพลังงานมีทิศทางที่ดีมาก เนื่องจากความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในต่างประเทศ อย่างโซนเอเชียและเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นตลาดเป้าหมายของบริษัท           และ SSP ได้ปรับเป้าการลงทุนจากเดิมที่ตั้งไว้ 600 MW เป็น 1,000 MW หรือ 1 Gw ภายในปี 2575 โดยแบ่งการลงทุนในโครงการทั้งในประเทศและต่างประเทศ ปัจจุบันบริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าที่ได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้วทั้งหมด 287 MW ซึ่งการลงทุนเพิ่มเติมนี้จะช่วยให้กำลังการผลิตไฟฟ้าของ SSP เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 5 เท่าตัว จากปัจจุบัน           การขยายธุรกิจนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SSP ในการเป็นผู้นำด้านพลังงานทดแทน และพร้อมที่จะเดินหน้าสนับสนุนความต้องการพลังงานสะอาดเพื่อความยั่งยืนในระยะยาว           ขณะที่ล่าสุด  บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรระดับ "BBB+" ด้วยอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตั้งแต่ปี 2565 - 2567 สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ลงทุนมีความมั่นคงและสามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว รายงานโดย มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

[PR News] SSP ทุนแกร่ง! ทริสฯ คงอันดับเครดิต

[PR News] SSP ทุนแกร่ง! ทริสฯ คงอันดับเครดิต "BBB+"

          SSP แกร่ง! ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร "BBB+" แนวโน้ม "Stable" สะท้อนฐานะการเงินเข้มแข็ง - เติบโตระยะยาว  ลุยขยายโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบ เริ่ม COD โครงการใหม่ปีหน้า           บมจ.เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น (SSP) สุดแกร่ง! ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร "BBB+" แนวโน้ม "Stable" หรือ "คงที่" ตั้งแต่ปี 2565 - 2567 โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว และผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่มีความมั่นคง ฟากซีอีโอ "วรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์" ระบุ  พร้อมทุ่มงบลงทุนกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท รุกขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทุกรูปแบบทั้งในและต่างประเทศ  ประเดิม COD โครงการใหม่ปีหน้า           นายวรุตม์ ธรรมาวรานุคุปต์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เปิดเผยว่า บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด คงอันดับเครดิตองค์กรระดับ "BBB+" ด้วยอันดับเครดิต “Stable” หรือ “คงที่” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ตั้งแต่ปี 2565 - 2567 สะท้อนถึงผลการดำเนินงานของโรงไฟฟ้าที่บริษัทฯ ลงทุนมีความมั่นคงและสามารถสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งจากสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว           ขณะที่ บริษัทฯ มีเป้าหมายการเติบโตสูง จากการกำหนดกลยุทธ์การเติบโตในช่วง 5 ปีข้างหน้า ด้วยแผนเพิ่มกำลังการผลิตสุทธิให้สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญประมาณ 600 เมกะวัตต์ ภายในสิ้นปี 2571 ล่าสุดอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการในหลายๆ ประเทศ โดยเป็นโรงไฟฟ้าจากพลังงานหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรวมถึงพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานขยะ           สำหรับในประเทศญี่ปุ่น บริษัทฯ กำลังพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ “LEO 2” ขนาด 22 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มเปิดดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2568 ส่วนในประเทศไทย กำลังพัฒนาโรงไฟฟ้าขยะชุมชน จำนวน 2 โครงการ ด้วยกำลังการผลิตรวม 19.8 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะเปิดดำเนินการในช่วงปลายปี 2569 รวมถึงโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ อีก 3 โครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิตรวม 134.5 เมกะวัตต์ และมีกำหนดจะเริ่มเปิดดำเนินการในระหว่างปี 2570 - 2571 นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีโครงการโรงไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนอีก 2 โครงการในไต้หวัน กำลังการผลิตตั้งรวม 56.5 เมกะวัตต์ โดยโครงการเหล่านี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 และ 2571 ตามลำดับ           ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า บริษัทฯ มีสภาพคล่องที่เพียงพอ โดยโรงไฟฟ้าส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากสัญญาเงินกู้โครงการระยะยาวเป็นหลัก ณ เดือนมิถุนายน 2567 มีหนี้สินทั้งระยะสั้นและระยะยาวที่จะครบกำหนดชำระคืนภายใน 12 เดือนข้างหน้าจำนวนรวมทั้งสิ้น 3.5 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทฯ มีเงินสดจำนวน 3.8 พันล้านบาท นอกจากนี้ ทริสเรทติ้ง คาดว่าบริษัทฯ จะมีเงินทุนจากการดำเนินงานอยู่ที่ประมาณ 1.7 พันล้านบาทในช่วง 12 เดือนข้างหน้าด้วยเช่นกัน           นอกจากนี้  ในเดือนมีนาคม 2567 บริษัทฯ ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่มเติมใน บริษัท วินชัย จำกัด มูลค่า 2.1 พันล้านบาท ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นจาก 25% เป็น 100% ช่วยลดความกังวลและผลกระทบจากการที่ค่าไฟฟ้าส่วนเพิ่ม (Adder) ของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ SPN จะหมดอายุลงในเดือนมกราคม 2568 ด้วยรายได้ของโรงไฟฟ้าพลังงานลมขนาด 45 เมกกะวัตต์ ของวินชัยที่คาดว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับบริษัทฯ ราว 700 – 800 ล้านบาทต่อปี           "การที่ทริสฯ จัดอันดับองค์กรให้อยู่ระดับ BBB+ นั้น ถือเป็นการตอกย้ำความเข้มแข็งในด้านฐานะการเงินของบริษัทฯ ซึ่งมีความพร้อมในการรองรับแผนการขยายพอร์ตโรงไฟฟ้า Renewable ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมไปถึงการใช้กลยุทธ์ในการเข้าซื้อกิจการ ซึ่งจะเป็นส่วนช่วยสนับสนุนทำให้พอร์ตเติบโต โดยปัจจุบัน SSP มีกำลังการผลิตอยู่รวมที่ 282 เมกะวัตต์ ตั้งเป้าเติบโตกว่า 600 เมกะวัตต์ในปี 2571" นายวรุตม์ กล่าวในที่สุด  

