ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#MEDEZE


MEDEZE โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024

MEDEZE โชว์ศักยภาพธุรกิจ ในงาน Opp Day Year End 2024

          นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ “MEDEZE”  พร้อมด้วยนายพิพัฒน์ พิศณุวงรักษ์  ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน MEDEZE Treasury PTE. LTD. ร่วมนำเสนอข้อมูลบริษัทฯ และผลการดำเนินงานประจำปี 2567 ในงานบริษัทจดทะเบียนพบผู้ลงทุน (Opportunity Day) จัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย           โดยบริษัทฯ โชว์กำไรสุทธิปี 67 ที่ 338.74 ลบ. พุ่งแรง 41.39% YOY กวาดรายได้รวม 897.22 ลบ. เพิ่มขึ้น 25.78% เดินหน้าขยายธนาคารเซลล์รากผม รุกต่างประเทศ ซื้อที่ดินเตรียมแผนระยะยาวสร้างธนาคารเซลล์แห่งใหม่ ขยาย Dealer และ Agent รองรับความต้องการเก็บสเต็มเซลล์เพิ่มสูงขึ้น และการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ทั้งในระดับประเทศและระดับสากล ทั้งนี้บริษัทยังมุ่งเน้นในการพัฒนาระบบ AI อัจฉริยะ "MEDEZE Plus Auto Matching Software" เพื่อใช้ วิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและพฤติกรรมของนักลงทุน ซึ่งจะช่วยให้ MEDEZE สามารถทำตลาดได้แม่นยำขึ้น และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงนักลงทุนที่มีศักยภาพ ณ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ พุทธมณฑลสาย 4

MEDEZE เป้ารายได้ชนพันล. พุ่งเป้าสู่ผู้นำตลาดเอเชีย

MEDEZE เป้ารายได้ชนพันล. พุ่งเป้าสู่ผู้นำตลาดเอเชีย

              หุ้นวิชั่น - MEDEZE ตั้งเป้าหมายรายได้ปี 68 เติบโต 25-30% ทะลุ 1,000 ล้านบาท พร้อมทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง เดินหน้าขยายธุรกิจธนาคารเซลล์รากผม รุกตลาดต่างประเทศทำเงิน ทุ่มงบลงทุน 552 ล้านบาท ซื้อที่ดินเตรียมสร้างธนาคารเซลล์แห่งใหม่ รองรับการขยายตัวในอนาคต เล็งสยายปีกธุรกิจ ขึ้นแท่นผู้นำสู่ตลาดเอเชีย               นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทคาดการณ์รายได้ในปี 2568 จะเติบโตแตะระดับ 1,000 ล้านบาท หรือเติบโต 25-30% จากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 897.22 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นสถิติรายได้สูงสุดของบริษัทอย่างต่อเนื่อง               ปัจจัยหลักที่ขับเคลื่อนการเติบโตมาจากธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิดในประเทศ ที่มีการขยายฐานลูกค้าผ่านการเพิ่มทีมขาย พันธมิตรทางการค้า (Dealer และ Agent) รวมถึงเครือข่ายบุคลากรทางการแพทย์และสถานพยาบาลที่เพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจใหม่ล่าสุดอย่าง MEDEZE Hair Renaissance ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชีย ก็เป็นอีกหนึ่งแรงขับเคลื่อนสำคัญ โดยบริษัทตั้งเป้าให้บริการลูกค้า 500 รายภายในปี 2568 และเพิ่มเป็น 5,000 รายภายในปี 2573               ขณะเดียวกัน MEDEZE ยังเดินหน้าขยายธุรกิจไบโอเทคโนโลยีในต่างประเทศ โดยเฉพาะในประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด (Cell Banking Biotechnology) ที่มีห้องปฏิบัติการประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการที่คาดว่าจะเติบโตในอนาคต นอกจากนี้ บริษัทยังรับรู้รายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาในต่างประเทศ และค่าสิทธิในการใช้แบรนด์ “MEDEZE” จากตัวแทนให้บริการในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้น               สำหรับการเติบโตในระยะยาว บริษัทได้วางแผนสร้างธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดแห่งใหม่ โดยได้ลงทุน 552 ล้านบาท ซื้อที่ดินขนาด 30 ไร่ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจและรองรับการขยายตัวของตลาด Stem Cell ทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งได้รับปัจจัยบวกจากการสนับสนุนของภาครัฐที่ผลักดันธุรกิจเซลล์ต้นกำเนิดให้เป็นนวัตกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง (ATMPs) และเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ               นอกจากนี้ MEDEZE ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี โดยเตรียมลงทุน 12 ล้านบาท ในการพัฒนาระบบ AI อัจฉริยะ "MEDEZE Plus Auto Matching Software" เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและพฤติกรรมนักลงทุน ซึ่งจะช่วยให้บริษัทสามารถทำการตลาดได้อย่างแม่นยำและเข้าถึงนักลงทุนที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น บริษัทยังมีแผนนำหุ่นยนต์มาใช้ในกระบวนการปฏิบัติงานต้นปี 2570 ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานและเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 3 เท่า               นายแพทย์วีรพล กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีเป้าหมายที่จะขยายธุรกิจในภูมิภาคเอเชีย โดยตั้งเป้าอัตราการทำกำไร (มาร์จิ้น) ให้เติบโตเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งมุ่งเน้นการทำวิจัยและพัฒนาเพื่อจดสิทธิบัตร และขยายโมเดลธุรกิจ Cell Banking Biotechnology และการขายองค์ความรู้ไปยังต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ภายใต้กลยุทธ์ RMS (Revenue Multiplicative Strategy) ที่เน้นการเพิ่มรายได้แบบทวีคูณ ผ่านการขยายตลาดและบริการไปยังต่างประเทศ ปีละ 1 ประเทศ โดยจะรับรู้รายได้จากค่าที่ปรึกษาในช่วง 2 ปีแรก และรายได้จาก Brand Royalty Fee, Patent Fee และ Supply Fee ตั้งแต่ปีที่ 3 เป็นต้นไป และบริษัทอยู่ระหว่างพัฒนาบริการธนาคารเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อนำมาใช้กับฝ่ายหญิงที่ต้องการเพิ่มความสมบูรณ์ในการทำเด็กหลอดแก้ว (In Vitro Fertillization , IVF) คาดดันรายได้ และกำไรเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ยังมีการร่วมมือกับภาครัฐในการทำวิจัยเพื่อเพิ่มข้อบ่งชี้ในการใช้ Stem Cell เพื่อการรักษาโรคต่างๆ กระตุ้นให้ผู้ป่วยกลับมาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง               MEDEZE วางแผนที่จะรุกตลาดในประเทศที่มีศักยภาพในเอเชีย ทั้งในด้านอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ประชากรผู้สูงอายุที่เพิ่มขึ้น และบุคลากรที่มีการศึกษาเพียงพอรองรับระบบของบริษัท โดยมีแนวทางการขยายธุรกิจ Bio Bank ทั้งในรูปแบบการร่วมถือหุ้นและการขายแฟรนไชส์ ซึ่งในเบื้องต้นจะให้น้ำหนักกับการขายแฟรนไชส์เนื่องจากใช้เงินลงทุนน้อยและให้ผลตอบแทนที่สูงกว่า อนึ่ง ปี 2567 บริษัทมีรายได้ที่ 897.22 ล้านาท และมีกำไรสุทธิ 338.74 ล้านบาท

