ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#MOSHI


MOSHI วางเป้าเป็น Shopping Destination ปักธงรายได้ปี 68 โต 15-20%

MOSHI วางเป้าเป็น Shopping Destination ปักธงรายได้ปี 68 โต 15-20%

             หุ้นวิชั่น - ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย ประกาศวิสัยทัศน์ปี 2568 สู่ผู้นำตลาดค้าปลีกไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน วางเป้าหมายมุ่งสู่การเป็น Shopping Destination ที่ลูกค้าต้องแวะมาเยี่ยมชมและเลือกซื้อ พร้อมขึ้นแท่น Top of Mind ครองใจผู้บริโภค ชูจุดขาย ‘ดีไซน์โดดเด่น คุณภาพดี ราคาเข้าถึงได้’ เดินหน้าปักธงรายได้ปี 2568 เติบโต 15-20% เร่งปูพรมเปิดสาขาเพิ่ม 40 สาขาในปีนี้              นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ธุรกิจค้าปลีกในปี 2568 มีแนวโน้มเติบโตจากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศและแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นของรัฐบาล รวมถึงยังมีปัจจัยสนับสนุนจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนโควิด-19 โดยอยู่ที่ประมาณ 39 ล้านคน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายของห้างสรรพสินค้าในเมืองท่องเที่ยวอย่างมีนัยสำคัญ ขณะเดียวกัน ธุรกิจค้าปลีกอาจต้องเผชิญความท้าทายจากหนี้ครัวเรือนที่อยู่ในระดับสูงซึ่งกดดันกำลังซื้อของผู้บริโภค ต้นทุนดำเนินธุรกิจที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนการแข่งขันที่สูงขึ้น เนื่องจากมีผู้ประกอบการจำนวนมากที่ต้องการเข้าสู่ตลาด              ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ตระหนักถึงความท้าทายในตลาดค้าปลีกโดยเฉพาะการแข่งขันที่อาจเพิ่มสูงขึ้นจากการปรับตัวของผู้เล่นรายเดิมและการเข้ามาของผู้เล่นรายใหม่ เนื่องจากตลาดค้าปลีกมีศักยภาพการเติบโตที่ดีและมีอุปสรรคในการเข้าสู่ตลาด (Barrier to Entry) ต่ำ แต่ด้วยความเข้าใจตลาดและประสบการณ์ที่บริษัทฯ สั่งสมมา ประกอบกับมีความได้เปรียบในการแข่งขันจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายใต้จุดขายที่เป็นจุดแข็งคือ ‘ดีไซน์โดดเด่น คุณภาพดี ราคาเข้าถึงได้’ โดยให้ความสำคัญกับการคัดสรรสินค้าที่มีคุณภาพมีฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ผู้บริโภค โดดเด่นด้วยการออกแบบที่สวยงามในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม อีกทั้ง ยังมีการบริหารจัดการสินค้าในทุกกลุ่มอย่างใกล้ชิด ทำให้มั่นใจว่าจะสามารถรักษาความสามารถในการแข่งขัน และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งความแข็งแกร่งนั้น ทำให้ MOSHI สามารถก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ภายในระยะเวลา 3 ปีแรกของการทำธุรกิจ              ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวว่า สำหรับในปี 2568 บริษัทฯ ได้เดินหน้าขับเคลื่อนการดำเนินธุรกิจ เพื่อตอกย้ำความเป็นผู้นำตลาดค้าปลีกไลฟ์สไตล์ที่ยั่งยืน และพร้อมมุ่งสู่เป้าหมายผลการดำเนินงานปี 2568 เติบโต 15-20% ซึ่งอัตราการเติบโตของรายได้มาจากการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ รวมถึงอัตราการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ซึ่งในปีนี้จะรักษาให้เท่ากับปี 2567 ที่ 3-5% ทั้งนี้ ด้วยปัจจัยเติบโตจาก 1) เสริมสร้างความแข็งแกร่งของแบรนด์ในตลาด โดยบริษัทฯ มีแผนขยายช่องทางจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้นอีก 40 สาขา เน้นการขยายสาขาในรูปแบบที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และ Hyper Market รวมถึงสาขา Standalone 2 รูปแบบ คือ สาขาใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักศึกษาและชุมชนโดยรอบ และ Pilot Project สาขาขนาดใหญ่พื้นที่ 300 ตารางเมตรขึ้นไปในเขตชุมชน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและสร้างศูนย์กลางการจับจ่ายในพื้นที่ พร้อมมุ่งเน้นการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายฐานลูกค้าอย่างยั่งยืน ส่งผลให้บริษัทฯ มีสาขาครบทั้งสิ้น 200 สาขาภายในปีนี้ ครอบคลุมทั่วประเทศ 2) สร้างความได้เปรียบด้วยสินค้าใหม่ทั้งแบบมีลิขสิทธิ์และสินค้าทั่วไป โดยจะเพิ่มความหลากหลายของสินค้าโดยการขยายพอร์ตสินค้าเข้าสู่หมวดหมู่ใหม่ ๆ พร้อมเปิดตัวคอลเลกชันพิเศษที่ร่วมมือกับลิขสิทธิ์ชั้นนำอย่างต่อเนื่อง 3) สร้างการมีส่วนร่วมกับผู้บริโภค ด้วยฐานสมาชิกปัจจุบันกว่า 600,000 ราย จะเดินหน้าสร้างความผูกพันผ่านสิทธิประโยชน์และโปรโมชันที่ตอบโจทย์ลูกค้าเฉพาะกลุ่ม และพร้อมดึงดูดลูกค้าใหม่จากทำเลใหม่ ๆ ที่เปิดตัว เพื่อยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง 4) จับโอกาสในตลาดกลุ่มสินค้าที่กำลังเติบโต โดยเน้นกลุ่ม Home Furnishing และ  Fashion ที่ยังมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่อง 5) พัฒนาสินค้าอย่างมีประสิทธิภาพและมุ่งเพิ่มคุณค่า ผ่านการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพในทุกขั้นตอนของการพัฒนาผลิตภัณฑ์ พร้อมรักษาระดับราคาที่เหมาะสมและสามารถแข่งขันได้ 6) ขยายการเติบโตในช่องทางออนไลน์ บริษัทฯ จะผลักดันยอดขายในช่องทางออนไลน์ผ่านการเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและจัดโปรโมชันที่ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น              นางสาวบุณยวีร์ บุญสงเคราะห์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์ธุรกิจและการปฏิบัติการ MOSHI กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯ ได้มีการดำเนินงานผ่านกลยุทธ์สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ การพัฒนาช่องทางการจัดจำหน่ายแบบออนไลน์ (Online) รวมถึงมีการออกสินค้าใหม่กว่า 1,000 รายการต่อเดือน จากปัจจุบันมีจำนวนสินค้ารวมแล้วมากกว่า 20,000 รายการ โดยผลักดันทั้งกลุ่มสินค้า License และสินค้าทั่วไป พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ผ่านกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันที่โดดเด่นด้วยการออกแบบสวยงาม ในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม              นอกจากนี้ ยังได้ดำเนินกลยุทธ์ Collaboration จับมือกับพาร์ทเนอร์ต่างๆ เช่น เจ้าของลิขสิทธิ์คาแรคเตอร์แบรนด์ดัง อาทิ Sanrio, Disney, Snoopy เป็นต้น รวมถึงการคอลแลปส์กับศิลปินที่เป็นที่นิยมชื่นชอบ ไม่ว่าจะเป็น ศิลปิน K-POP และศิลปินไทย ในการพัฒนาและออกสินค้าร่วมกัน เพื่อเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและดีไซน์ ถือเป็นการเพิ่มมูลค่าให้กับตัวสินค้า อย่างในปีนี้ก็ได้นำคาแรคเตอร์ที่กำลังเป็นกระแสและได้รับความนิยมทั้งในไทยและต่างประเทศอย่าง “หมูเด้ง” มาพัฒนาสู่คอลเลกชันพิเศษ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากลูกค้า นอกจากนั้น ยังมีการออกสินค้าคอลเลกชันพิเศษที่หลากหลายครอบคลุมเทศกาลสำคัญต่างๆ พร้อมกันนี้ ได้ยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้งด้วยบริการที่น่าประทับใจ และสร้างบรรยากาศภายในร้านค้าด้วยการจัดวางที่น่าดึงดูด รวมถึงได้เริ่มจัดทำระบบสมาชิก (Member) ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 6 แสนยูสเซอร์ นับเป็นข้อมูลสำคัญที่ทำให้รับรู้ความต้องการของผู้บริโภคได้มากขึ้น ตลอดจนการสร้าง Branding “Moshi Moshi” ให้ผู้บริโภคเชื่อมั่นและยอมรับในคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ภายใต้เป้าหมายสูงสุดของ MOSHI คือ การเป็น Shopping Destination ที่ลูกค้าต้องแวะมาเยี่ยมชมและเลือกซื้อ ขณะเดียวกัน พร้อมก้าวขึ้นเป็นแบรนด์ที่สามารถครองใจของผู้บริโภค (Top of Mind) ได้              ทั้งนี้ MOSHI ตระหนักดีว่าการพัฒนาอย่างยั่งยืนไม่ใช่เพียงนโยบายหรือโครงการเสริม แต่เป็นหัวใจสำคัญของการดำเนินธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต บริษัทฯ จึงมุ่งมั่นที่จะผนวกแนวคิดด้านความยั่งยืนเข้าสู่ทุกกลยุทธ์ของการดำเนินธุรกิจ ครอบคลุมทั้งมิติด้านสิ่งแวดล้อม (Environmental) สังคม (Social) และบรรษัทภิบาล (Governance) ไม่เพียงแต่กำหนดเป้าหมายด้านความยั่งยืน แต่ยังมุ่งสร้างให้เป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมองค์กร โดยหลอมรวมแนวคิดนี้เข้าสู่ทุกกระบวนการดำเนินงาน ตั้งแต่การวางแผน การปฏิบัติงาน ไปจนถึงการประเมินผล เพื่อให้การพัฒนาอย่างยั่งยืนเป็นรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับการเติบโตของธุรกิจควบคู่ไปกับการสร้างคุณค่าให้แก่สังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริงและยั่งยืน

