ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#INTUCH


ผู้ถือหุ้น GULF ต้องทำตัวอย่างไร

ผู้ถือหุ้น GULF ต้องทำตัวอย่างไร

          วันนี้ เป็นวันซื้อขายสุดท้าย ของ GULF และ INTUCH หลังจากนั้นตลาดหลักทรัพย์ฯ จะขึ้นเครื่องหมายพักการซื้อขายชั่วคราว (SP) ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. – 2 เม.ย. 2568 และในช่วงพักการซื้อขาย จะเปลี่ยนแปลงชื่อหลักทรัพย์ GULF เป็น GULFI เพื่อควบรวม GULFI และ INTUCH เป็นบริษัทใหม่ (NewCo)   หลังจากนั้น วันที่ 3 เม.ย. 2568 กลับมาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ ภายใต้ชื่อเดิมคือ  GULF           นักลงทุนสามารถ เลือกกระทำการได้ ดังนี้ 1. กรณีต้องการซื้อหรือขาย  ก็ดำเนินการได้ถึงวันที่ 20 มี.ค. ทั้ง GULF และ INTUCH หรือ 2. กรณีต้องการถือครองหลักทรัพย์ต่อ  ก็ไม่ต้องดำเนินการใด ๆ หุ้นจะกลับมาซื้อขายได้ใหม่ในวันที่ 3 เม.ย.2568  สำหรับผู้ถือหุ้นของ GULF (เดิม) และ INTUCH จะได้รับหลักทรัพย์ GULF (ใหม่) ในอัตราส่วนดังนี้ 1 หุ้นเดิมใน GULF (เดิม) ต่อ 1.02974 หุ้น GULF (ใหม่) และ 1 หุ้นเดิมใน INTUCH ต่อ 1.69335 หุ้น GULF (ใหม่)           ขณะที่ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย)  ประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2568 ของ NewCo ที่ 53.25 บาท/หุ้น โดยใช้วิธี Sum of the Part (SOTP) โดยประเมินธุรกิจโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานด้วยวิธี DCF บน WACC 6.4% และ Terminal Growth ที่ 0% และประเมินมูลค่าเงินลงทุนในส่วนของ ADVANC และ THCOM โดยใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 296.00 บาท/หุ้น และ 16.50 บาท/หุ้น ตามลำดับ และหักลดด้วย Discount 10% โดยหากอิงราคาปิดของ GULF และ INTUCH ณ วันที่ 18 มี.ค. ที่ 49.50 บาท/หุ้น และ 80 บาท/หุ้น ตามลำดับ จะคิดเป็นราคา NewCo ที่ราว 47.80 บาท           ฟ้าเริ่มสว่างแล้ว สำหรับ WHA สัญญาณราคาเริ่มฟื้นตัว หลังถูกกระหน่ำขายอย่างหนัก จากประเด็นจะนำ WHAID เข้าจดทะเบียนตลาดหุ้น แต่ท้ายสุดผู้บริหารต้องยอมถอย พับแผนไปก่อน และเลื่อน WHAID  ไปอย่างน้อย 2-3 ปี โดยไม่กระทบกับแผนการลงทุนที่ตั้งไว้ ซึ่งผู้บริหารให้เหตุผลว่า เงินที่ได้จากการ spin off ส่วนหนึ่งเตรียมไว้สำหรับการ M&A กิจการที่มองว่า มีโอกาสเสริมธุรกิจของ WHA ส่วนแผนการเพิ่มพื้นที่เช่าอีก 200,000 ตร.ม. ทางผู้บริหารมีความมั่นใจ เพราะจะมีการตั้งโรงงานเพิ่มที่เวียดนามหลายที่  บล.