MEDEZE เป้ารายได้ New High ทะลุพันล. ทุ่ม 552 ลบ. ซื้อที่ดิน

MEDEZE เป้ารายได้ New High ทะลุพันล. ทุ่ม 552 ลบ. ซื้อที่ดิน

           หุ้นวิชั่น - “เมดีซ กรุ๊ป” ตั้งเป้ารายได้ปี 68 ทะลุ 1,000 ลบ. ทำ New High ต่อเนื่อง เดินหน้าขยายธนาคารเซลล์รากผม รุกต่างประเทศ ซื้อที่ดินเตรียมแผนระยะยาวสร้างธนาคารเซลล์แห่งใหม่ รองรับความต้องการขยายตัว หลังภาครัฐผลักดัน Stem Cell สู่ ATMPs            นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการดำเนินงานในปี 2568 โดยคาดว่ารายได้จะเติบโตที่ระดับ 25-30% ทะลุ 1,000 ล้านบาท จากปี 2567 ที่มีรายได้รวม 897.22 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ต่อเนื่องของบริษัท            โดยการเติบโตหลักๆของบริษัทจะมาจากการขยายตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิดในประเทศ จากการเพิ่มขนาดทีมขาย เพิ่มพันธมิตรทางการค้าที่เป็นตัวแทนให้บริการ หรือ Dealer และตัวแทนจำหน่าย หรือ Agent ทำให้สามารถเข้าถึงลูกค้าที่มีความต้องการมาจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell ได้มากขึ้น และกลุ่มบริษัทมีเครือข่ายพันธมิตรที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น รวมถึงธุรกิจใหม่ MEDEZE Hair Renaissance ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชีย ที่ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์รากผม ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการ โดยบริษัทตั้งเป้าหมายให้บริการลูกค้า 500 เคส ภายในปี 2568 และเพิ่มเป็น 5,000 เคส ภายในปี 2573            ในขณะเดียวกันบริษัทได้เดินหน้าในการขยายธุรกิจไบโอเทคโนโลยีในประเทศฟิลิปปินส์ ในการจัดตั้งธนาคารเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Cell Banking Biotechnology  ซึ่งประกอบไปด้วย ห้องปฏิบัติการด้านตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดประสิทธิภาพสูง เพื่อรองรับความต้องการในการเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในฟิลิปปินส์ที่มีแนวโน้มเติบโตได้ในอนาคต รวมถึงรายได้ธุรกิจที่ปรึกษาด้านธุรกิจจากต่างประเทศ และรายได้จากค่าสิทธิในการใช้แบรนด์สินค้า “MEDEZE” จากตัวแทนให้บริการในต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง            สำหรับแผนในการขยายธุรกิจในระยะยาว บริษัทได้เครียมเตรียมสร้างธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดแห่งใหม่ โดยได้ซื้อที่ดิน 30 ไร่ มูลค่า 552 ล้านบาท เพื่อเพิ่มศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ และรองรับการเติบโตในระยะยาว ตามความต้องการของตลาด Stem Cell ที่คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่องในอนาคต ทั้งฐานลูกค้าชาวไทย และต่างชาติ ซึ่งได้รับปัจจัยเชิงบวกจากการที่ภาครัฐให้การสนับสนุนธุรกิจเซลล์ต้นกำเนิดอย่างเต็มที่ และจัดให้อยู่ในกลุ่มนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง หรือ ATMPs มีการประกาศแผนชัดเจนในการสนับสนุนธุรกิจเซลล์ต้นกำเนิดเป็นธุรกิจที่สนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ และบริษัทยังมุ่งเน้นในการพัฒนาระบบ AI อัจฉริยะ "MEDEZE Plus Auto Matching Software" เพื่อใช้ วิเคราะห์ข้อมูลจากโซเชียลมีเดียและพฤติกรรมของนักลงทุน ด้วยงบประมาณ 12 ล้านบาท โดยการพัฒนาระบบ AI นี้ จะช่วยให้ MEDEZE สามารถทำตลาดได้แม่นยำขึ้น และเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงนักลงทุนที่มีศักยภาพ [PR News]

MEDEZE พุ่งสู่ New High ลุยต่างประเทศ-หนุนกำไรทุบสถิติ

MEDEZE พุ่งสู่ New High ลุยต่างประเทศ-หนุนกำไรทุบสถิติ

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง MEDEZE ว่า ปี 2025 สดใส New High, New S-Curve Event ประเด็นสำคัญจากการประชุมนักวิเคราะห์ (4 ก.พ. 2025) ► บริษัทให้ข้อมูลแผนกลยุทธ์การดำเนินงานและเป้าหมายการเติบโตของบริษัทในปี 2025 โดยใช้กลยุทธ์หลัก คือ “Revenue Multiplicative Strategy (RMS)” โมเดลของการทวีคูณรายได้ช่วยหนุนกำไรทุบสถิติสูงสุดต่อเนื่อง จากการเพิ่มการบริการใหม่และขยายตลาดต่างประเทศ โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก การสนับสนุนของภาครัฐ (Regulations Easing) การเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานและลดต้นทุน (Operational Efficiency) บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของรายได้ปี 2025 ที่ 25-30% YoY ► สำหรับธุรกิจใหม่ MEDEZE Hair Resident ซึ่งเพิ่งเปิดตัวอย่างเป็นทางการเมื่อ 14 ก.พ. 2025 ที่ผ่านมา ถือเป็นธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชีย ที่ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์รากผม โดยบริษัทตั้งเป้าหมายให้บริการลูกค้า 500 เคสภายในปี 2025 และเพิ่มเป็น 5,000 เคสภายในปี 2030 ► แผนขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ สำหรับรายได้จากธุรกิจที่ปรึกษาด้านธุรกิจจากต่างประเทศ และรายได้จากค่าสิทธิในการใช้แบรนด์สินค้า “MEDEZE” จากตัวแทนให้บริการในต่างประเทศ (Dealer) ที่เพิ่งเริ่มรับรู้รายได้ใน 4Q24 ที่ผ่านมา บริษัทชี้แจงว่ารายได้ทั้งสองธุรกิจจะเข้ามาอย่างสม่ำเสมอและเพิ่มขึ้นทุกปี ไม่ใช่รายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว โดยบริษัทตั้งเป้าหมายขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ ปีละ 1 ประเทศ ► ภาครัฐให้การสนับสนุนธุรกิจ Stem Cell อย่างเต็มที่ รัฐบาลมีการประกาศแผนชัดเจนในการสนับสนุนธุรกิจ Stem Cell เพื่อเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ โดยกระทรวงสาธารณสุขร่วมกับคณะแพทยศาสตร์จากมหาวิทยาลัยชั้นนำของไทย ลงนามประกาศเจตนารมณ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง หรือที่เรียกว่า ATMPs             นอกจากนี้ รัฐบาลยังเตรียมตั้ง Sand Box เพื่อเป็นศูนย์กลางในการวิจัยและผลิต Stem Cell และกำหนดเป็นมาตรฐาน หลังจากได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) จะสามารถขึ้นทะเบียนเป็นยาแผนปัจจุบันได้ทันที ► แผนระยะยาว: เตรียมสร้างธนาคาร Stem Cell แห่งใหม่ ล่าสุด บริษัทได้ซื้อที่ดิน 30 ไร่ มูลค่า 552 ล้านบาท เพื่อเตรียมสร้างอาคาร ธนาคาร Stem Cell แห่งใหม่ รองรับการเติบโตในระยะยาว และขยายธุรกิจใหม่ บริษัทยังไม่ได้ให้ข้อมูลรายละเอียดงบลงทุน แต่เบื้องต้นจะใช้เงินสดภายในและการกู้ยืม Our Take ► เรามีมุมมองเป็นบวกจากการประชุม ด้วยแนวโน้มผลประกอบการที่คาดว่าเติบโตดีต่อเนื่อง เบื้องต้นเราคงประมาณการกำไรปี 2025 เติบโตต่อเนื่อง 28% YoY โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก การเติบโตจาก Organic Growth ราว 15% รับผลบวกจากการขยายธุรกิจตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝาก Stem Cells โดยเฉพาะรายได้จากการรับฝากเซลล์และการเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ รวมถึงรายได้จากการเพิ่มจำนวนเซลล์เนื้อเยื่อไขมันจากการขยายขนาดทีมขายของบริษัท ทำให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้มากขึ้น การเติบโตจากการขยายธุรกิจใหม่ ได้แก่ MEDEZE Hair Resident ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผม และการขยายธุรกิจไปยังตลาดต่างประเทศ ► คงคำแนะนำ “ซื้อ” เรามองว่าราคาหุ้นที่ปรับลดลงได้สะท้อนปัจจัยลบไปมากแล้ว โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับธุรกิจ Stem Cell ที่เคยถูกโจมตี ซึ่งล่าสุด แพทยสภาให้การยอมรับแล้ว และภาครัฐให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่ จากการประชุมวงการแพทย์และสาธารณสุข พบว่า ธุรกิจ Stem Cell ถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ขณะที่แนวโน้มผลประกอบการยังคงทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง             เราคงมูลค่าพื้นฐานปี 2025 ที่ 12.60 บาท

