SEI ติดสปีดขายสินค้า ICU เครื่องมือแพทย์ฮอต! l Hoon Vision Talk Online
https://youtu.be/890g3fNVcFM?si=KbwpcwbkJhcmNb9J #หุ้นวิชั่น #HoonVision #หุ้นไทย #SEI
เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์...
คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้
คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้
คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม
คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ
คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม
คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา
https://youtu.be/890g3fNVcFM?si=KbwpcwbkJhcmNb9J #หุ้นวิชั่น #HoonVision #หุ้นไทย #SEI
หุ้นวิชั่น – บอสใหญ่ SEI “กานต์ ปุญญเจริญสิน” กางแผนปี 68 ลุยเพิ่มไลน์ธุรกิจเครื่องมือแพทย์กลุ่ม ICU รับดีมานด์ฟื้นตัวหลังโควิด หนุนด้วยสังคมผู้สูงอายุ ตั้งเป้ารายได้โตไม่ต่ำกว่า 20% พร้อมเดินหน้าเฟ้นพันธมิตรใหม่ทั่วโลก ตั้งเป้าแตะ 25 ราย จากปัจจุบัน 17 ราย นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า แผนดำเนินธุรกิจปี 2568 บริษัทเตรียมขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์จากเดิม 5 กลุ่ม เป็น 6 กลุ่ม โดยจะเพิ่มผลิตภัณฑ์ในกลุ่มเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับห้องไอซียู (ICU: Intensive Care Unit) อาทิ เครื่องช่วยหายใจ ซึ่งบริษัทมองว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเข้าสู่ตลาด เนื่องจากอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่จำเป็นในโรงพยาบาลทุกแห่ง ปัจจุบัน SEI มีผลิตภัณฑ์แบ่งออกเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มดูแลทารกแรกเกิด (Neonatal Care) เครื่องมือที่ใช้ดูแลทารกแรกเกิดทั้งปกติและกลุ่มเสี่ยง กลุ่มกล้องส่องตรวจ (Endoscope) สำหรับการตรวจทางเดินอาหาร ทางเดินหายใจ และโสตศอนาสิก กลุ่มการผ่าตัด (Surgery) เครื่องมือที่ใช้ในห้องผ่าตัด กลุ่มเครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Laboratory) สำหรับการวิเคราะห์ เก็บตัวอย่าง วิจัย และกลุ่มความงาม (Aesthetic) เครื่องมือแพทย์ที่ใช้ในการเสริมความงาม สำหรับกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้ จะเน้นอุปกรณ์ที่ใช้ในห้อง ICU ซึ่งแม้ช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา อุปกรณ์เหล่านี้จะมีความต้องการสูง แต่หลังจากนั้นมีการชะลอตัวจนหลายบริษัทหยุดดำเนินกิจการ อย่างไรก็ตาม บริษัทมองว่าขณะนี้เป็นจังหวะที่ดี เนื่องจากตลาดเริ่มฟื้นตัว และยังคงมีความต้องการใช้อย่างต่อเนื่อง SEI มองอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์แม้ไม่ใช่ธุรกิจที่เติบโตหวือหวา แต่เป็นอุตสาหกรรมที่มีความจำเป็นและมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยที่ระดับเลขหลักเดียว หรือประมาณ 6-7% ต่อปี แม้ภาวะเศรษฐกิจจะชะลอตัว แต่บริษัท ยังคงสามารถเติบโตได้ตามทิศทางของอุตสาหกรรม เนื่องจากอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับโรงพยาบาลทุกแห่ง ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงเศรษฐกิจดีหรือไม่ก็ตาม นอกจากนี้ ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ (Aging Society) อย่างเต็มรูปแบบ ส่งผลให้ความต้องการด้านการรักษาพยาบาลเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนให้ตลาดอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่องในระยะยาว นายกานต์ กล่าวต่อว่า บริษัทได้วางเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2567 ที่ 447.40 ล้านบาท จากการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์กลุ่มที่ 6 และบริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจเป็น 25 แบรนด์ครอบคลุมทั่วโลก จากปัจจุบันมีพันธมิตรอยู่ 17 แบรนด์ที่กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และจีน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น สำหรับผลการดำเนินงานในงวดปี 2567 ว่า ถือเป็นปีที่ดี และโดดเด่น เนื่องจากทั้งรายได้และกำไรสุทธิ สามารถเติบโตแบบ all time high โดยรายได้รวม 443.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12.81% มีกำไรสุทธิ 53.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144.26% จากงวดปี 2566 สินค้าที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ยังเป็นกลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) และกลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด (Neonatal Care) ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นมาก รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision
“เอสอีไอ เมดิคัล” ประกาศแผนธุรกิจปี 2568 ในงานพบผู้ลงทุน ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% เผยเทรนด์ Healthcare มีศักยภาพเติบโตสูงจากแนวโน้มที่ไทยและโลกเข้าสู่สังคมสูงวัย เดินหน้าให้บริการธุรกิจผลิตภัณฑ์และเครื่องมือแพทย์ครอบคลุม 6 กลุ่มธุรกิจ ล่าสุดเปิดตัวผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์สำหรับใช้ในห้องไอซียู เพิ่มศักยภาพด้านบริการหลังการขาย และการเช่าซื้อเครื่องมือแพทย์ รวมทั้งเพิ่มพันธมิตรธุรกิจเป็น 25 แบรนด์ครอบคลุมทั่วโลกจากปัจจุบัน 17 แบรนด์ หวังตอบโจทย์ลูกค้า ขณะที่ผลงานปี 2567 all time high รายได้รวม 444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.81% และมีกำไรสุทธิ 53.42 ล้านบาท เติบโตแรงกว่า 144% นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายและเช่าอุปกรณ์การแพทย์และวิทยาศาสตร์แบบครบวงจร (One stop service ) ได้นำเสนอข้อมูลในงานบริษัทจดทะเบียน พบผู้ลงทุน (Opportunity Day) ว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทได้วางเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% จากปี 2567 โดยได้รับปัจจัยบวกธุรกิจ Healthcare มีศักยภาพเติบโตสูงจากแนวโน้มที่ประเทศไทยและโลกเข้าสู่สังคมสูงวัย แม้ว่าสถานการณ์เศรษฐกิจจะมีความผันผวน โดยในปีนี้บริษัทได้ขยายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ ให้ครบวงจรในทุกมิติ เพื่อเพิ่มการให้บริการในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกช่วงเวลาของชีวิต และในปีนี้บริษัทได้ตั้งเป้าหมายเพิ่มกลุ่มผลิตภัณฑ์ จาก 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เป็น 6 กลุ่มผลิตภัณฑ์ และเพิ่มกลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง เพื่อสร้างรายได้ให้เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ไตรมาแรกปีนี้บริษัทได้ขยายขอบข่ายผลิตภัณฑ์เพิ่มในกลุ่มให้บริการผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับห้องไอซียู (ICU: Intensive Care Unit) ทั้งนี้มูลค่าตลาดอุปกรณ์การแพทย์ในแผนก ICU ของประเทศไทยเติบโตต่อเนื่อง โดยในปีนี้คาดว่าจะมีมูลค่าตลาดประมาณ 5,000 - 6,000 ล้านบาท ครอบคลุมอุปกรณ์ ICU หลากหลายประเภท เช่น เครื่องช่วยหายใจ, เครื่องมอนิเตอร์การเต้นของหัวใจ, เครื่องวัดสัญญาณชีพ,เครื่องฟอกไต, เครื่องช่วยหายใจแบบพกพา, และอุปกรณ์การแพทย์ขั้นสูงอื่นๆ ที่ใช้ในการดูแลผู้ป่วยวิกฤต ตลาดเครื่องช่วยหายใจ (Ventilator) ด้านส่วนแบ่งการตลาด หรือ market share ในประเทศไทยปีนี้ มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะตลาดเครื่องช่วยหายใจ คาดว่ามีมูลค่ารวมประมาณ 1,500-2,000 ล้านบาท เป็นผลมาจากการขยายตัวของการดูแลผู้ป่วยวิกฤต จากการระบาดของโรคติดเชื้อที่มีผลต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น COVID-19 ,การพัฒนาเทคโนโลยี เครื่องช่วยหายใจให้มีคุณสมบัติเหมาะสมกับการดูแลผู้ป่วยที่ต้องการการช่วยหายใจใน ICU ได้รับความนิยมมากขึ้น , การเพิ่มขึ้นของผู้สูงอายุและมีความเสี่ยงต่อโรคที่เกี่ยวกับระบบหายใจมาก และการพัฒนาขยายการเข้าถึงบริการทางการแพทย์ จากการเพิ่มจำนวนโรงพยาบาลและคลินิก นายกานต์ยังกล่าวด้วยว่า ปีนี้บริษัทตั้งเป้าหมายที่จะเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจเป็น 25 แบรนด์ครอบคลุมทั่วโลก จากปัจจุบันมีพันธมิตรอยู่ 17 แบรนด์ที่กระจายอยู่ในประเทศต่างๆ ทั้งสหรัฐอเมริกา ยุโรป เอเชีย และจีน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะขยายและต่อยอดธุรกิจการให้บริการเพิ่มขึ้น ทั้งในเรื่องการให้บริการซ่อม บำรุงรักษา ดูแลอุปกรณ์ทางการแพทย์ และอบรมบุคลากรทางการแพทย์ในการใช้เครื่องมือใหม่ โดยในส่วนนี้บริษัทคาดหวังอัตราการเติบโตไม่ต่ำกว่า 30% นายกานต์ยังกล่าวอีกว่า แนวโน้มธุรกิจให้เช่าซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ก็เป็นอีกเทรนด์ที่กำลังมาแรง ซึ่งบริษัทได้ตั้งเป้าหมายที่จะให้บริการด้านนี้เพิ่มขึ้น ตามความต้องการของลูกค้า โดยบริษัทจะดำเนินการให้เช่าซื้อทั้งรูปแบบ ระยะสั้น กลาง และระยะยาว ส่วนผลการดำเนินงานในงวดปี 2567 ว่า ถือเป็นปีที่ดี และโดดเด่น เนื่องจากทั้งรายได้และกำไรสุทธิ สามารถเติบโตแบบ all time high โดยรายได้รวม 443.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน 12.81% มีกำไรสุทธิ 53.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 144.26% จากงวดปี 2566 สินค้าที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ยังเป็นกลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) และกลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด (Neonatal Care) ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นมาก [PR News]