MOSHI เปิดตัวคอลเลกชั่น 4 ลายลิขสิทธิ์สุดคิวท์ ดันยอดขายพุ่ง

MOSHI เปิดตัวคอลเลกชั่น 4 ลายลิขสิทธิ์สุดคิวท์ ดันยอดขายพุ่ง

             หุ้นวิชั่น - ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ 4 ลายลิขสิทธิ์สุดคิวท์ ‘Toy Story’, ‘Chip n Dale’ ภายใต้ลิขสิทธิ์ Disney และ ‘Capybara’, ‘Sloth’ ที่ร่วมคอลแลปส์กับ Monsty Planet ศิลปินครีเอเตอร์ชาวไทย ชูคอนเซ็ปต์สินค้าไลฟ์สไตล์ในราคาเข้าถึงได้ ตอบโจทย์ทุกกลุ่มเป้าหมาย พร้อมจัดเต็มสินค้า หวังผลักดันยอดขายในไตรมาส 1/2568              นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจค้าปลีกที่มุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบเป็นเลิศ โดดเด่นด้วยความน่ารัก ประณีต คุณภาพดี ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าในทุกๆ วัน ภายใต้การนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายครอบคลุมทั้งของใช้ในบ้าน ตุ๊กตา เครื่องเขียน เครื่องแต่งกาย กระเป๋า แฟชั่น อุปกรณ์เสริมความงาม เครื่องสำอาง อุปกรณ์ IT ของเล่น ขนม อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และหมวดอื่นๆ ที่นำเสนอสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมตามความต้องการของผู้บริโภค โดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายหลักอายุ 18-25 ปี ซึ่งเป็นกลุ่มนักศึกษาและคนทำงาน รวมถึงกลุ่มเป้าหมายรองอายุ 13-17 ปี และวัยทำงานอายุ 26-34 ปี ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้มีแนวทางการทำธุรกิจที่มุ่งเน้นลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric Based) โดยได้ศึกษาความต้องการของลูกค้า แล้วนำมาปรับปรุงพัฒนาสินค้าให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากที่สุด ทำให้ MOSHI โดดเด่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด มีความคล่องตัวในการปรับตัวตามเทรนด์ พร้อมด้วยศักยภาพทางการตลาดที่โดดเด่นส่งผลให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม              ล่าสุด บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ผ่าน 4 คาแรคเตอร์ ได้แก่ “Toy Story” (ทอย สตอรี่) “Chip n Dale” (ชิป กับ เดล) ภายใต้ลิขสิทธิ์ Disney คาแรคเตอร์ยอดนิยมในการ์ตูน Disney ซึ่งตัวละครทุกตัวมีคาแรคเตอร์ที่แตกต่าง มีเอกลักษณ์ชัดเจน ทำให้เป็นที่ชื่นชอบของคนทุกเพศทุกวัย และ “Capybara”(คาปิบารา) “Sloth” (สลอธ) ภายใต้แบรนด์ Monsty Planet (มอนสตี้ แพลนเน็ท) ซึ่งเป็นการกลับมาร่วมกับศิลปินครีเอเตอร์ชาวไทย 'คุณนัท-ณัชณิชา แก้วมังกร' นักวาดภาพประกอบสาวเจ้าของลายเส้นสุดน่ารัก พร้อมพัฒนาสินค้าออกมาวางจำหน่ายแบบหลากหลาย ครอบคลุมความเป็นสินค้าไลฟ์สไตล์ ดีไซน์สวย คุณภาพดี ราคาย่อมเยา เข้าถึงได้ง่าย              สำหรับคอลเลกชันใหม่ 4 คาแรคเตอร์ มีสินค้าจัดเต็มมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Home Furnishing, Bags, Stationery, Plush Toys เป็นต้น โดยวางเป้าขยายฐานลูกค้าทุกช่วงวัย เริ่มจัดจำหน่ายที่ร้าน Moshi Moshi ทุกสาขาทั่วประเทศ และช่องทางออนไลน์ของ Moshi Moshi: Shopee Lazada TikTok ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook Moshi Moshi: https://www.facebook.com/moshimoshi.jp อย่างไรก็ตาม คาดว่าคอลเลกชันดังกล่าวจะช่วยสนับสนุนยอดขายในไตรมาส 1/2568 อย่างมีนัยสำคัญ              นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้จัดโปรโมชันพิเศษ เพียงซื้อสินค้าครบ 399 บาทขึ้นไป รับสิทธิ์แลกซื้อกระเป๋าเดินทางพับได้ (Travel Buddy Foldable Bag) ในราคา 49 บาท สินค้ามีจำนวนจำกัด เริ่มตั้งแต่วันที่ 15 - 21 มีนาคมนี้ หรือจนกว่าสินค้าจะหมด

MOSHI คาดปีนี้โกยกำไร 617 ลบ. จ่อเพิ่มสาขา Standalone โบรกเคาะเป้า 54 บ.

MOSHI คาดปีนี้โกยกำไร 617 ลบ. จ่อเพิ่มสาขา Standalone โบรกเคาะเป้า 54 บ.

            หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี ระบุว่า MOSHI เติบโตชัด และสาขารูปแบบใหม่ ดูน่าสนใจ มอง Positive จากประชุมนักวิเคราะห์ ยังเป็นบริษัทในกลุ่มที่เห็นการเติบโตได้ชัด โดยระยะสั้น SSSG Qtd ยังสูง 7-8% y-y สูงสุดในกลุ่มฯ และ ระยะยาว แผนเปิดสาขายังเป็นเชิงรุกระยะ 2-3 ปีนี้ และทดลองสาขาStandalone สาขาใหญ่ โอกาสต่อการขยายฐานลูกค้ากลุ่ม Mass และต่อการเปิดสาขาได้มากขึ้น บนความเสี่ยงที่จำกัด ขณะที่การแข่งขันจากคู่แข่งรายใหม่ ยังอยู่ในระดับจำกัด โดยรวมแนะนำ Buy จาก TP65F 54.0 บาท อิง DCF เป็นบริษัทที่ยังเห็นการเติบโตดีระยะยาวและปรับตัวไว Positive view from Analyst meeting • ระยะสั้น SSSG Qtd ยังบวก 7-8% ยังเป็นโมเมนตัมที่เติบโตแรงต่อเนื่องจาก 3Q24จากผลสำเร็จทั้งสินค้าใหม่จาก 1 หมื่นเป็น 1.2 หมื่น SKUs, ขยายทีม Product development, เพิ่มสินค้า Cartoon ทั้งออกแบบเอง และแบบลิขสิทธิ์, เพิ่มสินค้า High value (ลดสินค้ากำไรต่ำ) แต่ยังคุม Position ของร้านค้าที่มีสินค้าราคาย่อมเยา เข้าถึงผู้บริโภคได้ และการปรับ Display ดึงจุดเด่นการมองเห็นสินค้า ไปราว 70 สาขา (น้ำหอม, ก้านหอม, เครื่องเขียน, กลุ่มเครื่องประดับ ฯลฯ) และมีแผนปรับเพิ่มอีก 50 สาขาใน 1H25F • คงเป้ารายได้ 2025F +15-20% y-y (vs นักวิเคราะห์คาด +21% y-y) จาก SSSG 3-5% และ สาขาใหม่เพิ่มเป็น 40 แห่ง (มีทำเลแล้ว 30 แห่ง) จากปี 24 +34 แห่ง และมอง Gross margin เป้า +70 bps y-y หรือ 54.2% vs นักวิเคราะห์คาด 54.4% หรือหากเทียบกรณีไม่รวมผลขาดทุน JV ปี 2024 เป้าปี 25F จะเป็นระดับเดิมที่ 54.2% แต่มองยังเป็นเป้าหมายที่ระมัดระวัง เนื่องจากบริษัทยังมีช่องว่างขยาย Margin จากการเพิ่มสัดส่วนสินค้านำเข้าเป็น 63-65% จากปี 2024 60% และเพิ่ม Margin กลุ่มขนส่ง โดยรวมช่วยชดเชยสินค้า บางกลุ่มที่ราคาสูงแต่ Low margin อาทิ กลุ่ม Art toy • New format สาขาไซส์ใหญ่ทั้งห้างและ Standalone ติดชุมชน : รูปแบบร้าน Moshiเน้นจำหน่ายสินค้าราคาย่อมเยา ตอบโจทย์ผู้บริโภค จนมีสาขาราว 160 ในห้าง ปีนี้จะเห็นรูปแบบใหม่ๆ มากขึ้น อาทิ             1. ขยายพื้นที่ในห้างเดิมร้านติดกัน เงื่อนไขที่ดี จำกัดความเสี่ยงอีกราว 6 สาขา             2. สาขา Standalone เริ่มปี 2024 มี 5 แห่ง เน้นใกล้มหาวิทยาลัย และมีผลตอบรับดี ปีนี้มีแผนเปิด Standalone 9 แห่ง และทดลองสาขาใหญ่ 4 แห่ง ระดับ 300 ตร.ม. จากปกติ 80-250 ตร.ม. และเน้นติดแหล่งชุมชน โดยเริ่มทดลองสาขาใหญ่แรกแล้ว (ตลาดโอชอ นครปฐม)(เงินลงทุนคาด 5 ลบ.) เมื่อ 5 ก.พ. พบว่ายังทำได้ตามเป้าหมายใกล้เคียงการลงทุนปกติที่ อยู่ในระดับที่ดี โดยยอดขายน้อยกว่าสาขารูปแบบ Hyper market แต่เงินลงทุนและค่าเช่าถูกกว่ามาก ทั้งนี้ การลงทุนปกติ Breakeven 1-4 เดือน และ Payback (คุ้มทุน) 2-3 ปี             ทั้งนี้ มองบวกต่อรูปแบบสาขานี้และเป็น Move ที่น่าสนใจและน่าติดตามให้ดี จากเป็นโอกาสในการขยายฐานลูกค้าไปกลุ่ม Mass มากขึ้น จากฐานลูกค้าปัจจุบันอายุ 18-35 ปี แต่เริ่มมีกลุ่มอายุเกิน 35 ปี เป็นลูกค้ามากขึ้น และโอกาสไปสาขาอำเภอรอง เพิ่มโอกาสในการเปิดสาขามากขึ้นในระยะยาว ไม่รวมเป้าปัจจุบันนับเฉพาะสาขาในห้างบริษัทมองเปิดได้ถึง 350 สาขาในระยะยาว ทั้งนี้ หากเทียบดูกับ MR DIY ที่เน้น สินค้ากลุ่ม Home เป็นหลัก แต่ฐานลูกค้า Mass วงกว้าง พบว่ามีเกือบ 1 พันสาขา และเป็นรูปแบบ Standalone 500++ สาขา ความเห็นและคำแนะนำ • มีมุมมอง “Positive” ต่อข้อมูลที่ได้รับจากงานประชุมนักวิเคราะห์และคงกำไรปี2025F 617 ลบ. (+18% y-y) และกำไร 3 ปี เห็นภาพเติบโตชัดทั้ง SSSG และสาขาใหม่คาด CAGR +18% โดยมองสาขารูปแบบ Standalone ในแหล่งชุมชน และสามารถไปอ.รองได้น่าสนใจและน่าติดตาม เป็น Potential upside ระยะยาว • ระยะสั้น คาดกำไร 1Q25F ยังเติบโตเด่น y-y, -q-q รวมถึงผลกระทบจากคู่แข่งยังจำกัด มาก แนะนำ Buy จาก TP25F 54.0 บาท อิง DCF (WACC 7.5%, TV Growth 3.0%)

MOSHI ขยายสาขาหนุนโตเด่น เคาะเป้าที่ 58 บ.