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

MEDEZE กำไรปี68-69 โตเฉลี่ย 23% ธุรกิจ Stem Cells หนุน โบรกเคาะเป้า 12.60 บาท

MEDEZE กำไรปี68-69 โตเฉลี่ย 23% ธุรกิจ Stem Cells หนุน โบรกเคาะเป้า 12.60 บาท

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.หยวนต้า ระบุ  MEDEZE รายงานกำไรสุทธิใน 4Q24 ที่ 98 ล้านบาท +4% QoQ, +78% YoY ทุบสถิติสูงสุด โดยกำไรสูงกว่าประมาณการของเรา 6% จากรายได้อื่นๆ ที่สูงกว่าคาด            บริษัทมีรายได้จากการขายและบริการที่ 199 ล้านบาท -12% QoQ, +6% YoY เทียบ QoQ ชะลอตัว เนื่องจากกลุ่มบริษัทฯ มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายการบัญชีเกี่ยวกับการรับรู้รายได้ จากเดิมที่รับรู้เมื่อกิจการให้บริการเสร็จสิ้น เป็นรับรู้ตลอดช่วงเวลาที่ให้บริการแก่ลูกค้า ส่งผลให้รายได้จากการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดที่เก็บจากเนื้อเยื่อสายสะดือลดลง เทียบ YoY ยังเติบโตเนื่องจากรับผลบวกจากการเติบโตของธุรกิจ Stem Cells จากการบริการรับฝากเซลล์และเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ และรายได้จากการเพิ่มจำนวนเซลล์เนื้อเยื่อไขมันเพิ่มขึ้น จากการขยายขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯ ทำให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับรายได้จากบริการทดสอบศักยภาพ NK Cells เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนตัวแทนการให้บริการทั้ง Dealer และ Agent             บริษัทมีรายได้อื่นๆ ที่ 39 ล้านบาท เพิ่มขึ้นโดดเด่น 1,469% QoQ และ 700% YoY เนื่องจากมีรายได้เพิ่มจาก 2 ธุรกิจ รายได้ค่าที่ปรึกษาด้านธุรกิจจากต่างประเทศ จำนวน 36 ล้านบาท รายได้จากค่าสิทธิในการใช้แบรนด์สินค้า “MEDEZE” จากตัวแทนให้บริการในต่างประเทศ (Dealer) ที่ใช้แบรนด์สินค้าตรา “MEDEZE” จำนวน 2 ล้านบาท            โดยบริษัทชี้แจงว่ารายได้ทั้งสองธุรกิจจะเพิ่มขึ้นในทุก ๆ ปี ไม่ใช่รายการที่เกิดขึ้นครั้งเดียว จึงไม่นับเป็นรายการพิเศษ             ด้านประสิทธิภาพในการทำกำไร พบว่าอัตรากำไรสุทธิดีขึ้น QoQ และ YoY โดย 4Q24 อยู่ที่ 49.4% เทียบ 3Q24 ที่ 41.8% และ 4Q23 ที่ 29.6% แม้ว่าบริษัทจะมีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น ทั้งจากการขยายธุรกิจ การเพิ่มจำนวนตัวแทนการให้บริการทั้ง Dealer, Agent และค่าใช้จ่ายจากการลงทุนในโครงการ CSR รวมถึงการปรับนโยบายบัญชีมีผลให้อัตรากำไรจากการดำเนินงานลดลง แต่มีผลบวกด้านภาษีที่ได้รับส่งเสริมโครงการตามมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม (CSR) ภายใต้การสนับสนุนของ BOI ทำให้ไตรมาสนี้มีภาษีจ่ายลดลง (ภาษีเริ่มลดลงตั้งแต่ไตรมาสก่อน)            บริษัทประกาศจ่ายปันผลงวด 2H24 ที่ 0.08 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 1% จากราคาปัจจุบัน โดยขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 6 พ.ค. 2025 Our Take คงประมาณการกำไรปี 2025-2026 เติบโตต่อเนื่องเฉลี่ย 23% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก การเติบโตจาก Organic Growth ราว 20% รับผลบวกจากการเติบโตของธุรกิจตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) โดยเฉพาะรายได้จากการรับฝากเซลล์และเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ และรายได้จากการเพิ่มจำนวนเซลล์เนื้อเยื่อไขมันที่เพิ่มขึ้น จากการขยายขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯ ทำให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้มากขึ้น และธุรกิจตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) จากการเพิ่มจำนวนตัวแทนการให้บริการทั้ง Dealer และ Agent เติบโตจากการขยายธุรกิจใหม่ MEDEZE Hair Resident ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชีย            สำหรับธุรกิจ MEDEZE Hair Resident บริษัทตั้งเป้าให้บริการลูกค้า 500 เคส ภายในปี 2025 และเพิ่มเป็น 5,000 เคส ภายในปี 2030            คงคำแนะนำ “ซื้อ” มองว่าราคาปรับลดลงสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ประเด็นที่ธุรกิจ Stem Cells เคยถูกโจมตี ทางแพทยสภาได้ให้การยอมรับแล้ว ขณะที่ทางรัฐบาลให้การสนับสนุน จากการประชุมวงการแพทย์และสาธารณสุข ได้จัดให้อยู่ในกลุ่มนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ด้านผลประกอบการยังทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง คงมูลค่าพื้นฐานปี 2025 ที่ 12.60 บาท

MEDEZE คาดกำไรปี 68-69 โต 25% ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมหนุน

MEDEZE คาดกำไรปี 68-69 โต 25% ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมหนุน

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล. หยวนต้า ระบุว่า MEDEZE จัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “MEDEZE Hair Renaissance” ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชีย ที่ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์รากผม ด้วยเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด ในการเก็บเซลล์รากผมในช่วงที่แข็งแรงและสมบูรณ์ที่สุด สามารถรองรับการเก็บเซลล์ในบุคคลทุกช่วงวัย สามารถเก็บเซลล์ไว้ใช้ในอนาคตได้ โดยใช้เทคโนโลยี Cryopreservation ในการแช่แข็งเซลล์รากผมที่อุณหภูมิ -196 องศาเซลเซียส ปราศจากการปนเปื้อน พร้อมระบบความปลอดภัยสูง และการตรวจสอบคุณภาพอย่างเข้มงวด ใช้เส้นผมเพียง 50 เส้น สามารถเพิ่มจำนวนเซลล์ได้ถึง 50 ล้านเซลล์ เพื่อรักษาคุณภาพและความสามารถในการเจริญเติบโตของเซลล์            ► สำหรับธุรกิจ MEDEZE Hair Renaissance บริษัทตั้งเป้าให้บริการลูกค้า 500 เคส ภายในปี 2025 และเพิ่มเป็น 5,000 เคส ภายในปี 2030 Our Take            ► เรามีมุมมองเป็นบวกต่อการเปิดตัว “MEDEZE Hair Renaissance” ซึ่งถือว่าเป็นไปตามแผนที่บริษัทได้แจ้งไว้ในตอนระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นให้ประชาชน (IPO) ที่จะช่วยขยายฐานรายได้และลูกค้ากลุ่มใหม่มากขึ้น            ► ด้านแนวโน้มผลประกอบการยังคงเติบโตดีต่อเนื่อง YoY ใน 4Q24 เราคงประมาณการกำไรปี 2024 ที่ 332 ล้านบาท (+39%YoY) ปัจจัยหลักจากการเติบโตของธุรกิจ Stem Cells จากการบริการรับฝากเซลล์และเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ และรายได้จากการเพิ่มจำนวนเซลล์เนื้อเยื่อไขมันเพิ่มขึ้น จากการขยายขนาดทีมขายของกลุ่มบริษัทฯ ทำให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับรายได้จากบริการทดสอบศักยภาพ NK Cells เพิ่มขึ้นจากการเพิ่มจำนวนตัวแทนการให้บริการทั้ง Dealer และ Agent            ► คาดกำไรปี 2025-2026 เติบโตเฉลี่ย 25% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก 1. การเติบโตจาก Organic Growth ราว 20% รับผลบวกจากการเติบโตของธุรกิจตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) 2. เติบโตจากการขยายธุรกิจใหม่ MEDEZE Hair Renaissance ธนาคารแช่แข็งเซลล์รากผมแห่งแรกในเอเชีย            ► คงคำแนะนำ “ซื้อ” เรามองว่าราคาปรับลดลงสะท้อนปัจจัยลบไปแล้ว ประเด็นที่ธุรกิจ Stem Cells เคยถูกโจมตี ทางแพทยสภาได้ให้การยอมรับแล้ว ขณะที่ทางรัฐบาลให้การสนับสนุน จากการประชุมวงการแพทย์และสาธารณสุข ได้จัดให้อยู่ในกลุ่มนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง ด้านผลประกอบการยังทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง เราคงมูลค่าพื้นฐานปี 2025 ที่ 12.60 บาท

