ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#maiA


[Vision Exclusive] Jump+ ทางรอดธุรกิจไทย ฝ่าวิกฤติสงครามการค้า

[Vision Exclusive] Jump+ ทางรอดธุรกิจไทย ฝ่าวิกฤติสงครามการค้า

           หุ้นวิชั่น - "วิรัฐ สุขชัย" นายกสมาคม maiA ชี้แผ่นดินไหวไม่กระทบธุรกิจบริษัทจดทะเบียนโดยตรง  จับตาภาษีนำเข้าสหรัฐฯ คาดกระทบกลุ่มผู้ส่งออกไทย หลังขึ้นภาษี 37% จับตาตลาดหลักทรัพย์เจรจาภาครัฐ เอกชน ฝ่าวิกฤติสงครามการค้า ลุ้นโครงการ Jump+ ทางรอดธุรกิจไทย เสริมแกร่งตลาดทุน            นายวิรัฐ สุขชัย นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา สมาคมประเมินว่าผลกระทบอยู่ในวงจำกัด แม้ว่าจะมีเหตุการณ์อาคารสำนักงานของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินถล่ม แต่ตึกสำนักงานทั่วไป รวมถึงคอนโดมิเนียมของผู้ประกอบการในตลาดหลักทรัพย์ได้รับผลกระทบเพียงเล็กน้อย และยังสามารถดำเนินงานได้ตามปกติ ดังนั้น ประเด็นแผ่นดินไหวในครั้งนี้ จึงไม่น่าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการดำเนินธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์            ขณะที่สงครามการค้ามีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อบริษัทจดทะเบียนทั้งในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) และตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยเฉพาะผู้ประกอบการที่ส่งออกสินค้าไปยังสหรัฐฯ หลังจากสหรัฐฯ ประกาศขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยเป็น 37% อย่างไรก็ตาม ต้องติดตามแนวทางของภาครัฐและภาคเอกชนในการรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าว ขณะเดียวกัน ผู้ประกอบการจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์เพื่อรับมือกับต้นทุนที่เพิ่มขึ้น            ทั้งนี้ เชื่อว่าตลาดหลักทรัพย์จะร่วมเจรจากับภาครัฐเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือผู้ประกอบการ เนื่องจากการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อต้นทุนและความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจไทยในตลาดต่างประเทศ            ขณะที่ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเร่งดำเนินการช่วยเหลือบริษัทจดทะเบียนผ่านโครงการ Jump+ เพื่อกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจ และเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้ตลาดทุนไทย โดยมอบสิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่บริษัทที่เข้าร่วมโครงการ            สิทธิพิเศษที่ได้รับ ได้แก่ การยกเว้นภาษีกำไรส่วนเพิ่ม ที่เกิดขึ้นระหว่างเข้าร่วมโครงการ หากบริษัทสามารถขยายธุรกิจได้ตามเป้าหมายที่กำหนด อย่างไรก็ตาม หากบริษัทไม่สามารถดำเนินการตามแผน อาจถูกระงับสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ได้รับ            นอกจากนี้ โครงการยังสนับสนุน การควบรวมและซื้อกิจการ (M&A) โดยบริษัทที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับ การยกเว้นภาษีย้อนหลัง หากเข้าซื้อหรือควบรวมบริษัทนอกตลาดหลักทรัพย์ เพื่อส่งเสริมการขยายตัวของภาคธุรกิจ และเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในระดับสากล ทั้งนี้ คาดว่าโครงการดังกล่าวจะมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทจดทะเบียน แม้ยังคงเผชิญปัจจัยกดดันทั้งจากในประเทศและต่างประเทศ รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