MOSHI ขยายสาขาหนุนโตเด่น เคาะเป้าที่ 58 บ.

          หุ้นวิชั่น - บล.ดาโอ ส่องหุ้น MOSHI ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเป้าหมาย 58.00 บาท คิดเป็น PER ปี 2025E ที่ 29เท่า บริษัท รายงานกำไรสุทธิ 4Q24 ที่ 206 ล้านบาท (+36.0% YoY, +90.4% QoQ) สูงกว่าคาดเล็กน้อย (ตลาดคาด 194 ล้านบาท, เราคาด 190 ล้านบาท) โดยมีปัจจัยคือ 1) รายได้: 1,047 ล้านบาท (+32.6% YoY, +42.3% QoQ) ได้รับแรงหนุนจาก SSSG +15.4% จากช่วงเทศกาล และการเปิดตัวสินค้าใหม่ 2)GPM: 53.3% (-100 bps YoY, +50 bps QoQ) มาจากการปรับกลยุทธ์ราคาและการขายสินค้ากลุ่มมาร์จิ้นสูง 3) SG&A: 288 ล้านบาท (+25.0% YoY, +19.0%QoQ) เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาดและการขยายสาขา รวมถึงแคมเปญปลายปี 4) ขาดทุนจาก JV: 12.47 ล้านบาท (คิดเป็น 6.1% ของกำไรสุทธิ) โดยมีรายได้จาก JV 5.17 ล้านบาท (0.5% ของรายได้รวม)กำไร 2024 ที่ 521 ล้านบาทเติบโต +30% YoY สูงกว่าคาดไว้จากกำไร 4Q24 ที่เติบโตดีจากค่าใช้จ่าย ที่น้อยกว่าที่เราคาดเล็กน้อย และเรายังคาดเห็นการขยายตัวของรายได้และ GPM ได้ต่อเนื่องจากการ ขยายสาขามากถึง 40 สาขาใน 2025E และสัดส่วนนำเข้าของทั้งค้าปลีกและค้าส่งที่เพิ่มขึ้น ทำให้ยังคง ประเมินกำไร 2025E ที่ 600 ล้านบาท เติบโต +15% YoY           โดย ณ สิ้นปี 2024 มีทั้งหมด 164 สาขา ราคาหุ้นกลับมา underperform น้อยลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา จากความกังวลต่อผลการดำเนินงาน 4Q24 ลดลง อย่างไรก็ดีมองว่าบริษัทยังมีจุดแข็งเรื่องของสินค้าและราคา และมีการปรับตัวของสินค้า อย่างต่อเนื่อง และปัจจุบันราคาหุ้นเทรดอยู่ที่ 2025E PER เพียง 21x ทำให้มองว่ามี downside ที่จำกัด เทียบกับประมาณการกำไร 2025E ที่ยังเติบโต

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

“MOSHI” ผลงานปี 67 ทุบสถิติ กำไรสุทธิพุ่ง 27.5% บอร์ดฯไฟเขียวจ่ายปันผล  0.80 บ.

“MOSHI” ผลงานปี 67 ทุบสถิติ กำไรสุทธิพุ่ง 27.5% บอร์ดฯไฟเขียวจ่ายปันผล 0.80 บ.

             หุ้นวิชั่น - ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดผลงานไตรมาส 4/2567 ทำรายได้รวม 1,051.43 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 205.94 ล้านบาท หนุนผล ปี 67 ทุบสถิติทำนิวไฮ กวาดรายได้รวม 3,127.90 ล้านบาท เติบโต 23% และกำไรสุทธิ 520.68 ล้านบาท เติบโต 27.5% เตรียมจ่ายปันผล 0.80 บาทต่อหุ้น พร้อมปักธงดันรายได้ปี 68 เติบโต 15-20% เร่งปูพรมขยายสาขาเพิ่ม 40 สาขา วางงบลงทุนกว่า 280 ล้านบาท เดินหน้าออกสินค้าใหม่กว่า 10,000 รายการรวมถึงการออกสินค้าคาแรคเตอร์ใหม่ๆ ตลอดทั้งปี              นางสาวศุภรดา โรจน์วัฒนะ ประธานเจ้าหน้าที่สายงานการเงิน บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 1,051.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 793.50 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 205.94 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.7% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของ ปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 153.99 ล้านบาท              ขณะที่ อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 15.4% นับเป็นผลการเติบโตที่โดดเด่นทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง แม้จะมีการรับรู้ผลขาดทุนจากการร่วมทุน (JV) ในการจัด Exhibition ก็ตาม ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญที่สนับสนุนการเติบโตมาจากกลุ่มสินค้าเทศกาลรวมถึงการทยอยเปิดตัวสินค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าบริษัทฯ ได้สรรค์สร้างผลิตภัณฑ์ พร้อมทั้งนำเสนอสินค้าอย่างมีเอกลักษณ์ มีความหลากหลายทั้งรูปแบบและดีไซน์ ทำให้ลูกค้ามีตัวเลือกในการช็อปมากขึ้น รวมถึงเข้าถึงกลุ่มลูกค้าหลากหลายมากยิ่งขึ้น ประกอบกับการสร้าง Branding “โมชิ โมชิ” มาตลอดปี ทำให้ลูกค้าเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพในราคาย่อมเยา ส่งเสริมให้ในช่วงเทศกาลโดยเฉพาะคริสต์มาส ปีใหม่ ร้าน “โมชิ โมชิ” ถือเป็นอีกหนึ่ง Gift Destination ที่ลูกค้าต่างมาเลือกช็อปสินค้าและได้รับการผลตอบรับที่ดีอย่างมาก อีกทั้ง การมีสินค้าลิขสิทธิ์มากมายหลากหลายคอลเลกชันใหญ่อย่างเช่น Snoopy, Sanrio Characters, Disney รวมถึงการคอลแลปส์ออกคาแรคเตอร์ศิลปิน K-POP และคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆ อีกมากมาย ส่งผลให้มีลูกค้าเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง              ขณะที่ผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 3,127.90 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 2,543.25 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิได้ 520.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 27.5% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 408.23 ล้านบาท ขณะที่อัตรากำไรสุทธิทำได้ 16.6%  ซึ่งเป็นปีที่บริษัทฯ สามารถสร้างผลงานเติบโตได้สูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) อีกครั้ง              สำหรับสัดส่วนรายได้จากการขายในปี 2567 แบ่งเป็น ธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ 82.2% ธุรกิจค้าส่งอยู่ที่ 15.6% และช่องทาง Online ช่องทางอื่นๆ อยู่ที่ 1.8% และ JV 0.4% โดยสินค้าหลักที่เติบโตได้อย่างโดดเด่น ได้แก่กลุ่ม Home Furnishing, Beauty, Fashion, กล่องสุ่ม และ Toys เป็นต้น ผลักดันให้อัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.85% ประกอบกับในปี 2567 บริษัทฯ ได้เปิดสาขาร้าน Moshi Moshi ใหม่ทั้งสิ้น 34 สาขา ซึ่งในจำนวนนี้มีสาขา Standalone ใกล้มหาวิทยาลัย จำนวน 5 สาขาอีกด้วย จากผลการดำเนินงานงวดปี 2567 ที่แข็งแกร่ง ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ (บอร์ด) เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติเสนอผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลจากการดำเนินงานในปี 2567 ในอัตรา 0.80 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับเงินปันผล (Record date) วันที่ 2 พฤษภาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นภายในวันที่ 23 พฤษภาคม 2568              นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ในปี 2568 คาดว่าจะมีแนวโน้มเติบโตจากการฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศและแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่คาดว่าจะกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนสถานการณ์โควิด-19 ประมาณ 39 ล้านคน ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายของห้างสรรพสินค้าในเมืองท่องเที่ยว ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี โดยในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% ด้วยปัจจัยการเติบโต ได้แก่ 1.) การขยายสาขาใหม่ จำนวน 40 สาขาในปีนี้ โดยแบ่งรูปแบบการขยายสาขาในรูปแบบที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งห้างสรรพสินค้า, คอมมูนิตี้มอลล์, Hyper Market และสาขา Standalone 2 รูปแบบ คือ สาขาใกล้มหาวิทยาลัย และ Pilot Project สาขาขนาดใหญ่พื้นที่ 300 ตารางเมตรขึ้นไปในเขตชุมชน มุ่งขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจ 2.) การออกสินค้าใหม่กว่า 1,000 รายการต่อเดือน ผลักดันทั้งกลุ่มสินค้า License และ Non-License พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า ผ่านกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันที่โดดเด่นด้วยการออกแบบสวยงาม ในราคาที่เข้าถึงได้ ทำให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม และ 3.) รักษาอัตราการเติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) ให้เท่ากับปี 2567 ที่ 3-5%              โดย ณ สิ้นปี 2567 บริษัทฯ มีสาขาค้าปลีกและค้าส่งที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 164 สาขา แบ่งเป็น ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 152 สาขา โดยเป็น รูปแบบ Standalone จำนวน 5 สาขา, ร้านค้าส่งแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 2 สาขา, ร้าน Garlic 3 สาขา, ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา โดยในไตรมาส 1/2568 บริษัทฯ ได้เดินหน้าเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมแล้ว 3 สาขา ในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น Robinson จ.ร้อยเอ็ด Lotus จ.ราชบุรี และ ตลาดโอชอ วัดเทียนดัด จ.นครปฐม โดยสาขาที่ตลาดโอชอ ถือเป็นสาขาต้นแบบของ Standalone ในรูปแบบ Big Size ซึ่งได้เปิดให้บริการแล้วเมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา และได้รับกระแสตอบรับจากกลุ่มลูกค้าเป็นอย่างดี ทั้งนี้ บริษัทฯ มีแผนขยายสาขาในรูปแบบดังกล่าวเพิ่มเติมในอนาคต เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและรองรับการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง [PR News]

MOSHI กำไรปี 67 โต 27.5% รายได้โตทุกช่องทาง

MOSHI กำไรปี 67 โต 27.5% รายได้โตทุกช่องทาง

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (MOSHI) เปิดเผยผลการดำเนินงานสำหรับปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 520.68 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 112.45 ล้านบาท หรือร้อยละ 27.5 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน การเติบโตดังกล่าวมีปัจจัยหลักจากการเติบโตของรายได้จากทุกช่องทาง ทั้งจากอัตราการ เติบโตของรายได้จากการขายของสาขาเดิม (SSSG) การเปิดสาขาใหม่การนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย มีเอกลักษณ์ อีกทั้ง ยังมีสินค้าลิขสิทธิ์หลากหลายคอลเลกชันใหญ่อย่าง Snoopy, Sanrio Characters, Disney รวมถึงการคอลแลปกับคาแรคเตอร์ศิลปิน K-POP ศิลปินนักวาดชาวไทย และคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆอีกมากมาย ส่งผลให้มีลูกค้าเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง           แม้ว่าบริษัทฯ รับรู้ผลขาดทุนสุทธิจากกิจการร่วมค้าฯ เป็นเงิน 16.41 ล้านบาท อัตรากำไรสุทธิยังคงปรับตัว เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 16.1 เป็นร้อยละ 16.6 สะท้อนถึงการเติบโตของรายได้จากการขายสินค้าที่เป็นที่ต้องการของลูกค้า และ ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่มีประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการขยายร้านค้าปลีกเพียงอย่าง เดียว การขายสินค้าที่มีอัตรากำไรที่ดีเพิ่มขึ้นและอัตราแลกเปลี่ยนของเงินบาทที่แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหยวน ทั้งนี้ อัตรากำไรสุทธิแบบไม่รวมการดำเนินงานกิจการร่วมค้าฯ ของปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 17.2           รายได้จากการดำเนินงานปี 2567 อยู่ที่ 3,111.26 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 581.75 ล้านบาท หรือร้อยละ 23.0 เมื่อเทียบ กับปี 2566 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการขยายสาขาใหม่จำนวน 34 สาขา (รวมสาขา Standalone ใกล้มหาวิทยาลัย 5 สาขา) และการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ร้อยละ 3.85 โดยกลุ่มสินค้าที่เติบโตโดดเด่นได้แก่ ของใช้ในบ้าน, อุปกรณ์เสริมความงาม, สินค้าแฟชั่น, กล่องสุ่ม และ ของเล่น อีกทั้งยังมีสินค้าลิขสิทธิ์หลากหลายคอลเลกชันใหญ่อย่าง Snoopy, Sanrio Characters, Disney รวมถึงการคอลแลปคาแรคเตอร์ศิลปิน K-POP และคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูนต่างๆอีก มากมาย ส่งผลให้มีลูกค้าเข้าใช้บริการอย่างต่อเนื่อง โดยสัดส่วนรายได้จากการดำเนินงานมาจากธุรกิจค้าปลีกร้อยละ 82.2 ธุรกิจค้าส่งร้อยละ 15.6 ช่องทาง Online และอื่นๆ ร้อยละ 1.8 และกิจการร่วมค้าฯ ร้อยละ 0.4 ทั้งนี้ รายได้จากการดำเนินงาน ปี 2567 รวมรายได้จากกิจการร่วมค้าฯ จำนวน 11.57 ล้านบาท           โดย ณ สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 มีสาขารวมทั้งสิ้น 164 สาขา ประกอบด้วยร้าน Moshi Moshi 159 สาขา ร้าน Garlic 3 สาขา ร้าน Giant 1 สาขา และร้าน OK Station 1 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 62 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยในปี 2567 บริษัทฯ ไม่มีการขยายสาขาค้าส่ง และ ร้านสาขา Garlic คาดการณ์และแนวโน้มธุรกิจปี2568 เป้าหมายการขยายสาขา บริษัทฯ วางแผนที่จะขยายสาขาร้านค้าปลีก Moshi Moshi จำนวน 40 สาขาภายในปีนี้ โดยเน้นการขยายสาขาใน รูปแบบที่หลากหลาย ครอบคลุมทั้งห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ และ Hyper Market รวมถึงสาขา Standalone 2 รูปแบบ คือสาขาใกล้มหาวิทยาลัย เพื่อเข้าถึงกลุ่มนักศึกษาและชุมชนโดยรอบ และ Pilot Project สาขาขนาดใหญ่พื้นที่ 300 ตารางเมตรขึ้นไปในเขตชุมชน เพื่อรองรับความต้องการที่หลากหลายและสร้างศูนย์กลางการจับจ่ายในพื้นที่ ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการขยายสาขาในพื้นที่ที่มีศักยภาพการเติบโตทางธุรกิจเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งและขยายฐานลูกค้า อย่างยั่งยืน ประมาณการรายได้จากการขายและบริการ บริษัทฯ มีศักยภาพในการเติบโตอย่างแข็งแกร่งตามเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยของรายได้(CAGR) ที่ 15-20% ในปี2566- 2568 ซึ่งอัตราการเติบโตของรายได้มาจากการเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และอัตราการเติบโตของยอดขาย จากสาขาเดิม ผ่านกลยุทธ์สำคัญต่างๆ ได้แก่ การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ การออกสินค้าใหม่กว่า 1,000 รายการต่อเดือน ผลักดันทั้งกลุ่มสินค้า License และ Non-License พร้อมเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ สอดคล้องกับความต้องการของลูกค้า ผ่านกลยุทธ์การนำเสนอสินค้าจำเป็นในชีวิตประจำวันที่โดดเด่นด้วยการ ออกแบบสวยงาม ในราคาที่เข้าถึงได้ เพื่อให้บริษัทฯ สามารถขยายฐานลูกค้าครอบคลุมผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทั้งนี้ การ เติบโตดังกล่าวได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทั้งการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวและการ ฟื้นตัวของการบริโภคภายในประเทศ ประมาณการงบลงทุน บริษัทฯ คาดการณ์งบลงทุนประมาณ 280 ล้านบาท สำหรับการขยายสาขาใหม่และปรับปรุงสาขาเดิม รวมถึงการพัฒนา ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ การขยายและปรับปรุงพื้นที่คลังสินค้า ตลอดจนการลงทุนในด้านอื่น ๆ เพื่อสนับสนุนการ เติบโตและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานของบริษัทฯ

MOSHI คาดปี68 กำไรโต 60%  เปิด 40 สาขาใหม่ หนุน

MOSHI คาดปี68 กำไรโต 60% เปิด 40 สาขาใหม่ หนุน

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กสิกรไทย มีมุมมองเชิงบวกต่อ MOSHI โดยคาดการณ์กำไรไตรมาส 4/2567 จะแข็งแกร่ง เติบโต 28.8% จากปีก่อนและ 78.2% จากไตรมาสก่อน จากยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ที่เติบโต 15% ส่งผลให้รายได้เพิ่มขึ้น 30.5% จากปีก่อน ทะลุ 1 พันล้านบาทเป็นไตรมาสแรก ประกอบกับการเปิด 5 สาขาใหม่ และอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น 50 bps จากไตรมาสก่อน หากไม่รวมผลขาดทุนจากกิจการร่วมค้า อัตรากำไรขั้นต้นหลักจะเติบโต 1% จากไตรมาสก่อน พร้อมสัดส่วนค่าใช้จ่ายต่อยอดขายที่ลดลง สำหรับปี 2568 ตั้งเป้าเปิด 40 สาขา คงเป้ารายได้เติบโต 15-20% และขยายอัตรากำไรขั้นต้นเป็น 60% โดย SSSG ในสองสัปดาห์แรกของปียังเติบโต 3-4% MOSHI : ราคาพื้นฐาน 56.10 บาท

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

Moshi โบรกคาดกำไรปี68 พุ่ง26% จากสาขาใหม่ แนะเป้า 64 บาท

Moshi โบรกคาดกำไรปี68 พุ่ง26% จากสาขาใหม่ แนะเป้า 64 บาท

         หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ประเมินหุ้น Moshi มอง Positive ต่อแนวโน้มผลประกอบการทั้งระยะสั้น โดย SSSG 4Q24F คาดบวก 15-16% y-y เด่นสุดในกลุ่มฯ และระยะกลางยาว ยังมีโอกาสเติบโตดี คาดกำไรปี 25F +26% y-y ทั้งการขยายสาขาเชิงรุกปีนี้ และเริ่มมีสาขาใหญ่, การเพิ่ม SSSG ผ่านสินค้าใหม่และการปรับ Display ภายใต้การแข่งขันยังจำกัด แนะนำ Buy จาก TP65F 64.0 บาท อิง DCF           ฝ่ายวิจัยมองตั้งเป้ารายได้2025F +15-20% y-y(vs เราคาด +22% y-y) จาก SSSG 3-5% และ สาขาใหม่เพิ่มเป็น 40 แห่งจากปี 24F +34 แห่ง และมอง Gross margin เป้า +60 bps y-y จากทั้งการเพิ่มสินค้านำเข้า (high margin) เป็น 63-65% จากปี 24F เกือบ 60% (vs เราคาด +110 bps) และการเพิ่ม Margin กลุ่มสินค้าขายส่ง สาขาเชิงรุก และเตรียมทดลองสาขาไซส์ใหญ่เพิ่ม : หลังบริษัทประสบความสำเร็จปรับ display,การเพิ่มหมวดสินค้า และการเปิดสาขา Standalone (ปัจจุบันมี 5แห่ง) ในแผนปี 25F จะมีสาขาขนาดใหญ่ขึ้นราว 7แห่งเป็นระดับ 300+ ตร.ม. (ปัจจุบันขนาดราว 80-250 ตร.ม.) ทั้งในห้างไม่ต่ำกว่า 3 สาขา ซึ่งได้พื้นที่ร้านติดกัน เงื่อนไขที่ดี และจำกัดความเสี่ยง รวมถึงรูปแบบ Standalone จะมีสาขาใหญ่ไม่ต่ำกว่า 4 แห่ง โดยปรับรูปแบบมาเน้นติดแหล่งชุมชน หลังจากเปิดตัว 5 สาขาแรกปี 2024F และเน้นใกล้มหาลัย และมีผลตอบรับดี ทั้งนี้ มองบวกต่อโอกาสของธุรกิจ และเป็นการปรับตัว หลังคู่แข่งเริ่มเน้นเปิดสาขาใหญ่ระดับ 1000 ตร.ม. รวมถึง คาดผลตอบแทนการลงทุนยังอยู่ในระดับที่ดีมาก โดย Breakeven 1-4 เดือน และ Payback (คุ้มทุน) 2-3 ปี