MEDEZE คาดผลงานทำนิวไฮ ASL ให้เป้า 10.50 บาท

MEDEZE คาดผลงานทำนิวไฮ ASL ให้เป้า 10.50 บาท

          หุ้นวิชั่น -  ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุถึง MEDEZE ว่า คาดผลประกอบการ 24F ทำนิวไฮ           MEDEZE (บ.เมดีซ กรุ๊ป) ประกอบธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน ได้ IPO ช่วงต.ค. 2024 ที่ราคา 9 บาท (PE ที่ 35.5 เท่า) ซึ่งระดมทุนไป 2.4 พันล้านบาทนำไปขยายธุรกิจเซลล์รากผม 100 ล้านบาท และลงทุนติดตั้งระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ 400 ล้านบาท ส่วนที่เหลือราว 1.8 พันล้านบาทจะเป็นเงินทุนหมุนเวียน           ผลประกอบการ 3Q24 รายงานกำไรสุทธิ 94.7 ล้านบาท +9%QoQ, +36.3%YoY จากการเติบโตของรายได้ในทุกธุรกิจ ตามการขยายทีมขายทั้งในเขตกรุงเทพฯและต่างจังหวัด การเพิ่มพันธมิตรที่เป็นบุคคลากรทางการแพทย์ รวมถึงสถานพยาบาลที่เพิ่มขึ้น ส่วนด้าน GPM อยู่ที่ 78.8% ชะลอตัวลงเล็กน้อย QoQ แต่ดีขึ้น 50 bps จากปีก่อน           แต่ด้านNPM เท่ากับ 41.8% เพิ่มขึ้นเด่นทั้ง QoQ (39.5%) และ YoY(37.4%) ตามการลดต้นทุนในการเพาะเลี้ยงเซล์จากการใช้เครื่องเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเซล์ต้นกำเนินมีเซนไคมอลชนิดอัตโนมัติ ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านบุคคลากร และค่าใช้จ่ายบางส่วนเป็น fixed cost เกิด Economies of scale ตามรายได้ที่เพิ่มขึ้น           ราคาที่ปรับตัวลงก่อนหน้านี้ ขานรับปัจจัยลบจากแพทย์สภาออกมาตั้งคำถามถึงนวัตกรรมการรักษาโรคด้วยสเต็มเซลล์ที่เป็นธุรกิจหลักของบริษัทในการให้บริการจัดเก็บสเต็มเซลล์ แต่อย่างไรก็ดี ATMPs หรือนวัตกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง อาทิ ยีนบำบัด เซลล์บำบัด และการวิศวกรรมเนื้อเยื่อ ได้รับการยอมรับว่าเป็นยาภายใต้ประกาศของ รมว.สาธารณสุขแล้ว           สำหรับแนวโน้มปี 2024 ผู้บริหารคาดผลประกอบการจะทำ All time high (แจ้งงบ 28 ก.พ.) ส่วนแนวโน้ม 4Q24F อาจทำได้ดีกว่าที่ตลาดคาด           ขณะที่ปี 68 ตั้งเป้ารายได้โต 25-30% มาจากการให้บริการปกติของบริษัทเองจากฐานลูกค้าระดับบน ทั้งรายใหม่ และรายเก่า รวมไปถึงการบริการที่เติบโตจากการร่วมมือกับพันธมิตร รวมถึงคาดว่าจะสามารถเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดได้จากปัจจุบันที่ 50% เป็น 65% นอกจากนี้ยังมีแผนการเติบโตผ่าน M&A ในอนาคต ซึ่งล่าสุดได้เซ็น MOU กับ IFCG ขยายฐานตัวแทนที่ปรึกษาเพิ่มอีกว่า 400 คน เพื่อขยายฐานเก็บเซลล์ เจาะกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงของ IFCG ได้เพิ่มอีกกว่า 50,000 ราย ราคาเป้าเชิงกลยุทธ์ 10.50 บาท แนวรับ 9-8.85/8.30 ไม่ควรต่ำกว่าลงมา แนวต้าน 9.40/10/10.50

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

MEDEZE ปลื้ม ติดโผ FTSE SET Shariah Index

MEDEZE ปลื้ม ติดโผ FTSE SET Shariah Index

          บมจ. เมดีซ กรุ๊ป (MEDEZE) ประกาศความสำเร็จอีกขั้น หลังได้รับการคัดเลือกเป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ใหม่ของ FTSE SET Shariah Index ซึ่งจัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับ FTSE Russell โดยผลการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวจะมีผลตั้งแต่วันที่ 23 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป           FTSE SET Shariah Index เป็นดัชนีที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์นักลงทุนที่มุ่งเน้นการลงทุนอย่างยั่งยืน (Sustainability Investment) และปฏิบัติตามหลักศาสนาอิสลาม (Shariah Compliance) โดยเลือกหลักทรัพย์ที่มีสภาพคล่องสูงและมีการกำกับดูแลกิจการที่ดี           การได้รับเลือกในครั้งนี้สะท้อนถึงศักยภาพของ MEDEZE ในการดำเนินธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และมีแนวโน้มการเติบโตที่แข็งแกร่ง อีกทั้งยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ พร้อมทั้งเปิดโอกาสในการขยายธุรกิจในระดับสากล           นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมดีซ กรุ๊ป (MEDEZE) เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เข้าคำนวณใน FTSE SET Shariah Index ซึ่งเป็นดัชนีระดับสากลที่มุ่งเน้นการลงทุนอย่างยั่งยืนและดำเนินธุรกิจตามหลักศาสนาอิสลาม           “การได้รับเลือกในครั้งนี้ไม่เพียงสะท้อนถึงศักยภาพและความมุ่งมั่นของเราในการดำเนินธุรกิจอย่างมีธรรมาภิบาล แต่ยังช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงเสริมสร้างโอกาสในการขยายธุรกิจในอนาคต เรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของดัชนีที่มีความสำคัญระดับโลกเช่นนี้” นายแพทย์วีรพล กล่าว           การทบทวนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนีชุด FTSE SET Index Series จัดทำขึ้นปีละ 2 ครั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้เป็นการล่วงหน้า โดยมีกำหนดทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน 2568 [PR News]

[ภาพข่าว] “MEDEZE” ต้อนรับคณะแพทย์ พยาบาล เภสัชกร จากโรงพยาบาลนครแม่สอด อินเตอร์เนชั่นแนล

[ภาพข่าว] “MEDEZE” ต้อนรับคณะแพทย์ พยาบาล เภสัชกร จากโรงพยาบาลนครแม่สอด อินเตอร์เนชั่นแนล

          นางสาวดนิตา พิทักษ์เนติกุล (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE ให้การต้อนรับ แพทย์หญิงสุวรรณา ศรวณีย์ (ที่ 4 จากซ้าย) ผู้อำนวยการ โรงพยาบาลนครแม่สอด อินเตอร์เนชั่นแนล พร้อมคณะ ในโอกาสเข้าเยี่ยมชมกิจการ และให้ข้อมูลภาพรวมธุรกิจ โดยได้เข้ารับฟังเรื่องการจัดเก็บเซลล์ภูมิคุ้มกัน NK Cell การจัดเก็บสเต็มเซลล์ (Stem Cell) และได้เยี่ยมชมแล็บที่ได้รับรองมาตราฐาน ณ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) สำนักงานใหญ่ พุทธมณฑลสาย 4