“เอสอีไอ เมดิคัล” ผู้นำด้านการจัดจำหน่าย และเช่าอุปกรณ์การแพทย์และวิทยาศาสตร์ เปิดผลงานปี 2567 กวาดรายได้ 444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.81% ผลจากรายได้ด้านกลุ่มสินค้ากล้องส่องตรวจและสินค้าผู้ป่วยทารกแรกเกิดเติบโตต่อเนื่อง ส่งผลกำไรสุทธิ 53.42 ล้านบาท เติบโตแรงกว่า 144% ตั้งเป้าปีนี้บุกธุรกิจกลุ่มสินค้าใช้แล้วทิ้งเพิ่มขึ้น ชี้แนวโน้มเติบโตสูง นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI หนึ่งในผู้นำด้านการจัดจำหน่าย และเช่าอุปกรณ์การแพทย์และวิทยาศาสตร์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์แบบครบวงจร (One stop service ) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในงวดปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 443.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า 50.41 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 12.81% มีกำไรสุทธิ 53.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.55 ล้านบาท หรือ 144.26% จากงวดปี 2566 โดยมีรายได้จากการขายสินค้าซึ่งประกอบไปด้วย กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด (Neonatal Care) กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด (Surgery) กลุ่มสินค้าด้านความงาน (Aesthetic) กลุ่มสินค้าด้านอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ (Laboratory) จำนวน 411.48 เพิ่มขึ้น 51.95 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 14.45% ล้านบาทจากงวดปี 2566 เนื่องจากในปี 2567 บริษัทมียอดขายจากสินค้าในกลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์เพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลมาจากความต้องการเครื่องมือทางการแพทย์จากทางโรงพยาบาลเพิ่มมากขึ้น ส่วนรายได้จากการให้บริการ ซึ่งมาจากการให้บริการซ่อมแซมบำรุงรักษาเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ และการให้เช่าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์รายครั้ง มีรายได้จำนวน 32.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.03 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 75.98% จากงวดปี 2566 เนื่องจาก มีการส่งมอบงานจากสัญญาซ่อมแซมบำรุงรักษา ที่สูงกว่าปีก่อนหน้า อีกทั้งบริษัทได้สัญญาระยะสั้นจากการเช่าเครื่องมือทางการแพทย์ที่สูงขึ้น และจากยอดขายที่สูงขึ้น ทำให้บริษัท มีรายได้จากการให้บริการ PM ตามสัญญาขายสูงขึ้นตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม สินค้าที่สร้างรายได้หลักให้กับบริษัท ยังเป็นกลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ (Endoscope) และกลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด (Neonatal Care) ที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยกลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ มีแนวโน้มการเติบโตแข็งแกร่งจากหลายปัจจัยหลาย ได้แก่ ความต้องการตรวจสุขภาพที่เพิ่มขึ้น การตรวจสุขภาพและการแพทย์เชิงป้องกันในกลุ่มผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อโรคระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ และการตรวจคัดกรองโรคมะเร็ง เช่น มะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะอาหาร ที่ต้องอาศัยกล้องส่องตรวจที่มีความแม่นยำสูง นอกจากนี้การแข่งขันของโรงพยาบาลเอกชนและการเติบโตของ Medical Tourism ส่งผลให้มีการลงทุนในอุปกรณ์ที่ทันสมัยเพื่อรองรับผู้ป่วยทั้งในและต่างประเทศ ส่วนกลุ่มสินค้าสำหรับทารกแรกเกิด มีแนวโน้มการดูแลทารกที่เข้มงวดขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มทารกคลอดก่อนกำหนดที่ต้องใช้อุปกรณ์ช่วยชีวิตและดูแลพิเศษ ตามมาตรฐานโรงพยาบาลที่สูงขึ้น ทั้งในภาครัฐและเอกชน รวมถึงนโยบายส่งเสริมสุขภาพแม่และเด็กของภาครัฐ ที่เป็นปัจจัยสนับสนุนให้ตลาดอุปกรณ์ดูแลทารกเติบโตอย่างต่อเนื่อง “ปีนี้ SEI มีแผนจะขยายสินค้าที่ใช้แล้วทิ้งเพิ่มขึ้น เพราะเป็นกลุ่มผลิตภัณฑ์มีแนวโน้มเติบโตได้ดี และเพื่อลดการพึ่งพางบประมาณจากกระทรวงสาธารณสุขในปี 2568 การเติบโตของ SEI สอดคล้องกับการเติบโตของภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ ในปี 2568 ยังคงเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 5-6% ต่อปี ขณะที่ SEI เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ มีผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับในวงการสาธารณสุข ที่สามารถแข่งขันในตลาดได้ทั้งด้านคุณภาพผลิตภัณฑ์และราคาที่สมเหตุสมผล” นายกานต์ กล่าว [PR News]
หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.