MOSHI มั่นใจ Q4 SSSG พุ่ง 20% คอลเลกชันคอลแลปหนุน

MOSHI มั่นใจ Q4 SSSG พุ่ง 20% คอลเลกชันคอลแลปหนุน

          ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการออกคอลเลกชัน Collaboration Project ร่วมกับศิลปินและบุคคลที่มีชื่อเสียง ตลอดทั้งปี 2567 ส่งท้ายปี 67 ด้วยคอลเลกชันสุดพิเศษ Jukka and Friend ดันรายได้เติบโตทะลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ 20% สะท้อนให้เห็นถึงความนิยมของสินค้าและกลยุทธ์ทางการตลาดที่ประสบความสำเร็จ เดินหน้านำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ในปีนี้กว่า 15,000 SKUs มากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา แย้มผลงานไตรมาส 4 ทุบสถิติทำ SSSG (QTD) พุ่งทะยานกว่า 20%           นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI เปิดเผยว่า บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจค้าปลีกที่มุ่งสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีการออกแบบเป็นเลิศและโดดเด่นด้วยความน่ารัก ประณีต คุณภาพดี ในราคาที่ผู้บริโภคสามารถจับต้องได้ เพื่อส่งมอบความสุขให้กับลูกค้าในทุกๆ วัน ด้วยการนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์ที่หลากหลายครอบคลุมทั้งของใช้ในบ้าน ตุ๊กตา เครื่องเขียน เครื่องแต่งกาย กระเป๋า แฟชั่น อุปกรณ์เสริมความงาม เครื่องสำอาง อุปกรณ์ IT ของเล่น ขนม อุปกรณ์สัตว์เลี้ยง และหมวดอื่นๆ ที่นำเสนอสินค้าที่กำลังเป็นที่นิยมตามความต้องการของผู้บริโภค บริษัทฯ มีความโดดเด่นในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของตลาด มีความคล่องตัวในการปรับตัวตามเทรนด์ พร้อมทั้งมีศักยภาพทางการตลาดที่โดดเด่น ส่งผลให้สามารถตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคได้อย่างครอบคลุม           ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งต่อการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของผู้บริโภค เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างตรงจุด โดยตลอดทั้งปี MOSHI ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่กว่า 15,000 รายการ (SKUs) ถือว่ามากที่สุดนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา นับเป็นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายทั้งในด้านรูปแบบและการออกแบบ เพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และเพื่อให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคยุคใหม่ อีกทั้ง บริษัทฯ ยังได้พัฒนา Collection Collaboration Project ออกผลิตภัณฑ์ K-POP Merchandise คาแรกเตอร์ NCT Dream คอลเลกชัน Moshi x NCT DREAM DREAM( )SCAPE และ คาแรกเตอร์ TEN ในคอลเลกชัน “Moshi Moshi x TEN & CANELE” ซึ่งช่วยสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับกลุ่มลูกค้าและเชื่อมโยงกลุ่มเป้าหมายให้ได้รู้สึกใกล้ชิดกับไอดอลที่ตัวเองชื่นชอบมากยิ่งขึ้น           นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ร่วมทำ Collaboration กับ Designer ชาวไทยต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยได้ร่วมกับ ศิลปินครีเอเตอร์แบรนด์ 'Butterclub' (บัตเตอร์คลับ) และ ศิลปินครีเอเตอร์แบรนด์ Fluffy Omelet (ฟลัฟ ฟี่ ออม เล็ต) และได้ทำจัดทำคอลเลกชันสุดพิเศษลาย Hello Kitty ครบรอบ 50 ปี และลายสุดพิเศษของกลุ่มตัวละครซานริโอ้ จัดจำหน่ายเฉพาะในงานนิทรรศการ Hello Kitty Exhibition Celebration of Friendship and Sario Characters the Funtastic Exhibition ณ House of Illumination เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 ซึ่งดำเนินการภายใต้บริษัทร่วมทุนกับพันธมิตร โดยการลงทุนครั้งนี้ ถือเป็นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่และสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนวัยทำงานที่เป็นแฟนคลับ Hello Kitty ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ พร้อมกันนี้ ยังได้มีวางจำหน่ายสินค้ากล่องสุ่มลิขสิทธิ์และอาร์ตทอยส์จำนวนมาก เพื่อรองรับความต้องการของตลาด Blind Box และ Model Toys ที่เป็นเทรนด์มาแรงมากในปีนี้           ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มว่า ในช่วงส่งท้ายปี 2567 บริษัทฯ ได้เปิดตัวคอลเลกชันใหม่ Jukka and Friends ต้าวน้อนจระเข้และแก๊งเพื่อนสุดน่ารัก ซึ่งจะยกขบวนความคิ้วท์มาที่ร้าน Moshi Moshi โดยมีครบทั้ง หมอนรองคอ, ผ้าห่ม, กิ๊บ, พวงกุญแจ, พรม และอีกเพียบ! ราคาเริ่มต้นเพียง 39 บาทเท่านั้น เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป สามารถติดตามรายละเอียดข้อมูลสาขาร้าน Moshi Moshi ที่ร่วมรายการได้ที่ Facebook Fanpage Moshi Moshi: https://www.facebook.com/moshimoshi.jp และ ช่องทางออนไลน์ Shopee: https://shopee.co.th/moshimoshi_officialshop           อย่างไรก็ตาม คอลเลกชันทั้งหมดที่ได้ออกในปีนี้ จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้แก่ลูกค้าและสามารถกระตุ้นยอดขาย ผลักดันผลการดำเนินงานในปี 2567 ให้เติบโตได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 20% ขณะเดียวกันอัตราการเติบโตดังกล่าว ยังมาจากการที่ MOSHI มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและความยืดหยุ่น โดยนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ ประกอบกับมีการขยายสาขาให้ครอบคลุมกว่า 60 จังหวัด การพัฒนาผลิตภัณฑ์ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ส่งผลดีต่อเติบโตของยอดขายจากร้านสาขาใหม่และสาขาเดิม โดยเฉพาะการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 4/67 ที่มีแนวโน้มเติบโตโดดเด่น โดยเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 20% (QTD) อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ พร้อมเดินหน้ายกระดับประสบการณ์ลูกค้า การเพิ่มการรับรู้แบรนด์ผ่านกิจกรรมการตลาด การปรับปรุงประสิทธิภาพต้นทุน การปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาด และการแสวงหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในห่วงโซ่อุปทานและความสามารถทางการตลาดที่แข็งแกร่ง เพื่อรักษาผลการดำเนินงานที่สม่ำเสมอและความสามารถในการแข่งขันในตลาด ขณะเดียวกัน ยังได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว ทั้งการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ส่งผลดีต่อกำลังซื้อให้ฟื้นตัวตามไปด้วย [PR News]

MOSHI ค้าปลีกโตเด่น SSSG-สาขาใหม่หนุน เป้า 64 บาท

MOSHI ค้าปลีกโตเด่น SSSG-สาขาใหม่หนุน เป้า 64 บาท

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI **Positive view from Company update**          **SSSG พ.ย.** เร่งตัวขึ้นเป็น +23% y-y และ QTD +26% y-y เทียบกับ 3Q24 ที่ +5.7% y-y ดีขึ้นกว่าช่วงต้นเดือนพ.ย. ที่บวก Mid teen y-y และกรณีไม่รวม collection NCT Dream ซึ่งสำเร็จมากในต.ค. และยังมีขายต่อในพ.ย. SSSG พ.ย. บวก +20% y-y ดีขึ้นจากต.ค. ที่ +12-13% y-y โดยเป็นผลทั้งจาก 1) การปรับ Display ดึงจุดเด่นการมองเห็นสินค้าไปในราว 70 สาขา (น้ำหอม, ก้านหอม, เครื่องเขียน, กลุ่มเครื่องประดับ ฯลฯ) 2) จำนวนวันเสาร์-อาทิตย์ของพ.ย. ปีนี้มี 9 วัน เทียบกับปีที่แล้ว 8 วัน 3) การเพิ่มจำนวนสินค้าและเพิ่มยอดขายต่อตร.ม. ให้สูงขึ้น           **เพิ่มจำนวนสินค้า + เพิ่มสินค้า High value**: SSSG ที่เริ่มเห็นโมเมนตัมบวก ฟื้นจาก -8.5% y-y ใน 2Q24 ที่มีปัญหาสินค้าขาดแคลนชั่วคราว มาบวก 5.7% y-y ใน 3Q24 และดีต่อถึงพ.ย. มองกลยุทธ์ที่น่าสนใจในการผลักดัน SSG นอกจากแผนเพิ่มจำนวนสินค้าใหม่ๆ ที่มากกว่าปกติราว 20% จาก 1 หมื่นเป็น 1.2 หมื่น SKUs บริษัทยังทำงานเชิงลึก พัฒนากำไรต่อพื้นที่ให้สูงขึ้น ลดสินค้ากลุ่ม Low value กลุ่มกำไรต่ำ และทยอยเพิ่มสินค้ากลุ่ม High value ที่เราเห็นในร้านคือ กลุ่มของเล่น ที่มีสินค้า High value เพิ่มทั้งของเล่นทั่วไปและ Art toy รวมถึงปรับปรุงวัสดุผลิตภัณฑ์/การออกแบบของแต่ละกลุ่มสินค้าให้ดูตอบโจทย์เพิ่ม ทั้งผ่านการเพิ่มพื้นที่ขายและผ่าน Display ใหม่ และโดยรวมยังคุม Position ของร้านค้าที่มีสินค้าราคาย่อมเยา เข้าถึงผู้บริโภคได้            **การแข่งขันยังจำกัดมาก**: หลัง KKV สาขาแรกเปิดตัว 31 ต.ค. ที่เดอะมอลล์ บางกะปิ บริษัทเผยว่า ยอดขายสาขานี้ยังดีมาก ไม่เห็นผลกระทบ โดยยอดขายช่วงแรกบวก 8% y-y และเพิ่มเป็น 13% ช่วงปลายพ.ย. และล่าสุด KKV พึ่งเปิดเพิ่มอีก 3 สาขา 28 พ.ย. (เดอะมอลล์ ท่าพระและงามวงศ์วาน และเทอร์มินัล พระราม 3) โดยยอดขาย 3 สาขานี้ของ MOSHI หลัง KKV เปิดยังบวก 20% ทั้งนี้ได้สำรวจ 3 ใน 4 สาขาของ KKV พบว่า สาขาบางกะปิ ลูกค้าหนาแน่นสุด ส่วนสาขาเดอะมอลล์ ท่าพระ และเทอร์มินัล คนน้อยกว่าบางกะปิมาก และค่อนข้างยืนยันภาพการแข่งขันยังจำกัดมาก โดยรวมลูกค้าส่วนใหญ่ยังไม่รู้จักแบรนด์เลยเน้นซื้อขนมทั่วไป ซึ่งไม่ใช่สินค้าทับซ้อนหลักกับ MOSHI เชื่อว่าคู่แข่งยังต้องใช้เวลาในการสร้างแบรนด์ รวมถึงต้องปรับรูปแบบสินค้าและราคาให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค ขณะที่ MOSHI ปรับตัวล่วงหน้าแล้ว ทั้งเพิ่มกลุ่มสินค้า Exclusive/ปรับ Display/การเตรียมทำร้านใหญ่ขึ้น และการเร่งขยายสาขาปีหน้า 40 แห่ง **ความเห็นและคำแนะนำ**            ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมอง “Positive” และคงกำไรปี 2024F ที่ 495 ลบ. (+23% y-y) และ 622 ลบ. (+26% y-y) และเริ่มมี Upside ราว 4% จาก SSSG 4Q24 ที่ดีกว่าคาด มองเป็นหุ้นในกลุ่มค้าปลีกที่แนวโน้มยังเด่นทั้งระยะสั้น และโอกาสเติบโตระยะกลางยาว ทั้งองค์ประกอบ SSSG และสาขาใหม่ มอง TP 25F (DCF) 64.00 บาท