MEDEZE เซ็นสัญญา “Shibuya” ซื้อระบบเพาะเลี้ยงเซลล์อัตโนมัติ คาดส่งมอบมิ.ย.69

MEDEZE เซ็นสัญญา “Shibuya” ซื้อระบบเพาะเลี้ยงเซลล์อัตโนมัติ คาดส่งมอบมิ.ย.69

           หุ้นวิชั่น - “เมดีซ กรุ๊ป” ลงนามสัญญากับ “ชิบุยะ คอร์ปอเรชั่น” หนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี  ในการซื้อระบบเพาะเลี้ยงเซลล์อัตโนมัติ ระบบอัจฉริยะเสริมศักยภาพธนาคารเซลล์ แห่งโลกอนาคต คาดส่งมอบมิ.ย. 69 ตอกย้ำหนึ่งในผู้นำการพัฒนา และนำเสนอโซลูชั่นด้านสเต็มเซลล์ที่โดดเด่นทั้งในไทย และภูมิภาค           นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามในสัญญาการจัดซื้อระบบเพาะเลี้ยงเซลล์อัตโนมัติร่วมกับ           บริษัท ชิบุยะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการวิจัย และพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ โดยระบบดังกล่าวเป็นระบบอัจฉริยะที่จะถูกติดตั้ง ณ สถานประกอบการธนาคารเซลล์อาคารแห่งใหม่ของ MEDEZE ซึ่งขยายการให้บริการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดจากเนื้อเยื่อสายสะดือ และเนื้อเยื่อไขมัน ตลอดจนการจัดเก็บเลือดจากสายสะดือ และเซลล์รากเส้นผม โดยคาดว่าจะสามารถส่งมอบระบบดังกล่าวได้ภายในเดือนมิถุนายน 2569 ซึ่งระบบอัจฉริยะดังกล่าว จะสามารถเสริมศักยภาพธนาคารเซลล์ และจะเป็นการตอกย้ำหนึ่งในการเป็นผู้นำในการพัฒนา และนำเสนอโซลูชั่นด้านสเต็มเซลล์ที่โดดเด่นทั้งในประเทศไทย และในภูมิภาค           ขณะที่ MR.HIDETOSHI SHIBUYA บริษัท ชิบุยะ คอร์ปอเรชั่น จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เป็นธนาคารเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคม์ที่มีประสบการณ์ และใหญ่ที่สุดในภูมิภาคเอเชีย มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งระบบเพาะเลี้ยงเซลล์อัตโนมัติที่ชิบุยะนำเสนอให้กับ MEDEZE จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการจัดเก็บเซลล์ และช่วยลดข้อจำกัดด้านต้นทุนในการจัดเก็บ และไม่จำเป็นต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญด้านการเพาะเลี้ยงเซลล์ได้อีกด้วย            โดยระบบดังกล่าวถือว่าเป็นระบบเพาะเลี้ยงเซลล์อัตโนมัติสำหรับเซลล์ต้นกำเนิดระบบแรกของโลก ซึ่งสามารถบูรณาการเทคโนโลยีการควบคุมสภาวะปลอดเชื้อ เทคโนโลยีการผลิตเซลล์ และเทคโนโลยีการขนส่งอัตโนมัติ ซึ่งระบบการทำงานประกอบด้วย หน่วยประมวลผลเซลล์ (Cell Processing Unit) ซึ่งดำเนินกระบวนการเพาะเลี้ยงเซลล์ทั้งมวลโดยอัตโนมัติ ตั้งแต่การจัดส่งจนถึงการเปลี่ยนอาหารเลี้ยงเซลล์ และการเพาะเลี้ยงภายใต้สภาวะปลอดเชื้อ, หน่วยเพาะเลี้ยง (Incubation Unit) ทำหน้าที่ควบคุมอุณหภูมิ และความชื้นสำหรับเซลล์ของผู้รับบริการแต่ละรายในหน่วยเพาะเลี้ยงเซลล์ขนาดเล็กที่แยกอิสระจำนวนประมาณ 100 ยูนิต เพื่อลดความเสี่ยงในการปนเปื้อน และดำรงไว้ซึ่งสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด และหน่วย AiV (AiV Unit) ที่ทำการขนส่งเซลล์แต่ละชุดโดยใช้หุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ AMR (Autonomous Mobile Robot) ซึ่งใช้กระบวนการที่ได้รับการปรับให้เหมาะสมด้วยระบบ AI เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ซึ่งหน่วยหลักทั้งสามสามารถทำงานเชื่อมต่อกัน และบันทึกข้อมูลการผลิตโดยอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้บุคลากรทางการแพทย์ในการปฏิบัติงาน ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดเก็บเซลล์ และลดปัญหาการปนเปื้อนได้ “เรามีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนา และใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัยในการทำให้ประสิทธิภาพของการจัดเก็บเซลล์สูงขึ้น และเป็นไปตามมาตรฐานสากล และด้วยการยกระดับความปลอดภัยของกระบวนการจัดเก็บเซลล์ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในธนาคารเซลล์ จะช่วยลดความเสี่ยงอันเกิดจากความผิดพลาดของมนุษย์ รวมถึงระบบนี้จะเพิ่มประสิทธิภาพให้สามารถผลิต และจัดเก็บเซลล์ที่มีคุณภาพสูงได้อย่างมั่นคง และจัดหาบริการที่ปลอดภัย และมีราคาที่สมเหตุสมผลยิ่งขึ้น” นายแพทย์วีรพล กล่าว

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

MEDEZE คว้ารางวัล “ACES Award” ผู้สร้างมาตรฐานโดดเด่นด้านการดูแลรับฝากสเต็มเซลล์

MEDEZE คว้ารางวัล “ACES Award” ผู้สร้างมาตรฐานโดดเด่นด้านการดูแลรับฝากสเต็มเซลล์

          หุ้นวิชั่น - “เมดีซ กรุ๊ป” คว้ารางวัล “ACES Award for Industry Champions of the Year” ตอกย้ำการเป็นหนึ่งในผู้นำในการพัฒนา ธนาคารฝากเก็บสเต็มเซลล์ ที่โดดเด่น ทั้งในไทย และในภูมิภาค นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทได้รับรางวัล ACES Award for Industry Champions of the Year จัดโดย MORS Group เป็นรางวัลอันทรงเกียรติที่ยกย่ององค์กร หรือผู้นำที่สร้างแรงบันดาลใจ และส่งเสริมความยั่งยืนทั่วทั้งอุตสาหกรรม และภูมิภาคเอเชีย ซึ่งเน้นย้ำบริษัทที่ขับเคลื่อนความก้าวหน้า และนวัตกรรมในภาคส่วนของตน ซึ่ง MEDEZE ได้รับการยกย่องว่าเป็นธนาคารจัดเก็บสเต็มเซลล์ที่ใหญ่ และเป็นที่ยอมรับมากที่สุดของประเทศ และยังเป็นผู้นำวงการธนาคารสเต็มเซลล์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยการเติบโตของ MEDEZE ในระยะแรกมุ่งเน้นไปที่ธนาคารสเต็มเซลล์สำหรับเลือดสายสะดือ และได้พัฒนาการให้บริการสู่การรับฝากสเต็มเซลล์จากเนื้อเยื่อสายสะดือ และเนื้อเยื่อไขมัน ทำให้เปิดโอกาสให้ผู้รับบริการสามารถจัดเก็บสเต็มเซลล์ของตนเอง ให้กับทุกคนทุกช่วงอายุ รวมถึงการลงทุนในนวัตกรรมที่มีประสิทธิภาพ และการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ MEDEZE ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรม โดยปัจจุบัน MEDEZE มีห้องปฏิบัติการสเต็มเซลล์ระดับโลกที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งได้การรับรอง Cleanroom Class 100  จาก National Environmental Balancing Bureau (NEBB) จากประเทศสหรัฐอเมริกา และเป็นไปตามมาตรฐาน Association for the Advancement of Blood & Biotherapies (AABB) ตอกย้ำการมีมาตรฐานความปลอดภัย และประสิทธิภาพสูงสุด           “รางวัล ACES Award ไม่เพียงแต่เกิดจากความมุ่งมั่นของ MEDEZE แต่ยังเป็นการสะท้อนถึงพัฒนาการด้านสเต็มเซลล์ที่เข้าถึงได้ และเป็นส่วนหนึ่งที่ยกระดับมาตรฐานทางอุตสาหกรรม ซึ่งก่อนหน้านี้ MEDEZE ได้รางวัล Frost & Sullivan เป็นการยืนยันความเป็นผู้นําของ MEDEZE ในการให้บริการธนาคารสเต็มเซลล์ที่ครอบคลุม และมีประสิทธิภาพในระดับสากล” นายแพทย์วีรพลกล่าว

[PR News] MEDEZE เปิดเทรดวันแรกที่ 13.30 บาท พุ่งเหนือจอง 47.78 %

[PR News] MEDEZE เปิดเทรดวันแรกที่ 13.30 บาท พุ่งเหนือจอง 47.78 %

           “เมดีซ กรุ๊ป” เปิดเทรดวันแรกที่ 13.30 บาท พุ่งเหนือราคาจอง 47.78% เดินหน้าขยายธุรกิจด้านเซลล์รากผม และระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ ขยายฐานกำไร สร้างโอกาสเติบโตในอนาคต ตอกย้ำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรม            นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจำหน่าย และรับประกันการจำหน่ายของบริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า ราคาหุ้น MEDEZE เปิดทำการซื้อขายวันแรกที่ 13.30 บาท ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 47.78% จากราคาจองซื้อที่ 9 บาท ซึ่งเป็นการได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากความเป็นผู้นำธุรกิจ พื้นฐานการเงินที่มีความแข็งแกร่ง และอุตสาหกรรมอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น รวมถึงแผนขยายธุรกิจที่มีศักยภาพ ช่วยขยายฐานกำไร สร้างโอกาสเติบโตในอนาคต            นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนที่จะลงทุนขยายธุรกิจด้านเซลล์รากผม หรือ Hair Follicle Cell Bank ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเซลล์จากรากผม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผม และหนังศีรษะ ที่มีแนวโน้มจะพบเจอมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัย และลงทุนติดตั้งระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ หรือ Robotic Cell Culture System ซึ่งเป็นนวัตกรรมขั้นสูงและล้ำสมัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้กระบวนจัดเก็บมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดความผิดพลาดของบุคคล และลดความเสี่ยงจากตัวแปรที่มาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ยกระดับความน่าเชื่อถือทัดเทียมกับผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลก สามารถดึงดูดลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้มากขึ้น            “วันนี้ถือเป็นความสำเร็จที่สำคัญของ MEDEZE ซึ่งเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และขอขอบคุณทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำงานหนักมาโดยตลอด และขอขอบคุณนักลงทุนทุกท่านที่ให้ความสนใจ และเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งกับ MEDEZE ซึ่งบริษัทฯเองก็หวังว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง และในฐานะผู้บริหารจะพยายามรักษาผลการดำเนินงานให้มีความโดดเด่น เดินหน้าขยายธุรกิจเพื่อเสริมศักยภาพ และสร้างการเติบโตในอนาคต รวมถึงการตอกย้ำการเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ด้วยศักยภาพในการให้บริการในระดับสากล” นายแพทย์วีรพลกล่าว