หยวนต้า คาด SEI กำไร 4Q67 ที่ 12 ล้านบาท -39% QoQ, +3,715% YoY ซึ่งใน 4Q66 มีกำไรเพียง 0.30 ล้านบาท โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก การเติบโตของรายได้ในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ วัสดุสิ้นเปลือง เนื่องจากงบประมาณภาครัฐที่ได้รับอนุมัติมากขึ้น และการเติบโตของรายได้จากการให้บริการบำรุงรักษาตามฐานลูกค้าที่เพิ่ม รวมถึงมีการปรับเพิ่มราคาบริการค่าซ่อม ส่งผลให้รายได้รวมปรับเพิ่ม 28% YoY เป็น 112 ล้านบาท ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น YoY นอกจากผลของรายได้ที่เพิ่มยังมาจากกลยุทธ์ในการบริหารจัดการต้นทุน โดยลดต้นทุนการผลิตผ่านการปรับปรุงระบบจัดซื้อและการควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของโลจิสติกส์ และจากการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้น โดยอุปกรณ์ทางการแพทย์มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเครื่องมือทางการแพทย์ ส่งผลให้ EBITDA Margin ปรับเพิ่มจาก 4Q66 ที่ 2.3% เป็น 17.0% เทียบ QoQ ผลประกอบการชะลอตามปัจจัยฤดูกาล ภาพรวมปี 2567 คาดกำไรสุทธิที่ 51 ล้านบาท +134% YoY สูงกว่าประมาณการเดิมเรา 14% จากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีกว่าคาด แนวโน้มปี 2568 ยังเติบโตดีต่อเนื่อง แม้ปี 2567 แนวโน้มกำไรจะสูงกว่าประมาณการเดิมของเรา แต่ในปี 2025 เราคงประมาณการกำไรแบบอนุรักษ์นิยมที่ 60 ล้านบาท +17% YoY โดยเราประมาณการรายได้เติบโต 11% YoY เป็น 488 ล้านบาท โดยรับผลบวกจาก การเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ - วิทยาศาสตร์การแพทย์ และ Health & Wellness ซึ่งถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้การสนับสนุน คาดว่ารัฐบาลจะมีการจัดสรรงบในส่วนนี้มากขึ้น ปีนี้มีแผนเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่จากเดิมที่มี 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ (กลุ่มทารกแรกเกิด, กล้องส่องตรวจ, ผ่าตัด, อุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์, ผลิตภัณฑ์ความงาม) เพิ่มเป็น 7 ผลิตภัณฑ์ ส่วนของเดิมที่มีอยู่ก็จะขยายสายผลิตภัณฑ์ในทุกกลุ่ม ประสิทธิภาพในการทำกำไรมีแนวโน้มดีขึ้น จากผลของรายได้ที่เพิ่ม และการขยายฐานรายได้ในกลุ่มสินค้าสิ้นเปลืองที่มีอัตรากำไรที่สูง สำหรับดีลที่อยู่ระหว่างเจรจาในโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ รวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง มีโอกาสล่าช้าจากเดิมที่จะทราบความคืบหน้าภายในช่วงครึ่งปีแรกเป็นครึ่งปีหลัง เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจที่ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่ ทำให้บริษัทรอจังหวะในการลงทุนโครงการดังกล่าว อย่างไรก็ตามเรายังไม่ได้นับรวมโครงการใหม่ในประมาณการอยู่แล้ว แนะนำ “ซื้อ” ราคาหุ้นปรับลดลงมากเกิน เป็นจังหวะเข้าลงทุน ด้วยแนวโน้มผลประกอบการมีโอกาสทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องในปี 2568 ขณะที่ราคาหุ้นปรับลดลงตามตลาด สวนทางผลประกอบการที่เติบโตดี เรามองเป็นจังหวะเข้าลงทุน เราคงมูลค่าพื้นฐานปี 2568 ที่ 7.00 บาท อิงวิธี PER โดยใช้ค่ากลาง (Median) ของหุ้นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ที่ 20x
เอสอีไอ เมดิคัล เปิดแผนธุรกิจปี 2568 ตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15% รับอานิสงค์การเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ - วิทยาศาสตร์การแพทย์ และ Health and Wellness ชี้เป็นกลุ่มเมกะเทรนด์มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มสูง เดินหน้าเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิม ให้บริการเพิ่มเป็น 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ครอบคลุมทุกมิติช่วงเวลาของชีวิต นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI ผู้นำให้บริการนวัตกรรมเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์แบบครบวงจร (One Stop Service) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลประกอบการในปีนี้ บริษัทตั้งเป้าหมายรายได้จะเติบโต 15-20 % ซึ่งเป็นผลมาจากการที่บริษัทขยายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและนวัตกรรมทางการแพทย์ใหม่ๆ ให้ครบวงจรในทุกมิติ ขณะเดียวกันก็ได้รับอานิสงค์จากการเติบโตของธุรกิจเครื่องมือแพทย์และวิทยาศาสตร์การแพทย์ และ Health and Wellness ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์มีแนวโน้มเติบโตสูง โดยในปีนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายเพิ่มการให้บริการกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกมิติทุกช่วงเวลาของชีวิต จากเดิม 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ เพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 7 กลุ่มผลิตภัณฑ์ ขณะที่งานด้านบริการทั้งการซ่อมและการให้เช่าอุปกรณ์ ยังมีแนวโน้มเติบโตที่ดีตามการขยายเพิ่มของผลิตภัณฑ์ รวมทั้งกลุ่มสิ้นเปลืองทางการแพทย์ ประเภทใช้ครั้งเดียว ก็มีการปรับสูงขึ้นเช่นกัน นายกานต์กล่าวต่อว่า การเติบโตของ SEI ได้สอดคล้องกับการเติบโตของภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์ในปี 2568 ยังคงเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 5-6% ต่อปี สะท้อนถึงการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ขณะที่ SEI เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ มีผลิตภัณฑ์เป็นที่ยอมรับในวงการสาธารณสุขทั่วไป สามารถแข่งขันในตลาดได้ทั้งในเรื่องของคุณภาพผลิตภัณฑ์และราคาที่สมเหตุสมผล “ปีนี้ได้เพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ จากเดิมที่มี 5 กลุ่มผลิตภัณฑ์ มีกลุ่มทารกแรกเกิด,กล้องส่องตรวจ,ผ่าตัด,อุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์, ผลิตภัณฑ์ความงาม จะเพิ่มเป็น 7 ผลิตภัณฑ์ ส่วนของเดิมที่มีอยู่ก็จะขยายทั้งหมดทุกกลุ่ม แต่ผลิตภัณฑ์หลักยังเป็นส่วนของกลุ่มทารกแรกเกิด และกล้องส่องตรวจ” นายกานต์ กล่าว [PR News]
หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยถึงทิศทางธุรกิจของ บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI รายงานกeไรสุทธิใน 3Q67 ที่ 19 ล้านบาท +24% QoQ,+ 195%YoY ทุบสถิติสูงสุด ดีกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ 38% จากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีกว่าคาด โดยมี EBITDA Margin ที่ 21.8% สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ที่ 16.3% รายได้เติบโต 4% QoQ และ 27%YoY เป็น 129 ล้านบาท เนื่องจากการเติบโตของสินค้ากลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือแพทย์ รวมถึงรายได้จากบริการเช่าเครื่องมือแพทย์ที่มีสัญญาเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ซึ่งเป็นผลจากงบประมาณภาครัฐที่ได้รับอนุมัติตั้งแต่ช่วง 2Q67 ที่ผ่านมา รวมถึงการเติบโตของรายได้จากการให้บริการบำรุงรักษา และซ่อมเครื่องมือแพทย์เพิ่มขึ้นและมีราคาเฉลี่ยในการให้บริการต่อครั้งที่สูงขึ้น ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น ทั้ง QoQ และYoY นอกจากผลของรายได้ที่เพิ่มยังมาจากกลยุทธ์ในบริหารจัดการต้นทุน โดยลดต้นทุนการผลิตผ่านการปรับปรุงระบบจัดซื้อและการควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของโลจิสติกส์และจากการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้น โดยอุปกรณ์ทางการแพทย์มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเครื่องมือทางการแพทย์ส่งผลให้EBITDA Margin ปรับเพิ่มจาก 3Q66 และ 2Q67 ที่ 12.3% และ 18.4% เป็น 21.8% แนวโน้มใน 4Q67 คาดเติบโตต่อเนื่อง YoY จากการเติบโตของรายได้ของวัสดุสิ้นเปลืองและการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้น คาดกำไรปี 2567 ที่ 45 ล้านบาท เติบโตโดดเด่น 105% YoY โดยกำไรงวด 9 เดือนที่ 39 ล้านบาท คิดเป็น 87% ของประมาณการกำไรทั้งปี คาดกำไร 2ปี ข้างหน้า (ปี2568 -2569) เติบโตเฉลี่ย 25% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1) การเติบโตจาก Organic Growth รับผลบวกจากอุตสาหกรรมนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่เติบโตเฉลี่ย 8% 2)เติบโตจากการขยาย Product Line ใหม่เพิ่มขึ้น สินค้ากลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่เข้ามาสม่ำเสมอกว่างบประมาณภาครัฐ ซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงด้านรายได้มากขึ้น และการเพิ่มสัดส่วนรายได้ Leasing ซึ่งทำให้รายได้เข้ามาสม่ำเสมอมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีขึ้น จากผลของรายได้ที่เพิ่ม ขยายไปสู่สินค้าสิ้นเปลืองที่จะมีการสั่งซื้อใหม่ขึ้น ประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ค่อนข้าง Conservative ไม่รวม Upside จากโอกาสในการ ขยายธุรกิจใหม่ในอนาคต (ได้แก่โครงการร่วมลงทุนกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์รวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง คาดมีความคืบหน้าภายใน1H68) ซึ่งมองว่ามีUpside Risk ในการปรับเพิ่มประมาณการ ฝ่ายวิเคราะห์คงคำแนะนำ “ซื้อ” มองว่าธุรกิจของ SEI มีความน่าสนใจ ด้วยผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในช่วงปี 2567-2569 และด้วยผลประกอบการ 3Q67 ที่เติบโตเด่นกว่าคาด ฝ่ายวิเคราะห์มองว่ามี Upside Risk ต่อประมาณการกำไรในปี 2567 เดิมของฝ่ายวิเคราะห์ราว 10-12% และยังมีโครงการธุรกิจใหม่ที่ร่วมลงทุนกับพันธมิตรที่เรายังไม่ได้นับรวมในประมาณการ ซึ่งจะทบทวนประมาณการหลังกับประชุมกับบริษัทเร็วๆนี้ เบื้องต้นประเมินมูลค่าพื้นฐานปี2568 ที่ 7.00 บาท อิงวิธี PER โดยใช้ค่ากลาง (Median) ของหุ้นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ที่ลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 20x
หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI รายงานผลประกอบการ ในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการขายรวม 327.73 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 306.06 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21.68 ล้านบาท หรือเติบโต 7.08% ส่วนไตรมาส 3/2567 บริษัทมีรายได้ที่ 128.78 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 101.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.42 ล้านบาท หรือเติบโต 27.05% ส่วนกำไรในงวด 9 เดือนแรกปี 2567 อยู่ที่ 39.30 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 21.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.74 ล้านบาท หรือเติบโต 82.27% ส่วนไตรมาส 3/2567 มีกำไรสุทธิ 19.35 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 6.56 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.78 ล้านบาท หรือเติบโต 194.85%
หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด มองแนวโน้มกำไร บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI โดดเด่น คาดกำไรไตรมาส 3/67 เติบโต 114% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 14 ล้านบาท แต่ลดลง -10% จากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตของรายได้ในกลุ่มเครื่องมือแพทย์ วัสดุสิ้นเปลือง รายได้จากบริการเช่าเครื่องมือแพทย์ที่มีสัญญาเพิ่มขึ้นต่อเนื่องและการเติบโตของรายได้จากการให้บริการบำรุงรักษา ส่งผลให้รายได้รวมปรับเพิ่ม 24% เป็น 126 ล้านบาท ประสิทธิภาพในการทำกำไรดีขึ้น นอกจากผลของรายได้ที่เพิ่มยังมาจากกลยุทธ์ในบริหารจัดการต้นทุนโดยลดต้นทุนการผลิตผ่านการปรับปรุงระบบจัดซื้อและการควบคุมค่าใช้จ่ายในส่วนของโลจิสติกส์และจากการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้นโดยอุปกรณ์ทางการแพทย์มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่าเครื่องมือทางการแพทย์ส่งผลให้ EBITDA Margin ปรับเพิ่มจากไตรมาส 2/67 ที่ 12.3% เป็น 16.3% เทียบไตรมาสก่อนหน้าชะลอตัว แม้รายได้เพิ่มขึ้น แต่ผลจาก Product mix สัดส่วนรายได้จากอุปกรณ์ทางการแพทย์มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงลดลง ปรับเพิ่มประมาณการกำไรจากประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีกว่าที่คาดแนวโน้มในไตรมาส 4/67 คาดเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน จากการเติบโตของรายได้ของวัสดุสิ้นเปลือง และการขายสินค้าประเภทอุปกรณ์ทางการแพทย์ได้เพิ่มขึ้นด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่เติบโตดีกว่าคาด ฝ่ายวิเคราะห์ปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2567 เพิ่มขึ้น 21% เป็น 45 ล้านบาท (+105% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน) โดยปรับสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิมที่ 31.1% เป็น 32.7% และปรับลดค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารลง 3% และในปี 2568 ปรับประมาณการกำไรขึ้น 8% เป็น 60 ล้านบาท (34% จากช่วงเดียวกันกับปีก่อน) คาดกำไร 2 ปีข้างหน้าเติบโตเฉลี่ย25% ยังมี Upside Risk จากโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ คาดกำไร 2 ปีข้างหน้า (ปี 2568-2569) เติบโตเฉลี่ย 25% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการเติบโตจาก Organic Growth รับผลบวกจากอุตสาหกรรมนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่เติบโตเฉลี่ย 8% และการเติบโตจากการขยาย Product Line ใหม่เพิ่มขึ้น สินค้ากลุ่มวัสดุสิ้นเปลือง ซึ่งถือเป็นธุรกิจที่เข้ามาสม่ำเสมอกว่างบประมาณภาครัฐซึ่งช่วยกระจายความเสี่ยงด้านรายได้มากขึ้น รวมถึงเพิ่มสัดส่วนรายได้ Leasing ซึ่งทำให้รายได้เข้ามาสม่ำเสมอมากขึ้น ประสิทธิภาพในการทำกำไรที่ดีขึ้น จากผลของรายได้ที่เพิ่มขยายไปสู่สินค้าสิ้นเปลืองที่จะมีการสั่งซื้อใหม่ขึ้น ประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ค่อนข้าง Conservative ไม่รวม Upside จากโอกาสในการขยายธุรกิจใหม่ในอนาคต(ได้แก่โครงการร่วมลงทุนกับบริษัทที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์รวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทางคาดมีความคืบหน้าภายใน 1H68)ซึ่งมองว่ามี Upside Risk ในการปรับเพิ่มประมาณการแนะนำ “ซื้อ” ปรับมูลค่าเหมาะสมเป็น 7.00 บาท ฝ่ายว่ามองว่าธุรกิจของ SEI มีความน่าสนใจด้วยผลประกอบการที่มีแนวโน้มเติบโตดีต่อเนื่องในปี 2567-2569เรามีการปรับเพิ่มมูลค่าพื้นฐานจากเดิมที่ 5.50 บาท เป็น 7.00 บาท สะท้อนการปรับประมาณการก าไรและปรับไปใช้มูลค่าพื้นฐานสิ้นปี 2568 อิงวิธี PER โดยใช้ค่ากลาง (Median) ของหุ้นกลุ่มธุรกิจจำหน่ายเครื่องมือแพทย์ ที่ลักษณะธุรกิจใกล้เคียงกันที่ 20x
หุ้นวิชั่น - รู้หรือไม่! บริษัท เอสอีไอ เมดิคัล จำกัด (มหาชน) หรือ SEI เป็นบริษัทล่าสุดที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ที่น่าสนใจคือบริษัทนี้เป็นผู้นำด้านการจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ วัสดุสิ้นเปลืองทางการแพทย์ และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ซึ่งถือเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว สืบเนื่องจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นในการดูแลสุขภาพ โดยเฉพาะในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น นอกจากนี้ SEI ยังอยู่ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมีความมั่นคงและโอกาสเติบโตอย่างต่อเนื่อง การเข้าจดทะเบียนในตลาด mai ถือเป็นก้าวสำคัญที่ช่วยให้ SEI เข้าถึงแหล่งทุนใหม่ เพิ่มความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุน และสนับสนุนการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ อย่างมีนัยสำคัญ บริษัท หลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ข้อมูลในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2566) อุตสาหกรรมธุรกิจเครื่องมือแพทย์เติบโตเฉลี่ย CAGR 5% ณ สิ้นปี 2566 มูลค่าตลาดอยู่ที่ 2.1 แสนล้านบาท ขณะที่ตลาดนำเข้าเครื่องมือแพทย์ ซึ่งเกี่ยวกับธุรกิจของ SEI เติบโตเฉลี่ย CAGR 8% อยู่ที่ 90,859 ล้านบาท ทาง Yuanta Research ประเมินการเติบโตของตลาดนำเข้าเครื่องมือแพทย์ในช่วงปี 2567-2568 จะเติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 8% โดยมีปัจจัยหนุนดังนี้:การจัดสรรงบประมาณของประเทศเพื่อใช้งานในกระทรวงสาธารณสุขในปี 2567 ที่เพิ่มขึ้น 13,462 ล้านบาท หรือเพิ่ม 8.8% การเติบโตของโรงพยาบาลหรือศูนย์การแพทย์เฉพาะทางมากขึ้น เช่น ศูนย์ Rehabilitation Center ศูนย์ศัลยกรรมตกแต่ง และศูนย์ IVF กระแสความนิยมด้านสุขภาพมากขึ้น และการขยายธุรกิจของโรงพยาบาลทั้งเอกชนและรัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้ความต้องการใช้เครื่องมือการแพทย์มากขึ้น ทีมข่าวหุ้นวิชั่นจะพามา "Checklist หุ้น mai" ที่น่าจับตามองสำหรับกลุ่มธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภคที่เกี่ยวข้องกับการจัดจำหน่ายเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่ได้รับความสนใจอย่างมากในยุคปัจจุบัน ธุรกิจเครื่องมือทางการแพทย์เป็นตลาดที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว เพราะได้รับการสนับสนุนจากความต้องการด้านสุขภาพที่เพิ่มขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะหลังจากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ทำให้ความต้องการเทคโนโลยีทางการแพทย์ล้ำสมัยและอุปกรณ์เพื่อการดูแลสุขภาพพุ่งสูงขึ้น ทีมข่าวหุ้นวิชั่นจะพาไปเช็กว่าหุ้นตัวไหนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ mai มีศักยภาพในการเติบโตสูง และตอบโจทย์ความต้องการที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจสุขภาพและการแพทย์ TM ประกอบธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์ที่จำหน่าย แบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ 1) กลุ่มอุปกรณ์และวัสดุสิ้นเปลือง 2) กลุ่มอุปกรณ์และเครื่องมือทางการแพทย์ โดยสินค้าที่เป็นประเภทเดียวกันกับบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มวัสดุสิ้นเปลืองทางแพทย์ และกลุ่มสินค้าสำหรับการผ่าตัด เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 31 ส.ค. 2559 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 350.68 ล้านบาท ขาดทุน 12.87 ล้านบาท SMD ประกอบธุรกิจ ตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือแพทย์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ โดยนำเข้าจากผู้ผลิตต่างประเทศ เพื่อจัดจำหน่ายให้แก่ สถานพยาบาลในประเทศและบุคคลทั่วไป โดยสินค้าที่เป็นประเภทเดียวกันกับบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มเครื่องมือแพทย์ทั่วไปที่ใช้ในห้องผ่าตัด และกลุ่มเครื่องส่องตรวจโสต ศอ นาสิก เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 17 มิ.ย. 2564 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 322.83 ล้านบาท ขาดทุน 5.18 ล้านบาท WINMED ประกอบธุรกิจ เป็นผู้นำเข้า และจำหน่ายเครื่อง และชุดอุปกรณ์ สำหรับการเก็บ การตรวจวิเคราะห์ วินิจฉัย และการบำบัดรักษาทางการแพทย์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 11 พ.ค. 2564 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 291.58 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 5.58 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีสองบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งประกอบธุรกิจด้านสินค้าอุปโภคบริโภค BIZ ประกอบธุรกิจ เป็นผู้จำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา (Radiotherapy) และให้บริการซ่อมบำรุงรักษาชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา(Maintenance Service) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 28 ก.ค. 2559 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 538.77 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 61.75 ล้านบาท NAM ประกอบธุรกิจ ผลิต นำเข้า และจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์สำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ รวมถึงผลิตภัณฑ์สิ้นเปลืองทางการแพทย์ และให้บริการอื่นที่เกี่ยวข้องแบบครบวงจร โดยสินค้าที่เป็นประเภทเดียวกันกับบริษัทฯ ได้แก่ กลุ่มสินค้าทำความสะอาดทางการแพทย์ เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 ต.ค. 2566 ผลประกอบการ 6 เดือนแรกปี 2567 มีรายได้ 437.56 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 53.32 ล้านบาท รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision
ประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ พร้อมด้วย กานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล ร่วมพิธีเปิดการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ของ บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล ผู้ดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ ในวันที่ 24 กันยายน 2567 มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 527 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SEI”
หุ้นวิชั่น - บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล (SEI) ธุรกิจตัวแทนจำหน่ายเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 24 ก.ย. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 527 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SEI” นายประพันธ์ เจริญประวัติ ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ mai ยินดีต้อนรับ บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค โดยใช้ ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “SEI” ในวันที่ 24 กันยายน 2567 SEI ดำเนินธุรกิจโดยเป็นตัวแทนจำหน่ายและให้บริการเครื่องมือทางการแพทย์เป็นหลัก โดยบริษัทจัดหาสินค้าเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์จากผู้ผลิตชั้นนำจากต่างประเทศ ซึ่งมีอยู่ 18 ราย จาก 11 ประเทศ โดยจำแนกสินค้าเป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด กลุ่มสินค้าด้านความงาม กลุ่มสินค้าด้านการผ่าตัด และกลุ่มสินค้าอุปกรณ์และเครื่องมือวิทยาศาสตร์ ทั้งนี้มีกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้แก่ โรงพยาบาลรัฐบาล สถาบันการศึกษาแพทย์ โรงพยาบาลเอกชน คลินิก เป็นต้น งวดครึ่งปีแรก 2567 บริษัทมีรายได้จากการขาย การให้บริการและอื่นๆ ในสัดส่วน 90 : 10 ตามลำดับ โดยเป็นรายได้จากการขายและบริการจากกลุ่มลูกค้าภาครัฐบาลร้อยละ 79 ของรายได้จากการขายและบริการทั้งหมด และกลุ่มสินค้าหลักได้แก่ กลุ่มสินค้าด้านกล้องส่องตรวจ ร้อยละ 52 กลุ่มสินค้าสำหรับผู้ป่วยทารกแรกเกิด ร้อยละ 42 และกลุ่มสินค้าอื่นๆ ร้อยละ 6 SEI มีทุนชำระแล้วหลังเสนอขาย 85 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ประกอบด้วยหุ้นสามัญเดิม 120 ล้านหุ้นและหุ้นสามัญเพิ่มทุน 50 ล้านหุ้น โดยเป็นการเสนอขายต่อบุคคลตามดุลยพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์จำนวน 37.50 ล้านหุ้น เสนอขายต่อผู้มีอุปการคุณของบริษัท 7.50 ล้านหุ้น และเสนอขายต่อกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน 5.00 ล้านหุ้น เมื่อวันที่ 16-18 กันยายน 2567 ในราคาหุ้นละ 3.10 บาท คิดเป็นมูลค่าการเสนอขาย IPO 155 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 527 ล้านบาท ทั้งนี้ การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (Price to Earnings Ratio: P/E Ratio) เท่ากับ 19.64 เท่า ซึ่งคำนวณจากกำไรสุทธิ 12 เดือนย้อนหลัง (ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2566 จนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567) หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ (fully diluted) จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.16 บาท โดยมีบริษัท อวานการ์ด แคปปิตอล จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน และมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่าย นายกานต์ ปุญญเจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เอสอีไอ เมดิคัล เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปี ในอุตสาหกรรมเครื่องมือทางการแพทย์และวิทยาศาสตร์ บริษัทมุ่งเน้นพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ด้านสุขภาพของประชากร ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย สำหรับเงินที่ได้จากการระดมทุน จะนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการขยายธุรกิจ รวมถึงการเพิ่มศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการสั่งซื้อเครื่องมือ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ใช้ในการขยายธุรกิจประเภทวัสดุสิ้นเปลือง ตลอดจนโครงการร่วมลงทุนกับบริษัทอื่นที่ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการแพทย์ ซึ่งอาจรวมถึงคลินิกหรือโรงพยาบาลเฉพาะทาง SEI มีผู้ถือหุ้นใหญ่หลัง IPO ได้แก่ นายธีระ ปุญญเจริญสิน ถือหุ้นร้อยละ 35.29 และนายกานต์ ปุญญเจริญสิน ถือหุ้นร้อยละ 31.76 บริษัทมีนโยบายจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิภายหลังจากหักภาษีและเงินทุนสำรองตามกฎหมาย ผู้ลงทุนและผู้สนใจ สามารถดูรายละเอียด จากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.th และข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.sei.co.th และ www.set.or.th