ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#ORI


ORI ปี68 เล็งยอดขายรวม 30,000 ลบ. ชูกลยุทธ์ Resilience Leads To Sustainable Growth

ORI ปี68 เล็งยอดขายรวม 30,000 ลบ. ชูกลยุทธ์ Resilience Leads To Sustainable Growth

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เผยแผนธุรกิจปี 2568 ชูกลยุทธ์ Resilience Leads To Sustainable Growth ผ่านกุญแจ 7 ข้อ แห่งความสำเร็จ สร้างโอกาสการเติบโตอย่างยั่งยืน เปิด 11 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายรวม 30,000 ล้านบาท และรายได้รวม 14,000 ล้านบาท มุ่งสร้าง รายได้และกำไร ระยะยาว เสริมความแข็งแกร่งทางการเงินจากกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโต           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้จัดโครงสร้างธุรกิจให้ชัดเจนขึ้นในลักษณะ Holding Company โดยจะเป็นการลงทุนถือหุ้นใน 5 กลุ่มธุรกิจหลักในบริษัทย่อย บริษัทร่วมค้า ทั้งบริษัทในตลาดหลักทรัพย์ฯ และนอกตลาดหลักทรัพย์ฯ (1) กลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทคอนโดมิเนียม ภายใต้ ออริจิ้น เวอร์ติเคิล, (2) ในกลุ่มธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายประเภทบ้านจัดสรร ภายใต้บริทาเนีย หรือ BRI, (3) กลุ่มธุรกิจบริการ ภายใต้พรีโม่ เซอร์วิส โซลูชั่น หรือ PRI, (4) กลุ่มธุรกิจ Hospitality and Tourism & Service ภายใต้ออริจิ้น โฮเทล และ (5) กลุ่มธุรกิจ Logistics and Warehouse ภายใต้ แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น  รวมโครงการกว่า 198 โครงการ เตรียมแผนการเติบโตในอนาคตสำหรับที่ดินบนทำเลศักยภาพในการเปิดโครงการใหม่ 11 โครงการ มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท รวมถึงมี Backlog  กว่า 44,562 ล้านบาท หนุนการรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 4 ปี           โดยปี 2568 บริษัทจะเดินหน้าขับเคลื่อนองค์กรภายใต้กลยุทธ์ “Resilience Leads To Sustainable Growth” สร้างความยืดหยุ่นในการบริหารองค์กร พร้อมรับมือต่อการเปลี่ยนแปลง สู่การเป็นผู้นำและการเติบโตอย่างยั่งยืนบนโอกาสใหม่ เพื่อสร้างความสมดุลในระยะยาวอย่างมีเสถียรภาพทั้งด้านธุรกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ด้วย 7 กลยุทธ์แห่งความสำเร็จ (7 KEYS TO SUCCESS ) 1. FOCUS ON MAINSTREAM REVENUE, 2. UNIQUE VALUE PROPOSITION, 3. MARKET EXPANSION, 4. DIGITAL TRANSFORMATION, 5. FINANCIAL STRUCTURE MANAGEMENT, 6. CUSTOMER FINANCIAL SUPPORT, 7. ESG & GREEN REVOLUTION แผนเปิดโครงการใหม่และเป้าหมายปี 2568 -เปิดโครงการใหม่ (New Project Launch) ทั้งพื้นที่ในกรุงเทพและต่างจังหวัดจำนวน 11 โครงการ มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท เป็นคอนโดจาก ORIGIN VERTICAL จำนวน 5 โครงการ มูลค่ารวม 12,500 ล้านบาท และเป็น บ้านจาก BRITANIA จำนวน 6 โครงการ มูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท -เป้ายอดขาย (Presales) รวม 30,000 ล้านบาท และเป้ารายได้รวม (Total Revenue) 14,000 ล้านบาท -ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ (Transfer Activities) ห้องชุดคอนโดและบ้านจัดสรร จำนวน 22,000 ล้านบาท           จากโครงการที่เปิดขายใหม่และอยู่ระหว่างดำเนินการ (Ongoing) บวกกับการทำการตลาดในเชิงรุกทั้งในประเทศและต่างประเทศต่อเนื่อง มั่นใจว่ายอดขายจะเป็นไปตามเป้า คือที่ 30,000 ล้านบาท ตลาดในประเทศไฮไลท์ปีนี้ ORI ได้ดึง “ณเดชน์ คูกิมิยะ” ร่วมเป็นแอมบาสเดอร์อีกครั้งหลังจากที่ร่วมงานกันมาเมื่อ 8 ปีก่อน มาเป็นครอบครัวคอนโดออริจิ้นและบ้านบริทาเนียกับ ‘ณเดชน์’ ”เพื่อสร้าง Brand Awareness และตอกย้ำภาพลักษณ์ที่ชัดเจนขององค์กร โดยจะเห็นการ Collab ร่วมกันผ่านแคมเปญทางการตลาดตลอดปี 2568 ขณะที่ตลาดต่างประเทศนอกจากแต่งตั้ง Master agent เป็นตัวแทนขาย การเดินสายโรดโชว์ไปยังตลาดประเทศใหม่ๆ แล้ว ยังสร้างกลยุทธ์เชิงรุกด้วยการคว้าตัวศิลปิน ดารา เซเลป ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักมาเป็นพรีเซนเตอร์ ล่าสุดได้นักแสดงชื่อดังชาวจีน-ฮ่องกง “Irene Wan(เวินปี้เสีย)” เป็นพรีเซ็นเตอร์นำคอนโดมิเนียม       แบรนด์ Park Origin Collection บุกตลาดเอเชีย สร้าง “รายได้-กำไร” กลุ่มธุรกิจใหม่           ORI ยังเดินหน้าองค์กรเพื่อสร้าง “รายได้และกำไร” ระยะยาว จาก New Business Model ส่วนอื่นที่มีการขยายการลงทุนไปก่อนหน้า สำหรับธุรกิจโรงแรม 9 แห่ง ที่เปิดดำเนินการแล้ว รวมทั้งโครงการที่อยู่ในบริษัทร่วมทุนและไม่ใช่บริษัทร่วมทุน ในปี 2567 มีรายได้โรงแรม กว่า 1,472 ล้านบาท และ EBITDA กว่า 514 ล้านบาท           “ธุรกิจโรงแรมเราพัฒนาแบบครบวงจร โดยแผนปี 2568 จะเปิดโรงแรมใหม่ 3 แห่ง ได้แก่ 1 แห่งในกรุงเทพฯ ภายใต้รูปแบบ Dual Brand และ 2 แห่งเป็นการ Re-opening จากที่ acquire มาในปี 2566 ซึ่งเป็นโรงแรมในแหล่งท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ตและเชียงใหม่ จะส่งผลให้พอร์ตโฟลิโอของบริษัทมีการขยายตัวมากขึ้น ทั้งในแง่ของจำนวนห้องพักและโอกาสในการเติบโตของรายได้จากการดำเนินงานโรงแรมในทำเลที่มีศักยภาพสูง” นายพีระพงศ์  กล่าว พร้อมยังกล่าวอีกว่าอีก 1 เครื่องยนต์สำคัญในการขับเคลื่อนคือ บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น ที่ประกอบธุรกิจด้านคลังสินค้า (Warehouse) ปัจจุบันมีอัตราการเช่าสูงถึง 97.6% “ทั้งนี้ คลังสินค้าทั้ง 9 แห่งอยู่ในทำเลยุทธ์ศาสตร์สำคัญๆได้แก่ ทำเลรังสิต, บางนา กม.22, บางนา กม.19, บางนา กม.23, แหลมฉบัง, พานทอง และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รวมพื้นที่กว่า 400,000 ตารางเมตร ตั้งเป้าขยายเพิ่มเป็น 1 ล้านตารางเมตร ในอีก 5 ปี ข้างหน้า” นายพีระพงศ์ กล่าว สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ 1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 166 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 4/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) เป็นต้น รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 254,967 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร หรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ดำเนินการภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ส่วนกลุ่มโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL 2.กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.กลุ่มธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

ORI จัด 2,965 ลบ. จ่ายหุ้นกู้ครบ  Q1 คอนโดรอโอน 5,600 ลบ.

ORI จัด 2,965 ลบ. จ่ายหุ้นกู้ครบ Q1 คอนโดรอโอน 5,600 ลบ.

           ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เตรียมเงินฝากครบพร้อมชำระหุ้นครบรอบเม.ย.นี้เต็มจำนวนกว่า 2,965 ล้านบาทเสริมความมั่นใจนักลงทุน ปลื้มกระแสลูกค้าตอบรับ Sold out ปิดโครงการกว่า 13 โครงการมูลค่ารวม 19,453 ล้านบาท พร้อมโชว์ไฮไลท์คอนโด 3 โครงการคุณภาพยอดขายกว่า 86% สร้างเสร็จทยอยโอนเริ่มไตรมาส 1/2568 จำนวนรวมกว่า 5,615 ล้านบาท มั่นใจ Backlog ในมือกว่า 44,562 ล้านบาท หนุนรายได้ต่อเนื่อง 4 ปี            นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เตรียมความพร้อมสำหรับการชำระหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายน 2568 นี้เรียบร้อยแล้วจำนวน 2,965 ล้านบาท สะท้อนความมั่นใจในการขับเคลื่อนธุรกิจ ขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความมั่นใจในกลุ่มบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) สำหรับในปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทประสบความสำเร็จทางด้านยอดขายและสามารถขายปิดโครงการ (Sold out) คอนโดมิเนียม            13 โครงการคุณภาพ มูลค่าทั้งสิ้น 19,453 ล้านบาท ประกอบด้วย โครงการในแบรนด์ ไนท์บริดจ์ จำนวน 5 โครงการ, โครงการในแบรนด์ ดิออริจิ้น จำนวน 3 โครงการ, โครงการในแบรนด์ เคนซิงตัน จำนวน 2 โครงการ และแบรนด์อื่น ๆ อีกจำนวน 3 โครงการ และ ณ สิ้นปี 2567 บริษัทมี Backlog ในมือกว่า 44,562 ล้านบาทที่จะสร้างรายได้ต่อเนื่องภายใน 4 ปีนี้            นอกจากนี้ยังมีคอนโดฯที่จะสร้างเสร็จและจะทยอยส่งมอบโอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าภายในไตรมาส 1/2568 มียอดขายไปแล้วกว่า 5,615 ล้านบาท หรือคิดเป็น 86% ของมูลค่าโครงการ ซึ่งเป็นลูกค้าเกรด A ถึง A+ (ผ่อนดาวน์ตามกำหนด) กว่า 90% ของมูลค่าแบ็คล็อค ประกอบด้วยโครงการ โครงการ ออริจิ้น ปลั๊ก&เพลย์ สิรินธร สเตชั่น คอนโดฯพร้อมอยู่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของคนที่อาศัยอยู่ในย่านสิรินธร ด้วยห้องเพดานสูง 4.2 เมตร* แห่งแรก แห่งเดียว ในย่านฝั่งธนฯ ติดถนนใหญ่สิรินธร ใกล้ MRT สถานี สิรินธร และCentral ปิ่นเกล้า ราคาเริ่ม 3.39 ล้านบาท* มูลค่าโครงการรวม 3,160ล้านบาท โครงการออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ อี 22 สเตชั่น คอนโดฯเลี้ยงสัตว์ได้ติดBTS สายลวด 0 เมตร ราคาเริ่ม 1.69 ล้าน บาท*มูลค่าโครงการรวม 2,580 ล้านบาท โครงการดิ ออริจิ้น แคมปัส ขอนแก่น คอนโดฯ Low Rise 8 ชั้น ดีไซน์แบบ MINIMAL JAPANESE STYLE ใกล้ มหาวิทยาลัยขอนแก่น ราคาเริ่ม 1.59 ล้านบาท* มูลค่าโครงการรวม 800 ล้านบาท [PR News]

ORI ปักหมุดรายได้ 1.4 หมื่นล้าน เร่งเปิดโครการใหม่ 2 หมื่นล้าน

ORI ปักหมุดรายได้ 1.4 หมื่นล้าน เร่งเปิดโครการใหม่ 2 หมื่นล้าน

          หุ้นวิชั่น - ORI ลุยเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ 14,000 ล้าน พร้อมโอนคอนโด 13 โครงการปีนี้ ลุยการขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าชาวจีนและไต้หวัน รองรับการเติบโต พัฒนาอย่างยั่งยืน ORI มุ่งสู่เป้าหมาย NET-ZERO ภายในปี 2587           นายปิติ จารุกำจร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่าบริษัทได้กำหนด 7 เป้าหมายหลักในปีนี้ โดยมุ่งเน้นธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจที่อยู่อาศัยเพื่อขาย (Residential for Sale) ธุรกิจโรงแรมและการท่องเที่ยว (Hospitality and Tourism) ธุรกิจบริการ (Service Business) และธุรกิจคลังสินค้า (Warehouse Business) , วางแผนสร้างความแตกต่างทางธุรกิจด้วยการเป็นผู้นำด้านโรงแรมสำหรับสัตว์เลี้ยง, การขยายตลาดใหม่ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าชาวจีนและไต้หวัน, มุ่งเน้นดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันเข้ามาเสริมประสิทธิภาพในทุกกระบวนการ, ตั้งเป้าควบคุมการใช้จ่ายอย่างต่อเนื่อง, การทำแคมเปญร่วมกับสถาบันการเงิน และการพัฒนาอย่างยั่งยืน           สำหรับแผนรายได้ ORI เตรียมเปิดโครงการใหม่มูลค่ารวม 20,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมมูลค่า 12,500 ล้านบาท คิดเป็น 63% จากทั้งหมด 5 โครงการ โดยจะเปิด 2 โครงการในครึ่งปีแรก และ 3 โครงการในครึ่งปีหลัง ส่วนบ้านเดี่ยวมีมูลค่ารวม 7,500 ล้านบาท คิดเป็น 38% จากทั้งหมด 6 โครงการ แบ่งเป็น 4 โครงการในครึ่งปีแรก และ 2 โครงการในครึ่งปีหลัง           นอกจากนี้บริษัทตั้งเป้าโอนกรรมสิทธิ์คอนโดมิเนียมทั้งหมด 13 โครงการ โดยในไตรมาสแรกมีการโอนไปแล้ว 3 โครงการ และวางแผนสร้างรายได้จากสินทรัพย์อื่น ๆ เพิ่มขึ้นในปี 2568           ทั้งนี้ บริษัทตั้งเป้ารายได้รวม 14,000 ล้านบาท โดยมาจากโครงการที่พัฒนาเอง (Non-JV) ประมาณ 10,500 ล้านบาท และจากโครงการร่วมทุน (JV) อีก 11,500 ล้านบาท ทำให้มูลค่าการโอนกรรมสิทธิ์รวม (Total Transfer Activity) อยู่ที่ 22,000 ล้านบาท พร้อมคาดการณ์อัตรากำไรสุทธิ(Net Profit Margin) ที่ 15%           ในด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ORI มุ่งสู่เป้าหมาย NET-ZERO ภายในปี 2587 ผ่านแผนดำเนินงานด้านพลังงานโซลาร, การติดตั้งเครื่องชาร์จอีวี การการลดปริมาณขยะ, การใช้วัสดุที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างน้อย 5% และการลดการใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างน้อย 10%           ส่วนประเด็นที่มีรายงานว่าชาวจีนเหมาซื้อคอนโดเพื่อปล่อยเช่ารายวันนั้น ปัจจุบันยังไม่มีผลกระทบที่ชัดเจนต่อธุรกิจของบริษัท แต่จะติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

ORI คาดปี68 กำไรพุ่ง  126.3%  ธุรกิจใหม่หนุน โบรกแนะซื้อ เป้า 4 บาท

ORI คาดปี68 กำไรพุ่ง  126.3% ธุรกิจใหม่หนุน โบรกแนะซื้อ เป้า 4 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.ฟิลลิป คาดปี 68 ORI  กำไร 2,381 ลบ. +126.3% y-y           ปีนี้จะเป็นปีแรกที่เริ่มนำโรงแรมและคลังสินค้าขายเข้า REIT ทำให้เริ่มรับรู้กำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เหมือน model ธุรกิจของ LH การกระจายความเสี่ยงไปยังหลายธุรกิจทำให้ ORI สามารถสร้าง model ธุรกิจใหม่ขึ้นมาทดแทนอุตสาหกรรมอสังหาฯ อ่อนตัว แนวโน้ม 1Q68 กำไรสูงขึ้น q-q มีคอนโดครบกำหนดโอนเข้ามามากขึ้น แต่ยังอ่อนตัว y-y จากรายรับที่มาจากการร่วมทุนลดลง ธุรกิจใหม่ ๆ เริ่มเห็นผลในปี 68           ในช่วงที่ผ่านมา ORI กระจายความเสี่ยงไปยังหลายธุรกิจ เข้าไปสู่ธุรกิจที่สามารถเติบโตได้ดีตามทิศทางของประเทศ การเน้นภาคการท่องเที่ยวของไทยนำมาซึ่งธุรกิจโรงแรม และทิศทางของ FDI ที่สูงนำมาซึ่งธุรกิจคลังสินค้า ปัจจุบันมีโรงแรม 11 แห่ง อัตราการเช่า 76% และคลังสินค้า 7 แห่ง อัตราการเช่า 96% ทำให้มีพอร์ต recurring income มากเพียงพอที่สามารถขายสินทรัพย์เข้า REIT เพื่อ roll capex ได้ตั้งแต่ปีนี้ เป็นปีแรกที่จะเริ่มมีกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ามาเสริมกำไร กำไรปี 68 โตเกิน 100%           ปี 68 มีแผนเปิดตัว 11 โครงการ มูลค่ารวม 2.0 หมื่นลบ. เปิดโครงการลดลงเน้นระบายสต๊อก แบ่งเป็นคอนโด 5 โครงการ มูลค่า 12,500 ลบ. ในทำเลสุขุมวิทและภูเก็ต แนวราบ 6 โครงการ มูลค่า 7,500 ลบ. ไฮไลต์เป็นแบรนด์ Belgravia ปิ่นเกล้า-บรมฯ และ Balco บางเทา-ภูเก็ต           ผู้บริหารตั้งเป้า Presale 3.0 หมื่นลบ. ลดลง y-y ตามโครงการเปิดใหม่ลดลง ตั้งเป้าโอน 2.2 หมื่นลบ. เป็นส่วนของ ORI 10,500 ลบ. และ JV 11,500 ลบ. ทางฝ่ายฯ มองว่าน่าจะทำได้ตามเป้า จากปีนี้มีคอนโดครบกำหนดโอนถึง 13 โครงการ รวมมูลค่า 20,340 ลบ. มากกว่าปีก่อน คาด GPM 31.0% สูงขึ้น y-y จากคอนโดใหม่ที่โอนเข้ามามี GPM สูงกว่า RTM โดยเฉพาะคอนโดในภูเก็ตที่ครบกำหนดโอนปีนี้ 2 โครงการในช่วง 2H68 และจะมีกำไรพิเศษจาก ร่วมทุน JV 3 โครงการ ประมาณ 90 ลบ. ขายโรงแรม 2 แห่งเข้า REIT กำไรพิเศษราว 500 ลบ. ในช่วง 3Q68 ขายคลังสินค้า 4 แห่งเข้า REIT กำไรพิเศษราว 500 ลบ. ในช่วง 3Q68 (อยู่ในส่วนแบ่งกำไรภายใต้ ALPHA)           ปรับคาดการณ์กำไรปี 68 เพิ่ม 94% มาที่ 2,381 ลบ. +126.3% y-y ส่วนการออกวอแรนต์ของ BRI จะทำให้ ORI ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นอยู่ 70% ใช้สิทธิแปลงสภาพเพื่อให้ BRI จ่ายคืนหนี้ ORI มองเป็นการแปลงหนี้เป็นทุน ช่วยลด Net IBD/E ในปี 68 ลงเหลือ 1.4X แม้ปี 68 ต้องเผชิญกับตลาดอสังหาฯ ที่ยังไม่ฟื้นตัว แต่การขยายไปยังธุรกิจใหม่ ๆ ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เริ่มสร้างกำไรพิเศษได้แล้วในปีนี้และช่วยให้ ORI มีการเติบโตได้สูงขึ้น แนวโน้ม 1Q68           มีคอนโดครบกำหนดโอน 3 โครงการ มูลค่ารวม 6,540 ลบ. โดยหลักเป็นคอนโด Origin Plug&Play Sirindhorn Station (JV) มูลค่า 3,160 ลบ. โอนได้เต็มไตรมาส และมี big lots จาก Park Origin Thonglor เข้ามาเสริม คาดรายได้โอนและส่วนแบ่งกำไรเติบโต y-y และ q-q และมี GPM ฟื้นตัวดีขึ้น แนวโน้มกำไรสูงขึ้น q-q แต่ยังอ่อนตัว y-y จากรายรับที่มาจากการร่วมทุนลดลง ราคาพื้นฐานปี 68 ที่ 4.00 บาท/หุ้น วิธี SOTP (P/E 6.5 เท่า)           ทางฝ่ายฯ ใช้วิธี SOTP (P/E 6.5 เท่า) บวกค่าความยั่งยืนของกิจการอีก 1.8% ปรับราคาพื้นฐานเพิ่มขึ้นที่ 4.00 บาท/หุ้น ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ”