[Vision Exclusive] นายกฯ maiA แนะ บจ. ปรับตัวรับศึกแข่งต่างชาติ

[Vision Exclusive] นายกฯ maiA แนะ บจ. ปรับตัวรับศึกแข่งต่างชาติ

          หุ้นวิชั่น - "วิรัฐ สุขชัย" นายกสมาคม maiA แนะนักลงทุนศึกษาธุรกิจก่อนลงทุน ย้อนรอยดูผลงาน 3-5 ปี ยันผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน mai 9 เดือนแรกปี 67 สดใส ชงผู้ประกอบการเร่งปรับตัวรับการแข่งขันต่างชาติ พร้อมเดินหน้ากิจกรรม mai Forum เชื่อมโยงนักลงทุน           นายวิรัฐ สุขชัย นายกสมาคมบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (maiA) เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่นว่า แม้ที่ผ่านมา ตลาดทุนจะเผชิญกับปัญหาการชะลอตัวของการระดมทุน การ Forced Sell และผลประกอบการที่ไม่สดใสในบางบริษัท แต่ในภาพรวมของ 9 เดือนแรกปี 2567 ธุรกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนมีแนวโน้มเติบโตดีขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีเพียงส่วนน้อยที่ผลประกอบการยังไม่ฟื้นตัว           นายวิรัฐ แนะนำว่า นักลงทุนควรพิจารณาปัจจัยพื้นฐานของแต่ละบริษัท โดยดูผลประกอบการย้อนหลัง 3-5 ปี เพื่อประเมินศักยภาพในการดำเนินธุรกิจ เนื่องจากปัจจุบันการเติบโตทางธุรกิจเผชิญความท้าทายอย่างมากจากการเปลี่ยนแปลงของภาพรวมเศรษฐกิจและการแข่งขันที่เข้มข้น ไม่เพียงแต่ในประเทศ แต่ยังรวมถึงการแข่งขันกับผู้ประกอบการต่างชาติ เช่น จีน ญี่ปุ่น และเกาหลี ที่เข้ามาดำเนินธุรกิจในไทย           ธุรกิจบางกลุ่มยังสามารถแข่งขันได้ หากมีการปรับตัวและพัฒนาอย่างเหมาะสม เนื่องจากหลายธุรกิจถูก Disrupt ส่งผลให้การเติบโตเป็นไปได้ยากในสภาพแวดล้อมปัจจุบัน ดังนั้น ผู้ประกอบการและบริษัทจดทะเบียนจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์ สร้างธุรกิจใหม่ หรือขยายไลน์ธุรกิจเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันกับผู้เล่นต่างชาติ เช่น บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หลายแห่งเดินหน้าปรับกลยุทธ์เพื่อรองรับความต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยบางบริษัทเลือกขยายฐานธุรกิจสู่ตลาดต่างประเทศ ขณะที่บางรายมุ่งขยายไลน์ธุรกิจใหม่ๆ หรือเพิ่มความหลากหลายของสินค้าและบริการ เพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน แนวทางดังกล่าวสะท้อนถึงความพยายามของบริษัทจดทะเบียนในการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ และรักษาความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว           ธุรกิจในประเทศจำเป็นต้องปรับตัวครั้งใหญ่เพื่อรองรับการแข่งขันที่รุนแรงและการเข้ามาของผู้ประกอบการต่างชาติ โดยประเด็นสำคัญในการดำเนินธุรกิจคือเรื่อง สภาพคล่อง ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญ หากธุรกิจมีสภาพคล่องที่ดี การขยายธุรกิจใหม่หรือการปรับตัวเพื่อรองรับความเปลี่ยนแปลงจะสามารถดำเนินการได้อย่างราบรื่น           นายกสมาคมบ maiA กล่าวต่อว่า เศรษฐกิจไทยในปี 2568 จะปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน หลังจากที่ต้องเผชิญกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตลาดทุน และทำให้การระดมทุนชะลอตัว ทั้งนี้ การลงทุนในประเทศที่ลดลงในช่วงก่อนหน้านี้ สะท้อนถึงความระมัดระวังของนักลงทุนที่เลือกหลีกเลี่ยงความเสี่ยงจากเศรษฐกิจที่ตกต่ำ และหันไปลงทุนในตลาดต่างประเทศแทน อย่างไรก็ตาม การฟื้นตัวของเศรษฐกิจในปีหน้าอาจช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน และกระตุ้นการลงทุนในตลาดทุนไทยได้มากขึ้น           ในปี 2568 สมาคมจะยังคงมุ่งเน้นการสร้างกิจกรรมเพื่อเชื่อมโยงบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai กับนักลงทุน โดยมีแผนจัดงาน mai Forum ในช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2568 เพื่อเปิดโอกาสให้บริษัทจดทะเบียนได้พบปะนักลงทุนโดยตรง           นอกจากนี้ สมาคมยังเตรียมจัดสัมมนาเพื่อเพิ่มองค์ความรู้ให้แก่บริษัทจดทะเบียน รวมถึงกิจกรรม Visit Company ที่เปิดโอกาสให้บริษัทจดทะเบียนได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวทางการดำเนินธุรกิจ ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของธุรกิจในตลาด mai อย่างต่อเนื่อง รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011