พาย เคาะพื้นฐาน 5.20 บาท           ย้อนมาเกาะติด KBANK อีกที ใกล้เข้ามาแล้ว การจ่ายปันผลรอบแรก หุ้นละ 8 บาท ที่จ่อขึ้น XD วันที่ 8 เม.ย. 2568 และงวดที่2 ปันผลพิเศษอีก 2.50 บาทต่อหุ้น  ขึ้น XD  วันที่ 15 พ.ค. 2568  รวมเป็นเงินปันผลจ่ายทั้งสิ้น 28,431,931,116  บาท ที่สำคัญ เงินปันผลจ่ายจากกำไรสะสมที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราร้อยละ 20 ผู้ถือหุ้นที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถ ขอเครดิตภาษีเงินปันผลคืนได้ ในอัตรา 20/80 ของเงินปันผลที่ได้รับ           เริ่มคลายกังวลกันเสียที กรณี  BEM  กับสะพานทรุดตัว พระราม 2 เพราะล่าสุดพบว่า ผู้บริหารยืนยันไม่กระทบการดำเนินงาน  เหตุปริมาณการจราจรที่ด่านมีแค่ 0.03% ของการจราจรรวม บล.กสิกรไทยชี้ BEM มีประกัน Business interruption ที่สามารถ claim ได้   แนะ ซื้อสะสม ราคาเป้าหมาย 10.85 บาท           ด้าน บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ส่องหุ้น PTTGC คาดไตรมาส1 ปี 2568 ฟื้นตัว แม้อาจมีผลขาดทุนปกติอยู่จากโรงกลั่นกลับมาเดินเครื่องปกติ  แต่มีสัดส่วนอีเทนเป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้น 20% ช่วยให้มาร์จิ้นเพิ่มขึ้น  และกำไรของ allnex เพิ่มขึ้นตามฤดูกาล ทำให้กำไรปีนี้ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญจากปีก่อนมีตั้งด้อยค่าก้อนใหญ่  รวมรับรู้ประโยชน์จากการใช้อีเทนเป็นวัตถุดิบเพิ่มขึ้นเต็มปี อีกทั้งกลยุทธ์ลดค่าใช้จ่าย   การหยุดผลิต PTTAC และ Vencorex ช่วยให้ค่าใช้จ่ายคงที่ลดลง ราคาหุ้นซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าบัญชีมาก  แนะซื้อ ราคาเป้าหมาย 27.5 บาท           วกมาที่ บล.ธนชาต  ระบุว่า เริ่มเห็น Sentiment เชิง บวก ขณะที่โบรกต่างชาติ UBS ได้ปรับคำแนะนำหุ้นไทยเป็น “Overweight” จาก “Neutral ” โดยมองว่า Valuation อยู่ในระดับที่น่าสนใจ ใกล้เคียงกับระดับช่วงเกิดโควิด และเชื่อว่าราคาที่ปรับลดลงได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว           นอกจากนี้ การออก Thai ESG Extra ช่วยชดเชยกับเงินที่จะครบกำหนดของ LTF ซึ่งถ้าเทียบหุ้นที่ Valuation น่าสนใจ กำไรเติบโตดี และเริ่มเห็นสัญญาณต่างชาติสะสม แนะนำ “ซื้อ”   กลุ่มแรก ที่เห็น Fund Flow ไหลเข้า ชอบ CENTEL- CBG- MINT- CKP และกลุ่มที่ Fund Flow ไหลออก แต่พื้นฐานดี มีโอกาสเห็น Fund flow ไหลเข้าอีกครั้ง ชอบ KBANK- CPALL- TRUE -BDMS -CPN – WHA การลงทุน มีความเสี่ยง ผู้ลงทุน ควรศึกษาข้อมูลก่อนตัดสินใจ ลงทุน [วิพากษ์หุ้นไทย]