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

ORI ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 รุ่น ชูดอกเบี้ย 4.85% - 5.15% ต่อปี

ORI ยื่นไฟลิ่งเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 รุ่น ชูดอกเบี้ย 4.85% - 5.15% ต่อปี

           หุ้นวิชั่น - ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เตรียมขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 2 รุ่น อัตราดอกเบี้ย 4.85 - 5.15% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน คาดเสนอขาย วันที่ 1-3 เมษายน 2568 ผ่าน 9 สถาบันการเงิน การันตีความน่าเชื่อถือระดับ “BBB+/Stable”จากทริสเรทติ้ง พร้อมแบ็คล็อกแกร่ง 44,562 ล้านบาท            นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ/หรือ ผู้ลงทุนสถาบัน หรือที่เรียกว่า Public Offering โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายเป็นครั้งที่ 2/2568 มีจำนวน 2 รุ่น ได้แก่ รุ่นอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย [4.85]% ต่อปี และรุ่นอายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.15% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ จองขั้นต่ำหน่วยละ  100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท คาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 1 – 3 เมษายน 2568 โดยบริษัทฯและหุ้นกู้ได้รับความน่าเชื่อถือระดับ “BBB+” แนวโน้ม “Stable” หรือ”คงที่”จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567            สำหรับผลประกอบการของปี 2567 กลุ่มบริษัทออริจิ้นฯ (รวมบริษัทย่อย) มีรายได้รวมทั้งสิ้น 11,985 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,052 ล้านบาท ส่วนยอดขาย (Presale) รวมทั้งหมด ปี 2567 อยู่ที่ 35,442 ล้านบาทได้ตามเป้าหมาย โดยแบ่งเป็นยอดขายจากคอนโดมิเนียม ภายใต้ ORIGIN VERTICALอยู่ที่ 28,891 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 82% และเป็นยอดขายจากบ้านแนวราบ ภายใต้ BRITANIA อยู่ที่ 6,551 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% ทั้งนี้เป็นยอดขายต่างชาติกว่า 5,700 ล้านบาท ซึ่งเติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 225% ถือเป็นยอดที่สูงที่สุดที่เคยทำมา            ในจำนวนยอดขาย 35,442 ล้านบาท ที่ทำได้ทั้งหมดในปีที่ผ่านมา แยกเป็นยอดขายจากโครงการที่บริษัทฯพัฒนา (Non- JV) ประมาณ 19,768 ล้านบาท และยอดขายจากกลุ่มโครงการร่วมทุน (JV) กับพาร์ทเนอร์ ประมาณ 15,674 ล้านบาท เป็นยอดขายมาจากโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ (Ready to move) มีทั้งคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝดกระจายทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักในต่างจังหวัดประมาณ 19,635 ล้านบาท และ มาจากโครงการที่เปิดขายใหม่และอยู่ระหว่างดำเนินการ (Ongoing) ประมาณ 15,787 ล้านบาท โดยปี 2567 มีโครงการใหม่ที่เปิดตัว 12 โครงการ มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 5,455 ยูนิต รวมมูลค่าทั้งสิ้น 19,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียมจำนวน 4,944 ยูนิต รวมมูลค่า 14,500 ล้านบาท และเป็นบ้านจัดสรรจำนวน 511 ยูนิต รวมมูลค่า 5,000 ล้านบาท            ทั้งนี้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์การขายโดยเพิ่มกลุ่มเป้าหมายเป็นกลุ่มลูกค้าต่างชาติ กลุ่มลูกค้า wealth กลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมเพื่อขยายฐานลูกค้า ทั้งนี้ ณ สิ้นปี 2567 มียอดขายที่รอรับรู้รายได้(Backlog) จำนวน 44,562 ล้านบาท ซึ่งรองรับรายได้ต่อเนื่อง 4 ปี โดยในปี 2568 มีโครงการที่รอรับรู้รายได้จำนวน 16 โครงการรวมเป็นจำนวน 23,440 ล้านบาท สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ สามารถจองซื้อได้ระหว่างวันที่ 1-3 เมษายน 2568 ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 9 แห่ง ดังต่อไปนี้ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือ จองซื้อผ่าน Mobile application - CIMB Thai บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004 บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-846-8675 บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999 บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร. 02-687-7543 บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-659-5272-73 บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050 บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-205-7000 ต่อ 7387 บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-660-6688            คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th หมายเหตุ: การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน [PR News]

ORI จับมือพันธมิตร ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้ ปิดดีลบิ๊กล็อตกว่า 1.2พันล้านบาท

ORI จับมือพันธมิตร ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้ ปิดดีลบิ๊กล็อตกว่า 1.2พันล้านบาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า ORI จับมือพันธมิตร ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้ ปิดบิ๊กล็อตโควต้าต่างชาติ So Origin Sukhumvit 105 มูลค่า 1,200 ล้านบาท สร้างแต้มต่อรุกตลาดอสังหาฯ 5 ประเทศในเอเชีย พบดีมานด์พุ่งต่อเนื่อง           นายธนกร วุฒิพงษ์ รองประธานกรรมการบริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำโครงการ So Origin Sukhumvit 105 คอนโดฯใหม่ใกล้ BTS สถานีแบริ่ง เพียง 200 เมตร* ไปโรดโชว์และจัดกิจกรรมขายต่างประเทศ โดยได้ลงนามแต่งตั้ง บริษัท ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (Thaiway Property) เป็นมาสเตอร์เอเจนท์ ขายห้องชุดในโครงการดังกล่าวนั้น ได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยมปิดยอดขายโควต้าต่างชาติ มูลค่า 1,200 ล้านบาท จากลูกค้าชาวต่างชาติใน 5 ประเทศแถบเอเชีย คือ ประเทศ จีน ฮ่องกง สิงคโปร์ ใต้หวัน และเมียนม่า ลูกค้าที่ซื้อมีทั้งแบบ B2B และ B2C ที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัย เเละลงทุน(Investment ) รวมถึงกลุ่มผู้สูงอายุวัยเกษียณ(Retirement) ที่ต้องการโยกย้ายถิ่นฐานเข้ามาพำนักในประเทศไทย           ความสำเร็จจากการการขายห้องชุดโครงการ So Origin Sukhumvit 105 ครั้งนี้ ส่วนหนึ่งเพราะตลาดทั้ง 5 ประเทศดังกล่าวได้รู้จักอสังหาฯแบรนด์ ออริจิ้น ดีอยู่แล้ว จากการนำโครงการที่อยู่อาศัยแบรนด์ต่างๆ ในเครือ ออริจิ้น ไปขายในช่วงก่อนหน้า ซึ่งได้รับการตอบรับดีเยี่ยม โดยแบรนด์โซ ออริจิ้น (SO ORIGIN) เป็นคอนโดมิเนียมที่มีดีไซน์เอกลักษณ์บนทำเลที่น่าสนใจใกล้รถไฟฟ้าเพื่อคน Gen Y และ Gen X การได้พันธมิตรไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้ ที่มีความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศในแถบเอเชีย ได้ช่วยสร้างความแข็งแกร่งและสร้างชื่อให้กับ ออริจิ้น ซึ่งปัจจุบันเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่มีกำลังซื้อสูงสุดในประเทศไทย และมีอัตราการเติบโตต่อเนื่อง           สำหรับ โครงการ So Origin Sukhumvit 105 ตั้งอยู่ถนนสุขุมวิท 105 ใกล้รถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง เพียง 200 เมตร* ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 6 ไร่ พัฒนาเป็นคอนโดฯ LOW-RISE สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ยูนิตทั้งหมด 913 ยูนิต + 2 ร้านค้า โดยโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ อาทิ ห้องออกกำลังกาย, โถงต้อนรับ, สระว่ายน้ำ, Co-Working Space, Creativity&Craft space,Meeting room,Studio room,Co-Living Space,Sharing zone,Private zone,Garden,Pavilion,Rooftop Garden,Oxygen launch,Edible vegetable garden และOutdoor Theater เป็นต้น พร้อมอุ่นใจด้วยระบบรักษาความปลอดภัย จากกล้องวงจรปิด CCTV 24 ชั่วโมง, ระบบ Access Control ด้วย Key Card เข้า-ออกอาคาร และพื้นที่จอดรถ และ เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง โดยขนาดห้องมีตั้งแต่ 24-53 ตารางเมตร(ตร.ม) ออกแบบภายใต้คอนเซ็ปต์ “CRAFTING A CLASSY MOMENTS ฟีลคลาสซี่ ได้ทุกโมเม้นต์” ราคาเริ่ม 2.81 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 2,540 ล้านบาท เริ่มก่อสร้างปี 2569 คาดแล้วเสร็จทั้งโครงการในช่วงปี 2571           นอกจากนี้ โครงการ So Origin Sukhumvit 105 ยังมีจุดเด่นทำเลในซอยสุขุมวิท 105 ใกล้กับศูนย์กลางเศรษฐกิจใหม่ บางนา ทำเลยอดนิยมสำหรับนักลงทุนและนักท่องเที่ยว ที่แน่นไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ชอบเที่ยว ชิม ช้อป และ แฮงค์เอาท์ กับเพื่อนๆ ที่สำคัญเดินทางสะดวก 3 นาที ถึงรถไฟฟ้า BTS สถานีแบริ่ง ที่อยู่ใกล้โครงการเพียง 200 เมตร* อีกทั้งยังแวดล้อมไปด้วยโรงพยาบาล , ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ และไลฟ์สไตล์ (Mega Project , Life style ) สถานศึกษาระดับนานาชาติ และอาคารสำนักงาน(OFFICE BUILDING) เป็นต้น           ด้านนางสาว เจสสิก้า เชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (Ms. Jessica Chao, CEO, Thaiway Property Company) กล่าวว่า บริษัทฯมีความยินดีและเป็นเกียรติที่เป็นส่วนหนึ่งของความสำเร็จเร็จ ทำการตลาดและขายคอนโดใหม่แบรนด์ So Origin Sukhumvit 105 จนสามารถทำยอดขายได้มากถึง 1,200 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความมั่นใจของลูกค้าผู้บริโภคที่มีต่อแบรนด์ ออริจิ้น ที่พัฒนาคอนโดมิเนียมคุณภาพในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่าย ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 2.81 ล้านบาท บน Prime Area อยู่ใกล้ New CBD ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบตอบโจทย์ความต้องการของผู้ที่กำลังมองหาคอนโดฯใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการกลุ่มคนซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง กลุ่มนักลงทุนที่ซื้อเพื่อเพิ่มโอกาสในการขยายการลงทุนในประเทศไทย รวมทั้งกลุ่มคนที่ซื้อไว้อยู่อาศัยหลัง Retirement ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่ ไทยเวย์ พร็อพเพอร์ตี้ เชี่ยวชาญชำนาญ และมีฐานลูกค้าในมือ           พร้อมกันนี้ นายธนกร วุฒิพงษ์ ได้กล่าวในตอนท้ายว่า ในปี 2568 ORIGIN ยังคงเดินหน้าเจาะตลาดลูกค้าต่างชาติเพิ่มด้วยการจับมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่งทั้งที่เป็น Agent รายเดิม และเปิดรับ Agent รายใหม่ๆ เข้าร่วม Origin Agent Club ด้วยการเดินสายโรดโชว์ไปยังตลาดประเทศใหม่ๆ รวมถึงการพิจารณาเปิดสำนักงานขายในต่างประเทศ ในประเทศที่มีลูกค้าให้ความสนใจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงโครงการได้ง่ายขึ้น เป็นหนึ่งในแผนไต่ระดับการเติบโต ครองความเป็นผู้นำเจ้าตลาดส่งออกคอนโดฯ ชั้นนำ และการนำเอาโครงการ So Origin Sukhumvit 105 ไปขายที่ประเทศจีน, ฮ่องกง, สิงคโปร์, ใต้หวัน และเมียนม่า นั้น เพราะเป็นตลาดที่ยังมีดีมานด์ ขณะเดียวกันก็เพื่อรักษาฐานการเติบโตของตลาดประเทศในโซนเอเชียของเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ [PR News]

ORI ปิดยอดขายหุ้นกู้ เต็มจำนวน 1,500 ล้านบาท ตามเป้า

ORI ปิดยอดขายหุ้นกู้ เต็มจำนวน 1,500 ล้านบาท ตามเป้า

        หุ้นวิชั่น - ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ประสบความสำเร็จหลังเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 จำนวน 3 ชุด นักลงทุนจองซื้อทะลุเต็มจำนวน 1,500 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยสูงสุด 5.15% ต่อปี สะท้อนความมั่นใจในธุรกิจ           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากการเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 ทั้งหมด 3 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.50% ต่อปี , หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.85% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.15% ต่อปี ซึ่งเสนอขายระหว่างวันที่ 10, 11 และ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมานั้น ได้รับความสนใจจากนักลงทุนต่อเนื่องทำให้มียอดจองล้นและสามารถปิดการจองซื้อเต็มจำนวน 1,500 ล้านบาท         “การเปิดขายหุ้นกู้ครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ในการสร้างความมั่นคงทางการเงินและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นในระยะยาว ขอบคุณทุกความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนทุกราย เรามุ่งหวังที่จะพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่เพื่อเพิ่มศักยภาพ การแข่งขันในอุตสาหกรรม ทั้งนี้ ออริจิ้นฯ ได้เตรียมเงินทุนพร้อมสำหรับการชำระหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในเดือนเมษายนนี้เรียบร้อยแล้ว” นายพีระพงศ์ กล่าว         หุ้นกู้ดังกล่าวได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” ความสำเร็จจากการปิดการซื้อจองหุ้นกู้เต็มจำนวนครั้งนี้ สะท้อนถึงความมั่นใจของนักลงทุนที่มีต่อธุรกิจของบริษัทออริจิ้นฯ จากผลงาน ที่แข็งแกร่ง โดยในปี 2567 บริษัทฯมียอดขายหรือ Presale จากโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 35,442 ล้านบาท ตามเป้าหมาย และ มี Backlog ในมือ 47,329 ล้านบาท ที่รอรับรู้สร้างรายได้ต่อเนื่อง 5 ปี อีกทั้งยังมุ่งมั่นในการขับเคลื่อนธุรกิจเคียงข้าง การพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อมสู่การเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