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

MOSHI เศรษฐกิจฟื้น ท่องเที่ยวหนุน เป้า 58.86 บ. แนะ “ซื้อสะสม”

MOSHI เศรษฐกิจฟื้น ท่องเที่ยวหนุน เป้า 58.86 บ. แนะ “ซื้อสะสม”

 หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด แนวโน้มรายได้ MOSHI เติบโตเฉลี่ยปีละ 15-20% ในช่วงปี 66-68F ผลประกอบการ 3Q67 มีกำไรสุทธิ 108.14 ล้านบาท +33.2%QoQ, +29.8%YoY เติบโต QoQ แม้ใน 3Q จะเป็นช่วง low season ของธุรกิจ แต่เติบโตโดดเด่นตามการแก้ไขปัญหา Shortage การปรับปรุงสินค้าคงคลัง รวมถึง อานิสงส์จากการแจกเงิน 1 หมื่นช่วงปลายไตรมาส ส่งผลให้ SSSG ขยายตัว 5.7% เทียบกับไตรมาสก่อนที่-8.5% ส่วนการขยายตัว YoY ตามการขยายสาขาใหม่ 37 สาขา มาอยู่ 153 สาชา พร้อมกับความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ที่มีสินค้าใหม่กว่า 5,000 SKUs และความสำเร็จกับการผลิตภัณฑ์ Collaboration พิเศษ ได้แก่Moshi x Butter Club และ Moshi x Ten&Canale ด้าน GPM สิ้นงวดอยู่ที่ 52.8% ชะลอตัวลงจากไตรมาสก่อนที่ 53.1% และปีก่อนที่ 53.1% จากการร่วมมือกันข้าง แต่ถ้าไม่นับรายการดังกล่าว จะปรับตัวขึ้นเป็น 53.8% จากการปรับเพิ่มสัดส่วนของสินค้านำเข้าสำหรับ The OK. Station ผู้บริหารตั้งเป้าหมายการเติบโตเฉลี่ยของรายได้ (CAGR) ตลอดระยะ 3 ปี (66-68) เติบโตไม่ต่ำกว่า 15-20% โดยอัตราการเติบโตมาจากยอดขายจากร้านสาขาใหม่ และยอดขายจากสาขาเดิม ผ่านกลยุทธ์สำคัญต่างๆ ได้แก่ การขยายสาขาอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ที่มีศักยภาพ การปรับสัดส่วนผลิตภัณฑ์ให้สอดคล้องกับความ ต้องการของตลาด และการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ Collaboration ที่โดดเด่นเพื่อสร้างสีสันให้กับผู้บริโภค รวมถึง การได้รับแรงสนับสนุนจากปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว และการกลับมาของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภายในประเทศ ส่วน GPM ที่ขยับขึ้นตามสัดส่วนสินค้า Moshi Moshi (GPM ราว 60-65%) และ The Ok station (GPM ราว 30%) ที่สูงขึ้น          Bloomberg consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 67-68F เท่ากับ 495.8 ล้านบาท +27.5%YoY และ 606.6 ล้านบาท +21.6% YoY มีราคาเป้าหมายเฉลี่ย 58.86 บาท แนะนำ “ซื้อสะสม” เชิงเทคนิค : ระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 46.50/45.50 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา แนวต้าน 49.25-50.00

MOSHI เป้ารายได้ 2025 โต 15-20% ผุดสาขาทำเงิน เป้า 58บ.

MOSHI เป้ารายได้ 2025 โต 15-20% ผุดสาขาทำเงิน เป้า 58บ.

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” MOSHI ที่ราคาเป้าหมาย 58.00 บาท คิดเป็น PER ปี 2024E ที่ 36 เท่า บริษัทรายงานกำไร 3Q24 ที่ 108 ล้านบาท (โต +33% YoY และ +33% QoQ) ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบอกต่อการประชุมนักวิเคราะห์วานนี้ โดยมีประเด็นสำคัญคือ 1) บริษัทคงตั้งเป้าจำนวนสาขา MOSHI ภายในสิ้นปี 2024E ที่ 159 สาขา และเป้าขยาย +40 (standalone 9 สาขาและในห้าง 31 สาขา) สาขาในปี 2025E ทำให้ตั้งเป้ารายได้ +15-20% 2) ตั้งเป้า GPM ใน 2025E +60 bps จากสินค้านำเข้าของทั้ง Moshi Moshi และ The Ok station ที่สูงขึ้น เป้าที่ 63-65% และ 30% ตามลำดับ 3) 4Q24E QTD SSSG เป็นบวกที่ระดับ +27-28% หนุนจากสินค้าที่ collaborate กับศิลปิน และคาด GPM ขยายตัวได้จากสัดส่วนสินค้าน าเข้าในช่วงเทศกาลสูงขึ้น คงประมาณการกำไรสุทธิ 2024E/25E อยู่ที่ 486/600 ล้านบาท เติบโต +21%/+23% YoY ฝ่ายวิเคราะห์ยังคาดเห็น GPM และ กำไรขยายตัวได้ต่อ YoY และ QoQ จาก high season ที่เป็นช่วงเทศกาล ประกอบกับรายได้จากสาขาใหม่จะเป็นตัวหนุนต่อผลการดำเนินงานใน 4Q24E ให้ขยายตัวได้โดดเด่น           ราคาหุ้นกลับมา outperform SET ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา ที่ +5% จากคาดผลการดำเนินงาน 3Q24 จะฟื้นตัวโดดเด่นและปัญหา supply shortage ที่หมดไป ฝ่ายวิเคราะห์ยังแนะนำซื้อ โดยมองว่าผลการดำเนินงานในครึ่งปีหลังจะฟื้นตัวได้ จากรายได้โตและขยายสาขาได้ตามเป้า