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. เมดีซ กรุ๊ป (MEDEZE) เริ่มซื้อขาย 15 ต.ค. นี้

ตลาดหลักทรัพย์ฯ ต้อนรับ บมจ. เมดีซ กรุ๊ป (MEDEZE) เริ่มซื้อขาย 15 ต.ค. นี้

บมจ. เมดีซ กรุ๊ป ผู้นำการให้บริการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cell Banking) ด้วยมาตรฐานระดับสากล พร้อมซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 15 ต.ค. นี้ ด้วยมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,612 ล้านบาท โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ ว่า “MEDEZE”           นายอำนวย จิรมหาโภคา ผู้ช่วยผู้จัดการ กลุ่มงานผู้ออกหลักทรัพย์ 1 ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยินดีต้อนรับ บมจ. เมดีซ กรุ๊ป เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจการแพทย์ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “MEDEZE” ในวันที่ 15 ตุลาคม 2567 MEDEZE ประกอบธุรกิจให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) สำหรับทารกแรกเกิด (สกัดจากเลือดและเนื้อเยื่อสายสะดือ) และบุคคลทั่วไป (สกัดจากเนื้อเยื่อไขมัน) มากว่า 14 ปี การให้บริการครอบคลุมการจัดเก็บด้วยการแช่แข็งเซลล์ต้นกำเนิดในระยะยาวมาตรฐานระดับสากล Association for the Advancement of Blood and Biotherapies (AABB) จากสหรัฐอเมริกา และต่อยอดการให้บริการครอบคลุมถึงการตรวจศักยภาพเซลล์คุ้มกัน (NK Cells) ด้วยทีมแพทย์ และผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจนการพัฒนาการให้บริการด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง ทำให้ MEDEZE ได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้บริการทั้งในและต่างประเทศด้วยดีเสมอมา         MEDEZE มีทุนชำระแล้ว 534 ล้านบาท มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 268 ล้านหุ้น โดยเสนอขายให้แก่บุคคลตามดุลพินิจของผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์ ไม่น้อยกว่า 201 ล้านหุ้น ผู้มีอุปการคุณของบริษัท ไม่เกิน 40.20 ล้านหุ้น และกรรมการ ผู้บริหาร และพนักงานของบริษัท และบริษัทย่อย ไม่เกิน 26.80 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 2 - 4 ตุลาคม 2567 ที่ราคาหุ้นละ 9 บาท คิดเป็นมูลค่าระดมทุน 2,412  ล้านบาท และมีมูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 9,612 ล้านบาท โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญ นพ. วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เมดีซ กรุ๊ป เปิดเผยว่า การระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในครั้งนี้ จะช่วยเสริมสร้างการเติบโตให้แก่บริษัท โดยมีแผนที่จะขยายธุรกิจเซลล์รากผม (Hair Follicle Cell Bank) และลงทุนติดตั้งระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ (Robotic Cell Culture System) ซึ่งเซลล์ต้นกำเนิดนับเป็นหัวใจของการป้องกัน การรักษาโรค และการฟื้นฟูร่างกาย หรือแม้แต่การชะลอวัย โดยบริษัทมุ่งเน้นการใช้นวัตกรรมที่เป็นระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุดของการให้บริการ เพื่อครองความเป็นผู้นำแห่งอุตสาหกรรมเซลล์ต้นกำเนิดที่ทันสมัยของประเทศไทย และในภูมิภาคอาเซียน MEDEZE มีผู้ถือหุ้น 3 ลำดับแรกหลัง IPO ได้แก่ 1) กลุ่มครอบครัวเขมะรังสรรค์ 58.29% 2) นพ. จำรัส สกุลไพศาล 13.84% 3) รศ. ดร. รังสรรค์ พาลพ่าย 2.77% การกำหนดราคาเสนอขายหุ้น IPO พิจารณาจากอัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น (PE ratio) เท่ากับ 35.55 เท่า โดยคำนวณจากกำไรสุทธิในช่วง 4 ไตรมาสย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 - วันที่ 30 มิถุนายน 2567 หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดภายหลังการเสนอขายหุ้นครั้งนี้ (Fully Diluted) คิดเป็นกำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.25 บาท  ทั้งนี้ บริษัทมีนโยบายการจ่ายเงินปันผลในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการหลังหักภาษีเงินได้นิติบุคคล และเงินสำรองต่างๆ ทุกประเภทตามที่กฎหมายกำหนด ผู้ลงทุนและผู้สนใจ โปรดดูรายละเอียดจากหนังสือชี้ชวนของบริษัทที่เว็บไซต์ของสำนักงาน ก.ล.ต. ที่ www.sec.or.thและข้อมูลทั่วไปของบริษัทที่ www.medezegroup.com และที่ www.set.or.th

abs

ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร

[ภาพข่าว] MEDEZE โชว์ศักยภาพผู้นำสเต็มเซลล์ และ Biotech ไทย

[ภาพข่าว] MEDEZE โชว์ศักยภาพผู้นำสเต็มเซลล์ และ Biotech ไทย

          นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ (ที่ 4 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน นายพิพัฒน์ พิศณุวงรักษ์ (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน MEDEZE Treasury PTE. LTD. นางสาวดนิตา พิทักษ์เนติกุล (ที่ 4 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา (ที่ 3 จากขวา) ที่ปรึกษาวางแผนทางการเงิน และดร.ฌีวาตรา ตาลชัย (ที่ 2 จากซ้าย)  กรรมการอิสระ/กรรมการตรวจสอบ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE ผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cells และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ  NK Cells พร้อมด้วย นายพายุพัด มหาผล (ที่ 1 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ร่วมนำเสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์แก่นักลงทุน VI สมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า (ประเทศไทย) พร้อมโชว์ศักยภาพพื้นฐานแกร่ง ซึ่งกิจกรรมนี้จัดขึ้นโดยสมาคมนักลงทุนเน้นคุณค่า ร่วมกับ บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ณ ห้องบอลรูม 1 ชั้น 5 โรงแรม เอส 31 สุขุมวิท 