ORI ผนึกสถาบันการเงิน ดูแลสินเชื่อคู่สมรสเท่าเทียม

ORI ผนึกสถาบันการเงิน ดูแลสินเชื่อคู่สมรสเท่าเทียม

           ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ร่วมสนับสนุนการจดทะเบียนสมรสเท่าเทียม เพื่อทุกคนที่อยากมีคอนโดอย่างเท่าเทียม ตามหลักการร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียมในวาระแรกและเมื่อวันที่ 24 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา เริ่มการจดทะเบียนในวันที่ 23 มกราคม 2568 นี้ ซึ่งประเทศไทยเป็นชาติแรกในอาเซียนและเป็นประเทศที่ 3 ในเอเชียที่รับรองการแต่งงานของเพศเดียวกันได้ พร้อมสิทธิในการสมรสที่ครอบคลุมทุกมิติ รวมไปถึงการเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยที่สามารถกู้ร่วมกันเพื่อซื้ออสังหาฯ ในฐานะคู่สมรส พร้อมจับมือ ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย ดูแลเรื่องสินเชื่อให้กับทุกคู่สมรส            นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า การตัดสินใจสร้างครอบครัวและซื้อที่อยู่อาศัยถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายเลยสำหรับคู่รัก LGBTQ+ เพราะสถาบันการเงินได้กำหนดเงื่อนไขการกู้ร่วมซื้อบ้านว่าผู้กู้ร่วมต้องเป็นคู่สมรส บุตร บิดา มารดา พี่น้องร่วมสายเลือด รวมถึงคู่สมรสไม่จดทะเบียน จึงจะเข้าเงื่อนไขที่สามารถขอกู้ร่วมซื้อที่อยู่อาศัยได้ ดังนั้น "กฎหมายสมรสเท่าเทียม" ที่กำลังจะมีผลบังคับใช้เป็นทางการ 23 มกราคม 2568 นี้ถือเป็นการเปลี่ยนแปลงที่มาพร้อมกับสิทธิและความเท่าเทียมแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน ทั้งการให้ความยินยอมในการรักษาพยาบาล และการรับบุตรบุญธรรมร่วมกัน การรับมรดก รวมไปถึงการจัดการทรัพย์สิน และหนี้สินร่วมกัน            ขณะเดียวกันกฎหมายสมรสเท่าเทียมยังนับเป็นก้าวแรกของการเริ่มต้นชีวิตของ “คู่รัก” จับมือกันสู่การเดินทางของ “การสร้างครอบครัว” ถือเป็นการปลดล็อคทุกขั้นตอนที่เคยเป็นข้อจำกัด ตั้งแต่การกู้ร่วมซื้อที่อยู่อาศัย เพราะนับจากนี้ไปคู่รัก LGBTQ+ ไม่ต้องแบกภาระค่าผ่อนเพียงคนเดียวอีกต่อไป แต่สามารถร่วมกันผ่อนชำระเงินงวด ซึ่งเป็นสิ่งที่ “ออริจิ้น” ได้ร่วมนำเสนอบริการแบบฟูล เซอร์วิส เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในช่วงเวลาดี ๆ ของการก้าวสู่สมรสเท่าเทียมครั้งแรกในไทย            โดยได้จัดแคมเปญ LIVE PROUDLY, BE EQUAL EMBRACE HAPPY MARRIAGE ความสุขในการมีความรักที่สวยงาม ความสุขในการใช้ชีวิต พร้อมให้การดูแลและสนับสนุนให้ทุกคู่ชีวิตเป็นเจ้าของคอนโดฯได้ด้วย Origin Personal Assistant ครั้งแรกกับบริการผู้ช่วยส่วนตัวสุดพิเศษที่จะเข้ามาทำให้การยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้าน-คอนโดฯ กับทางธนาคารพันธมิตรชั้นนำ (Financial Consultant Service) ให้สะดวกสบายมากยิ่งขึ้น ผ่านการให้คำแนะนำ คำปรึกษา และประสานงานกับธนาคารพันธมิตรชั้นนำให้ “คู่รัก” สามารถวางแผนการซื้อบ้าน-คอนโดฯ โดยมีข้อมูลประกอบการตัดสินใจอย่างรอบด้านที่มาจากความเชี่ยวชาญ ประสบการณ์ และข้อมูลเชิงลึก ในการให้คำแนะนำ และดูแลทุกขั้นตอนจนจบกระบวนการซื้อบ้านและคอนโดฯ ตั้งแต่วันแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นของครอบครัว พร้อมตอบโจทย์ความต้องการที่แตกต่างของแต่ละคู่รัก ไม่ว่าจะเป็นการอยู่อาศัยเอง หรือการลงทุน            นอกจากนี้ “ออริจิ้น” ยังมีบริการด้านสินเชื่อร่วมกับสถาบันการเงินทั้งของรัฐและเอกชนทั้ง 5 แห่ง เพื่อดูแลและสนับสนุนการเลือกสร้างครอบครัวและการซื้อที่อยู่อาศัยเป็นก้าวแรกที่สำคัญสำหรับคู่รัก และถือเป็นการแสดงความรักที่ถูกต้องตามกฎหมายสมรสเท่าเทียม เราตั้งใจจะยืนเคียงข้างทุกคู่รัก ในการส่งเสริมให้มีคอนโดมิเนียมอย่างภาคภูมิ สำหรับ LGBTQ+ และทุกคู่รัก ซึ่งเรามีทีมดูแลและประสานงานกับธนาคารพันธมิตรชั้นนำดังต่อไปนี้ ธนาคารทหารไทยธนชาต, ธนาคารอาคารสงเคราะห์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ และธนาคารกรุงไทย โดยเงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด* หมายเหตุ : กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหว* เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารกำหนด* ผ่อนต่ำเริ่มต้นล้านละ 2,900 บาทต่อเดือน* อัตราดอกเบี้ยคงที่เริ่มต้น 1.79% ต่อปี* (ปีแรก) อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงอยู่ระหว่าง 4.56%-5.20% ต่อปี* โดยอัตราดอกเบี้ยลูกค้ารายย่อยชั้นดี (Minimum Retail Rate: MRR) ปัจจุบันเท่ากับ 6.545% ต่อปี* มีผลวันที่ 1 พฤศจิกายน 2567 สามารถเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้นหรือลดลงได้ตามประกาศของธนาคาร  

ORI เล็งขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 10 – 11, 13 กุมภาพันธ์ 68 นี้ ชูดอกเบี้ย 4.50 -5.15% ต่อปี

ORI เล็งขายหุ้นกู้ชุดใหม่ 10 – 11, 13 กุมภาพันธ์ 68 นี้ ชูดอกเบี้ย 4.50 -5.15% ต่อปี

          หุ้นวิชั่น - 20 มกราคม 2568 (กรุงเทพฯ ประเทศไทย) – บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป และผู้ลงทุนสถาบัน จำนวน 3 รุ่น อัตราดอกเบี้ย 4.50 - 5.15% จ่ายดอกเบี้ยทุก 3 เดือน เสนอขายระหว่างวันที่ 10 - 11 และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ผ่าน 9 สถาบันการเงิน ได้แก่ ธ.ซีไอเอ็มบี ไทย บล. เอเซีย พลัส บล. ซีจีเอส-ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) บล.บลูเบลล์ บล.โกลเบล็ก บล.ยูโอบี เคย์เฮียน บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) บล.พาย และบล.เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ พร้อมโชว์ Backlog ในมือ 47,329 ล้านบาท รอรับรู้สร้างรายได้ต่อเนื่อง 5 ปี เตรียมโอนกรรมสิทธิ์โครงการคอนโดก่อสร้างแล้วเสร็จใหม่ปี 2568 เพิ่มอีก 13 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 17,180 ล้านบาท มึแบ็คล็อกเฉลี่ยแล้วกว่า 70%           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI เปิดเผยว่า ORI พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 โดยหุ้นกู้ที่เสนอในครั้งนี้ เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ทั้งนี้ทริสเรทติ้งจัดอันดับเครดิตองค์กรและจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” อันดับเครดิตดังกล่าวสะท้อนถึงสถานะขององค์กรที่มีแบ็คล็อกสูง รอรับรู้รายได้ต่อเนื่อง 5 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เสนอขายหุ้นกู้ครั้งนี้เพื่อนำไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดรอบเมษายน 2568 โดยหุ้นกู้ที่เสนอขายมีจำนวนทั้งหมด 3 ชุด พร้อมเสนอขายหุ้นกู้ระหว่างวันที่ 10 – 11 และวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 หุ้นกู้ทั้ง 3 ชุด ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน และมีรายละเอียดดังนี้ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.50 ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 4.85 ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.15 ต่อปี           ในปี 2567 บริษัทฯมียอดขายหรือ Presale จากโครงการที่อยู่อาศัยจำนวน 35,435 ล้านบาท ได้ตามเป้าหมายโดยแบ่งเป็นยอดขายที่อยู่อาศัยแนวสูงหรือคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด จำนวน 28,891 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 82%  ขณะที่ยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรหรือที่อยู่อาศัยแนวรายภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI จำนวน 6,544 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% ของยอดขายทั้งหมด           นอกจากนี้ในปี 2567 ยังคงมีโครงการร่วมทุนใหม่ รวม 14 โครงการ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม โครงการบ้านจัดสรร โรงแรม และคลังสินค้า ทำให้สิ้นปี 2567 กลุ่มบริษัท มีโครงการร่วมทุนรวม 119 โครงการ มูลค่ารวม 186,960 ล้านบาท บริษัทฯ ยังเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้วยการเปิดตัว Origin Agent Club เพื่อเปิดตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติด้วยการจับมือกับ เอเจนท์กว่า 300 ราย ทำให้ปี 2567 ที่ผ่านมาบริษัทฯสามารถทำยอดขายกลุ่มลูกค้าต่างชาติได้ถึง 5,700 ล้านบาท เติบโตถึง 225%           ในส่วนของกลุ่มธุรกิจใหม่ของบริษัทฯหรือ New S Curve ทั้งธุรกิจโรงแรม คลังสินค้า และบริการ เพื่อสร้างสมดุลการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยปัจจุบันธุรกิจโรงแรมครอบคลุมโรงแรมแบรนด์ดัง 11 แห่ง อาทิ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ, ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง, อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ สุขุมวิท และมีห้องพักทั้งหมด 2,657 ห้อง โดยในช่วงเดือนธันวาคม 2567 มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 76% ธุรกิจคลังสินค้ามีทำเลยุทธศาสตร์ขนส่งทั้งหมด 10 แห่งทั่วประเทศ อาทิ สมุทรปราการ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมกว่า 403,447 ตารางเมตร โดยมีอัตราเช่าคลังสินค้าทะลุ 90% และสุดท้ายธุรกิจบริการอสังหาฯครบวงจรภายใต้ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI นั้น ปัจจุบัน ดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งควบคุมงานก่อสร้าง บริหารนิติบุคคล บริหาร Investment Property บริการออกแบบและตกแต่งภายใน บริการด้านความสะอาด ที่ดูแลทั้งหมดกว่า 229 โครงการ คิดเป็นกว่า 44.650 ครอบครัว ซึ่งกลุ่มธรุกิจใหม่ของบริษัทฯจะสามารถสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับบริษัทฯได้ในระยะยาว โดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาการสร้างอสังหาริมทรัพย์เพื่อขายเพียงอย่างเดียว           สำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนหุ้นกู้ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณของ 100,000 บาท ผ่านสถาบันการเงินทั้ง 9 แห่ง ดังต่อไปนี้ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือ จองซื้อผ่าน Mobile application - CIMB Thai บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004h บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-846-8675 บริษัทหลักทรัพย์ บลูเบลล์ จำกัด โทร. 02-249-2999 บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด โทร. 02-687-7543 บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-659-5272-73 บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050 บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-205-7000 ต่อ 7387 บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-660-6688           คำเตือน: การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ ผู้ลงทุนสามารถศึกษารายละเอียดได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์และร่างหนังสือชี้ชวนที่ www.sec.or.th           หมายเหตุ: การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน [PR News]

ORI เดินหน้า ORIGIN GIVE  ปี16  มอบ 5 ลบ. แก่วัดพระบาทน้ำพุ

ORI เดินหน้า ORIGIN GIVE  ปี16 มอบ 5 ลบ. แก่วัดพระบาทน้ำพุ

          หุ้นวิชั่น - ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ต่อยอดร่วมสร้างสรรค์สังคมมอบเงินบริจาคให้กับวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี จำนวน 5 ล้านบาท สานต่อแนวคิดการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนผ่านโครงการ ORIGIN GIVE ต่อเนื่องจากการร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้า สร้างห้องน้ำใหม่ 15 ห้อง และเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้แก่วัด           นางอารดา จรูญเอก ประธานอำนวยการ และกรรมการกำกับดูแลบรรษัทภิบาลเพื่อความยั่งยืน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า ปี 2568 เป็นปีที่ 16 ที่บริษัทฯ ยังมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนชุมชนสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการเพื่อสังคมภายใต้ชื่อ “Origin Give, We give to grow sustainability together : ร่วมให้...ความยั่งยืนไปด้วยกัน ร่วมเติบโต...อย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน” ในโอกาสนี้ บริษัทและพนักงานได้ร่วมบริจาคเงินจำนวน 5 ล้านบาท พร้อมทั้งบริจาคสิ่งของ เพื่อช่วยเหลือสนับสนุนภารกิจของทางวัดพระบาทน้ำพุในการดูแลผู้ป่วยโรคเอดส์ เด็กกำพร้า เด็กป่วย ผู้สูงอายุ และ กลุ่มเปราะบางที่อยู่ในการดูแลของวัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 1,500 คน โดยมี พระราชวิสุทธิประชานาถ(หลวงพ่ออลงกต) เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เป็นผู้รับมอบ           กิจกรรมครั้งนี้ ต่อเนื่องจากเมื่อปีที่ผ่านมา ที่บริษัทฯ และ พันธมิตรทางการค้า ได้ร่วมสร้างอาคารห้องน้ำใหม่เพื่อใช้ประโยชน์และสร้างสุขอนามัยที่ดี ให้กับวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี จำนวน 15 ห้อง เพื่อรองรับเหล่าสาธุชน ผู้เดินทางมาทำบุญ ท่องเที่ยววัด ทุกวัย ทั้งเด็ก ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และเพิ่มพื้นที่สีเขียว GROW-GO-GREEN GARDEN  โดยผนึกกำลังร่วมกับบริษัทในเครือฯ “พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น” และบริษัทพันธมิตรอีกมากมาย ส่งต่อสร้างสรรค์สิ่งดีๆร่วมกัน           “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังคงเดินหน้าโครงการ ORIGIN GIVE อย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงการมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างมั่นคง ส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าผู้อยู่อาศัยควบคู่กับการดูแลสังคม ชุมชุนและสิ่งแวดล้อมสู่ความยั่งยืนตลอดไป” นางอารดา กล่าว           ก้าวสู่ปีที่ 16 ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ให้เติบโตอย่างมั่นคง ควบคู่กับการดูแลสิ่งแวดล้อม และสนับสนุนชุมชนสังคมไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านโครงการเพื่อสังคมภายใต้ชื่อ “Origin Give, We give to grow sustainability together : ร่วมให้...ความยั่งยืนไปด้วยกัน ร่วมเติบโต...อย่างยั่งยืนไปพร้อมกัน” มาตลอดและยังคงมุ่งมั่นดำเนินการอย่างต่อเนื่องต่อไปโดยไม่หยุดผ่าน 3 ด้าน คือ Education : สนับสนุนโอกาสทางการศึกษา และสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กนักเรียน Equality :  สนับสนุนโอกาสในการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดี และส่งเสริมความเท่าเทียมที่แตกต่างและสวยงาม Environment : สนับสนุน ส่งเสริม สร้างสรรค์ การปกป้อง และรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกที่สวยงามอย่างยั่งยืนของเราทุกคน สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ           1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 167 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 4/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) เป็นต้น รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 259,072 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร หรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ดำเนินการภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ส่วนกลุ่มโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL           2.กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก           3.กลุ่มธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์           และ 4.กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

ORI JV พาร์ทเนอร์แกร่ง ตอกย้ำกว่า 7 ปี 119 โครงการ มูลค่ากว่า 1.86 แสนล.

ORI JV พาร์ทเนอร์แกร่ง ตอกย้ำกว่า 7 ปี 119 โครงการ มูลค่ากว่า 1.86 แสนล.

          บิ๊กอสังหาฯ ออริจิ้นฯ ชูความแกร่งผ่านสูตร Joint Venture กับพาร์ทเนอร์ ทั้งคอนโดฯ-บ้านแนวราบ-โรงแรม-คลังสินค้า ตอกย้ำความสำเร็จกลยุทธ์ร่วมทุนกว่า 7 ปี ปิดดีล 119 โครงการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.86 แสนล้านบาท ยักษ์ใหญ่ญี่ปุ่น Sotetsu ดีลร่วมทุนต่อ ขยายพอร์ตสู่โปรเจ็กต์แนวราบ พร้อมลุยเปิดตัวโครงการร่วมทุนใหม่ในปี ’68 ต่อเนื่อง รองรับการเติบโตบนพื้นฐานความแข็งแกร่งพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยถึงแนวนโยบายในการดำเนินธุรกิจภายใต้สถานการณ์การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจากสภาพเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน บริษัทออริจิ้นฯ และ บริษัทในเครือของออริจิ้นฯ มีกลยุทธ์ในการปรับตัวและต่อยอดธุรกิจ ผ่านโมเดลต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการขยายธุรกิจทั้งเชิงกว้างและเชิงลึก รวมถึงเดินหน้ากลยุทธ์ “Open Platform” ร่วมทุน (Joint Venture: JV) กับพาร์ทเนอร์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมทั้งแลนด์ลอร์ดเจ้าของที่ดินกระจายพอร์ตในหัวเมืองหลักต่างๆ ซึ่งในปี 2567 ยังคงมีโครงการร่วมทุนใหม่ รวม 14 โครงการ ทั้งโครงการคอนโดมิเนียม โครงการบ้านจัดสรร โรงแรม และคลังสินค้า ทำให้สิ้นปี 2567 กลุ่มบริษัท มีโครงการร่วมทุนรวม 119 โครงการ มูลค่ารวม 186,960 ล้านบาท           กว่า 7 ปีที่ ออริจิ้น เริ่มมี Platform ร่วมทุน โดยมีสัดส่วนของพาร์ทเนอร์แบ่งเป็น พาร์ทเนอร์สัญชาติญี่ปุ่น 72%, ไทย 24% และเกาหลี 4% โดยสัญชาติญี่ปุ่นหลักๆ คือกลุ่ม บริษัท โนมุระ เรียลเอสเตท ดีเวลล็อปเมนท์ พันธมิตรต่างชาติจากญี่ปุ่นรายแรกของออริจิ้น ที่ร่วมลงทุนมาอย่างยาวนานนับตั้งแต่กลางปี 2560 จนถึงปัจจุบันมีโครงการที่เกิดจากการร่วมทุนทั้งสิ้น 27 โครงการ มูลค่ารวม 62,671 ล้านบาท และ บริษัท โตคิว แลนด์ เอเชีย จำกัด บริษัทพัฒนาและลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในเครือโตคิว แลนด์ คอร์เปอเรชั่น หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากประเทศญี่ปุ่น มีโครงการร่วมทุนร่วมกันทั้งสิ้นมากกว่า 10 โครงการ นอกจากนี้ บริษัท โซเท็ตซึ เรียล เอสเตท จำกัด (โซเท็ตซึ ฟุโดซัง) เป็นบริษัทในเครือ โซเท็ตซึ กรุ๊ป (Sotetsu GROUP) ประกอบธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในเครือโซเท็ตซึ กรุ๊ป โดยล่าสุดเดือนธันวาคม ได้เข้าร่วมทุนกับกลุ่มบริษัทฯ ขยายการลงทุนสู่การพัฒนาโครงการแนวราบ โครงการ เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ ราชพฤกษ์-พระราม 5 ตั้งอยู่บนถนนนครอินทร์ พัฒนาในรูปแบบ Private Residences เพียง 35 ยูนิตที่ได้แรงบันดาลใจการออกแบบสไตล์อังกฤษ ในราคาเริ่ม 39 ล้านบาท* มูลค่าโครงการรวม 1,400 ล้านบาท           ขณะที่พันธมิตรสัญชาติเกาหลี คือ บริษัท จีเอส เอ็นจิเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น คอร์ปอเรชั่น จำกัด(GS E&C) กลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ระดับโลกของเกาหลีใต้ ที่ลงทุนร่วมกันมาตั้งแต่ต้นปี 2563 ปัจจุบันร่วมพัฒนาโครงการร่วมกันทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่า 5,600 ล้านบาท และยังมีพาร์ทเนอร์ในไทยอีกหลายรายที่พัฒนาโครงการร่วมกัน อาทิ บริษัท บุญภา 2020 จำกัด และ บริษัท เกษมบัณฑิต จำกัด เป็นต้น           ผู้บริหารของบริษัท ออริจิ้นฯ ยังกล่าวด้วยว่า การขับเคลื่อนธุรกิจผ่านความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์เป็นอีกหนึ่งสูตรธุรกิจที่จะช่วยสร้างการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืนให้กับทั้งสององค์กร แบบ Win-Win ถือเป็นการเติมเต็มซึ่งกันและกันทั้งด้านเงินทุน ประสบการณ์ การแลกเปลี่ยน Know How การพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตแห่งอนาคต ขณะเดียวกันยังสะท้อนถึงความไว้วางใจจากพันธมิตร ที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพและความแข็งแกร่งของ ออริจิ้น ในหลายๆ ด้าน ทั้งทีมงานมืออาชีพ การพัฒนาคุณภาพสินค้า การพัฒนาแบรนด์ รวมถึง การให้ความสำคัญข้อมูล Insight ของผู้บริโภค เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว           “เราพร้อมจะสร้างโอกาสใหม่ให้กับเครือ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ในอนาคต ซึ่งยังมีการลงทุนโครงการอสังหาฯ ใหม่ๆ ทั้งที่ออริจิ้น ลงทุนเอง 100% และ โครงการที่ Joint Venture กับพาร์ทเนอร์ ซึ่งจะทยอยเปิดตัวเพิ่มต่อเนื่องรวมถึงการแถลงแผนธุรกิจปี 2568 ในเร็วๆ นี้” นายพีระพงศ์ กล่าวในตอนท้าย สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ 1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 167 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 4/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) เป็นต้น รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 259,072 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร หรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ดำเนินการภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ส่วนกลุ่มโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL 2.กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.กลุ่มธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