GULF-INTUCH นับถอยหลังควบรวม ซื้อขายวันสุดท้ายพรุ่งนี้ 20 มี.ค. หนุนกำไร แตะ 25,504 ลบ.โต 15%

GULF-INTUCH นับถอยหลังควบรวม ซื้อขายวันสุดท้ายพรุ่งนี้ 20 มี.ค. หนุนกำไร แตะ 25,504 ลบ.โต 15%

                หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง GULF ว่า โค้งสุดท้ายก่อนการควบรวมกิจการ ซื้อขายวันสุดท้ายวันที่ 20 มี.ค. 68 ก่อนหยุดพักการซื้อขาย 9 วัน NewCo ผสานพลังธุรกิจโรงไฟฟ้า-ICT คาดกำไรปี 2025 โต 15% แตะ 25,504 ล้านบาท พร้อมศักยภาพขยายตัวต่อเนื่อง ราคาเหมาะสม 53.25 บาท เริ่มต้นคำแนะนำ “TRADING” จับตาอัปไซด์จากคลื่น กสทช. หนุนต้นทุนลด                 การควบรวมกิจการระหว่าง GULF-INTUCH เข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือ การจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมในวันที่ 25 มี.ค. 2025 ทั้งนี้หุ้น GULF และ INTUCH จะหยุดพักการซื้อขายหุ้นเป็นระยะเวลา 9 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2025 ถึงวันที่ 2 เม.ย. 2025 ดังนั้นนักลงทุนต้องถือหุ้นในวันที่ 20 มี.ค. ซึ่งเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายหากจะแปลงเป็น NewCo โดยระบบจะเปลี่ยนเป็น NewCo ให้โดยอัตโนมัติภายใต้ Ratio 1 หุ้น GULF ต่อ 1.0297                 หุ้นในบริษัทใหม่และ 1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.6934 หุ้นในบริษัทใหม่ ระยะสั้นยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงมาก...รอดูความชัดเจนหลังการควบรวม ภายหลังการควบรวม NewCo จะเป็นบริษัทฯ ที่มีธุรกิจหลัก 2 ธุรกิจ คือ ธุรกิจโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐาน                 ธุรกิจ ICT ภายใต้ ADVANC ซึ่งเป็นโครงสร้างที่มีความคล้ายคลึงกับโครงสร้างเดิมก่อนการควบรวมกิจการ                 ทั้งนี้เรามองว่าในระยะยาวบริษัทฯ จะมีการนำองค์ความรู้ของแต่ละธุรกิจมาเป็นข้อได้เปรียบในการแข่งขันในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล อย่างไรก็ตามในระยะสั้นคาดยังไม่เห็น Synergy ที่มีนัยสำคัญระหว่างทั้ง 2 บริษัทฯ (คาดยังเน้นไปที่การลงทุนตามแผนเดิมก่อนการควบรวม)                 ทั้งนี้เรามองว่าภายหลังกระบวนการควบรวมเสร็จสิ้นบริษัทฯ จะมีการเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเติบโตของ NewCo ในระยะยาว หลังคาด Net IBD/E ของ NewCo จะอยู่ที่เพียง 0.9 เท่า เทียบกับ GULF ที่ราว 1.9 เท่า (มีความสามารถในการกู้ยืมที่สูงขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนการควบรวม)คาดกำไรปกติของ NewCo เติบโตต่อเนื่อง เนื่องจากทั้งธุรกิจไฟฟ้าและ ICT                 เบื้องต้นคาดกำไรปกติปี 2025 ของ NewCo ที่ 25,504 ล้านบาท เติบโต 15% YoY (อิงกำไรจากงบเสมือนปี 2024 ที่ 22,240 ล้านบาท) หนุนจากการเริ่มรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรจากโครงการใหม่ที่ COD ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา และส่วนแบ่งกำไรจาก ADVANC ที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงการเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากธุรกิจ Data Center และหากมองไปปี 2026-27 คาดกำไรปกติของ NewCo จะยังสามารถเติบโต YoY ได้ต่อเนื่องจากการ COD โครงการใหม่ของธุรกิจโรงไฟฟ้าและ ARPU ของธุรกิจมือถือและ Broadband ที่เพิ่มขึ้น                 นอกจากนี้ประมาณการของเรายังมี Upside เพิ่มเติมจากการเปิดประมูลคลื่นรอบใหม่ของ กสทช. ในช่วง 2Q-3Q25 ที่มีโอกาสส่งผลให้ต้นทุนค่าใช้จ่ายของ ADVANC ลดลงได้ราว 1.0-2.0 พันล้านบาท/ปี (เป็น Upside ให้กับราคาเหมาะสมของ NewCo ได้ราว 0.25-0.75 บาท/หุ้น) เริ่มต้นคำแนะนำ “TRADING” อิงราคาเหมาะสม 53.25 บาท/หุ้น                 เราประเมินราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ของ NewCo ที่ 53.25 บาท/หุ้น โดยใช้วิธี Sum of the Part (SOTP) โดยเราประเมินธุรกิจโรงไฟฟ้าและโครงสร้างพื้นฐานด้วยวิธี DCF บน WACC 6.4% และ Terminal Growth ที่ 0% และเราประเมินมูลค่าเงินลงทุนในส่วนของ ADVANC และ THCOM โดยใช้ราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 296.00 บาท/หุ้น และ 16.50 บาท/หุ้น ตามลำดับ และหักลดด้วย Discount 10% โดยหากอิงราคาปิดของ GULF และ INTUCH ณ วันที่ 18 มี.ค. ที่ 49.50 บาท/หุ้น และ 80.00 บาท/หุ้น ตามลำดับ จะคิดเป็นราคา NewCo ที่ราว 47.80 บาท/หุ้น มี Upside เพียง 11.4% จึงเริ่มต้นคำแนะนำ “TRADING”                 ความเสี่ยงที่สำคัญ: การปรับสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของภาครัฐ การปรับแผน PDP ของภาครัฐ การแข่งขันในอุตสาหกรรม ICT ที่รุนแรงกว่าคาดความต้องการใช้งาน Data Center ที่น้อยกว่าคาดขั้นตอนการควบรวมกิจการโค้งสุดท้าย                 การควบรวมกิจการระหว่าง GULF-INTUCH กำลังจะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้าย คือการจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้น GULF และ INTUCH เพื่อพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบรวมบริษัท เช่น ชื่อของ NewCo (“Gulf Development”) และการอนุมัติทุนจดทะเบียน เป็นต้น โดยการประชุมดังกล่าวจะเกิดขึ้นในวันที่ 25 มี.ค. 2025 เวลา 15.30 น. โดยจะเป็นการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ทั้ง GULF และ INTUCH ได้มีการกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิ์เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 22 ก.พ. ที่ผ่านมา)                 ทั้งนี้หุ้น GULF และ INTUCH จะหยุดพักการซื้อขายหุ้นเป็นระยะเวลา 9 วันทำการ ตั้งแต่วันที่ 21 มี.ค. 2025 จนถึง วันที่ 2 เม.ย. 2025 ดังนั้นนักลงทุนจะต้องมีหุ้นในวันที่ 20 มี.ค. 2025 ซึ่งจะเป็นวันซื้อขายวันสุดท้ายหากจะแปลงเป็น NewCo โดยนักลงทุนที่ถือหุ้นถึงสิ้นวันที่ 20 มี.ค. 2025 ระบบจะเปลี่ยนเป็น NewCo ให้ภายใต้อัตราส่วน 1 หุ้น GULF ต่อ 1.0297 หุ้นในบริษัทใหม่ และ 1 หุ้น INTUCH ต่อ 1.6934 หุ้นในบริษัทใหม่ หรือคิดเป็นอัตราส่วนเปรียบเทียบ (Swap Ratio) ระหว่าง GULF-INTUCH ที่ 1.6444 ทั้งนี้หุ้นของ NewCo จะเริ่มซื้อขายในวันที่ 3 เม.ย. 2025 (กลับมาซื้อขายในกลุ่มพลังงานและสาธารณูปโภค)