“MOSHI”  9 เดือน ผลงานนิวไฮ กำไรโต 23.8%

“MOSHI” 9 เดือน ผลงานนิวไฮ กำไรโต 23.8%

           ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดผลงานไตรมาส 3/2567 ทำรายได้รวม 739.74  ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 108.14 ล้านบาท หนุนผลงานงวด 9M/2567 นิวไฮ มีรายได้รวม 2,076.47 ล้านบาท เติบโต 18.7% และกำไรสุทธิ 314.74 ล้านบาท เติบโต 23.8% งัด 2 กลยุทธ์ แก้ปัญหาสินค้าขาดสต็อก ยกทัพสินค้าใหม่หนุน SSSG เติบโต พร้อมมองแนวโน้มโค้งสุดท้ายของปีโดดเด่น หลังเข้าสู่ช่วงไฮซีซันธุรกิจ จัดเต็มสินค้าและกิจกรรมการตลาด และเตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 6 สาขา ผลักดันเป้าหมายรายได้ปีนี้เติบโต 20%            นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2567 (กรกฎาคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้จากการดำเนินงาน 735.77 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 585.09 ล้านบาท นับว่าเป็นผลการดำเนินงานที่ทำได้สูงสุดเมื่อเทียบกับไตรมาสอื่นๆ ของปี แม้ว่าจะเป็นช่วง low season ของธุรกิจ โดยเป็นผลเติบโตจากการเพิ่มสินค้าใหม่ๆกว่า 3,000 รายการ รวมถึงการเพิ่มขึ้นของยอดขายสินค้าลิขสิทธิ์และความนิยมของผลิตภัณฑ์กล่องสุ่ม และการขยายสาขาใหม่อีก 8 สาขา นอกจากนี้ ยังเริ่มรับรู้รายได้จากการร่วมทุน (JV) เพื่อจัด Exhibition ของ Hello Kitty และ Sanrio Characters เข้ามาไตรมาสแรกคิดเป็นรายได้ไม่เกิน 1% ของยอดรายได้รวม ด้านกำไรสุทธิทำได้ 108.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 83.30 ล้านบาท ซึ่งสามารถเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง แม้จะมีผลกดดันจากการบันทึกขาดทุนจากการร่วมทุน JV ซึ่งเป็นรายการพิเศษในไตรมาส การร่วมทุนครั้งนี้ เป็นโครงการระยะสั้นที่มุ่งเน้นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่และขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนวัยทำงานที่เป็นแฟนคลับ Hello Kitty ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพ นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ขยายระยะเวลาการจัดงานออกไปให้ครอบคลุมช่วงเทศกาลในปลายปี เพื่อช่วยดึงยอดขายในทั้งส่วนของ Ticketing, Merchandising และ Profit Sharing เป็นต้น            ขณะที่ผลการดำเนินงานในงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 (มกราคม-กันยายน) บริษัทฯ มีรายได้รวม 2,076.47 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้รวม 1,749.75 ล้านบาท และสามารถทำกำไรสุทธิได้ 314.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 254.24 ล้านบาท แม้จะเข้าสู่ช่วง Low Season ของธุรกิจ แต่บริษัทฯ ยังสามารถรักษาผลประกอบการให้อยู่ในระดับที่ดี นับเป็นการทำผลงานทั้งรายได้และกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (New High) โดยสัดส่วนรายได้จากการขายในงวด 9 เดือนแรก ธุรกิจค้าปลีกอยู่ที่ 82.1% เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ธุรกิจค้าส่งอยู่ที่ 16.0% ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตามการขยายสาขาร้านค้าปลีกเพิ่มขึ้น และรายได้จากช่องทาง Online และช่องทางอื่นๆอยู่ที่ 1.9% เพิ่มขึ้นกว่า 200% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเติบโตหลักมาจากความสำเร็จในการขายสินค้าลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะคอลเลกชัน K-pop ที่ได้รับความนิยมสูง            สำหรับยอดขายจากสาขาเดิม (SSSG) ในไตรมาส 3/2567 มีอัตราเติบโตที่ดีถึง 5.7% โดยบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงบรรยากาศและการตกแต่งภายในร้านให้สวยงามมากขึ้นและลูกค้ามีประสบการณ์ที่ดีในการช้อปมากขึ้น รวมไปถึงการเพิ่มสินค้ากลุ่ม High value เช่น น้ำหอม ก้านหอม และกล่อมสุ่ม Art toy ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดีจากกลุ่มลูกค้า นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้แก้ไขปัญหาสินค้าขาดสต็อก ส่งผลให้สถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติตั้งแต่ช่วงเดือนกรกฎาคมเป็นต้น และเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาดังกล่าวอีกในอนาคต บริษัทฯ จึงได้ดำเนินการดังนี้ 1.) เพิ่มความใกล้ชิดในการทำงานร่วมกับผู้ผลิต เพื่อให้สามารถคาดการณ์และจัดการปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และ 2.) ศึกษาและแสวงหาช่องทางเพิ่มเติมในการหาผู้ผลิตรายใหม่ เพื่อกระจายความเสี่ยงและเพิ่มความหลากหลายของแหล่งผลิตสินค้า            อย่างไรก็ตาม ถือเป็นการสะท้อนได้จากการเติบโตในช่วงที่ผ่านมา ที่บริษัทฯ สามารถออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งคอลเลกชันที่คอลแลปส์ร่วมกับศิลปินไทย Butterclub และโปรเจกต์คอลแลปส์ “Moshi Moshi x TEN & CANELE”โดยมีเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มแฟนคลับทั้งในไทยและต่างประเทศ ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างล้นหลามจากฐานลูกค้าเก่าและใหม่ โดย MOSHI ได้พัฒนาสินค้าให้มีความหลากหลายมากขึ้น และตอบโจทย์การใช้งานในปัจจุบัน พร้อมนำเสนอสินค้าไลฟ์สไตล์คุณภาพดีในราคาที่เข้าถึงได้ ผสานกับการออกแบบที่น่ารัก และโดดเด่น เป็นเอกลักษณ์แบบเฉพาะตัวในแบบฉบับของ Moshi Moshi            ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MOSHI กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการตลาดในไตรมาส 4/67 ที่เข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ บริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการขยายฐานลูกค้าใหม่ ผ่านช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ โดยเตรียมพร้อมสินค้าใหม่ไม่ต่ำกว่า 4 คอลเลกชันลิขสิทธิ์ เพื่อเพิ่มความหลากหลายภายในร้านโดยให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก พร้อมจัดกิจกรรมการตลาดและการสื่อสารโดยมุ่งเน้นไปที่เทรนด์สมัยใหม่ ให้สามารถตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและปีใหม่ นอกจากนี้ ยังมีการจัดแคมเปญส่งท้ายปีเพื่อกระตุ้นยอดขายและขยายฐานลูกค้าต่างชาติ โดยเตรียมจัดกิจกรรมรูปแบบใหม่ที่ยิ่งใหญ่ขึ้น สอดรับกับการเติบโตของบริษัทฯ และเพื่อสนับสนุนให้รายได้ปี 2567 เติบโต 20% ตามเป้าหมายที่วางไว้            ณ สิ้นไตรมาส 3/2567 บริษัทฯ มีสาขาค้าปลีกและค้าส่งที่เปิดดำเนินการแล้วทั้งสิ้น 158 สาขา แบ่งเป็น ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 147 สาขา, ร้านค้าปลีกแบรนด์ Moshi Moshi รูปแบบ Standalone จำนวน 4 สาขา, ร้านค้าส่งแบรนด์ Moshi Moshi จำนวน 2 สาขา, ร้าน Garlic 3 สาขา, ร้านค้าส่ง Giant 1 สาขา และร้านค้าส่ง The OK Station 1 สาขา นอกเหนือจากนี้ ในช่วงที่เหลือของปี บริษัทฯ เตรียมเปิดสาขาใหม่เพิ่มเติมอีก 6 สาขา ในทำเลที่มีศักยภาพ เช่น Lotus จ.ยะลา, Big-C จ.ปัตตานี, Robinson จ.ราชบุรี เป็นต้น รวมทั้งสาขา Standalone ในกรุงเทพอีก 1 แห่ง [PR News]

abs

ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร

MOSHI ไตรมาส 3/67 มีกำไร 108.14 ล้านบาทโตกว่า 29.8%

MOSHI ไตรมาส 3/67 มีกำไร 108.14 ล้านบาทโตกว่า 29.8%

           MOSHI  รายงานงบไตรมาส 3/2567 ด้วยรายได้ 735.77 ล้านบาท โต 25.8% YoY และกำไรสุทธิ 108.14 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.8% จากปีก่อนหน้า พร้อมเดินหน้าขยายสาขาและพัฒนาสินค้าคอลเลคชันพิเศษรองรับแฟนคลับทั้งไทยและต่างประเทศ เตรียมพร้อมสำหรับการแข่งขันที่เข้มข้นในไตรมาส 4 ซึ่งเป็นช่วง High Season ของตลาด วางกลยุทธ์การตลาดและปรับผลิตภัณฑ์ตรงความต้องการ พร้อมมาตรการรักษาส่วนแบ่งการตลาดท่ามกลางการเข้าสู่ตลาดของผู้เล่นรายใหม่            บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI รายงานผลประกอบการประจำไตรมาส 3/2567 บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) รายงานผลการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2567 มีรายได้จากการดำเนินงานจำนวน 735.77 ล้านบาท ซึ่งแสดงถึงการเติบโตทั้งในด้านของการเปรียบเทียบระหว่างไตรมาสและการเติบโตในช่วงปีที่ผ่านมา เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 2 ปี 2567 ที่มีจำนวน 636.54 ล้านบาท บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 15.6 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 99.23 ล้านบาท ขณะเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้จากการดำเนินงานในไตรมาส 3 ปี 2566 ที่มีมูลค่า 585.09 ล้านบาท บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 25.8 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 150.68 ล้านบาท ในไตรมาส 3 ปี 2567 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิจำนวน 108.14 ล้านบาท เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาส 2 ปี 2567 ที่มีจำนวน 81.21 ล้านบาท บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 33.2 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 26.93 ล้านบาท ขณะเดียวกัน เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิในไตรมาส 3 ปี 2566 ที่มีมูลค่า 83.30 ล้านบาท บริษัทฯ มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 29.8 หรือคิดเป็นมูลค่าเพิ่มขึ้น 24.84 ล้านบาท โดย ณ สิ้นไตรมาส 3 ปี 2567 มีสาขารวมทั้งสิ้น 158 สาขา ประกอบด้วยร้าน Moshi 153 สาขา ร้าน Garlic 3 สาขา ร้าน Giant 1 สาขา และร้าน OK Station 1 สาขา ครอบคลุมพื้นที่ 60 จังหวัดทั่วประเทศไทย โดยมีการกระจายตัวของสาขาทั้งในกรุงเทพมหานครและต่างจังหวัด ผ่านช่องทางการจัดจำหน่าย อาทิ ห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้าชั้นนำ คอมมูนิตี้มอลล์ และไฮเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการเข้าถึงผู้บริโภคได้อย่างกว้างขวางและทั่วถึง พัฒนาการที่สำคัญ ไตรมาส 3 ปี 2567 การขยายสาขาเพิ่มเติม บริษัทฯ ได้เร่งดำเนินการขยายเครือข่ายสาขาอย่างต่อเนื่องในไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 โดยมุ่งเน้นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทฯ ได้เปิดสาขาใหม่ภายใต้แบรนด์ Moshi จำนวนทั้งสิ้น 8 สาขา โดยเป็น Standalone 1 สาขา ส่งผลให้ ณ สิ้นไตรมาสที่ 3 ปี พ.ศ. 2567 บริษัทฯ มีจำนวนสาขาภายใต้แบรนด์ Moshi รวมทั้งสิ้น 153 สาขา โดยในจำนวนนี้ประกอบด้วยสาขาแบบ Standalone จำนวน 4 สาขา ด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยคงไว้ซึ่งคุณภาพและราคาที่เข้าถึงได้ ในไตรมาส 3 บริษัทฯ ได้เพิ่มรายการสินค้าใหม่กว่า 3,000 SKU และเปิดตัวคอลเลคชันพิเศษ 2 โครงการ ได้แก่ Moshi x Butter Club การพัฒนาสินค้าที่เป็น Brand Collaboration ร่วมกับศิลปินและนักวาดคนไทย คุณปรรณสรณ์ ถือเป็นหนึ่งในการสนับสนุนความสามารถของนักวาดครีเอเตอร์คนไทย โดยนำตัวการ์ตูนที่ออกแบบมาร่วมพัฒนาเป็นสินค้าของ Moshi ผ่านเครือข่ายร้านค้ากว่า 60 จังหวัดทั่วประเทศ และ Moshi x Ten & Canele คอลเลคชั่นพิเศษที่นำตัวการ์ตูน Canele ผลงานการออกแบบของคุณเตนล์ ชิตพล มาร่วมสร้างสรรค์เป็นผลิตภัณฑ์ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้บริโภค โดยมีเป้าหมายในการขยายฐานลูกค้ากลุ่มแฟนคลับทั้งในไทยและต่างประเทศ สะท้อนได้จากยอดจำหน่ายที่ทำสถิติสูงถึง 90% ภายในระยะเวลาเพียง 3 วัน การทำสัญญากิจการร่วมค้า บริษัทฯ ทำสัญญากิจการร่วมค้ากับบริษัท อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ จำกัด (มหาชน) โดยสัญญาฉบับนี้มีผลบังคับวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 โดยบริษัทฯ มีส่วนได้เสียร้อยละ 50 ในกิจการร่วมค้าดังกล่าว เพื่อร่วมดำเนินกิจการโครงการ “กิจการร่วมค้า โมชิ โมชิ แอนด์ อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ โปรเจ็ค ดีเวลลอปเม้นท์” โดยมีวัตถุประสงค์ในการจัดนิทรรศการ Hello Kitty Exhibition Celebration of Friendship and Sanrio Characters the Funtastic Exhibition ณ House of Illumination เซ็นทรัลเวิลด์ ชั้น 7 ทั้งนี้ มีแหล่งที่มาของรายได้จาก 3 ช่องทางหลัก ได้แก่ การจำหน่ายบัตรเข้าชม สินค้าลิขสิทธิ์พิเศษที่จำหน่ายเฉพาะในงาน และรายได้อื่นๆ แม้ว่าผลประกอบการในช่วงแรกจะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่ไม่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานโดยรวมของบริษัทฯ มากนัก เนื่องจากธุรกิจหลักของ Moshi ยังคงเติบโตได้ดี อีกทั้งการลงทุนครั้งนี้ถือเป็นการศึกษาโอกาสทางธุรกิจใหม่และสามารถขยายฐานลูกค้าไปสู่กลุ่มคนวัยทำงานที่เป็นแฟนคลับ Hello Kitty ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพของบริษัทฯ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าธุรกิจค้าปลีกสินค้า Lifestyle จะมีภาวะการแข่งขันที่เข้มข้นในไตรมาสที่ 4 ปี 2567 อันเนื่องมาจากเป็นช่วง High Season ที่มีอุปสงค์สูงสุดของปี รวมถึงการเข้าสู่ตลาดของผู้ประกอบการรายใหม่อย่างแบรนด์ KKV จากประเทศจีน ซึ่งอาจส่งผลต่อการกระจายตัวของส่วนแบ่งการตลาด ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการเชิงกลยุทธ์อย่างรอบคอบเพื่อรักษาขีดความสามารถในการแข่งขัน ผ่านการบริหารจัดการในหลายมิติ อาทิ การคัดสรรผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับความต้องการของผู้บริโภค การกำหนดนโยบายราคาที่เหมาะสม การดำเนินกิจกรรมทางการตลาดเชิงกลยุทธ์ ตลอดจนการยกระดับมาตรฐานการให้บริการ ซึ่งจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้บริษัทฯ สามารถบรรลุเป้าหมายการเติบโตที่วางไว้ได้อย่างมั่นคง