SSP เร่งเครื่อง! อัพกำลังผลิตเท่าตัวใน 5 ปี ส่งสัญญาณยอดขายไฟพุ่ง

SSP เร่งเครื่อง! อัพกำลังผลิตเท่าตัวใน 5 ปี ส่งสัญญาณยอดขายไฟพุ่ง

          หุ้นวิชั่น - บริษัท เสริมสร้าง พาวเวอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SSP เป็นผู้ประกอบการในธุรกิจพลังงานหมุนเวียนที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในกลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ SSP มีเป้าหมายในการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าเพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก ภายในระยะเวลา 5 ปี บริษัทมีแผนที่จะเพิ่มกำลังการผลิตผ่านโครงการใหม่ ๆ รวมถึงการเข้าซื้อกิจการที่มีศักยภาพ โดยเน้นพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแนวทางหลักในการขับเคลื่อนธุรกิจของ SSP ให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต           ทีมข่าวหุ้นวิชั่นจะพาไปเจาะลึก แนวโน้มการเติบโตของ SSP ผ่านบทวิเคราะห์จากสองโบรกเกอร์ชั้นนำ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) และ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โดยมุ่งเน้นประเด็นสำคัญที่มีผลต่อการขยายตัวในอนาคต ทั้งด้านกำลังการผลิตไฟฟ้าและแผนพัฒนาธุรกิจระยะยาว พร้อมการประเมินทิศทางการเติบโตที่น่าสนใจ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของ SSP ดังนี้           บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า แนะนำ “ซื้อ” และราคาเป้าหมาย 7.50 บาท อิง DCF (WACC 5.7%, TG 0%) โดยประเมินจากการพัฒนาธุรกิจยังมีพัฒนาการที่ดีตามแผน โดย เริ่มต้นจากโครงการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนในช่วง 19-23 สิงหาคม 2567 จำนวน 90 ล้านหุ้น มูลค่ารวมราว 716 ล้านบาท บริษัทไม่ได้ต้องการขายคืนเพียงแจ้งตามกระบวนการของตลาดฯ โดยหลังจากโครงการเสร็จสิ้นจะนำหุ้นทั้งหมดไปลดทุน           การปรับปรุงโครงการ SPN 40MW จะเริ่มทยอยทำในช่วง ครึ่งปีหลัง 2567 ถึง ครึ่งปีแรกปี 2568 และจะช่วยให้กลับมาผลิตกระแสไฟฟ้าได้มากขึ้นจากปัจจุบันราว 20-30% และ SSP ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาเดินหน้าตามแผน โดยโครงการใหญ่ Philippines Solar 150MW คาดได้ข้อสรุปในปี 2567           ฝ่ายวิเคราะห์ประเมินผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลัง 2567 ดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน ปัจจัยหลักจากโครงการ Windchai 45MW สามารถรับรู้รายได้เต็ม รวมถึงเข้า high season เบื้องต้นฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2567 ที่ 870 ล้านบาท (ทรงตัว YoY)           ขณะที่แนวโน้มครึ่งปีหลัง 2567 เติบโตได้ดี โดยมีปัจจัยหนุนคือการเข้า high season โรงไฟฟ้าพลังงานลมการรับรู้รายได้โครงการ Windchai เต็มครึ่งปีหลัง โครงการ UTP มีการซ่อมบำรุงน้อยลงหลังเลื่อนบางส่วนขึ้นมาทำในช่วงครึ่งปีแรก 2567 ไปแล้ว           ฝ่ายวิเคราะห์มองราคาหุ้น underperform SET ราว -16% ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมา คาดมาจากปัจจัยกดดันผลประกอบการในปี 2567-2568 ทำให้การเติบโตเป็นเรื่องท้าทาย อย่างไรก็ตามประเมินราคา priced in ไปมาก โดยหุ้นเริ่มกลับมาเทรดใกล้เคียงตลาดในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาก นอกจากนี้ปัจจุบันยังเทรด