ตลท.ปรับรายชื่อหลักทรัพย์ใช้คำนวณในดัชนี SETCLMV-SETESG-SETHD

ตลท.ปรับรายชื่อหลักทรัพย์ใช้คำนวณในดัชนี SETCLMV-SETESG-SETHD

           หุ้นวิชั่น - ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยประกาศการปรับการคำนวณดัชนี SETCLMV, SETESG และ SETHD จากกรณีการควบรวมกิจการของ GULF และ INTUCH            จากกรณีการควบรวมกิจการระหว่าง บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (GULF) และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (INTUCH) นั้น ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลาดหลักทรัพย์ฯ) จะดำเนินการปรับรายชื่อหลักทรัพย์ที่ใช้คำนวณในดัชนี SETCLMV, SETESG และ SETHD ตามแนวทางที่กำหนดไว้ในหลักเกณฑ์การจัดทำดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ            เพื่อเป็นการให้รายละเอียดตามหลักเกณฑ์การจัดทำดัชนีของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะไม่มีการปรับน้ำหนักในดัชนี SETCLMV, SETESG และ SETHD เพื่อจำกัดน้ำหนักรายหลักทรัพย์ให้ไม่เกินระดับที่กำหนด (Capped Weight) โดยรายชื่อหลักทรัพย์ที่มีการเปลี่ยนแปลงและวันที่มีผลในดัชนีจะประกาศให้ทราบเป็นการทั่วไปอีกครั้ง

GULF ควบรวม INTUCH! เปลี่ยนชื่อย่อ GULFI มีผล 21 มี.ค.68

GULF ควบรวม INTUCH! เปลี่ยนชื่อย่อ GULFI มีผล 21 มี.ค.68

           นางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านการเงิน บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF ตามที่บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2568 ซึ่งอนุมัติการจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของบริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“INTUCH”) ในวันที่ 25 มีนาคม 2568 เวลา 15.30 น. เพื่อพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และ INTUCH ตามบทบัญญัติมาตรา 148 แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จำกัด พ.ศ.2535 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (“การประชุมผู้ถือหุ้นร่วม”) ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2568 รายละเอียดปรากฏตามสิ่งที่อ้างถึงนั้น ภายหลังการประชุมผู้ถือหุ้นร่วมและการจดทะเบียนการควบบริษัทแล้วเสร็จ บริษัทฯ และ INTUCH จะสิ้นสภาพจากการเป็นนิติบุคคล และเกิดเป็นบริษัทมหาชนจำกัดขึ้นใหม่ (“NewCo”) โดย NewCo จะยื่นคำขอต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้รับหุ้นของ NewCo เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แทนที่หุ้นของบริษัทฯ และ INTUCH ซึ่งจะถูกเพิกถอนออกจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่ง NewCo จะใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์เดียวกันกับ บริษัทฯ (กล่าวคือ GULF) ในการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังกล่าว            ดังนั้น เพื่อให้ NewCo สามารถใช้ชื่อย่อหลักทรัพย์เดียวกันกับบริษัทฯ ได้ บริษัทฯ จึงขอแจ้งการเปลี่ยนแปลง ชื่อย่อหลักทรัพย์ของบริษัทฯ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป ชื่อย่อหลักทรัพย์เดิม: GULF ชื่อย่อหลักทรัพย์ใหม่: GULFI