[ภาพข่าว] “MOSHI” คว้า CGR ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” ระดับ 5 ดาว

[ภาพข่าว] “MOSHI” คว้า CGR ในเกณฑ์ “ดีเลิศ” ระดับ 5 ดาว

           บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ MOSHI ได้รับการประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียน ประจำปี 2567 (CGR 2024) อยู่ในระดับ “ดีเลิศ (Excellent)” หรือ 5 ดาว ในโครงการสำรวจการกำกับดูแลกิจการของบริษัทจดทะเบียนไทย (CGR) ประจำปี 2567 ที่จัดขึ้นโดยสมาคมส่งเสริมสถาบันกรรมการบริษัทไทย (IOD) โดยการสนับสนุนจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งมีบริษัทจดทะเบียนเข้าร่วมการประเมินทั้งสิ้น 808 บริษัท นับเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพการดำเนินงานของบริษัทฯ ที่ประกอบธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์ ที่พร้อมตอบสนองต่อการใช้ชีวิตประจำวันของผู้บริโภค ในราคาย่อมเยา และมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามหลักธรรมาภิบาลที่ดี มีความโปร่งใส และการบริการจัดการองค์กรที่มีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกภาคส่วนอย่างยั่งยืน

[PR News] MOSHI x NCT DREAM ปล่อยคอลเลกชันใหม่ผ่านคาแรกเตอร์ศิลปิน

[PR News] MOSHI x NCT DREAM ปล่อยคอลเลกชันใหม่ผ่านคาแรกเตอร์ศิลปิน

          ‘บมจ. โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น’ หรือ MOSHI พาคอลเลกชันคอลแลปสุดพิเศษ กลับมาอีกครั้ง! ผ่าน MOSHI x NCT DREAM ปล่อยคอลเลกชันใหม่ ดึงคาแรกเตอร์ของศิลปินในเพลงไตเติล Smoothie จากอัลบั้มใหม่ล่าสุด DREAM( )SCAPE มัดใจชาว NCTzen DREAM ทั้งในไทยและต่างประเทศ เดินหน้ากระตุ้นยอดขาย พร้อมจัดเต็มสินค้าไม่ต่ำกว่า 20 รายการ ด้วยปริมาณรวมมากกว่าคอลเลกชันก่อนหน้าถึง 3 เท่า เริ่มจำหน่ายแล้ววันนี้ เป็นต้นไป ที่ร้าน Moshi Moshi ทั้ง 82 สาขาที่ร่วมรายการ และช่องทางออนไลน์ Moshi Moshi Shopee Official Store และเตรียมวางจำหน่ายสินค้ากลุ่ม 2nd Drop line up โดยจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 19 ต.ค. 2567 และสินค้ารายการอื่นๆสามารถพรีออเดอร์ได้ที่ช่องทางออนไลน์ บริษัทฯ เตรียมรองรับความต้องการของกลุ่มแฟนๆ หนุนรายได้ปีนี้เติบโต 20% ตามเป้า           นายสง่า บุญสงเคราะห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โมชิ โมชิ รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (บริษัทฯ) หรือ MOSHI ผู้นำในธุรกิจร้านค้าปลีกสินค้าไลฟ์สไตล์รายใหญ่ของประเทศไทย เปิดเผยว่า หลังจากประสบความสำเร็จในการสร้างยอดขายผ่านกลยุทธ์ Collaboration Project ผ่านคอลเลกชันสุดพิเศษ Moshi Moshi x NCT DREAM ISTJ เมื่อปีที่แล้วซึ่งได้รับความนิยมสูงสุด ล่าสุด MOSHI กลับมาร่วมมือกับ SM Entertainment และ SM True ต้นสังกัดในประเทศไทยอีกครั้งด้วยคอลเลกชันใหม่ลิขสิทธิ์ลวดลายคาแรคเตอร์ของศิลปิน NCT DREAM ศิลปินเกาหลีจากค่ายดังอย่าง SM Entertainment, Asia’s No.1 Entertainment Group ตามคอนเซ็ปต์อัลบั้มใหม่ล่าสุดอย่าง ‘DREAM( )SCAPE’ (ดรีมสเคป) ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับจากกลุ่มแฟนคลับและลูกค้าร้าน Moshi Moshi อย่างดีเยี่ยมเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา และเชื่อว่าการ Collab ในครั้งนี้จะสามารถเข้าถึงกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานได้เป็นจำนวนมาก พร้อมเดินหน้ากระตุ้นยอดขายในช่วงส่งท้ายปี 2567 ซึ่งจะสนับสนุนรายได้ปีนี้เติบโต 20% ตามเป้าหมาย           สำหรับคอลเลกชัน Collab MOSHI x NCT DREAM ในครั้งนี้ บริษัทฯ กลับมาพร้อมปริมาณสินค้า X3 (คูณสาม) เพื่อรองรับกับความต้องการของกลุ่มลูกค้า ตอกย้ำความโด่งดังของ NCT DREAM ที่สามารถจัดคอนเสิร์ตครั้งประวัติศาสตร์สุดยิ่งใหญ่ ณ สนามกีฬาราชมังคลากีฬาสถาน ผู้ร่วมงานกว่า 65,000 คน ภายใต้คอนเสิร์ต ‘2024 NCT DREAM WORLD TOUR <THE DREAM SHOW 3 : DREAM( )SCAPE> in BANGKOK’ จำนวน 2 รอบการแสดงในเดือนมิถุนายน 2567 สามารถทุบสถิติและขึ้นแท่นศิลปิน SM กลุ่มแรกที่จำหน่ายบัตรคอนเสิร์ตในประเทศไทยได้มากที่สุด นับเป็นการพิสูจน์ความนิยมที่เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยคอลเลกชันนี้ ได้ร่วมพัฒนาและออกแบบดีไซน์ของสินค้าให้สอดคล้องไปกับเพลงหลัก (Title Track) อย่าง “Smoothie” (สมูทตี้) จากอัลบั้มใหม่ล่าสุด ‘DREAM( )SCAPE’ (ดรีมสเคป) ซึ่งเป็นเพลงฮิปฮอป แดนซ์ เนื้อเพลงเปี่ยมล้นไปด้วยความมั่นใจว่าสายตาที่เย็นชาของโลกและความรู้สึกด้านลบต่าง ๆ ที่มีต่อตนเอง ทั้งหมดจะถูกบดขยี้และดื่มเข้าไปเหมือน ‘Smoothie’ โดยภายหลังจากปล่อยเทรลเลอร์ Dirty Smoothie ที่แตกต่างกันของทั้ง 7 สมาชิกได้รับการพูดถึงอย่างร้อนแรง แสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของการเติบโตและความเท่ผ่านเพลง และภายหลังการเปิดตัวสามารถทะยานขึ้นอันดับ 1 ทั้งบนชาร์ต MelOn HOT100 และชาร์ต Bugs และทุบสถิติด้วยยอดขายอัลบั้มวันแรกบน Hanteo สูงถึง 1,329,701 ชุด แซงหน้าอัลบั้มที่แล้วอย่าง ISTJ ไปได้แบบสวยงาม           สำหรับ คอลเลกชัน Moshi Moshi x NCT DREAM DREAM( )SCAPE บริษัทฯ ได้พัฒนาผลิตภัณฑ์กว่า 20 รายการ หรือกว่า 100 SKUs อาทิ กลุ่มเครื่องเขียน พวงกุญแจ ผ้าห่ม แก้วน้ำเก็บความเย็น ชุดนอน และอื่นๆ เป็นต้น โดยสร้างสรรค์มาตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย โดยจัดเต็มสินค้าด้วยปริมาณรวมมากกว่าคอลเลกชันก่อนหน้าถึง 3 เท่า รองรับความต้องการของกลุ่มแฟนๆ ที่มีจำนวนมาก วางเป้าขยายฐานลูกค้ากลุ่มแฟนคลับ NCTzen ชาวไทยและต่างประเทศ เชื่อว่าด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการทำการตลาดผ่านกลยุทธ์ Collab Marketing จะสามารถเจาะกลุ่มลูกค้าได้ตรงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น และการ Collab ครั้งนี้ จะช่วยกระจายการรับรู้ถึงแบรนด์ (Brand Awareness) ให้ไปถึงต่างประเทศได้อีกด้วย           โดยภายหลังจากการเปิดตัวและวางจำหน่ายสินค้าตั้งแต่วันแรก (วันที่ 12 ตุลาคม 2567) นับว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก กลุ่มลูกค้าให้การตอบรับอย่างล้นหลามเหมือนเช่นเคย และเตรียมวางจำหน่ายสินค้ากลุ่ม 2nd Drop line up โดยจะเริ่มจำหน่ายวันที่ 19 ตุลาคม 2567 ติดตามรายละเอียดข้อมูลสาขาร้าน Moshi Moshi ที่จัดจำหน่ายทั้ง 82 สาขาที่ร่วมรายการ ได้ที่ Facebook Fan page Moshi Moshi: https://www.facebook.com/moshimoshi.jp และสินค้ารายการอื่นๆ สามารถพรีออเดอร์ได้ที่ช่องทางออนไลน์ Shopee: https://shopee.co.th/moshimoshi_officialshop (limited items and quantity) เริ่มจำหน่ายตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป

abs

Hoonvision

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456