“ออริจิ้น” โชว์ฟอร์มยอดขายปี’67 ทะลุ 35,435 ล้านบาท

“ออริจิ้น” โชว์ฟอร์มยอดขายปี’67 ทะลุ 35,435 ล้านบาท

          “ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้” โชว์ความสำเร็จปี 2567 กวาดยอดขายบ้าน-คอนโดฯกว่า 35,435 ล้านบาท ตามเป้า ทั้งจากโครงการพร้อมอยู่ โครงการเปิดใหม่ และโครงการระหว่าง Ongoing ในทำเลระดับท้อปของประเทศ สะท้อน ความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ออริจิ้น ตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่หลากหลาย สร้างความพึงพอใจสูงสุดต่อผู้บริโภค ย้ำ Key Success ผ่าน “3I” กลยุทธ์หลัก “Insight -Initiative-Implementation” เข้าใจลูกค้าแบบเจาะลึก ทั้งด้านการพัฒนาสินค้าตอบโจทย์ตลาดยุคใหม่ พร้อมจัดทัพผู้บริหาร ปรับโครงสร้างกลุ่มธุรกิจคอนโดฯใหม่ ลุยต่อไม่หยุดจ่อเปิดเกมส์บุกปี 2568           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา บริษัทฯมียอดขาย (Presales) จากโครงการที่อยู่อาศัย 35,435 ล้านบาท จากเป้าหมายที่ตั้งไว้ 35,000 ล้านบาท โดยแบ่งเป็น ยอดขายจากโครงการบ้านจัดสรรหรือที่อยู่อาศัยแนวราบภายใต้ บริษัท บริทาเนีย จํากัด (มหาชน) อยู่ที่ 6,544 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 18% ขณะที่ยอดขายที่อยู่อาศัยแนวสูง(คอนโดมิเนียม) อยู่ที่ 28,891 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วน 82% ภายใต้ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิลคอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL เป็นการตอกย้ำความสำเร็จโครงการเปิดใหม่และโครงการพร้อมอยู่ (Ready to move) ขณะเดียวกันยังสะท้อนความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และการอยู่อ่าศัยที่สร้างความพึงพอใจได้ครอบคลุม ตลาด Gen Y – Gen Z           ทั้งนี้ จากยอดขายรวมทั้งหมดในปีที่ผ่านมา แบ่งสัดส่วนตามสถานะโครงการเป็น ที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ (Ready to move) คิดเป็น 55% โดยเป็นโครงการพร้อมอยู่นั้นมีทั้ง คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านแฝดกระจายทำเลทั้งในกรุงเทพฯ และหัวเมืองหลักในต่างจังหวัด ส่วนสัดส่วนที่เหลือประมาณ 45% เป็นยอดขายจากโครงการที่เปิดขายใหม่ หรืออยู่ระหว่างดําเนินการก่อสร้าง(Ongoing) ซึ่งโครงการเปิดใหม่ในปี 2567 เน้นพื้นที่ทำเลระดับท้อปของประเทศรวมทั้งสิ้น 12 โครงการ มูลค่ารวม 19,400 ล้านบาท แบ่งเป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท และเป็นคอนโดมิเนียม 8 โครงการ มูลค่า 14,500 ล้านบาท           สำหรับโครงการคอนโดฯพัฒนาภายใต้แนวคิด “Creative Living for All” สู่ผู้บริโภค มูลค่ารวมกว่า 14,500 ล้านบาท อาทิ โครงการโซ ออริจิ้น บางเทา บีช (SO Origin Bangtao Beach) เป็นคอนโดมิเนียมระดับ Luxury สูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร 545 ยูนิต และ 1 คลับเฮ้าส์ มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ที่ปัจจุบันมียอดขายไปแล้ว 77%, โครงการ ดิ ออริจิ้น ศรีราชา(The Origin Sriracha) คอนโด Low Rise 2 อาคาร ความสูง 8 ชั้น จำนวน 499 ยูนิต ตกแต่งสไตล์ญี่ปุ่น บนทำเลศักยภาพติดถนนใหญ่ ศรีราชา-หนองค้อ ใกล้ J-Park เพียง 3 นาที ใกล้โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา เดินทางสะดวก ใกล้ด่านมอเตอร์เวย์ แหลมฉบัง-กรุงเทพ มูลค่ารวม 750 ล้านบาท ซึ่งมียอดขายแล้วประมาณ 50% และ โครงการ ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (Origin Place Taopoon Interchange) คอนโด High Rise สูง 32 ชั้น จำนวน 673 ยูนิต + 2 ร้านค้า เป็นห้องเพดานสูง 4.2 เมตร* เลี้ยงสัตว์ได้ มูลค่ารวม 2,300 ล้านบาท ขายไปแล้ว 66% เป็นต้น           ส่วนโครงการที่อยู่อาศัยแนวราบเปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 4,900 ล้านบาท  พัฒนาภายใต้แนวคิด “Crafting for Everlasting Growth” รังสรรค์เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคง ภายใต้ 3 Dimensions Strategy ประกอบด้วย  โครงการ ดุสิตสวีท เรสซิเดนเซส เขาใหญ่ (Dusit Suites Residences Khaoyai), โครงการ บริทาเนีย เวสต์เกต (Britania Westgate), โครงการบริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 (Britania Ratchaphruek 345) และโครงการ เบลกราเวีย เอ็กซ์คลูซีฟ ราชพฤกษ์-พระราม 5 (Belgravia Exclusive Ratchaphruek-Rama 5)           “เราดำเนินงานด้วยความมุ่งมั่น จาก Insight ของลูกค้า ที่นำมาสู่ข้อมูลด้านการวิจัยและวิเคราะห์เชิงลึกในทุกๆ ด้าน ตั้งแต่ ทำเล การใช้ชีวิต ไลฟ์สไตล์ การลงทุน อย่างจริงจัง เพื่อออกแบบสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์การอยู่อาศัยให้มากที่สุดสู่การต่อยอด Initiative ริเริ่มฟังก์ชันใหม่ โปรดักส์ใหม่ อย่างสร้างสรรค์ ตอบสนองทุกมิติของการใช้ชีวิต ตอกย้ำสถานะผู้นำตลาดคอนโดมิเนียม และ สร้าง Implementation ด้วยการนำเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ มาช่วยยกระดับคุณภาพมาตรฐานของโครงการ ตลอดจนบริการต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับคุณภาพชีวิตของผู้คนยุคใหม่ เพื่อให้ทุกโครงการสร้างความประทับใจและ พึงพอใจสูงสุดต่อผู้บริโภค” นายพีระพงศ์กล่าว ถึง Key Success Factor สำคัญที่ทำให้ ออริจิ้น ประสบความสำเร็จในปี 2567 ที่ผ่านมา ด้วยกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจภายใต้ 3I           นอกจากนี้ ภายใต้กลยุทธ์สร้างประสบการณ์ที่ดีด้านที่อยู่อาศัยให้กลุ่มลูกค้าบ้านและคอนโดฯแล้ว การเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางธุรกิจ เพื่อสร้างโอกาสด้านการตลาดและการขายเข้าถึงลูกค้ารายใหม่ ด้วยการตลาดเชิงรุกเจาะกลุ่มลูกค้าต่างชาติ เปิดตัว Origin Agent Club จับมือเอเจนท์กว่า 300 ราย เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ทำให้ยอดขายต่างชาติทั้งปีทะลุ 5,700 ล้านบาท เติบโต 225% และสูงสุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา นอกจากนี้ยังเตรียมเดินสายโรดโชว์ในปี 2568 พร้อมกับมีแผนเปิดสำนักงานขายในต่างประเทศ เพื่อนำอสังหาฯไทยเจาะตลาดโลก ไม่เพียงเท่านั้น ปีที่ผ่านมามีการจัดทัพทีมผู้บริหารใหม่ ปรับโครงสร้างใหญ่กลุ่มธุรกิจคอนโดฯ รวมพลังและทีมงานระดับมืออาชีพ วางรากฐาน New S-Curve การกระจายพอร์ตสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์เพื่อรองรับการเติบโตยั่งยืน           พร้อมกันนี้ นายพีระพงศ์ ยังกล่าวในตอนท้ายด้วยว่า แม้ตลอดปี 2567 ภาพโดยรวมของตลาดที่อยู่อาศัยนั้นเผชิญกับความท้าทายจากปัจจัยเสี่ยงในหลายๆ ด้าน แต่ยังเชื่อมั่นว่าผู้บริโภคยังมีความต้องการที่อยู่อาศัย เพราะบ้านยังคงเป็นปัจจัย 4 ที่สำคัญ ดังนั้นการจะเลือกเปิดตัวโครงการใหม่ต้องมีองค์ประกอบครบถ้วนและโดดเด่น สร้างแรงกระตุ้นให้ผู้บริโภคสนใจที่เดิมมีแผนจะซื้ออยู่แล้วแต่อาจลังเลให้รู้สึกว่า ออริจิ้น มีของดีมานำเสนอแบบที่พลาดไม่ได้จริงๆ และเพื่อให้ธุรกิจเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยื่น สิ่งที่ ออริจิ้น ให้ความสำคัญ คือ การปรับตัว ระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ การพิจารณาการเปิดตัวโครงการใหม่นั้น จึงมีความยืดหยุ่น เพิ่ม หรือ ลด ตามความเหมาะสมของสถานการณ์ ขณะเดียวกันก็มองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ทั้งธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ และ ธุรกิจเมกะเทรนด์ รวมถึงร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งรายเก่าและรายใหม่ในหลากหลายอุตสาหกรรมตามแผนสร้างการเติบโตและการดูแลผู้บริโภคแบบไม่สิ้นสุด           ทั้งนี้ บริษัทในเครือที่เป็นบริษัทมหาชน ได้แก่ บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) และบริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) จะเตรียมทยอยประกาศแผนการดำเนินธุรกิจประจำปี 2568 ในช่วงไตรมาส 1/2568 นี้ โดย บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) น่าจะประกาศแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงเดือน มี.ค.2568 ที่จะเปิดเกมส์บุกตลาดอสังหาฯ อีกครั้ง สำหรับ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ภายใต้ 4 กลุ่มธุรกิจ 1.กลุ่มธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 167 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 4/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) เป็นต้น รวมมูลค่าโครงการทั้งสิ้นกว่า 259,072 ล้านบาท โดยกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร หรือที่อยู่อาศัยแนวราบ ดำเนินการภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ส่วนกลุ่มโครงการแนวสูงหรือคอนโดมิเนียม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL 2.กลุ่มธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.กลุ่มธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.กลุ่มธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) เป็นกลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI ทุบสถิติขายต่างชาติพุ่ง 5,700 ลบ. เล็งโรดโชว์มุ่งตลาดโลก

ORI ทุบสถิติขายต่างชาติพุ่ง 5,700 ลบ. เล็งโรดโชว์มุ่งตลาดโลก

         หุ้นวิชั่น - ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI กวาดยอดขายต่างชาติทั้งปี 2567 กว่า 5,700 ล้าน เติบโต 225% ทุบสถิติสูงสุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท รัสเซีย-ไต้หวัน ขึ้นแท่นตลาดหลัก เล็งเดินสายโรดโชว์เปิดตลาดใหม่ต่อเนื่อง พร้อมพิจารณาเปิดสำนักงานขายในต่างประเทศ          นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ปี 2567 บริษัทมียอดขายจากตลาดลูกค้าต่างชาติสูงถึง 5,700 ล้านบาท เติบโตจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 225% และยังคงทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงหลัง COVID-19 โดยตลาดอสังหาริมทรัพย์ภูเก็ต ถือเป็นตลาดหลักที่ได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากลูกค้าต่างชาติ จนทำให้มียอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์ในภูเก็ตสูงถึงกว่า 2,300 ล้านบาท          “เราเดินหน้าเจาะกลุ่มตลาดลูกค้าต่างชาติโดยการเปิดตัว Origin Agent Club จับมือเอเจนท์อสังหาริมทรัพย์ไทยและต่างประเทศกว่า 300 บริษัท พร้อมทั้งเดินสายโรดโชว์ เเละทำการตลาดผ่านโซเชียลมีเดียในเเพลตฟอร์มหลากหลายประเทศ ทำให้เราสามารถเข้าถึงตลาดลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ ได้มากขึ้น โดยเฉพาะในทำเลจุดหมายปลายทางชาวต่างชาติอย่างภูเก็ตนั้น เราพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูส ที่มีไลฟ์สไตล์ที่ครบถ้วน ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า เช่น โครงการ ออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด ภูเก็ต บางเทา บีช มิกซ์ยูสแห่งใหม่ ใกล้หาดบางเทาเพียง 400 เมตร ซึ่งประกอบไปด้วย โรงแรม พูลวิลล่าและคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ โดยในส่วนของคอนโดมิเนียม โซ ออริจิ้น บางเทา บีช ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี สามารถกวาดยอดขายต่างชาติสะสมกว่า 1,300 ล้านบาท ครองแชมป์ยอดขายต่างชาติในพอร์ตขณะนี้” นายพีระพงศ์ กล่าว          ทั้งนี้ นอกจากโครงการในทำเลภูเก็ตนั้น บริษัทยังได้รับการตอบรับจากลูกค้าต่างชาติทั้งโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี ใจกลางเมือง เช่น ออริจิ้น ทองหล่อ เวิลด์ (Origin Thonglor World) เเละ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ (Park Origin Thonglor) รวมถึงโครงการแนวรถไฟฟ้าสถานีอินเตอร์เชนจ์สำคัญ เช่น ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ (Origin Place Taopoon Interchange)โดยตลาดลูกค้าหลักระดับท็อป 3 ประกอบด้วย ตลาดรัสเซีย จีน และไต้หวัน          นายธนกร วุฒิพงษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายธุรกิจต่างประเทศ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL กล่าวว่า ในช่วงปี 2568 บริษัทยังคงเดินหน้าเจาะตลาดลูกค้าต่างชาติเพิ่มเติม อาทิ การเปิดรับเอเจนท์รายใหม่ๆ เข้าร่วม Origin Agent Club การเดินสายโรดโชว์ไปยังตลาดประเทศใหม่ๆ การพิจารณาเปิดสำนักงานขายในต่างประเทศ ในประเทศที่มีลูกค้าให้ความสนใจ เพื่ออำนวยความสะดวกให้ลูกค้าเข้าถึงโครงการได้ง่ายขึ้น ขณะเดียวกัน บริษัทจะยังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับ Key Agent เพื่อรักษาฐานการเติบโตของตลาดประเทศในโซนเอเชีย เช่น ไต้หวัน ฮ่องกง ควบคู่กันไปด้วย เพื่อนำเสนอโครงการทั้งในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล และหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญของบริษัทให้ถึงมือกลุ่มลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น          “อสังหาริมทรัพย์ในไทยมีความโดดเด่นหลายด้าน ทั้งราคาที่ยังจับต้องได้ การออกแบบที่ดูทันสมัย ทำเลและสภาพอากาศที่เอื้อต่อการใช้ชีวิต เรามองว่าอสังหาริมทรัพย์ไทยมีศักยภาพที่จะเจาะตลาดโลกได้ เราจึงยังคงเดินหน้าสร้างเครือข่ายที่แข็งแกร่ง เพื่อให้อสังหาริมทรัพย์ของเราเป็นที่รู้จักและได้รับการยอมรับในตลาดโลกมากยิ่งขึ้น” นายธนกร กล่าว          ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย          1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท          2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

