SABUY ร่วงเฉียดฟลอร์ ผู้สอบบัญชีพบพิรุธเพียบ
หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท สบาย เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) (SABUY) ราคาหุ้นเช้านี้ร่วงแรงเกือบติดฟลอร์ (Floor) โดยทำจุดต่ำสุดที่ 0.29 บาท และจุดสูงสุด 0.40 บาท ขณะที่มีราคา ณ ปิดตลาดภาคเช้า อยู่ที่ 0.33 บาท หรือ ลดลง 0.07 บาท (-17.50%) ด้วยมูลค่าซื้อขายราว 5,175.63 ล้านบาท ทั้งนี้ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ขอให้ SABUY ชี้แจงข้อมูลในงบการเงินประจำปี 2567 หลังผู้สอบบัญชีมีข้อสงสัย ดังนี้ 1. ผู้สอบบัญชีพบว่ามีทรัพย์สินและสินค้าคงเหลือสูญหายรวม 215 ล้านบาท ซึ่งบริษัทบันทึกค่าความเสียหายดังกล่าวในงวดไตรมาสที่ 4 ปี 2567 โดยส่วนใหญ่เป็นทรัพย์สินของบริษัท 114 ล้านบาท (53%) ของ PTECH 89 ล้านบาท (41%) และที่เหลือเป็นของบริษัทอื่นๆ ปัจจุบันคณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึก 2. เดือนตุลาคม 2567 บริษัทซื้อบจก. ลอคบอกซ์ กรุ๊ป (LOCKBOX) และบจก.ลอคบอกซ์ เวนเจอร์ส (LOCKVENT) ประกอบธุรกิจให้เช่าตู้ล็อคเกอร์ในราคา 360 ล้านบาท โดยมีค่าความนิยม 257 ล้านบาท(71% ของมูลค่าซื้อ) ซึ่งการประเมินมูลค่ายุติธรรมของสินทรัพย์ธุรกิจให้เช่าตู้ล็อคเกอร์ยังไม่เสร็จสิ้น อาจมีการปรับปรุงมูลค่าในอนาคต 3. ความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง กรณีปี 2567 ขาดทุน 6,238 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3,283%) และขาดทุนสะสม 8,152 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 1,103%) รวมทั้งบริษัทถูกสถาบันการเงินฟ้องคดีแพ่งจากการผิดนัดชําระหนี้ สรุปสาเหตุสำคัญที่ทำให้บริษัทขาดทุนสูงมาก ดังนี้ (1) ผลกระทบจากการลงทุนใน TSR, AS, PTECH และบริษัทอื่น ๆ จำนวน 5,731 ล้านบาท (2) ขาดทุนจากการวัดค่าทรัพย์สินทางการเงิน จำนวน 111 ล้านบาท (3) ขาดทุนจากการด้อยค่าธุรกิจและยกเลิกสัญญาธุรกิจ จำนวน 416 ล้านบาท โดยขอให้บริษัทชี้แจงข้อมูลผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในวันที่ 3 เมษายน 2568 ในส่วนความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบ ขอให้ชี้แจงภายในวันที่ 10 เมษายน 2568 นอกจากนี้ ขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลงบการเงินและติดตามคำชี้แจงของบริษัท ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ SABUY ชี้แจงข้อมูลดังนี้ กรณีทรัพย์สินสูญหาย อธิบายเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น กรอบเวลาในการตรวจสอบเชิงลึกและผลการตรวจสอบ การดำเนินการแก้ไขระบบควบคุมภายในเพื่อดูแลทรัพย์สินและมาตรการตรวจนับทรัพย์สินของกลุ่มบริษัทเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก กรณีซื้อกิจการให้เช่าตู้ล็อคเกอร์ อธิบายกรอบเวลาของการประเมินราคาทรัพย์สินและการเสร็จสิ้นการประเมินความเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดการด้อยค่าของเงินลงทุนและค่าความนิยมของธุรกิจ แนวทางจัดการกรณีถูกสถาบันการเงินฟ้องคดีแพ่งจากการผิดนัดชำระหนี้ ความคืบหน้าการเจรจาและแนวทางการติดตามหนี้กับ TSR รวมทั้งมาตรการกำกับดูแลความเสี่ยงกรณีอาจจะไม่ได้รับชำระหนี้ แนวทางดำเนินธุรกิจของบริษัทในอนาคต เนื่องจากมีกิจการที่ด้อยค่าธุรกิจและยกเลิกสัญญาธุรกิจหลายรายการ รวมทั้งมีประเด็นเรื่องความไม่แน่นอนอย่างมีสาระสำคัญต่อการดำเนินงานต่อเนื่อง พร้อมอธิบายรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการขาดทุนจากการวัดค่าทรัพย์สินทางการเงิน ความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบเกี่ยวกับ (1) ความเพียงพอและเหมาะสมของระบบควบคุมภายในของกลุ่มบริษัทจากกรณีในข้อ 1 