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

Singtel ยังไม่ลดพอร์ต AIS! นวค.มอง ADVANC พร้อมโต

Singtel ยังไม่ลดพอร์ต AIS! นวค.มอง ADVANC พร้อมโต

           นายมงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เผยว่า สำหรับล่าสุดที่ทาง บริษัท Singapore Telecommunications Limited ("Singtel") มีการออกมายืนยันว่ายังคงถือหุ้นใน AIS ที่สัดส่วนเดิม 23.32% โดยในจำนวนนี้ 4.22% ถูกถือผ่าน Raffles Nominees (Pte) Limited อีกทั้ง Singtel ยังไม่ได้ตัดสินใจ ขายหุ้นในบริษัทใหม่ (Newco) หลังจากการควบรวมกิจการ และยังมีการย้ำว่า Singtel ยังคงมุ่งมั่นที่จะเป็นนักลงทุนระยะยาวในประเทศไทย และจะทำงานร่วมกับ Gulf เพื่อขับเคลื่อนการเติบโตของ AIS และเสริมสร้างความแข็งแกร่งในฐานะผู้ให้บริการโทรคมนาคมชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งเรื่องดังกล่าวมองว่าเป็นเรื่องที่ดีมาก แสดงถึงความมั่นใจที่มีต่อ AIS ซึ่งที่ผ่านมา ADVANC ก็สามารถทำผลประกอบการได้อย่างแข็งแกร่ง และมีโอกาสที่จะเห็นการประมูลคลื่นความถี่ใหม่ๆ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า และการลงทุนก็ไม่กระทบต่อสถานะการเงินของ ADVANC เพราะมีกระแสเงินสดในมือกว่า 22,000 ล้านบาท ประเมินราคาเป้าหมายของ ADVANC ที่ 310 บาท ส่วน GULF ที่ 65 บาท (ก่อนควบรวมกับ INTUCH)

บอร์ด GULF เคาะชื่อใหม่ “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์” เดินหน้าประชุม ผถห. 25 มี.ค.นี้

บอร์ด GULF เคาะชื่อใหม่ “กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์” เดินหน้าประชุม ผถห. 25 มี.ค.นี้