abs

ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร

ORI ยื่นไฟลิ่งหุ้นกู้ใหม่ขาย 10-13 ก.พ. 68

ORI ยื่นไฟลิ่งหุ้นกู้ใหม่ขาย 10-13 ก.พ. 68

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI ยื่นไฟลิ่งเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ล็อตใหม่ 3 รุ่น คาดเปิดขายระหว่างวันที่ 10 – 11 และวันที่ 13 ก.พ.นี้ ระดับความน่าเชื่อถือ “BBB+/Stable” จากทริสเรทติ้ง กางพอร์ตที่อยู่อาศัย 9 เดือน ยอดขายแกร่ง 26,849 ล้าน ทะลุ 77% ของเป้าหมายทั้งปี พร้อมแบ็คล็อกแกร่ง 47,329 ล้าน กรุงเทพฯ-ปริมณฑล-EEC-ภูเก็ต คาดทยอยรับรู้รายได้ในช่วงไตรมาส 4 จาก 3 โครงการร่วมทุนสร้างเสร็จใหม่มูลค่าโครงการกว่า 7,430 ล้าน คว้าอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ในระดับ “AAA” พร้อมรับการประเมิน CGR ระดับ 5 ดาวต่อเนื่อง 5 ปีซ้อน เดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจอย่างต่อเนื่องและมั่นคง           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่า บริษัทได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายตราสารหนี้และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ ต่อผู้ลงทุนทั่วไป และ ผู้ลงทุนสถาบัน (Public Offering) โดยหุ้นกู้ที่ออกจำหน่ายมีจำนวน 3 รุ่น ได้แก่ หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี 1 เดือน 8 วัน อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.40-4.50% ต่อปี หุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ 4.85% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 3 อายุ 4 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 5.15% ต่อปี โดย เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2567 ทริสเรทติ้ง ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” คาดว่าจะเสนอขายหุ้นกู้ 3 ชุดดังกล่าวในวันที่ 10-11 และ 13 ก.พ. 2568 นี้           ที่ผ่านมา ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 (ม.ค.-ก.ย.2567) บริษัทมียอดขายโครงการที่อยู่อาศัย ทั้งกลุ่มบ้านจัดสรรภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI และคอนโดมิเนียมภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL และบริษัทอื่นๆ ในเครือ รวมกันกว่า 26,849 ล้านบาท หรือคิดเป็นราว 77% ของเป้าหมายทั้งปี           ขณะเดียวกัน บริษัทยังมียอดโอนกรรมสิทธิ์จากทั้งกลุ่มโครงการร่วมทุน (Joint Venture หรือ JV) และกลุ่มโครงการที่ไม่ได้ร่วมทุน (Non-JV) เข้ามาอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นยอดโอนกรรมสิทธิ์สะสม 9 เดือน 10,502 ล้านบาท เมื่อประกอบกับรายได้จากธุรกิจที่นอกเหนือจากที่อยู่อาศัยที่บริษัทได้วางรากฐานกระจายพอร์ตไว้อย่างต่อเนื่อง อาทิ ธุรกิจโรงแรมภายใต้แบรนด์ดัง 11 แห่ง ธุรกิจคลังสินค้าหลากทำเลเปิดดำเนินการแล้วรวมกว่า 270,414 ตร.ม. ส่งผลให้กำไรสุทธิทั้งเครือในช่วงดังกล่าวสะสมอยู่ที่ 1,318 ล้านบาท           “เรายังมียอดขายรอรับรู้รายได้ หรือ แบ็คล็อก ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 สูงถึง 47,329 ล้านบาท เนื่องจากที่ผ่านมาเราได้กระจายการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยทั้งในกรุงเทพฯ ปริมณฑล เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ EEC ตลอดจนหัวเมืองท่องเที่ยวศักยภาพอย่างภูเก็ต ซึ่งช่วยส่งเสริมให้เรามีทยอยรับรู้รายได้ได้อย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่องจนถึงราวปี 2571” นายพีระพงศ์ กล่าว           ทั้งนี้ ในช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทจะมีโครงการร่วมทุนสร้างเสร็จใหม่ทั้งสิ้น 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 7,430 ล้านบาท ซึ่งมีแบ็คล็อกจาก 3 โครงการดังกล่าวแล้วกว่า 80% ได้แก่ 1.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) คอนโดมิเนียมเจาะตลาด Gen Y-Gen Z แห่งแรกของบริษัทในฝั่งธนบุรี ใกล้ MRT สิรินธร 2.โซ ออริจิ้น พหล 69 สเตชั่น (So Origin Phahol 69 Station) คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว เพียง 50 เมตร และใกล้สนามบินดอนเมือง และ 3.ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4 (Knightsbridge Space Sukhumvit-Rama 4) คอนโดมิเนียมใกล้ BTS พระโขนง           นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า การกระจายพอร์ตธุรกิจของบริษัทไปสู่กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัย เช่น ธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคลังสินค้า ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร ถือเป็นทิศทางที่บริษัทให้ความสำคัญอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน โดยแนวโน้มของกลุ่มธุรกิจดังกล่าวเข้ามามีส่วนช่วยสร้างสมดุล และสร้างรายได้ให้แก่ให้พอร์ต โดยในช่วงเดือน ต.ค.-พ.ย. 2567 โรงแรมในเครือมีอัตราเข้าพักเฉลี่ยถึง 75% ธุรกิจคลังสินค้ามีอัตราการเช่าเฉลี่ยถึง 90%           จากผลการดำเนินงานที่ต่อเนื่องและมั่นคง ใส่ใจสังคมและชุมชนรอบข้าง ส่งผลให้บริษัทได้รับคัดเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ติดอันดับหุ้นยั่งยืน SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ถึง 4 ปีซ้อน พร้อมทั้งได้รับการปรับระดับจาก AA ในปี 2566 สู่ระดับ “AAA” สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของบริษัทด้านความยั่งยืน พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม และความมุ่งมั่นของบริษัทในการรักษามาตรฐานผลการดำเนินงานด้านความยั่งยืน พัฒนาองค์กรให้เติบโต บริหารงานภายใต้หลักบรรษัทภิบาล ขณะเดียวกัน ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังได้รับคะแนนการประเมินการกำกับดูแลกิจการในรายงาน Corporate Governance Report of Thai Listed Companies หรือ CGR ประจำปี 2567 ของสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในระดับ 5 ดาว หรือ “ดีเลิศ” (Excellent CG Scoring) ต่อเนื่องถึง 5 ปีซ้อนอีกด้วย           ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย           1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท           2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก           3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์           4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI กางพอร์ตธุรกิจใหม่ ขึ้นแท่น New S-Curve

ORI กางพอร์ตธุรกิจใหม่ ขึ้นแท่น New S-Curve

          ออริจิ้น กางพอร์ต 3 กลุ่มธุรกิจใหม่ โรงแรม-คลังสินค้า-บริการ ขึ้นแท่น New S-Curve ขับเคลื่อนสร้างสมดุลการเติบโตอย่างยั่งยืน ครอบคลุมโรงแรมแบรนด์ดัง 11 แห่ง 2,657 ห้อง คลังสินค้าทำเลยุทธศาสตร์ขนส่ง 10 แห่ง และบริการอสังหาฯครบวงจรดูแล 44,650 ครอบครัว แย้มอัตราเข้าพักโรงแรมเดือน ต.ค.-พ.ย. ทะลุ 75% อัตราเช่าคลังสินค้าทะลุ 90% หลังตลาดเข้าช่วงไฮซีซั่นและฟรีวีซีซ่านักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ด้านธุรกิจบริการอสังหาฯ ครบวงจร กวาดรายได้ 9 เดือนกว่า 1,205 ล้าน วางรากฐาน New S-Curve เติบโตยั่งยืน           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ตลอดช่วงการดำเนินธุรกิจ 15 ปีที่ผ่านมา บริษัทให้ความสำคัญกับการวางรากฐานเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน จึงไม่ได้พัฒนาเฉพาะโครงการที่อยู่อาศัย (Residential) แต่ได้วางรากฐานการกระจายพอร์ตสู่ธุรกิจอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) อย่างธุรกิจโรงแรม ธุรกิจคลังสินค้า ตลอดจนธุรกิจบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร           สำหรับธุรกิจโรงแรม ดำเนินการภายใต้บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) มีโรงแรมที่เปิดให้บริการแล้วทั้งสิ้น 11 แห่ง 2,657 ห้องพัก คิดเป็นมูลค่า REIT รวมกว่า 16,840 ล้านบาท เติบโตผ่านทั้งการจับมือกับเครือโรงแรมชั้นนำระดับโลก อย่างเครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) ให้บริการโรงแรมถึง 5 แห่ง อาทิ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก ทองหล่อ, ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา-แหลมฉบัง, อินเตอร์คอนติเนนตัล กรุงเทพ สุขุมวิท การซื้อกิจการโรงแรมแบรนด์ ibis ในเครือแอคคอร์ (Accor) ทำเลหัวเมืองท่องเที่ยว 3 แห่ง ตลอดจนการซื้อโรงแรมในทำเลศักยภาพมารีโนเวทเพื่อดำเนินการใหม่เพิ่มเติม           ขณะที่ธุรกิจคลังสินค้า ภายใต้บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด มีคลังสินค้าทั้งแบบสร้างตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit Warehouse) และคลังสินค้าแบบสำเร็จรูป (Ready-Built Warehouse) กระจายตัวอยู่ 10 แห่ง ในหลากหลายทำเลยุทธศาสตร์ขนส่ง อาทิ สมุทรปราการ ปทุมธานี ฉะเชิงเทรา ชลบุรี คิดเป็นพื้นที่เช่ารวมกว่า 403,447 ตร.ม.           “สิ่งที่เราพยายามลงทุนไว้ก่อนหน้านี้ กำลังเข้ามาช่วยให้พอร์ตธุรกิจเราค่อยๆ สมดุลมากขึ้น ในช่วง 2 เดือนแรกของไตรมาส 4/2567 กลุ่มธุรกิจโรงแรมมีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยสูงถึง 75% สูงกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากเริ่มเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบแล้วในปีนี้ และเป็นที่รู้จักของตลาดมากขึ้น ประกอบกับเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว ภาครัฐมีนโยบายฟรีวีซ่ากับนักท่องเที่ยวประเทศใหม่ๆ เพิ่มเติม ฝั่งคลังสินค้าเองก็มีอัตราการเช่าที่แข็งแกร่งทะลุ 90%” นายพีระพงศ์ กล่าว           นายพีระพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับธุรกิจบริการอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร ภายใต้บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI นั้น ปัจจุบัน ดูแลลูกค้าตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทั้งควบคุมงานก่อสร้าง บริหารนิติบุคคล บริหาร Investment Property บริการออกแบบและตกแต่งภายใน บริการด้านความสะอาด รวม 229 โครงการ คิดเป็นจำนวนครอบครัวภายใต้การดูแลกว่า 44,650 ครอบครัว มีรายได้รวม 9 เดือน 1,205 ล้านบาท และกำไร 224 ล้านบาท           ขณะเดียวกันธุรกิจบริหาร Investment Property ภายใต้บริษัท แฮมป์ตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) ก็มีอัตราเช่าเฉลี่ยสูงถึง 81% สะท้อนถึงแนวโน้มความต้องการที่อยู่อาศัยแบบปล่อยเช่าทั้งในโซนย่านใจกลางธุรกิจ (CBD) และย่านเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ที่ยังมีความต้องการจากทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง           สำหรับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI เผย 9 เดือนกำไร 1,317ล้าน Q4/67 เปิด 3โครงการใหม่ต่อยอด

ORI เผย 9 เดือนกำไร 1,317ล้าน Q4/67 เปิด 3โครงการใหม่ต่อยอด

          ออริจิ้น กวาดยอดโอน 9 เดือนกว่า 10,500 ล้านบาท และกำไรกว่า 1,317 ล้านบาท  ขณะที่บอร์ดออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ หรือ ORI แต่งตั้ง “ปิติ จารุกำจร” นั่ง Co-CEO, Chief Design Officer และควบ CEO บริษัทย่อย “ออริจิ้น เวอร์ติเคิล” ไตรมาส 4/2567 เตรียมโอนกรรมสิทธิ์โครงการใหม่เพิ่มอีก 3 โครงการ 7,430 ล้าน มีแบ็คล็อกแล้วเฉลี่ยกว่า 80%           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้อยู่ที่ 9,638 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1,317 ล้านบาท ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท จึงมีมติเห็นชอบให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นสามัญจ่ายปันผลสำหรับกำไรสะสมและผลการดำเนินงานของบริษัทงวด 1 มกราคม - 30 กันยายน 2567 ในอัตรา 0.021 บาทต่อหุ้น คิดเป็นเงินปันผลจ่ายเป็นเงินสดทั้งสิ้นไม่เกิน 51.54 ล้านบาท โดยขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record Date) ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2567 และกำหนดจ่ายปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 13 ธันวาคม 2567           ขณะเดียวกัน ที่ประชุมได้มีมติแต่งตั้ง นายปิติ จารุกำจร ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม (Co-CEO), ประธานเจ้าหน้าที่สายงานออกแบบและพัฒนาผลิตภัณฑ์ (Chief Design Officer) บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ORIGIN VERTICAL) เพื่อเข้ามาช่วยดูแลการเติบโตและขับเคลื่อนธุรกิจคอนโดมิเนียมของบริษัทให้เดินหน้าไปได้อย่างแข็งแกร่ง           สำหรับนายปิติ จารุกำจร จบการศึกษาระดับปริญญาตรี จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และระดับปริญญาโท จากคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาวิศวกรรมก่อสร้างและการจัดการ มหาวิทยาลัยนอร์ทแคโรไลนาสเตต มีประสบการณ์คร่ำหวอดในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์มาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี เชี่ยวชาญทั้งงานด้านวิศวกรรม และงานบริหารโครงการ โดยเฉพาะกลุ่มโครงการคอนโดมิเนียม เข้ามาร่วมงานกับบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ตั้งแต่ปี 2564 และมีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจของบริษัทเดินหน้าไปได้ตามเป้าหมาย           นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า สำหรับช่วงไตรมาส 4/2567 นั้น บริษัทจะมีโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ พร้อมทยอยโอนกรรมสิทธิ์เพิ่มเติมอีก 3 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 7,430 ล้านบาท ได้แก่ 1.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) คอนโดมิเนียมเจาะตลาด Gen Y-Gen Z แห่งแรกของบริษัทในฝั่งธนบุรี ใกล้ MRT สิรินธร 2.โซ ออริจิ้น พหล 69 สเตชั่น (So Origin Phahol 69 Station) คอนโดมิเนียมใกล้รถไฟฟ้าสายสีเขียว เพียง 50 เมตร และใกล้สนามบินดอนเมือง และ 3.ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม 4 (Knightsbridge Space Sukhumvit-Rama 4) คอนโดมิเนียมใกล้ BTS พระโขนง โดยมียอดขายรอรับรู้รายได้ เฉลี่ยกว่า 80% ของมูลค่าโครงการรวม           “เราเห็นแนวโน้มการฟื้นตัวของกำลังซื้อ จากยอดขายในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งล่าสุด เมื่อช่วงปลาย ต.ค.-ต้น พ.ย.ที่ผ่านมา ลูกค้ากลับมามีความมั่นใจในการจับจ่ายใช้สอยมากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงครึ่งปีแรก จนส่งผลให้เรามียอดขายสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 1,088 ล้านบาท เราประเมินด้วยว่ามาตรการของภาครัฐบางส่วนที่กำลังจะหมดลงช่วงสิ้นปีนี้ เช่น การลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง น่าจะเป็นตัวเร่งที่ทำให้ลูกค้าตัดสินใจโอนกรรมสิทธิ์ได้เร็วขึ้น และส่งผลดีต่อภาพรวมทั้งตลาดในไตรมาสสุดท้าย” นายพีระพงศ์ กล่าว ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 3/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,516 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

abs

Hoonvision

ORI เปิดตัว 3 คอนโดหรูในภูเก็ต มูลค่า 5,500 ล้าน เจาะกลุ่มลูกค้าไทย-ต่างชาติ รับไฮซีซั่น

ORI เปิดตัว 3 คอนโดหรูในภูเก็ต มูลค่า 5,500 ล้าน เจาะกลุ่มลูกค้าไทย-ต่างชาติ รับไฮซีซั่น

          ORI ส่ง ออริจิ้น เวอร์ติเคิล บริษัท ในเครือ สยายปีกสู่ภูเก็ต เปิด 3 โครงการคอนโดใหม่มูลค่ารวม 5,500 ล้านบาท กระจายทำเลเชิงทะเล-กะตะ-ใจกลางเมือง ชูโครงการ “Origin Lagoon” มิกซ์ยูสระดับลักชัวรี พร้อมเปิดขายเฟสแรก 23 พ.ย. นี้ ตั้งเป้ารองรับตลาดท่องเที่ยวและการลงทุนของภูเก็ต           นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จังหวัดภูเก็ตเป็นจังหวัดท่องเที่ยวที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ เนื่องจากเป็นทั้งเมืองท่องเที่ยว เมืองแห่งธุรกิจ เมืองแห่งเวชศาสตร์ฟื้นฟู เมืองพักผ่อนตากอากาศ รวมถึงเป็นบ้านหลังที่สองของชาวต่างชาติ โดยเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์จากส่วนกลางรายแรกๆ ที่เดินหน้าเข้ามาบุกตลาด และได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติอย่างต่อเนื่อง บริษัทจึงเตรียมเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมเพิ่มเติมอีก 3 แห่ง บนทำเลฮอตของภูเก็ต 3 ทำเล มูลค่าโครงการรวม 5,500 ล้านบาท ในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้ รองรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ช่วงไฮซีซั่น           สำหรับทั้ง 3 โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย 1.ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) โครงการคอนโดมิเนียมใจกลางเมือง ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต เพียง 2 นาที* ต่อยอดความสำเร็จของโครงการดิ ออริจิ้น เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (The Origin Centre Phuket) ในทำเลใกล้เคียงกัน ซึ่งเปิดตัวในปี 2566 และสามารถปิดการขายได้ใน 6 สัปดาห์ 2.โซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) คอนโดมิเนียมใกล้หาดกะตะ เพียง 500 เมตร ตอบโจทย์คนรักกีฬาทางน้ำ และ 3.โซ ลากูน เชิงทะเล (So Lagoon Cherngtalay By Origin) คอนโดมิเนียมลักชัวรี 8 ชั้น ใกล้ Boat Avenue ที่จะเป็นพื้นที่เฟสแรกของโครงการเมกะโปรเจกต์มิกซ์ยูส “ออริจิ้น ลากูน เชิงทะเล ภูเก็ต” (Origin Lagoon Cherngtalay Phuket)           ทั้งนี้ ออริจิ้น ลากูน เชิงทะเล ภูเก็ต ตั้งอยู่บนพื้นที่ 16 ไร่ เตรียมผนึกกำลังหลากหลายบริษัทในเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ร่วมกันพัฒนาพื้นที่ให้เป็นโครงการมิกซ์ยูสที่บูรณาการทุกองค์ประกอบของการท่องเที่ยวและการพักผ่อนเข้าด้วยกัน เติมเต็มไลฟ์สไตล์ได้อย่างสมบูรณ์ ผสมผสานระหว่างลักชัวรี วิลลา ภายใต้ชื่อ บัลโค เชิงทะเล ภูเก็ต (Balco Cherngtalay Phuket) Lifestyle Hotelตลอดจนศูนย์เวลเนส (Wellness Complex) และมีคอนโดมิเนียม โซ ลากูน เชิงทะเล เป็นพื้นที่เฟสแรก ซึ่งจะเริ่มเปิดขายในเดือน พ.ย.นี้           “เมื่อช่วงต้นปี เราเปิดตัวโครงการโซ ออริจิ้น บางเทา บีช ภายใต้มิกซ์ยูสออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด ภูเก็ต และได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลาย มียอดขายสะสมสูงถึงกว่า 80% เรามองว่าการพัฒนาโครงการในรูปแบบมิกซ์ยูสเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติให้ความสำคัญ และช่วยสร้างสีสันให้กับจังหวัดภูเก็ต เราจึงมั่นใจว่าการเริ่มต้นพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสแห่งใหม่นี้ จะได้รับการตอบรับที่ดีเช่นกัน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว           สำหรับโซ ลากูน เชิงทะเล (So Lagoon Cherngtalay By Origin) เป็นโครงการคอนโดมิเนียมLow-rise 3 อาคาร 511 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 5 ไร่ บนทำเลเชิงทะเล-บางเทา ติดถนนบ้านดอนเชิงทะเล มูลค่าโครงการ 2,100 ล้านบาท* มีแบบห้องหลากหลายตั้งแต่สตูดิโอจนถึง 3 ห้องนอน ขนาด 26-105 ตร.ม. รายล้อมด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์หรูหรา และเป็นศูนย์กลางการเดินทางเพื่อไปยังสถานที่สำคัญต่างๆ ของภูเก็ตได้อย่างสะดวก อยู่ไม่ไกลจากหาดบางเทา หาดที่ขึ้นชื่อว่าพระอาทิตย์ตกสวยที่สุดในภูเก็ต ราคาเริ่มต้นที่ 2.89 ล้านบาท ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 1498           ขณะที่ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 3 อาคาร 585 ยูนิต และ 2 ร้านค้า ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 4 ไร่ มูลค่าโครงการ 1,800 ล้านบาท โครงการนี้ตั้งอยู่ใจกลางภูเก็ต ห่างจากห้างเซ็นทรัลภูเก็ต ฟลอเรสต้า เพียง 2 นาที ทำให้เป็นที่นิยมอย่างยิ่งในกลุ่มลูกค้าและนักลงทุนทั้งคนไทยและต่างชาติที่มองหาความสะดวกสบายใจกลางเมือง จุดเด่นของโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางใหญ่กว่า 1 ไร่ พร้อม Clubhouse เเบ่งออกเป็น Fitness, Sauna, Steam พร้อมสระว่ายน้ำยาวกว่า 30 เมตร พร้อมที่จอดรถกว่า 45%. ไฮไลท์สำคัญของโครงการคือรูปเเบบห้องหน้ากว้างกว่า 5 เมตร เริ่มต้นที่ 1 ห้องนอน ขนาด 26-30 ตร.ม,และ 2 ห้องนอนขนาด 48 ตร.ม โดยมีราคาเริ่มต้นที่ 1.89 ล้านบาท           ด้านโซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) เป็นโครงการคอนโดมิเนียม Low-rise 8 ชั้น 4 อาคาร 686 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ ใกล้หาดกะตะ เพียง 500 เมตร  มูลค่าโครงการราว 1,650 ล้านบาท ตัวโครงการตั้งอยู่บน Surfer Destination ของเกาะภูเก็ต ตอบโจทย์คนรักกีฬาทางน้ำด้วยทำเลใกล้หาดกะตะ สามารถเดินไปได้เพียง 5 นาที โครงการตกแต่งเป็น Resort Lifestyle  จัดเต็มกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ รวมกว่า 2,700 ตร.ม. อาทิ Pool Lounge, Party Room, Play Room, Cabana Yard และ ให้คุณได้ดื่มด่ำวิวพระอาทิตย์ขึ้นจาก Rooftop รูปแบบห้องพักภายในโครงการประกอบด้วย ห้องสตูดิโอ แบบ 1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน ขนาดตั้งแต่ 26-65 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 3.59 ล้านบาท           ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย  1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198  ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ออริจิ้น-บริทาเนีย ฉลองปิดยอดขายงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 กว่า 1,088 ล้าน