PER เพียง 10x อยู่ในระดับ -2SD เป็นกรอบต่ำสุดในรอบ 7 ปี ในขณะที่ Key catalyst ระยะสั้นคือโอกาสการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ FED ที่ใกล้เข้ามา และการประมูลโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนรอบสองในไทย 3.7GW ในช่วงปลายปี 2567 ส่วนระยะยาวยังสามารถเติบโตได้โดยเฉพาะในปี 2570 ซึ่งโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน 170MW จะเริ่มทยอย COD           ด้าน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ออกบทวิเคราะห์ ระบุว่า และมีประเด็นสำคัญในการเติบโต ดังนี้ การเปลี่ยนแผนพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar PV) ของโครงการแสงอาทิตย์ SPN ขนาด 40MW บริษัทจะใช้เงินลงทุนราว 410 ล้านบาท และเริ่มเปลี่ยนแผงตั้งแต่ช่วงไตรมาส 3/2567 และเสร็จสิ้นในไตมาส 2/2568 โดยบริษัทประเมินว่ากระบวนการดังกล่าวจะส่งผลให้ปริมาณการผลิตไฟฟ้า (Output) ของโครงการ SPN เพิ่มขึ้นราว 10-20%           และ SSP ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเจรจากับสถานบันการเงินเพื่อเตรียม Refinance เงินกู้ของโครงการลมร่มเกล้าวินด์ฟาร์ม (ภายใต้วินชัย, ขนาด 45MW) โดยคาดกระบวนการดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในช่วงไตรมาส 4/2567           นอกจากนี้โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม Pintung ในไต้หวันขนาด 38MW โดยคาดสามารถ COD ได้ในช่วง ไตรมาส 4/2571 และสามารถขายไฟฟ้าให้กับภาคเอกชนในไต้หวันภายใต้สัญญา Corporate PPA (CPPA) ได้ในอัตรา 4.5-4.9 ดอลลาร์ไต้หวัน/หน่วย (ราว 4.80 – 5.30 บาท/หน่วย) โดยคาดสร้าง EBITDA ให้กับ SSP ได้ราว 7.0 ล้านบาท/ปี/MW           สำหรับโครงการลมในฟิลิปปินส์ขนาด 150MW ที่ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ (Feasibility Study) คาดมีความชัดเจนภายในช่วง 1-2 เดือนข้างหน้า SSP วางแผนเพิ่มกeลังผลิตเป็นมากกว่า 600MW ภายในช่วง 5 ปีข้างหน้า โดยได้แรงหนุนจากการ COD โครงการใหม่ในไทย (โครงการที่ได้รับคัดเลือกในรอบ 5.2GW) และในต่างประเทศ (เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน และฟิลิปปินส์)           ปัจจุบัน SSP มีโครงการโรงไฟฟ้าที่ขึ้นทะเบียนกับ อบก. เพื่อรับรอง Carbon Credit แล้ว 3 โครงการและมีโครงการที่อยู่ระหว่างการขึ้นทะเบียนอีก 1 โครงการ           ฝ่ายวิเคราะห์คาดกำไรปกติของ SSP ได้ผ่านจุดต่ำสุดของรอบไปแล้วในไตรมาส 2/2567 โดยคาดกำไรปกติไตรมาส 3/2567 จะสามารถฟื้นตัวกลับมาที่ระดับ 150-180 ล้านบาท จากปัจจัยฤดูกาลของโครงการแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นและค่าเงินเยนที่เริ่มกลับมาแข็งค่า แต่ยังคงลดลงจาก Capacity Factor (CF) ของโครงการ SPN ที่ลดลงจากการเริ่มเปลี่ยนแผง Solar PV           ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์มองไปช่วงไตรมาส 4/2567 คาดกำไรปกติมีโอกาสทำระดับสูงสุดใหม่รายไตรมาสได้จากปัจจัยฤดูกาลของโครงการลมในไทยและเวียดนาม รวมถึงการรวมงบวินชัยแบบเต็มไตรมาส คงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2567 ที่ 8.90 บาท/หุ้น ราคาหุ้นซื้อขายบน PER2567 เพียง 10.3 เท่า ต่ำกว่ากลุ่มโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนมาก คงคำ แนะนำ “ซื้อ” รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456