[PR News] MEDEZE กระแสแรง นลท.จองซื้อ IPO เกลี้ยง

[PR News] MEDEZE กระแสแรง นลท.จองซื้อ IPO เกลี้ยง

          “เมดีซ กรุ๊ป” กระแสแรง นลท.จองซื้อ IPO เกลี้ยง 268 ล้านหุ้น ตอกย้ำผู้นำธุรกิจ พื้นฐานการเงินแกร่ง แผนระดมทุนขยายฐานกำไร วัฏจักรธุรกิจขาขึ้น ด้านราคาจองซื้อ 9 บาท เหมาะสม อัพไซด์เปิดกว้าง พร้อมลงสนามเทรด 15 ต.ค. 2567           นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย ของ         บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า MEDEZE ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วประเทศที่ให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ของ MEDEZE หมดทั้งจำนวนที่เสนอขาย 268 ล้านหุ้น โดยกำหนดราคาเสนอขายที่หุ้นละ 9 บาท ซึ่งเป็นการสะท้อนถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อความเป็นผู้นำธุรกิจ พื้นฐานการเงินที่มีความแข็งแกร่ง และอุตสาหกรรมอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น รวมถึงแผนขยายธุรกิจที่มีศักยภาพ ช่วยขยายฐานกำไร สร้างโอกาสเติบโตในอนาคต โดยบริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าซื้อขายวันแรก (First Day Trade) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในวันที่ 15 ต.ค. 2567 ซึ่งบริษัทฯหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะยังคงได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง           โดยในปัจจุบัน MEDEZE มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 400  ล้านบาท คิดเป็น 800 ล้านหุ้นเพื่อจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรกในครั้งนี้ เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 268 ล้านหุ้น  มูลค่าที่ตราไว้ หรือพาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 25.09% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) / การแพทย์ (HELTH)           นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cells และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ  NK Cells มีประสบการณ์ในการดำเนินเนินธุรกิจมาต่อเนื่องมามากกว่า 14 ปี ให้บริการครอบคลุมการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในระยะยาว ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยดำเนินการผ่านบริษัทย่อยจำนวน 5 บริษัท ได้แก่ (1) บริษัท เมดีซ เอ็นเค จำกัด ดำเนินธุรกิจการให้บริการทดสอบศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ NK Cells (2) บริษัท เมดีซ คอสเมซูติคอล จำกัด ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้ตราสินค้า DAA และอาหารเสริม (3) บริษัท เมดีซวิจัยและพัฒนา จำกัด ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (4) Medeze Treasury Pte. Ltd. ดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน (Investment Company) โดยเป็นบริษัทที่ถือครองและบริหารตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ และ (5) Medeze Group Pte. Ltd. ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ           โดยบริษัทมีศักยภาพสูงในการให้บริการด้วยถังไนโตรเจนเหลวทั้งหมด 38 ถัง มีความสามารถสูงสุดในการสกัดเลือด 2,880 เคส/ปี และสกัดเนื้อเยื่อ 4,560 เคส/ปี และมีความสามารถในการทดสอบศักยภาพของ NK Cells อยู่ที่ 1,920 เคสต่อปี ซึ่งมีพันธมิตรกับโรงพยาบาลในประเทศทั้งหมด 228 โรงพยาบาล มีตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ พม่า อินโดนีเซีย และกัมพูชา รวมถึงมีนักวิทยาศาสตร์ และบุคลากรชั้นนำในวงการเทคโนโลยีชีวภาพ หรือ Biotechnology จำนวนมาก ส่งผลให้มีความแข็งแกร่งในด้านเครือข่ายแพทย์ในสถานพยาบาลชั้นนำ ไปจนถึงการมีห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อระดับคลีนรูม คลาส 100 พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในวงการธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell Banking เช่น ระบบการแช่แข็งในถังไนโตรเจนเหลว เครื่องคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตอัตโนมัติ หรือ AutoXpress และเครื่องเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอลชนิดอัตโนมัติ หรือ Quantum           ทั้งนี้บริษัทได้รับความไว้วางใจในระดับสากลด้วยมาตรฐานการจัดเก็บแช่แข็งในระดับสากล Association for the Advancement of Blood and Biotherapies (AABB) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานการดำเนินงานของธนาคารสเต็มเซลล์ที่เข้มงวด เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพสากลตามข้อกำหนดขององค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา หรือ U.S.FDA ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเลือดจากสายสะดือตั้งแต่การจัดเก็บในระยะยาว ไปจนถึงการกระจายขนส่งเพื่อรองรับการรักษาให้กับผู้ป่วยทั่วโลก และมาตรฐานห้องปฏิบัติการคุณภาพ Clean Room Class 100 ตั้งแต่ปี 2556 โดย National Environmental Balancing Bureau หรือ NEBB จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นมาตรฐานควบคุมอนุภาค ความดัน และอุณหภูมิภายในห้องปฏิบัติการอย่างเหมาะสม           โดยภายหลังจากการระดมทุน MEDEZE มีแผนที่จะลงทุนขยายธุรกิจด้านเซลล์รากผม หรือ Hair Follicle Cell Bank ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเซลล์จากรากผม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผม และหนังศีรษะ ที่มีแนวโน้มจะพบเจอมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัย และลงทุนติดตั้งระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ หรือ Robotic Cell Culture System ซึ่งเป็นวัตกรรมขั้นสูงและล้ำสมัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้กระบวนจัดเก็บมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดความผิดพลาดของบุคคล และลดความเสี่ยงจากตัวแปรที่มาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ยกระดับความน่าเชื่อถือทัดเทียมกับผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลก สามารถดึงดูดลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้มากขึ้น           ในขณะที่ผลการดำเนินงานของ MEDEZE ในปี 2564-2566 มีรายได้รวม 446.41 ล้านบาท 595.70 ล้านบาท และ 701.81 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 112.06 ล้านบาท 147.19 ล้านบาท และ 239.57 ล้านบาท ตามลำดับ

[ภาพข่าว] MEDEZE โรดโชว์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ

[ภาพข่าว] MEDEZE โรดโชว์ ตลาดหลักทรัพย์ฯ

          นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ (ที่ 2 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นางสาวสุภากาญจน์ กิจโกศล (ที่ 1 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน  นายพิพัฒน์ พิศณุวงรักษ์ (ที่ 1 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน MEDEZE Treasury PTE. LTD. บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE ผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cells และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ  NK Cells พร้อมด้วย นายพายุพัด มหาผล (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้น ร่วมนำเสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์แก่นักลงทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 268 ล้านหุ้น ณ ห้องประชุม 603 ชั้น 6 อาคาร B ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