ออริจิ้น-บริทาเนีย ฉลองปิดยอดขายงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 กว่า 1,088 ล้าน

          ออริจิ้น เวอร์ติเคิล – บริทาเนีย ตอกย้ำผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่ใกล้รถไฟฟ้า และบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม สไตล์อังกฤษฟังก์ชันตอบโจทย์ ประกาศความสำเร็จในงานบิ๊กอีเวนท์มหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ กวาดยอดขายทะลุ 1,088 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลังแคมเปญ “จุ่มเด็ด Secret Deals” สร้างสีสัน พร้อมหนุนยอดโครงการใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน แบรนด์คอนโดหรู “พาร์ค ออริจิ้น” คอนโดคนรุ่นใหม่ “ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์เพลย์” และบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม “บริทาเนีย” นำทีมแบรนด์โครงการขายดี เลย์เอาท์ ฟังก์ชันโดดเด่น ขยายเวลารับโปรพิเศษ โปรเดียวกับงานมหกรรมบ้านและคอนโดต่อเนื่องถึง 10 พ.ย.นี้           นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากการเข้าร่วมออกบูธงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เมื่อวันที่ 31 ต.ค.-3 พ.ย. ที่ผ่านมา เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ สามารถกวาดยอดขายบ้านและคอนโดมิเนียมรวมกัน คิดเป็นยอดขายรวมกว่า 1,088 ล้านบาท ทุบสถิติยอดขายที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์การเข้าร่วมงานของเครือ และสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 600 ล้านบาท           “การจัดงานในช่วง 4 วันที่ผ่านมาได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าอย่างล้นหลาม ส่วนหนึ่งมาจากความต้องการซื้อที่อยู่อาศัยช่วงปลายปี อีกส่วนหนึ่งมาจากโปรโมชั่นเด็ดของเราในงานครั้งนี้ จุ่มเด็ด Secret Deals ที่เราขนทัพโครงการใกล้รถไฟฟ้า ใกล้ทางด่วน หลากหลายแบรนด์ หลากหลายเซ็กเมนท์ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท มีทั้งดีลผ่อนเบาๆ มีสิทธิ์ผ่อน 0% มีส่วนลดพิเศษ และมีสิทธิ์จุ่มรับ Art Toys เมื่อประกอบกับทำเลที่ตั้ง ภาพรวมฟังก์ชัน การออกแบบเลย์เอาท์ พื้นที่ในแต่ละโครงการ ตลอดจนนโยบายภาครัฐและการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จึงทำให้ลูกค้าตัดสินใจภายในงานได้ง่ายขึ้น” นายกฤษณ์ กล่าว           สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่ได้รับการตอบรับยอดเยี่ยม คือแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับลักชัวรี พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) อาทิ พาร์ค ออริจิ้น ทองหล่อ , พาร์ค ออริจิ้น จุฬา-สามย่าน , พาร์ค ออริจิ้น พร้อมพงษ์ เนื่องจากโครงการส่วนใหญ่ตั้งอยู่ในทำเลใจกลางเมือง ใกล้รถไฟฟ้า มีฟังก์ชันห้องที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิต มีพื้นที่ส่วนกลางหลากหลาย คุ้มค่า และแบรนด์คอนโดมิเนียมตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) อาทิ คอนโด ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ ลาดพร้าว อินเตอร์เชนจ์, ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ นนทบุรี สเตชั่น, ออริจิ้น ปลั้ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น, ออริจิ้น ปลั๊ก & เพลย์ รามคำแหง ทริปเปิ้ล สเตชั่น ออริจิ้น เพลย์ ศรีอุดม สเตชั่น ได้รับการตอบรับยอดเยี่ยมจากกลุ่ม Gen Y-Z ด้วยห้องเพดานสูง 4.2 เมตร การเป็นโครงการคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ (Pet Friendly)           ด้านนายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ความสำเร็จส่งท้ายปีของบริทาเนียในครั้งนี้ เป็นผลมาจากการยกทัพโครงการบ้านสไตล์อังกฤษ ครอบคลุมทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต มาจากทุกทำเลทั่วกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ตั้งแต่ โซนกรุงเทพฯ ตะวันออก, โซนกรุงเทพฯ ตอนเหนือ, โซนกรุงเทพฯ ตอนใต้ โซนกรุงเทพฯ ตะวันตก รวมถึงทำเลเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และจังหวัดอื่นๆ พร้อมทั้งมอบส่วนลดภายใต้แคมเปญ จุ่มเด็ด Secret Deals สูงสุดถึง 5 ล้านบาท           ทั้งนี้ 4 แบรนด์หลักของบริษัท ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) ไบรตัน (Brighton) ยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากผู้บริโภคทุกแบรนด์ เนื่องจากมีฟังก์ชันตอบโจทย์การอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่น ใกล้เส้นทางหลัก และทางด่วน ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ คอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม โรงพยาบาล มีแพ็คเกจบริการหลังการขายดูแลบ้านแบบครบวงจรภายใต้ Britania Craft Services ฟรีสูงสุดถึง 3 ปี โดยมีแบรนด์บริทาเนีย ที่ได้รับการตอบรับอย่างโดดเด่นที่สุด เนื่องจากมีโครงการครอบคลุมความต้องการในทำเลต่างๆ มากที่สุด รวมถึงสินค้าส่วนใหญ่เป็นมิกซ์โปรดักท์ ผสมผสานทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ภายในโครงการเดียว จึงมีทางเลือกและระดับราคาที่หลากหลายให้ผู้บริโภคในแต่ละทำเล ตัวอย่างโครงการขายดี อาทิ บริทาเนีย เมกะทาวน์-บางนา, บริทาเนีย บางนา กม.26, บริทาเนีย โฮม บางนา กม.17           จากกระแสตอบรับที่ดี เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ รวมถึงบริทาเนีย จึงได้ขยายเวลาการจัดโปรโมชั่นพิเศษจากงานมหกรรมบ้านและคอนโด เพิ่มไปอีก 7 วัน โดยลูกค้าที่จองตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 10 พ.ย.นี้ จะได้รับทั้งโปรโมชั่นจากจุ่มเด็ด Secret Deals รวมถึงโปรโมชั่น Top up อื่นๆ อาทิ ลุ้นรับ iPhone 16 128GB ทุกยูนิต สำหรับผู้ที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในวันที่ 22 พ.ย.นี้ ผู้สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และรับสิทธิพิเศษได้ที่สำนักงานขายแต่ละโครงการ           สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 5 แบรนด์และกลุ่มเซ็กเมนท์ ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่ ระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับ Mid-End ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท 5.กลุ่มแบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า (Branded Residences Villa) บ้านพักตากอากาศระดับ Luxury ราคา 19-60 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2567 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 45 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 57,372 ล้านบาท           บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI กางพอร์ตอสังหาฯยืน1 EEC 37,000 ล้าน ชูกลยุทธ์เชื่อมอีโคซิสเท็มในเครือครบวงจร

ORI กางพอร์ตอสังหาฯยืน1 EEC 37,000 ล้าน ชูกลยุทธ์เชื่อมอีโคซิสเท็มในเครือครบวงจร

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ รวมพลัง ออริจิ้น เวอร์ติเคิล-บริทาเนีย-ออริจิ้น โฮเทล-แอลฟา-พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น กางพอร์ตอสังหาฯครบวงจรเบอร์ 1 ใน EEC พัฒนาคอนโด-บ้าน-โรงแรม-คลังสินค้า ในชลบุรี-ระยอง-ฉะเชิงเทรา สะสมถึงปัจจุบันกว่า 37,000 ล้าน กว่า 12,000 ยูนิต 550 ห้องพัก และคลังสินค้าราว 199,000 ตร.ม. ชูกลยุทธ์ภาพใหญ่ “Origin EEC Empowered” เชื่อมโยงอีโคซิสเท็มอสังหาฯและบริการในเครือแบบครบวงจร เสิร์ฟตลาด Corporate-นักลงทุนที่สยายปีกปักหมุดโรงงาน-ฐานการผลิตใน EEC ประเมินความต้องการคลังสินค้าโต ลุยมอบบริการในที่พัก เสริมสวัสดิการ Corporate ดูแลพนักงาน-Expat ย้ายถิ่นฐานทำงาน             นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ถือเป็นพื้นที่ทางเศรษฐกิจที่สำคัญระดับท็อปของประเทศ และเป็นพื้นที่ที่เครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ให้ความสำคัญในการเข้ามาบุกเบิกพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์เป็นรายแรกๆ โดยตลอด 1 ทศวรรษที่ผ่านมา บริษัทได้มีส่วนสร้างการเจริญเติบโตในพื้นที่ชลบุรี ระยอง ฉะเชิงเทรา ด้วยการพัฒนาโครงการทั้งคอนโดมิเนียม บ้านจัดสรร โรงแรม และคลังสินค้า สะสมในพื้นที่รวม 33 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการและมูลค่า REIT รวมกว่า 37,000 ล้านบาท และนับเป็นพอร์ตโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่ครบวงจรที่สุดเป็นอันดับ 1 ใน EEC ขณะนี้           จากประสบการณ์ความเชี่ยวชาญอสังหาริมทรัพย์หลากหลายประเภทและหลากหลายเซ็กเมนท์ใน EEC บริษัทเล็งเห็นความสำคัญถึงการมีส่วนสนับสนุนภาคธุรกิจต่างๆ ที่จะเข้ามาลงทุนในพื้นที่นี้ บริษัทจึงได้ผนึกกำลังกับทุกบริษัทในเครือ ได้แก่ บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI บริษัท ออริจิ้น โฮเทล จำกัด (มหาชน) บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด และ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI เดินหน้ากลยุทธ์ “Origin EEC Empowered” ส่งพลังสู่ EEC ด้วยการรวมสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ในเครือมาเชื่อมโยงเป็นอีโคซิสเท็ม และส่งมอบโซลูชั่นบริการแก่ลูกค้าภาคธุรกิจ (Corporate) แบบครบจบในที่เดียว (One-stop service)           “เราประเมินว่าคนที่ต้องการที่อยู่อาศัยในพื้นที่ EEC ไม่ได้มีแค่ลูกค้าทั่วไป ตลาดใน EEC วันนี้ ยังขยายขอบเขตไปถึงกลุ่มลูกค้า Corporate ที่เข้ามาลงทุนในพื้นที่ และต้องการที่อยู่อาศัยเพื่อรองรับพนักงานชาวไทยที่ย้ายถิ่นฐานจากจังหวัดอื่น รวมถึงพนักงานชาวต่างชาติหรือ Expat ที่ย้ายถิ่นฐานจากต่างประเทศเข้ามาทำงาน เวลา Corporate เข้ามาจะไม่ได้หาแค่ที่อยู่อาศัย แต่ต้องการโซลูชั่นที่ช่วยให้สามารถทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้น เราจึงรวบรวมที่อยู่อาศัยที่เราพัฒนาสะสมกว่า 12,000 ยูนิต โรงแรมทั้งในชลบุรี และระยอง 550 ห้องพัก พร้อมพื้นที่รองรับการจัดประชุมสัมมนา พื้นที่เช่าคลังสินค้า ตลอดจนบริการที่เกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัย มารวมกันพร้อมเสิร์ฟในที่เดียว ซึ่งน่าจะช่วยให้แผนการขยายการลงทุนของบริษัทต่างๆ ทำได้ง่ายขึ้น”​ นายอภิสิทธิ์ กล่าว           ด้านนายปธาน สมบูรณสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอลฟา อินดัสเทรียล โซลูชั่น จำกัด หรือ ALPHA ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอุตสาหกรรม ภายใต้การร่วมทุนระหว่างบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI และบริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGJWD กล่าวว่า โซน EEC เป็นพื้นที่ที่เศรษฐกิจเติบโตสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ และเติบโตสูงกว่าค่าเฉลี่ย GDP ทั้งประเทศ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน การลงทุนของภาครัฐ และภาคอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะ 5 ปี (2567-2571) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ตั้งเป้าหมายดึงดูดการลงทุนเข้ามาในพื้นที่มูลค่า 5 แสนล้านบาท หรือเฉลี่ยปีละ 1 แสนล้านบาท จึงส่งผลให้ความต้องการโรงงานและคลังสินค้าเพิ่มขึ้นตามไปด้วย [caption id="attachment_10941" align="aligncenter" width="1920"] Screenshot[/caption]           “โรงงานและคลังสินค้า คือจุดเริ่มต้นของอีโคซิสเท็มใน EEC ปัจจุบัน แอลฟา มีโครงการคลังสินค้าในพื้นที่ EEC ทั้งสิ้น 5 แห่ง คิดเป็นพื้นที่ให้เช่ารวมกว่า 199,000 ตร.ม. โดยบางส่วนทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จ และได้ส่งมอบแล้วตั้งแต่ไตรมาส 2/2567 มีอัตราการเช่าเฉลี่ยประมาณ 80% และคาดว่าจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกัน ส่วนที่อยู่ระหว่างก่อสร้างอีกกว่า 87,000 ตร.ม. จะทยอยก่อสร้างแล้วเสร็จภายในช่วงไตรมาส 1/2568 อีกทั้งยังมีแผนพัฒนาพื้นที่คลังสินค้าใน EEC อย่างต่อเนื่อง เราเชื่อมั่นว่า บริษัทมีความพร้อมรองรับทุกการลงทุนจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบ ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการดำเนินธุรกิจของลูกค้าทุกๆ ด้าน และเชื่อมต่อกับความครบวงจรของสินค้าและบริการอื่นๆ ในเครือออริจิ้น” นายปธาน กล่าว           ด้านนายสุรินทร์ สหชาติโภคานันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI กล่าวว่า EEC เปรียบเสมือน Destination hub หรือจุดหมายปลายทางของการลงทุนทางธุรกิจ โดยเฉพาะการตั้งโรงงานผลิตของธุรกิจต่างๆ ส่งผลให้เกิดการขยายตัวของทั้งแรงงานชาวไทย และชาวต่างชาติ เพิ่มมากขึ้น โดยช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 มีการยื่นคำขอรับการส่งเสริมการลงทุนใน EEC ถึง 179,984 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 17% โดยเฉพาะกลุ่มโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้า อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่มีการคาดการณ์ว่าจะมีประชากรในพื้นที่ EEC เพิ่มขึ้นอีกราว 1.2-1.5 ล้านคนภายในปี 2580             ทั้งนี้ PRI พร้อมร่วมเชื่อมโยงอีโคซิสเท็มภายใต้กลยุทธ์ “Origin EEC Empowered” ด้วยการนำ The exceptional prime service จากทุกบริษัทในเครือพรีโม มาส่งมอบบริการที่สมบูรณ์แบบให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรในทุกมิติ สู่ภาค EEC ครอบคลุมทั้งกลุ่มลูกค้า B2B และ B2C ที่มีความต้องการบริการที่แตกต่างกัน           สำหรับเครือออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ถือเป็นผู้นำที่เข้ามาบุกเบิกโครงการอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่ EEC มีโครงการขนาดใหญ่เป็นโครงการมิกซ์ยูสถึง 2 แห่ง ได้แก่ ออริจิ้น สมาร์ท ดิสทริค ศรีราชา แหลมฉบัง และออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง มีโครงการคอนโดมิเนียมในพื้นที่หลากหลายแบรนด์ อาทิ เคนซิงตัน ไนท์บริดจ์ ดิ ออริจิ้น โซ ออริจิ้น บริกซ์ตัน มีโครงการบ้านมิกซ์โปรดักท์ภายใต้แบรนด์บริทาเนีย มีโรงแรมภายใต้เครือโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล (IHG) ที่เปิดให้บริการใน EEC แล้ว 2 แห่ง ได้แก่ ฮอลิเดย์ อินน์ แอนด์ สวีทส์ ศรีราชา แหลมฉบัง ฮอลิเดย์ อินน์ เอ็กซ์เพรส ระยอง มีคลังสินค้าภายใต้แบรนด์แอลฟา อาทิ โครงการแอลฟา แหลมฉบัง และแอลฟา พานทอง           ทั้งนี้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร [PR News]

ORI - BRI เสนอ “จุ่มเด็ด Secret Deals” ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46

ORI - BRI เสนอ “จุ่มเด็ด Secret Deals” ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด ครั้งที่ 46