รวมทั้งกลไกการติดตามดูแลของคณะกรรมการตรวจสอบและมาตรการกำกับดูแลเรื่องดังกล่าว (2) มาตรการกำกับดูแลความเสี่ยงจากการให้เงินกู้ยืมและการลงทุนในธุรกิจต่างๆ การลงทุนในหลักทรัพย์ซึ่งส่งผลให้ผลการดำเนินงานปี 2567 เป็นขาดทุนสุทธิอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงหากมีการลงทุนหรือทำธุรกรรมใดๆ ในอนาคตด้วย ทั้งนี้ หากผลการตรวจสอบเชิงลึกทรัพย์สินสูญหายและต้องมีการปรับปรุงระบบการควบคุมภายในเรื่องดังกล่าว ซึ่งยังไม่แล้วเสร็จหรืออยู่ระหว่างดำเนินการ ขอให้บริษัทเปิดเผยข้อมูลพร้อมกับการนำส่งงบการเงินทุกไตรมาสหรือเมื่อมีความคืบหน้าในการดำเนินการใดๆ ที่สำคัญ โครงสร้างการถือหุ้นของกลุ่มบริษัท SABUY ถือหุ้นในบริษัทอื่น รวม 4 บริษัท ได้แก่ บริษัท ทีเอสอาร์ ลิฟวิ่ง โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) (TSR) ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองนำแบบขายตรง (เข้าลงทุนในปี 2565) โดยมีผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจากเงินให้กู้ยืมระยะสั้น และลูกหนี้อื่น 947 ล้านบาท, ขาดทุนด้อยค่าค่าความนิยมและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่น 576 ล้านบาท, ขาดทุนจากการสูญเสียอำนาจควบคุม 324 ล้านบาท บริษัท แอสเฟียร์ อินโนเวชั่นส์ จำกัด (มหาชน) (AS) ให้บริการเกมออนไลน์และเกมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ (เข้าลงทุนในปี 65) โดยมีผลขาดทุนจากการสูญเสียอำนาจควบคุม 1,054 ล้านบาท, ขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน 652 ล้านบาท บริษัท พลัส เทค อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) (PTECH) ผลิตบัตรครบวงจร (เข้าลงทุนในปี 64 SABUY ถือหุ้นในสัดส่วน 73%) โดยมีผลขาดทุนด้อยค่าค่าความนิยมและสินทรัพย์ไม่มีตัวตนอื่น 352 ล้านบาท, ทรัพย์สินสูญหาย 89 ล้านบาท (41% ของมูลค่าสูญหายของ SABUY ทั้งหมด) บจก. ลอคบอกซ์ กรุ๊ป (LOCKBOX) และบจก.ลอคบอกซ์ เวนเจอร์ส (LOCKVENT) ให้เช่าตู้ล็อคเกอร์ (SABUY เข้าลงทุนในปี 67 ถือหุ้นในสัดส่วน 80%) ค่าความนิยม 257 ล้านบาท ยังประเมินไม่แล้วเสร็จ หากย้อนในดูผลการดำเนินงานของ SABUY ในปี 2567 พบว่า SABUY มีผลขาดทุนสุทธิรวม 6,238.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ที่มีผลขาดทุนสุทธิราว 189.83 ล้านบาท ซึ่งเป็นการพลิกขาดทุนจากปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,482.11 ล้านบาท โดยสาเหตุหลักจากการรับรู้ผลขาดทุนจากการด้อยค่าของเงินลงทุน รวมไป ถึงผลขาดทุนจากการจำหน่ายเงินลงทุน จำนวน 4.90 พันล้านบาท ซึ่งเป็นผลจากการปรับโครงสร้างแผนธุรกิจใหม่ของกลุ่มบริษัท ในไตรมาสที่ 4 กลุ่มบริษัทรับรู้ค่าใช้จ่ายจากความเสียหายจากทรัพย์สิน จำนวน 202.7 ล้านบาท ในงบกำไร ขาดทุน เนื่องจากผลต่างจากการตรวจนับสินทรัพย์พบว่าจำนวนทรัพย์สินในทะเบียนทรัพย์สินสูงกว่าปริมาณที่มีอยู่จริง ในสถานที่จัดเก็บทรัพย์สินของกลุ่มบริษัท คณะกรรมการบริษัทมีมติอนุมัติการดำเนินการในการตรวจสอบข้อเท็จจริงเชิงลึกโดยเร่งด่วนในเรื่องดังกล่าว เพื่อปกป้องรักษาสิทธิประโยชน์ของบริษัท ทั้งนี้หลังจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง ดังกล่าว บริษัทฯจะได้ทำการรายงานความคืบหน้า รวมถึงตั้งสำรองความเสียหายให้สะท้อนภาพความเป็นจริงมากที่สุด สำหรับกลยุทธ์และเป้าหมายในปี 2568 SABUY ได้มีการเปิดเผยว่า จากสภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศไทยมีแนวโน้มการเติบโตที่ชะลอตัว และบริษัทฯ ประสบปัญหาขาดความเชื่อมั่นตั้งแต่ต้นเดือนเมษายน 2567 เนื่องจากการไม่มีผู้ถือหุ้นใหญ่ ทำให้สถาบันการเงิน และคู่ค้าระงับวงเงิน ทำให้ บริษัทฯ เผชิญกับปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ประกอบกับกระแสเงินสดจากการดำเนินงานบางส่วน