abs

Hoonvision

[PR News] MEDEZE เคาะ IPO 9 บาท/หุ้น จองซื้อ 2 – 4 ต.ค. 67

[PR News] MEDEZE เคาะ IPO 9 บาท/หุ้น จองซื้อ 2 – 4 ต.ค. 67

         “เมดีซ กรุ๊ป” แต่งตั้ง บล. หยวนต้า เป็นอันเดอร์ไรท์เตอร์ เคาะราคา IPO ที่ 9 บาท/หุ้น เสนอขาย 268 ล้านหุ้น จองซื้อ 2 - 4 ต.ค. 67 ปลื้มโรดโชว์ที่ตลท.นักลงทุนให้การตอบรับดี โชว์พื้นฐานธุรกิจแกร่ง ศักยภาพการเติบโตสูง คาดเข้าซื้อขาย SET วันแรก 15 ต.ค. 67          นายพายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญของบริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า MEDEZE ได้ลงนามในสัญญาแต่งตั้งผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญ เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไปครั้งแรก หรือ IPO สำหรับการเสนอขายหุ้น IPO ของ MEDEZE ในครั้งนี้จำนวน 268 ล้านหุ้น ได้มีการกำหนดราคาหุ้น MEDEZE ที่จะเสนอขายให้กับนักลงทุนทั่วไป โดยใช้วิธีการทำสำรวจความต้องการซื้อหุ้น (Book Building) ของนักลงทุนสถาบันทั้งไทย และต่างประเทศ โดยมีราคาเสนอขายที่ 9 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนราคาต่อกำไรสุทธิต่อหุ้น หรือ Price to Earnings Ratio : P/E เท่ากับ 35.55 เท่า โดยคำนวณกำไรสุทธิต่อหุ้นจากกำไรสุทธิในรอบ 4 ไตรมาสย้อนหลัง ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2566 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 ซึ่งเท่ากับ 270.40 ล้านบาท หารด้วยจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดของบริษัทหลังจากการเสนอขายหุ้นในครั้งนี้ หรือ Fully Diluted ซึ่งเท่ากับ 1,068,000,000 หุ้น จะได้กำไรสุทธิต่อหุ้นเท่ากับ 0.25 บาทต่อหุ้น โดยนักลงทุนสามารถจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 2 - 4 ตุลาคม 2567 และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยภายใน 15 ต.ค. 2567          ทั้งนี้อัตราส่วนราคาหุ้นต่อกำไรสุทธิดังกล่าวคำนวณจากผลประกอบการในอดีต โดยที่ยังมิได้พิจารณาถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ซึ่งราคาเสนอขายในครั้งนี้มีความสอดคล้องกับปัจจัยพื้นฐานทางธุรกิจของ MEDEZE และแผนการนำเงินระดมทุนที่ได้จากประชาชนเป็นครั้งแรกไปใช้ในการขยายธุรกิจในอนาคต ถือว่ามีความเหมาะสมสำหรับนักลงทุน และมีบริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอสไอ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เป็นผู้ร่วมเป็นผู้จัดจำหน่าย และรับประกันการจำหน่าย          ขณะที่การนำเสนอข้อมูลกับนักลงทุน หรือโรดโชว์ เพื่อเสนอขายหุ้นให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก หรือ IPO ที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานครในวันที่ 1 ต.ค. 67 ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากนักลงทุน จากพื้นฐานธุรกิจซึ่งมีความแข็งแกร่ง เป็นผู้นำในอุตสาหกรรม และแผนในการขยายธุรกิจในอนาคตที่ชัดเจน รวมถึงธุรกิจกำลังอยู่ในวัฏจักรขาขึ้น ซึ่งในปัจจุบัน MEDEZE มีทุนจดทะเบียนชำระแล้ว 400 ล้านบาท คิดเป็น 800 ล้านหุ้นเพื่อจะนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งการเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนครั้งแรกในครั้งนี้ เป็นการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 268 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หรือพาร์หุ้นละ 0.50 บาท คิดเป็นร้อยละไม่เกิน 25.09% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออก และเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ ประเทศไทย (SET) ในหมวดธุรกิจบริการ (SERVICE) / การแพทย์ (HELTH)          นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทเป็นผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cells และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ  NK Cells มีประสบการณ์ในการดำเนินเนินธุรกิจมาต่อเนื่องมามากกว่า 14 ปี ให้บริการครอบคลุมการจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิดในระยะยาว ผ่านนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัย โดยดำเนินการผ่านบริษัทย่อยจำนวน 5 บริษัท ได้แก่ (1) บริษัท เมดีซ เอ็นเค จำกัด ดำเนินธุรกิจการให้บริการทดสอบศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน หรือ NK Cells (2) บริษัท เมดีซ คอสเมซูติคอล จำกัด ดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ความงามภายใต้ตราสินค้า DAA และอาหารเสริม (3) บริษัท เมดีซวิจัยและพัฒนา จำกัด ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ (4) Medeze Treasury Pte. Ltd. ดำเนินธุรกิจเป็นบริษัทเพื่อการลงทุน (Investment Company) โดยเป็นบริษัทที่ถือครองและบริหารตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ และ (5) Medeze Group Pte. Ltd. ดำเนินธุรกิจวิจัยและพัฒนาเชิงทดลองด้านเทคโนโลยีชีวภาพ          โดยบริษัทมีศักยภาพสูงในการให้บริการด้วยถังไนโตรเจนเหลวทั้งหมด 30 ถัง มีความสามารถสูงสุดในการสกัดเลือด 2,880 เคส/ปี และสกัดเนื้อเยื่อ 4,560 เคส/ปี และมีความสามารถในการทดสอบศักยภาพของ NK Cells อยู่ที่ 1,920 เคสต่อปี ซึ่งมีพันธมิตรกับโรงพยาบาลในประเทศทั้งหมด 219 โรงพยาบาล มีตัวแทนจำหน่ายทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ได้แก่ ประเทศเวียดนาม สิงคโปร์ พม่า อินโดนีเซีย และกัมพูชา รวมถึงมีนักวิทยาศาสตร์ และบุคลากรชั้นนำในวงการเทคโนโลยีชีวภาพ หรือ Biotechnology จำนวนมาก ส่งผลให้มีความแข็งแกร่งในด้านเครือข่ายแพทย์ในสถานพยาบาลชั้นนำ ไปจนถึงการมีห้องปฏิบัติการปลอดเชื้อระดับคลีนรูม คลาส 100 พร้อมด้วยอุปกรณ์และเทคโนโลยีที่มีความทันสมัยในวงการธนาคารจัดเก็บเซลล์ต้นกำเนิด หรือ Stem Cell Banking เข่นระบบการแช่แข็งในถังไนโตรเจนเหลว เครื่องคัดแยกเซลล์ต้นกำเนิดเม็ดโลหิตอัตโนมัติ หรือ Auto Xpress และเครื่องเพาะเลี้ยงเพิ่มจำนวนเซลล์ต้นกำเนิดมีเซนไคมอลชนิดอัตโนมัติ หรือ Quantum          ทั้งนี้บริษัทได้รับความไว้วางใจในระดับสากลด้วยมาตรฐานการจัดเก็บแช่แข็งในระดับสากล Association for the Advancement of Blood and Biotherapies (AABB) จากสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การรับรองมาตรฐานการดำเนินงานของธนาคารสเต็มเซลล์ที่เข้มงวด เป็นมาตรฐานระบบคุณภาพสากลตามข้อกำหนดขององค์การอาหารและยา สหรัฐอเมริกา หรือ U.S.FDA ซึ่งครอบคลุมกิจกรรมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับเลือดจากสายสะดือตั้งแต่การจัดเก็บในระยะยาว ไปจนถึงการกระจายขนส่งเพื่อรองรับการรักษาให้กับผู้ป่วยทั่วโลก และมาตรฐานห้องปฏิบัติการคุณภาพ Clean Room Class 100 ตั้งแต่ปี 2556 โดย National Environmental Balancing Bureau หรือ NEBB จากประเทศเยอรมนี ซึ่งเป็นมาตรฐานควบคุมอนุภาค ความดัน และอุณหภูมิภายในห้องปฏิบัติการอย่างเหมาะสม          โดยภายหลังจากการระดมทุน MEDEZE มีแผนที่จะลงทุนขยายธุรกิจด้านเซลล์รากผม หรือ Hair Follicle Cell Bank ด้วยการพัฒนานวัตกรรมเซลล์จากรากผม เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าในการช่วยบรรเทาปัญหาต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเส้นผม และหนังศีรษะ ที่มีแนวโน้มจะพบเจอมากขึ้นในกลุ่มผู้สูงวัย และลงทุนติดตั้งระบบการจัดเก็บเซลล์ด้วยหุ่นยนต์ หรือ Robotic Cell Culture System ซึ่งเป็นนวัตกรรมขั้นสูงและล้ำสมัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ทำให้กระบวนจัดเก็บมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ลดความผิดพลาดของบุคคล และลดความเสี่ยงจากตัวแปรที่มาจากสภาพแวดล้อมต่างๆ ยกระดับความน่าเชื่อถือทัดเทียมกับผู้ประกอบการชั้นนำทั่วโลก สามารถดึงดูดลูกค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศได้มากขึ้น          ในขณะที่ผลการดำเนินงานของ MEDEZE ในปี 2564-2566 มีรายได้รวม 446.41 ล้านบาท 595.70ล้านบาท และ 701.81 ล้านบาทตามลำดับ และมีกำไรสุทธิ 112.06 ล้านบาท 147.19 ล้านบาท และ 239.57 ล้านบาท ตามลำดับ

[ภาพข่าว] MEDEZE ล่องใต้โรดโชว์ จ.สงขลา

[ภาพข่าว] MEDEZE ล่องใต้โรดโชว์ จ.สงขลา

            เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ (ที่ 2 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายพิพัฒน์ พิศณุวงรักษ์ (ที่ 1 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน MEDEZE Treasury PTE. LTD. รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา (ที่ 2 จากขวา) ที่ปรึกษาวางแผนทางการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE ผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) พร้อมด้วยนายปวริศ เวสส์สุภารัตน์ (ที่ 1 จากซ้าย) รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ร่วมนำเสนอข้อมูลนักลงทุน (Retail Investor Roadshow) ร่วมนำเสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์แก่นักลงทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 268 ล้านหุ้น ณ โรงแรมคริสตัล หาดใหญ่ จ.สงขลา

[ภาพข่าว] “MEDEZE” Roadshow อุดรธานี

[ภาพข่าว] “MEDEZE” Roadshow อุดรธานี

          นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ (ที่ 2 จากขวา ) ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นายพิพัฒน์ พิศณุวงรักษ์ (ที่ 1 จากขวา) ประธานเจ้าหน้าที่สายบัญชีและการเงิน MEDEZE Treasury PTE. LTD. นางสาวดนิตา พิทักษ์เนติกุล (ที่ 3 จากซ้าย) ประธานเจ้าหน้าที่สายพัฒนาธุรกิจ รศ.ดร.ไพบูลย์ เสรีวิวัฒนา (ที่ 2 จากซ้าย) ที่ปรึกษาวางแผนทางการเงิน บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE ผู้ให้บริการตรวจวิเคราะห์ คัดแยก เพาะเลี้ยง และรับฝากเซลล์ต้นกำเนิด (Stem Cells) และตรวจศักยภาพเซลล์ภูมิคุ้มกัน (NK Cells) พร้อมด้วยนายปวริศ เวสส์สุภารัตน์ (ที่ 1 จากซ้าย) รองผู้อำนวยการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและแกนนำผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ร่วมนำเสนอข้อมูลนักลงทุน (Retail Investor Roadshow) ร่วมนำเสนอข้อมูลรายละเอียดหลักทรัพย์แก่นักลงทุนเพื่อเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เพื่อเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 268 ล้านหุ้น โดยมีนายณฐพล วิถี (ที่ 3 จากขวา) รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี ให้เกียรติเข้าร่วมงาน ณ ศูนย์ประชุมนานาชาติ มลฑาทิพย์ ฮอลล์ อุดรธานี เมื่อวันที่ 14 กันยายน 2567

[ภาพข่าว] “MEDEZE”  มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์

[ภาพข่าว] “MEDEZE” มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์

          นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องปรับอากาศ มูลค่า 2,722,849.26 บาท กับมาตรการส่งเสริมการลงทุนเพื่อพัฒนาชุมชนและสังคม ให้แก่ โรงพยาบาลเจริญกรุงประชารักษ์ เพื่อใช้ในห้องผ่าตัดกลุ่มสูติ-นรีเวชกรรม เมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2567

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456