           ออริจิ้น เวอร์ติเคิล ร่วมกับ บริทาเนีย สานฝันคนอยากมีบ้านและคอนโด ขนทัพบ้านหรู บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียมพร้อมอยู่รวม 58 โครงการ ร่วมออกบูธภายในงานมหกรรมบ้านและคอนโดครั้งที่ 46 พร้อมจัดเต็มดีลพิเศษผ่านแคมเปญ “จุ่มเด็ด Secret Deals” ชวนจุ่มรับดีลเด็ด พร้อมส่วนลด และดีลพิเศษ เพียงจองภายในงาน เริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท สำหรับสิทธิพิเศษที่มานำเสนอในงาน ได้แก่ 1.ดีลเด็ดไม่ต้องจุ่ม มอบสิทธิพิเศษผ่อนเบาๆ เริ่มต้นเพียงล้านละ 900 บาท นาน 2 ปี* หรือเลือกรับดอกเบี้ย 0%* นานสูงสุด 2 ปี* 2.จุ่มใหญ่ไฟกระพริบ ลุ้นรับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 5 ล้านบาท* 3. ดีลดี ON TOP จาก NocNoc* และ 4. จุ่มเด็ดตลอดเดือน จองปุ๊บจุ่มปั๊บ รับ Art Toys สุดน่ารักทุกยูนิต พร้อมรับดีลลับจากธนาคารชั้นนำ *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด พบกันได้ที่บูธ 241-245 และ 288 – 300 ฮอลล์ 5 ชั้น LG ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เวลา 10.00 – 20.00 น. วันที่ 31 ตุลาคม - 3 พฤศจิกายน 2567            ในงานพบกับข้อเสนอพิเศษของคอนโดมิเนียมในเครือ ออริจิ้น เวอร์ติเคิล ที่นำมาร่วมงานรวมจำนวน 32 โครงการ ภายใต้แบรนด์ อาทิ ดิ ออริจิ้น (The Origin) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) บนทำเลศักยภาพทั่วกรุงเทพฯและปริมณฑล ใกล้รถไฟฟ้าทุกสาย และคอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ (Origin Pet Friendly Condo) ราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท            ด้านบริทาเนีย ได้นำบ้านจัดสรรพร้อมอยู่ ภายใต้ 4 แบรนด์หลักรวม 27 โครงการ ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) ไบรตัน (Brighton) มาร่วมงาน ราคาเริ่ม 2.99 - 40 ล้านบาท* โดยบริทาเนียมอบข้อเสนอพิเศษเพิ่มอีกขั้น บริทาเนียบินลัดฟ้าพาเที่ยวอังกฤษ สำหรับลูกค้าที่จองและโอนกรรมสิทธิ์ ตั้งแต่วันที่ 25 ต.ค. - 27 ธ.ค 67* ดีลดี ฟรีส่วนกลาง นานสูงสุด 3 ปี* *เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด [PR News]

[PR News] ออริจิ้น-บริทาเนีย จัดแคมเปญใหญ่ภายใต้ชื่อ “จุ่มเด็ด Secret Deals”

[PR News] ออริจิ้น-บริทาเนีย จัดแคมเปญใหญ่ภายใต้ชื่อ “จุ่มเด็ด Secret Deals”

          ออริจิ้น เวอร์ติเคิล - บริทาเนีย จับเทรนด์กล่องสุ่ม เปิดตัวแคมเปญคอนโด-บ้านไตรมาส 4 “จุ่มเด็ด Secret Deals” ยกทัพโครงการที่อยู่อาศัยพร้อมอยู่ 70 โครงการ จับมือหลากพันธมิตร อาทิ NocNoc, WydE Interior ชวนลูกค้าจุ่มดีลเด็ด รับโปรเพิ่มสูงสุด 10 รายการ, ผ่อนต่ำล้านละ 900 บาท นาน 2 ปี*, ดอกเบี้ย 0% นาน 2 ปี* และรับส่วนลดสูงสุด 5 ล้าน* วันนี้ ถึง 30 พ.ย.นี้ พร้อมจัดโปรฯ ใหญ่ไฟกระพริบ ในงานมหกรรมบ้านและคอนโด 31 ต.ค. - 3 พ.ย.นี้           นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมกับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เตรียมจัดแคมเปญใหญ่ประจำไตรมาส 4/2567 ภายใต้ชื่อ “จุ่มเด็ด Secret Deals” จัดทัพโครงการคอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่    ทาวน์โฮม พร้อมอยู่จากหลากหลายเซ็กเมนท์ หลากหลายแบรนด์ รวมกว่า 70 โครงการทั่วประเทศ มามอบสิทธิ์จุ่มดีลเด็ด พร้อมโปรโมชั่นสุดพิเศษถึง 4 ชั้น ช่วยให้ลูกค้าสามารถเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยได้ก่อนปีใหม่           สำหรับสิทธิพิเศษ 4 ชั้น ประกอบด้วย 1.ดีลเด็ดไม่ต้องจุ่ม มอบสิทธิพิเศษผ่อนเบาๆ เริ่มต้นเพียงล้านละ 900 บาท นาน 2 ปี* หรือเลือกรับดอกเบี้ย 0%* นานสูงสุด 2 ปี* 2.จุ่มใหญ่ไฟกระพริบ ลุ้นรับส่วนลดพิเศษสูงสุดถึง 5 ล้านบาท* 3. ดีลดี ON TOP จาก NocNoc* และ 4. จุ่มเด็ดตลอดเดือน จองปุ๊บจุ่มปั๊บ รับ Art Toys สุดน่ารักทุกห้อง พร้อมรับดีลลับจากหลากหลายพันธมิตร           “ไตรมาส 4 คือช่วงเวลาก่อนปีใหม่ เราอยากให้ลูกค้าได้ทั้งความสนุกส่งท้ายปี ได้ทั้ง Art Toys สุดฮิตในเวลานี้และตัว Secret สุดว๊าวที่ทุกคนตามหา รวมถึงได้มีโอกาสเป็นเจ้าของที่อยู่อาศัยแห่งใหม่จากเครือของเรา ที่มีฟังก์ชันพร้อมตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชันทั่วประเทศ เราคิดว่าแคมเปญและโปรโมชั่นทั้งหมดนี้ คือของขวัญปีใหม่ให้กับลูกค้าของเรา” นายกฤษณ์​ กล่าว           สำหรับฝั่งคอนโดมิเนียม บริษัทนำทัพโครงการพร้อมอยู่จากหลากทำเลทั่วประเทศ ทั้งกรุงเทพฯ สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี ชลบุรี ระยอง เข้าร่วมจำนวน 31 โครงการ ภายใต้หลากหลายแบรนด์ อาทิ ดิ ออริจิ้น (The Origin) ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play) ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play) พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin) มีหลากจุดเด่นให้เลือก ตั้งแต่คอนโดใกล้รถไฟฟ้า สายสีเขียว สายสีม่วง สายสีเหลือง สายสีส้ม คอนโดเลี้ยงสัตว์ได้ ภายใต้แนวคิด Origin Pet Friendly Condo คอนโดเพดานสูง 4.2 เมตร คอนโดใจกลางเมือง จุฬา-สามย่าน พญาไท พร้อมพงษ์ ทองหล่อ คอนโด EEC ใกล้แหล่งงาน ใกล้นิคม คอนโดใกล้มหาวิทยาลัย ราคาเริ่มต้นเพียง 1.39 ล้านบาท คาดว่าจะพร้อมตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มทั้งผู้ซื้ออยู่เอง และผู้ซื้อเพื่อลงทุนระยะยาว           ด้านนายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI ผู้นำในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อสังคมที่ดีอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ไตรมาส 4 ของทุกปี คือช่วงเวลาที่ผู้บริโภคให้ความสนใจและตัดสินใจซื้อที่อยู่อาศัยมากที่สุด ส่วนหนึ่งคือเพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้ตัวเอง จึงเป็นโอกาสทองที่จะช่วยให้ผู้บริโภคได้รับของขวัญปีใหม่แบบหลายเด้ง ไปพร้อมกับบ้านหลังใหม่ เพื่อใช้ชีวิตร่วมกับคนที่ตัวเองรักอย่างมีความสุขในปี 2568                    สำหรับบริทาเนีย ได้นำบ้านจัดสรรพร้อมอยู่ ภายใต้ 4 แบรนด์หลักของบริทาเนีย ได้แก่ เบลกราเวีย (Belgravia) แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บริทาเนีย (Britania) ไบรตัน (Brighton) รวม 39 โครงการ ซึ่งกระจายตัวอยู่ทั้งในโซน บางนา - บางพลี - บางบ่อ, แพรกษา - เทพารักษ์, พระราม 9 - กรุงเทพกรีฑา, ทวีวัฒนา - ปิ่นเกล้า - บรมราชชนนี, รามอินทรา - วัชรพล - จตุโชติ, สุขสวัสดิ์ - ประชาอุทิศ - พระราม 2, พระราม 5 - ราชพฤกษ์ - นนทบุรี, สายไหม - คูคต, บางปะกง - ฉะเชิงเทรา - อมตะนคร, ต่างจังหวัด มาร่วมแคมเปญ ราคาเริ่ม เริ่ม 2.44 - 40 ล้านบาท*           “บริทาเนียโดดเด่นเรื่องบ้านสไตล์อังกฤษ และสไตล์โมเดิร์น ซึ่งเป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เราให้ความสำคัญกับการอยู่ร่วมกันของคนในครอบครัวทุกเจเนอเรชั่น ให้ความสำคัญกับความสะดวกในการเดินทาง โครงการของเราทุกแห่งจึงมีมุมพักผ่อนสำหรับทุกคนในบ้าน ตั้งอยู่ใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย อาทิ ทางด่วน รถไฟฟ้า คอมมูนิตี้มอลล์ โรงแรม โรงพยาบาล และแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ เราเชื่อว่าบ้านของเราและแคมเปญส่งท้ายปีนี้ จะช่วยมอบความสุขให้กับลูกค้า” นายสิริพงศ์ กล่าว           สำหรับบริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เป็นผู้พัฒนาบ้านจัดสรรภายใต้คอนเซปต์ CRAFT a life you love ดีที่สุดคือใช้ชีวิตในแบบที่รัก พัฒนาทั้งบ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ ทาวน์โฮม ครอบคลุมผู้บริโภคทุกเซ็กเมนท์ ภายใต้ 5 แบรนด์และกลุ่มเซ็กเมนท์ ได้แก่ 1.เบลกราเวีย (Belgravia) บ้านเดี่ยวลักชัวรี ระดับราคา 20-50 ล้านบาท 2.แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่ ระดับ High-End ราคา 8-20 ล้านบาท 3.บริทาเนีย (Britania) บ้านเดี่ยว บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับ Mid-End ราคา 4-8 ล้านบาท และ 4.ไบรตัน (Brighton) บ้านซีรีส์ใหม่ และทาวน์โฮม ระดับเริ่มต้น (Entry) ราคา 2.5-4 ล้านบาท 5.กลุ่มแบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า (Branded Residences Villa) บ้านพักตากอากาศระดับ Luxury ราคา 19-60 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 พัฒนาโครงการมาแล้วทั้งสิ้น 43 โครงการ คิดเป็นมูลค่าโครงการสะสม 54,122 ล้านบาท           บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย           1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท           2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก           3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์           4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

[PR News] ORI มัดรวม 8 โครงการคอนโด-บ้านสวยเปิดใหม่ 12,580 ล้าน

[PR News] ORI มัดรวม 8 โครงการคอนโด-บ้านสวยเปิดใหม่ 12,580 ล้าน

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ มัดรวม 8 โครงการคอนโด-บ้านสวยเปิดใหม่ในเครือทั่วประเทศ รวมกว่า 12,580 ล้านบาท ชู 5 จุดเด่นมัดใจผู้ซื้อ วิวสวย-ห้องและส่วนกลางโอ่อ่า-มีฟังก์ชันตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชัน-เลี้ยงสัตว์ได้-เดินทางสะดวก ปักหมุดหลากทำเล แจ้งวัฒนะ-เตาปูน-เศรษฐบุตร-ราชพฤกษ์-เวสต์เกต-ภูเก็ต-ชลบุรี-โคราช ราคาเริ่มต้น 1.39 ล้าน เอาใจทั้งผู้ซื้ออยู่เอง-ซื้อปล่อยเช่า กวาดยอดขาย 9 เดือนแรก 26,817 ล้านบาท คิดเป็น 67% ของเป้าหมาย คาดเปิดโครงการใหม่ไตรมาส 4/2567 เพิ่มอีก 10 โครงการ มูลค่าประมาณ 15,000 ล้าน           นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า ปี 2567 ถือเป็นปีที่ท้าทายของตลาดอสังหาริมทรัพย์ บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการคัดเลือกทำเลในการเปิดโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรในปีนี้อย่างเข้มข้น รวมทั้งให้ความสำคัญกับการออกแบบทั้งภายในห้องพัก พื้นที่ส่วนกลาง ตลอดจนการวางคอนเซ็ปต์แนวคิดแต่ละโครงการอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน สามารถเข้าถึงโครงการคุณภาพที่มีความโดดเด่นในทุกองค์ประกอบ           สำหรับปัจจัยที่บริษัทใช้เป็นจุดแข็งที่โครงการเปิดตัวใหม่ในปีนี้ต้องมี ได้แก่ 1.วิวสวย เช่น หากเป็นโครงการคอนโดมิเนียม เน้นเลือกทำเลโครงการที่มองเห็นวิวโค้งน้ำ ตลอดจนวิวเมืองได้อย่างรอบทิศจากพื้นที่ส่วนกลาง สร้างบรรยากาศที่เหมาะแก่การพักผ่อนในที่อยู่อาศัย 2.ห้องและพื้นที่ส่วนกลางโอ่อ่า ให้ความสำคัญกับความรู้สึกโปร่ง โล่ง สบายของการพักอาศัยทั้งภายในพื้นที่ส่วนกลาง และภายในห้องพัก เช่น การมีห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร 3.มีฟังก์ชันตอบโจทย์คนทุกเจเนอเรชัน เพื่อให้ทุกคนในครอบครัว สามารถมีความสุขที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของตัวเองได้ โดยเฉพาะในกลุ่มโครงการบ้านจัดสรร 4.เลี้ยงสัตว์ได้ ใส่ใจพื้นที่ส่วนกลางที่เป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยง (Pet-friendly) รองรับการเติบโตของกลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยง (Pet Lover) และ 5.เดินทางสะดวก ใกล้รถไฟฟ้า ทางด่วน ตลอดจนสถานที่สำคัญในการใช้ชีวิต เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า           “สภาพเศรษฐกิจปีนี้ อาจมีสถานการณ์ทั้งภายในประเทศและภายนอกต้องจับตาอย่างใกล้ชิดหลายอย่าง ทำให้ผู้บริโภคบางกลุ่ม แม้จะมีกำลังซื้อ แต่ก็ตัดสินใจซื้อช้าลงกว่าปกติ อย่างไรก็ดี บ้านยังคงเป็นปัจจัย 4 สิ่งที่เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษในปีนี้ จึงเป็นการเลือกเปิดตัวเฉพาะโครงการที่มีองค์ประกอบความโดดเด่นครบถ้วน กระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกว่า เรากำลังมีของดีมานำเสนอ และเป็นของดีที่พลาดไม่ได้” นายพีระพงศ์ กล่าว           ทั้งนี้ บริษัทได้คัดเลือกโครงการคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรที่เป็นไฮไลต์เปิดตัวใหม่ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้มา 8 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 12,580 ล้านบาท ได้แก่ 1.โซ​ ออริจิ้น บางเทา บีช คอนโดมิเนียมลักชัวรี 8 ชั้น 3 อาคาร ภายใต้มิกซ์ยูส ออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด ภูเก็ต | บางเทา บีช ติดหาดบางเทา หาดที่วิวพระอาทิตย์สวยที่สุด 2.ออริจิ้น เพลส เตาปูน อินเตอร์เชนจ์ โครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในย่านเตาปูน มองเห็นวิวแบบพาโนรามิก ทั้งวิวโค้งน้ำเจ้าพระยา วิวเมือง วิวสวนจตุจักร 3.ออริจิ้น เพลส แจ้งวัฒนะ โครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้แห่งแรกในย่านแจ้งวัฒนะ มาพร้อมห้องแบบเพดานสูง 4.2 เมตร สูงที่สุดในแจ้งวัฒนะ 4.ดิ ออริจิ้น เศรษฐบุตร คอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพู มาพร้อม Smart Kitchen และ Smart Energy เช่น EV Charger, Solar Roof 5.ดิ ออริจิ้น ศรีราชา โครงการภายใต้มิกซ์ยูส ออริจิ้น สมาร์ท วิลเลจ ศรีราชา ใกล้ห้าง โรงเรียนดัง ในศรีราชา ราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท 6. แบรนเด็ด เรสซิเดนซ์ วิลล่า เขาใหญ่ ในพื้นที่อาณาจักรมิกซ์ยูส “ออริจิ้น รีสอร์ท เวิล์ด | เขาใหญ่”7.บริทาเนีย เวสต์เกต โครงการมิกซ์โปรดักท์บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่ ติดถนนสายหลักย่านบางใหญ่ ใกล้เซ็นทรัล เวสต์เกต มาพร้อมคลับเฮาส์และพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ และ 8.บริทาเนีย ราชพฤกษ์ 345 โครงการมิกซ์โปรดักท์บ้านเดี่ยวและบ้านซีรีส์ใหม่สไตล์อังกฤษ มาพร้อม Main Gate และคลับเฮาส์ขนาดใหญ่ ตัวบ้านพื้นที่ใช้สอยกว้างขวาง           นายพีระพงศ์ กล่าวอีกว่า นอกเหนือจาก 8 โครงการดังกล่าว ในช่วงไตรมาส 4/2567 นี้ บริษัทเตรียมพิจารณาเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยในเครือรวม 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวมกว่า 15,000 ล้านบาท อย่างไรก็ดี บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับความยืดหยุ่นของแผนการดำเนินงาน เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจ ปัจจัยภายนอก ตลอดจนความต้องการของแต่ละทำเล โดยอาจพิจารณาปรับเปลี่ยนโครงการเพิ่มหรือลดตามความเหมาะสม           ขณะเดียวกัน บริษัทยังได้เตรียมแคมเปญสำหรับการกระตุ้นยอดขายและยอดโอนกรรมสิทธิ์สำหรับฝั่งโครงการพร้อมอยู่เพิ่มเติม คาดว่าจะเปิดเผยรายละเอียดได้เร็วๆ นี้ ล่าสุด บริษัทมียอดขายสะสมในช่วง 9 เดือนแล้ว 26,817 ล้านบาท หรือประมาณ 67% ของเป้าหมายยอดขายทั้งปี           ขณะที่บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย 1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198  ล้านบาท 2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก 3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ และ 4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

[PR News] ORIGIN GIVE จับมือ PRIMO CARE และพันธมิตร ร่วมสนับสนุนเทศกาลถือศีลกินผัก

[PR News] ORIGIN GIVE จับมือ PRIMO CARE และพันธมิตร ร่วมสนับสนุนเทศกาลถือศีลกินผัก