ถูกนำมาใช้ชำระหนี้ และดอกเบี้ยที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทำให้หลายธุรกิจในกลุ่มบริษัทหดตัว และสูญเสียความสามารถในการสร้างรายได้ฝ่ายบริหารของบริษัทฯ ได้เร่งแก้ปัญหาในการหานักลงทุนรายใหม่เพื่อเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทฯ อย่างไรก็ตามด้วยสภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวยทำให้การเพิ่มทุนถูกยกเลิกไปถึงสองครั้ง และสำเร็จในครั้งที่สามเมื่อ เดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยบริษัทฯ มีแผนใช้เงินทุนดังกล่าวเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงินของกลุ่มบริษัทฯ อย่างมีประสิทธิภาพ รองรับการดำเนินธุรกิจและการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง บริษัทฯ มุ่งเน้นการใช้เงินทุนดังกล่าว เป็นเงินทุนหมุนเวียน เพื่อให้ธุรกิจในกลุ่มบริษัทฯ สามารถกลับมาดำเนินงานได้ตามปกติอย่างรวดเร็วที่สุด และสร้างกระแสเงินสดที่เพียงพอ ทั้งนี้กลยุทธ์และเป้าหมายในปี 2568 จะแบ่งได้เป็น 4 เรื่องหลักๆ ดังนี้ พลิกฟื้นผลประกอบการของธรุกิจหลัก (Business Turnaround) ให้กลับมามีกำไรให้เร็วที่สุด บริษัทฯ ได้วางแผนการปรับโครงสร้างองค์กรอย่างรอบคอบ โดยมีการเปลี่ยนแปลงทีมบริหารชุดใหม่เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการด าเนินงานและปรับขนาดองค์กรให้เหมาะสมกับรูปแบบธุรกิจปัจจุบัน โดยมีเป้าหมายเพื่อ จะเร่งสร้างการเติบโตของรายได้ เพิ่มเงินทุนหมุนเวียนจากธุรกิจด้านต่างๆ ประกอบด้วย B2B Solutions มุ่งเน้นให้บริการแก่องค์กรเป็นหลัก ได้แก่ Plus Tech และ SABUY Solutions B2C Solutions ให้บริการแก่ผู้บริโภคโดยตรง ได้แก่ SABUY SPEED, เติมสบายพลัส และล็อค บอกซ์ Financial Solutions ระบบธุรกรรมทางการเงิน ได้แก่ Love Leasing นอกจากนี้บริษัทฯจะดำเนินแผนการลดต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) ในภาพรวมของกลุ่มบริษัทควบคู่ไปด้วย ซึ่งจะนำไปสู่การใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ดำเนินการขายสินทรัพย์สินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก (Non-Core Asset) เพื่อสร้างความชัดเจนในโครงสร้างองค์กร หยุดการขาดทุนจากสินทรัพย์ที่ไม่ใช่ธุรกิจหลัก และนำกระแสเงินสดจากการขายสินทรัพย์มาสนับสนุนการดำเนินธุรกิจหลักเพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตต่อไป เดินหน้าเจรจาปรับโครงสร้างหนี้ (Debt Restructuring) หลังจากที่ประสบความสำเร็จในการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับผู้ถือหุ้นกู้ทั้ง 4 ชุด ในไตรมาสที่ 4 ในปี 2567 บริษัทฯ ได้มีแผนการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้อื่นๆ เช่น เจ้าหนี้สถาบันการเงิน โดยการพิจารณาเงื่อนไข การชำระหนี้ที่ปรับเปลี่ยน เช่น การขยายระยะเวลาการชำระหนี้และลดภาระดอกเบี้ย เพื่อรักษากระแสเงินสดสำหรับการดำเนินธุรกิจให้มีเสถียรภาพสูงสุด ปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการให้สอดคล้องกับหลักธรรมาภิบาลที่ดี (Good Governance) บริษัทฯ มีแผนอย่างเร่งด่วนที่จะปรับปรุงโครงสร้างการบริหารจัดการเพื่อเรียกความเชื่อมั่นจากผู้มีส่วนได้เสียของบริษัทฯ (Stakeholders) ไม่ว่าจะเป็นผู้ถือหุ้น เจ้าหนี้ คู่ค้า ฯลฯ ดังนี้ - โดยมีแผนที่จะมีการเสริมทีมทั้งคณะกรรมการ และผู้บริหารชุดใหม่เพิ่มเติม เพื่อให้สามารถดำเนินงานได้ ตามกลยุทธ์ที่วางเอาไว้ - ทบทวนและปรับปรุงนโยบายระดับบริหารและระบบควบคุมภายใน ให้มีความเหมาะสมและรัดกุมมากขึ้น - ดำเนินการตรวจสอบรายการที่มีความไม่ชอบมาพากลในอดีต และหากตรวจสอบพบการกระทำความผิดจริง ก็จะดำเนินการตามกฎหมายทันที