          ORIGIN GIVE จับมือ PRIMO CARE ร่วมกับพันธมิตรและบริษัท โบ๊ทพัฒนา ร่วมสืบสานเทศกาลถือศีลกินผัก จังหวัดภูเก็ต 2567 สานเจตนารมย์การเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน เพื่อเติบโตร่วมกันอย่างมั่นคงและยั่งยืนจากความมุ่งมั่นของ ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ และ พรีโม เซอร์วิส โซลูชัน           ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ โดย Origin Give ร่วมด้วย บริษัท พรีโม​ เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRI โดย Primo Care, Origin Agent Club และบริษัท โบ๊ทพัฒนา จำกัด ร่วมมอบของบริจาค ข้าวสาร น้ำดื่ม น้ำยาล้างห้องน้ำ สุขภัณฑ์ น้ำยาล้างจาน สบู่เหลวล้างมือ ซึ่งผลิตโดย อูโน่ เซอร์วิส และเงินบริจาค ช่วงเทศกาลระหว่างวันที่ 3 -11 ตุลาคม 2567 ของศาลเจ้าจุ้ยตุ่ย และศาลเจ้าเชิงทะเล           นายกฤษณ์ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL กล่าวว่า การร่วมสนับสนุนเทศกาลกินเจถือศีลกินผัก มรดกทางวัฒนธรรมที่สำคัญของจังหวัดภูเก็ต ถือเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมดีๆ ที่ตอกย้ำแนวคิด “การทำธุรกิจให้เติบโตควบคู่กับการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและชุมชน เพื่อการเติบโตร่วมกันอย่างยั่งยืน” ของกลุ่มบริษัทออริจิ้นฯ ที่ปัจจุบันได้ขยายอาณาจักรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไปยัง “ภูเก็ต” ซึ่งเป็นหัวเมืองท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย ที่มีการเติบโตสูงด้านอสังหาริมทรัพย์ รวมถึงเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวและพักอาศัยของชาวไทยและชาวต่างชาติ ทำให้ ORIGIN VERTICAL ประสบความสำเร็จด้านการขายในตลาดคอนโดมิเนียม โดยมีโครงการในจังหวัดภูเก็ตเป็นคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และวิลล่า 1 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ ดิ ออริจิ้น เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (The Origin Centre Phuket) โครงการ ดิ ออริจิ้น กะทู้-ป่าตอง (The Origin Kathu-Patong) โครงการ โซ ออริจิ้น บางเทา บีช (SO Origin Bangtao Beach) โครงการ โซ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) โครงการ ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) โครงการ บัลโค บางเทา บีช (Balco Bangtao Beach)           นอกจากนี้ทาง ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ยังได้เสริมความแข็งแกร่งด้วยบริการด้านอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจร โดยกลุ่มธุรกิจ PRI เตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจใน จ. ภูเก็ตที่มีการเติบโตสูงในภาคอสังหาฯ ด้วยการส่งธุรกิจซื้อขายฝากเช่าอสังหาริมทรัพย์ และ ธุรกิจให้บริการบริหารนิติบุคคลอาคารชุด บ้านจัดสรร ที่พักอาศัย รวมทั้งธุรกิจบริการงานรักษาความสะอาดแบบครบวงจร และเป็นผู้พัฒนาน้ำยาทำความสะอาด สบู่เหลว คุณภาพสูง เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน รวมถึงสิ่งแวดล้อม เพื่อส่งเสริมและปลูกฝังจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมให้แก่บุคลากร มุ่งมั่นเพื่อลดปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน           นายธนพนธ์ โรจน์ทินกร ผู้บริหารสายงานธุรกิจการขายอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “บริษัทฯให้บริการเป็นตัวแทนขายอสังหาริมทรัพย์ และทำการตลาดโครงการแบบครบวงจร ทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งให้บริการก่อนและหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและเพื่อการลงทุน โดยปีนี้มีแผนขยายธุรกิจ Passion Realtor ตัวแทนซื้อ-ขาย-เช่าอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร สู่ตลาดภูเก็ตเป็นครั้งแรก เพราะมองเห็นโอกาสในตลาดอสังหาฯภูเก็ตที่มีการเติบโตสูงมาก โดยในช่วงปี 2566 ที่ผ่านมามีโครงการเปิดใหม่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 36 โครงการ จำนวนกว่า 8,000 ยูนิต มูลค่าโครงการวมกว่า 49,000 ล้านบาท”           “ภูเก็ตเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นตลาดที่มีศักยภาพสูงมาก มีฐานลูกค้าหลากหลาย ส่งผลให้ตลาดอสังหาฯเติบโตมาก จากความต้องการของกลุ่มผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติที่ซื้อเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ และกลุ่มนักลงทุนระยะยาว ทำให้มั่นใจว่าตลาดอสังหาฯภูเก็ตยังไปได้อีกไกล” นายธนพนธ์กล่าว           ด้านนางสาวมลนภา ปั้นบุญ ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริหารอาคารและชุมชนระดับพรีเมี่ยมและธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปีนี้ในส่วนธุรกิจ Property Management บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ลูกค้าได้รับการบริการที่ดี มีคุณภาพ และคุ้มค่าที่สุด โดยมีเป้าหมายขยายการบริการไปสู่การบริหารอสังหาริมทรัพย์ทุกประเภทแบบครบวงจร และการขยายสู่ตลาดภูมิภาคในจังหวัดใหญ่หัวเมืองหลักรวมถึงตลาดภูเก็ต เพื่อยกระดับการบริหารจัดการทรัพย์สินด้วยมืออาชีพ มีประสบการณ์บริหารงานนิติบุคคลมานานกว่า 9 ปี

[PR News] ORI เจาะตลาดภูเก็ต พร้อมคืนหุ้นกู้ 3,875 ล้าน

[PR News] ORI เจาะตลาดภูเก็ต พร้อมคืนหุ้นกู้ 3,875 ล้าน

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ครึ่งปีหลังยังแกร่ง กวาดยอดขายใหม่จากต่างชาติในภูเก็ต 1,000 ล้านตั้งแต่ยังไม่เปิดขายทางการ เตรียมลุยเปิดโครงการใหม่ตอกย้ำความสำเร็จทำเลภูเก็ตต่อเนื่อง และชำระคืนหุ้นกู้ครบกำหนดช่วงครึ่งปีหลัง 2567 จำนวน 5 รุ่นเต็มจำนวน 3,875 ล้านบาทตามกำหนด 100% ตอกย้ำประวัติชำระคืนพร้อมดอกเบี้ยครบตามกำหนด 8 ปีต่อเนื่อง           นายพีระพงศ์​ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร กล่าวว่าในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการกระจายโอกาสไปสู่การตลาดใหม่ๆ อาทิ ภูเก็ต ซึ่งเป็นตลาดที่บริษัททยอยเปิดโครงการใหม่อย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปีที่ผ่านมา จากที่ได้รับการตอบรับดี ดีมานด์แกร่ง ล่าสุดบริษัทสามารถกวาดยอดขายจาก 2 โครงการคอนโดมิเนียมใหม่ที่ยังไม่เปิดขายอย่างเป็นทางการ ได้แก่ 1.โซ​ ออริจิ้น กะตะ ภูเก็ต (So Origin Kata Phuket) และ 2.ออริจิ้น เพลส เซ็นเตอร์ ภูเก็ต (Origin Place Centre Phuket) ในตึกที่เป็นโควตาของผู้ซื้อชาวต่างชาติ คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านบาท           “ตลาดที่ยังมีดีมานด์แข็งแกร่งในขณะนี้ คือตลาดที่มีลูกค้าหลากหลายกลุ่มในพื้นที่เดียว ทั้งตลาดซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ตลาดซื้อเพื่อลงทุน และตลาดต่างชาติ รวมไปถึงตลาดที่มีความเฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น ตลาดคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้ การเลือกโฟกัสในตลาดที่ยังมีดีมานด์ จะมีส่วนสำคัญให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย” นายพีระพงศ์ กล่าว           นายพีระพงศ์​ จรูญเอก เผยอีกว่า ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 นี้ ถึงแม้ภาพรวมสถานการณ์ตลาดหุ้นกู้ยังไม่ฟื้นตัว อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงให้ความสำคัญกับการบริหารสภาพคล่อง โดยครึ่งปีหลัง บริษัทสามารถชำระคืนหุ้นกู้พร้อมดอกเบี้ยได้ครบตามกำหนดทุกรุ่น ซึ่งมีหุ้นกู้ที่ครบกำหนดชำระ 5 รุ่น คิดเป็นวงเงินรวมประมาณ 3,875 ล้านบาท ได้แก่ 1. หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2564 ชุดที่ 2 (ORI247A) อายุ 3 ปี ครบกำหนดวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 วงเงิน  1,431.7 ล้านบาท 2. หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2565 ชุดที่ 1 (ORI247B) อายุ 2.22  ปี  ครบกำหนดวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 วงเงิน 535 ล้านบาท 3.หุ้นกู้ครั้งที่ 3/2566 ชุดที่ 1 (ORI248A) อายุ 1 ปี ครบกำหนดวันที่ 30 สิงหาคม 2567 วงเงิน 500 ล้านบาท 4.หุ้นกู้ครั้งที่ 3/2565 ชุดที่ 2 (ORI249A) อายุ 2 ปี ครบกำหนดวันที่ 1 กันยายน 2567 วงเงิน 807.8 ล้านบาท และ 5.หุ้นกู้ครั้งที่ 1/2566 ชุดที่ 3 (ORI249B) อายุ 1 ปี 6 เดือน ครบกำหนด     วันที่ 22 กันยายน 2567 วงเงิน 600 ล้านบาท           “ที่ผ่านมา เราออกหุ้นกู้เพื่อนำไปใช้ในการขยายธุรกิจให้เติบโตได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืนตามแผนการดำเนินงานและเป้าหมายธุรกิจที่วางไว้ เราจึงได้รับความไว้วางใจจากนักลงทุนทั้งกลุ่มสถาบันการเงิน และกลุ่มนักลงทุนรายย่อย เราขอขอบคุณนักลงทุนทุกรายที่ให้ความไว้วางใจ และจะเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้” นายพีระพงศ์​ กล่าว           ทั้งนี้ นับตั้งแต่ปี 2559 บริษัทดำเนินการระดมทุนผ่านหุ้นกู้มาแล้วมากกว่า 30 ชุด โดยมีประวัติการชำระคืนที่        ดีมาโดยตลอด จากที่บริษัทมีการวางแผนการออกและเสนอขายหุ้นกู้โดยคำนึงถึงจำนวนและระยะเวลาครบกำหนดเป็นสำคัญ ทั้งนี้ ลักษณะการทยอยชำระจะสอดคล้องกับแผนพัฒนาโครงการและการรับรู้รายได้ของโครงการในอนาคตเนื่องจากบริษัทให้ความสำคัญกับการรักษาสภาพคล่องในการดำเนินธุรกิจ ควบคู่กับการเดินหน้าขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้ตามแผนงาน และวัตถุประสงค์ของการออกหุ้นกู้           นอกจากนี้ บริษัทยังมองโอกาสในพื้นที่อื่นๆ นอกเหนือจากภูเก็ต เช่น แถบนิคมอมตะ-ชลบุรี ซึ่งเป็นแหล่งงานที่มีความต้องการทั้งกลุ่มผู้ซื้อเพื่ออยู่เองทำงานบริเวณนิคม และกลุ่มผู้ซื้อปล่อยเช่าลงทุนระยะยาว           ขณะที่ด้านการโอนกรรมสิทธิ์นั้น บริษัทยังมียอดขายรอโอนกรรมสิทธิ์ (แบ็คล็อก) ณ ไตรมาส 2 /2567 มูลค่ารวมประมาณ 47,135 ล้านบาท โดยในช่วงไตรมาส 4/2567 บริษัทยังมีโครงการคอนโดมิเนียมที่จะทยอยโอนกรรมสิทธิ์ใหม่เป็นครั้งแรกเพิ่มเติมอีก 3 โครงการ ได้แก่ 1.โซ ออริจิ้น พหล 69 (So Origin Phahol 69) 2.ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ สิรินธร สเตชั่น (Origin Plug & Play Sirindhorn Station) และ 3. ไนท์บริดจ์ สเปซ สุขุมวิท-พระราม4 (KnightsBridge Space Sukhumvit-Rama4) โดยมีแบ็คล็อกใน 3 โครงการ คิดเป็น มูลค่ากว่า 6,350 ล้านบาท หรือกว่า 85% ของมูลค่าโครงการ บริษัทจึงมั่นใจว่าผลการดำเนินงานของบริษัทจะยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI มีโครงสร้างธุรกิจหลากหลาย ประกอบด้วย           1.ธุรกิจพัฒนาที่อยู่อาศัยเพื่อการขาย (Residential Development Business) พัฒนาคอนโดมิเนียมและบ้านจัดสรรมาแล้ว 163 โครงการ (ณ สิ้นไตรมาส 2/2567) เช่น แบรนด์ พาร์ค ออริจิ้น (Park Origin), โซ ออริจิ้น        (So Origin), ออริจิ้น ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ (Origin Plug & Play), ไนท์บริดจ์ (Knightsbridge), นอตติ้ง ฮิลล์ (Notting Hill), ออริจิ้น เพลส (Origin Place), ดิ ออริจิ้น (The Origin), เคนซิงตัน (Kensington), แฮมป์ตัน (Hampton), ออริจิ้น เพลย์ (Origin Play), บริกซ์ตัน (Brixton) และ บริทาเนีย (Britania) รวมมูลค่าโครงการกว่า 253,198 ล้านบาท           2.ธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำ (Recurring Income Business) เช่น โรงแรม เซอร์วิส อพาร์ตเมนท์ ค้าปลีก           3.ธุรกิจบริการ (Service Business) เช่น ธุรกิจให้บริการลูกบ้าน ธุรกิจการจัดการอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์           4.ธุรกิจเมกะเทรนด์ระยะยาว (Mega Trends) กลุ่มธุรกิจใหม่ที่มีแนวโน้มเติบโตในระยะยาว เช่น ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจเฮลท์แคร์ ธุรกิจพลังงาน ธุรกิจด้านการเงิน ธุรกิจเอนเตอร์เทนเมนท์ ฯลฯ เพื่อยกระดับคุณภาพการใช้ชีวิตของผู้บริโภคแบบครบวงจร

[PR News] ออริจิ้น ลุยโครงการ Origin Give

[PR News] ออริจิ้น ลุยโครงการ Origin Give

          ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ นำทัพบริษัทในเครือ-ลูกบ้าน-พนักงาน ย้ำโครงการ Origin Give ส่งต่อความห่วงใยเด็กและโรงเรียน ที่ประสบอุทกภัยภาคเหนือ           ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ตอกย้ำโครงการ ORIGIN GIVE เคียงข้างคนไทยในทุกวิกฤติ ร่วมกับบริษัทในเครือ ออริจิ้น เวอร์ติเคิล, บริทาเนีย และ พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น รวมพลังส่งต่อความห่วงใย ช่วยเหลือน้องๆ และโรงเรียนที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยทางภาคเหนือ ผ่านโครงการ เป๋น ห่วง ตั๋ว เน่อ ชวนลูกบ้านโครงการคอนโดมิเนียม ออริจิ้น และบ้านบริทาเนีย รวมกว่า 50 โครงการ และพนักงานในเครือ รวมพลังแบ่งปันน้ำใจให้แก่น้องๆ และโรงเรียน ด้วยการบริจาค อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา คอมพิวเตอร์ รองเท้า ชุดนักเรียน และสิ่งของจำเป็น โดยมี นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด นายสิริพงศ์ ศรีสว่างวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) นายประสิทธิ์ จรัสวิชากร กรรมการบริหาร, ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริหารอาคารและชุมชน และ นางสาวมลนภา ปั้นบุญ กรรมการบริหาร, ผู้บริหารสายงานธุรกิจบริหารอาคารและชุมชนระดับพรีเมี่ยมและธุรกิจให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จํากัด  นำทีมพนักงานส่งมอบของให้แก่ มูลนิธิกระจกเงา เพื่อนำไปบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่โรงเรียนที่ประสบอุทกภัยในภาคเหนือ หลังจากได้รับความเสียหายอย่างหนักจากปัญหาน้ำท่วม และได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อเตรียมการช่วยเหลือเพิ่มเติมต่อเนื่อง           นายกฤษณ์​ เตชะสัมมา ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการตลาด บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือบริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ครบวงจร เปิดเผยว่า จากวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ทางภาคเหนือในครั้งนี้  ทำให้ชุมชน บ้านเรือน และโรงเรียน โดยเฉพาะอาคารเรียน ห้องสมุด หนังสือเรียน อุปกรณ์การเรียนต่างๆ ของโรงเรียนได้รับความเสียหาย ส่งผลถึงนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับความเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้เด็กต้องหยุดเรียน และมีหลายหน่วยงานลงพื้นที่เร่งช่วยเหลือเร่งด่วน ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ เห็นเป้าหมายการช่วยเหลือที่จำเป็นโดยเร็วที่สุดของ มูลนิธิกระจกเงา ตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา จึงได้ตั้งโครงการ เป๋น ห่วง ตั๋ว เน่อ เพื่อระดมพลังความช่วยเหลือจัดหาอุปกรณ์จำเป็นสำหรับเด็กและโรงเรียน เช่น ชุดนักเรียน สมุด และดินสอ เพื่อให้สามารถกลับมาเรียนได้อย่างราบรื่น ซึ่งได้รับการตอบรับจากลูกบ้านอย่างล้นหลาม           “เรามุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรอยยิ้ม บรรเทาความเดือดร้อน โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ เราเชื่อว่าการศึกษาและโอกาสทางการเรียนรู้เป็นรากฐานที่สำคัญในการพัฒนาชุมชนอย่างยั่งยืน โครงการ ORIGIN GIVE เราให้ความสำคัญในเรื่องการศึกษาและความเป็นอยู่ของเด็กเยาวชน อันเป็นกำลังหลักสำคัญในการพัฒนาประเทศในอนาคต รวมถึงมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาปรับปรุงโรงเรียน ซึ่งเป็นเสมือนบ้านหลังที่สองของเด็กและเยาวชนให้สวยงามและปลอดภัย เพื่อสร้างบรรยากาศแห่งการเรียนรู้ที่แท้จริง ทำให้นักเรียนทุกคนตั้งใจเรียน และเติบโตไปเป็นกำลังหลักสำคัญของประเทศชาติต่อไป” นายกฤษณ์ กล่าวเพิ่มเติม           ตลอดระยะเวลา 15 ปี ของการดำเนินกิจการ บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) มุ่งมั่นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์อย่างไม่หยุดนิ่ง เพื่อส่งมอบความสุขให้แก่ผู้อยู่อาศัย ควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยผนึกกำลังร่วมกับพันธมิตร พนักงาน ครอบครัวออริจิ้น และชุมชน ผ่านโครงการเพื่อสังคมภายใต้ชื่อ ORIGIN GIVE โดยมีเป้าหมายในการช่วยเหลือสนับสนุนชุมชน ผ่าน 3 แกนสำคัญ ได้แก่ Education สนับสนุนโอกาสทางการศึกษา และสร้าง สภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการเรียนรู้สำหรับเด็กนักเรียน Equality สนับสนุนโอกาสในการเข้าถึงคุณภาพชีวิตที่ดี และส่งเสริมความเท่าเทียมที่แตกต่างและสวยงาม Environment สนับสนุน ส่งเสริม สร้างสรรค์ การปกป้อง และรักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อโลกที่สวยงามอย่างยั่งยืนของเราทุกคน เพื่อเป็นแนวทางในการเดินหน้าสร้างสังคมที่ดีชุมชนเป็นสุขอย่างต่อเนื่อง

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456