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงานว่า การกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) และผู้ถือหุ้นของ บริษัทอินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) โดยจะมีการจัดประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ INTUCH เพื่อพิจารณาเรื่องที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการควบบริษัทตามบทบัญญัติของมาตรา 148แห่งพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535(รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) ในวันที่ 25มีนาคม2568 เวลา 15.30น. โดยเป็นการจัดประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์(“การประชุมผู้ถือหุ้นร่วม”หรือ “ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วม” โดยให้หยุดพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 9วันทำการต่อตลาดหลักทรัพย์ฯโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม2568 ถึงวันที่ 2 เมษายน2568 เพื่อการเตรียมการเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นของNewCoให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของINTUCH รวมถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำหลักทรัพย์ของ NewCo เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดย วาระการประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของบริษัท กัลฟ์เอ็นเนอร์จีดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน) และผู้ถือหุ้นของ บริษัท อินทัชโฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) วาระที่1 พิจารณาอนุมัติชื่อของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการคณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติชื่อของบริษัทใหม่ที่เกิดจากธุรกรรมการควบบริษัท (“NewCo”) ตามรายละเอียดที่เสนอได้แก่ ชื่อภาษาไทย: บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ชื่อภาษาอังกฤษ: Gulf Development Public Company Limited วาระที่ 2 พิจารณาอนุมัติวัตถุประสงค์ของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติวัตถุประสงค์ของ NewCo จำนวน 68 ข้อ และการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo ในการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนวัตถุประสงค์ของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ วาระที่ 3 พิจารณาอนุมัติทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น และทุนชำระแล้วของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติทุนจดทะเบียน จำนวนหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น และทุนชำระแล้วของ NewCo ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ • ทุนจดทะเบียน จำนวน 14,939,837,683 บาท • ทุนชำระแล้ว จำนวน 14,939,837,683 บาท • แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญ จำนวน 14,939,837,683 หุ้น • มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท วาระที่ 4 พิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นของ NewCo ให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยหุ้นที่จะนำมาจัดสรรเป็นหุ้นสามัญของ NewCo มีจำนวนทั้งสิ้น 14,939,837,683 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ INTUCH ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ INTUCH ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของ NewCo (Book Closing Date) ซึ่งได้กำหนดเป็นวันที่ 25 มีนาคม 2568 ในอัตราส่วนตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ของบริษัทฯ และ INTUCH รวมถึงการปัดเศษหุ้น หากมีเศษหุ้นที่เกิดขึ้นจากการคำนวณตาม เอกสารแนบ 2-2-อัตราส่วนการจัดสรร ราคาชดเชยต่อหุ้นกรณีผู้ถือหุ้นถูกปัดเศษหุ้นทิ้ง การที่นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ได้เสนอทำหน้าที่เป็นผู้เกลี่ยหุ้น (Balancer) ในการปัดเศษหุ้น และชำระเงินให้แก่หรือรับเงินชดเชยจาก NewCo ในการเกลี่ยหุ้นดังกล่าว ตลอดจนการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ หรือ INTUCH หรือ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ หรือ INTUCH หรือ NewCo มีอำนาจดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ วาระที่ 5 พิจารณาอนุมัติหนังสือบริคณห์สนธิของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติหนังสือบริคณห์สนธิของ NewCo และการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo ในการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนหนังสือบริคณห์สนธิของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ วาระที่ 6 พิจารณาอนุมัติข้อบังคับของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติข้อบังคับของ NewCo จำนวน 64 ข้อ และการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของ NewCo ในการดำเนินการใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจดทะเบียนข้อบังคับของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ วาระที่ที่ 7 พิจารณาอนุมัติการเลือกตั้งกรรมการของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทฯ ซึ่งไม่รวมถึงกรรมการผู้มีส่วนได้เสีย เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติการเลือกตั้งกรรมการของ NewCo โดยมีรายนามดังต่อไปนี้ วาระที่ 8 พิจารณาอนุมัติการกำหนดรายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อผูกพันบริษัทของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติการกำหนดรายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อผูกพันของ NewCo ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ “นายสารัชถ์ รัตนาวะดี หรือนางพรทิพา ชินเวชกิจวานิชย์ หรือนายบุญชัย ถิราติ หรือนางสาวยุพาพิน วังวิวัฒน์ หรือนางโชติกุล สุขภิรมย์เกษม กรรมการสองในห้าคนนี้ลงลายมือชื่อร่วมกันและประทับตราสำคัญของบริษัท” วาระที่ 9 พิจารณาอนุมัติการกำหนดค่าตอบแทนกรรมการของ NewCo           ความเห็นคณะกรรมการ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติการกำหนดค่าตอบแทนคณะกรรมการและคณะกรรมการชุดย่อยของ NewCo ภายหลังการจดทะเบียนควบบริษัทจนถึงวันที่ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของ NewCo มีมติพิจารณาอนุมัติกำหนดค่าตอบแทนกรรมการเป็นอย่างอื่น วาระที่10 พิจารณาการแต่งตั้งผู้สอบบัญชีและกาหนดค่าสอบบัญชีของ NewCo สำหรับรอบระยะเวลาปีบัญชีสิ้นสุดวันที่31 ธันวาคม 2568 วาระที่11 พิจารณาเรื่องอื่นๆ(ถ้ามี)

พักซื้อขายหุ้น GULF-INTUCH  9 วัน จัดสรรหุ้นNewCo เช็กเลย!

พักซื้อขายหุ้น GULF-INTUCH 9 วัน จัดสรรหุ้นNewCo เช็กเลย!

หุ้นวิชั่น - จับตากำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้นร่วมระหว่างผู้ถือหุ้นของ GULF และ INTUCH กำหนดการหยุดพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทเพื่อเตรียมการที่เกี่ยวข้องกับการควบบริษัท และกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของ NewCo คณะกรรมการบริษัทฯ GULF อนุมัติกำหนดให้วันที่ 25 มีนาคม 2568 เป็นวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของ NewCo (Book Closing Date) ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นใน NewCo จะต้องเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งมีรายชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ณ วันที่ 25 มีนาคม 2568 เท่านั้น หากผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ไม่มีชื่อปรากฏในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในวันดังกล่าวจะไม่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของ NewCo คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติขอให้หยุดพักการซื้อขายหุ้นของบริษัทฯ เป็นระยะเวลา 9 วันทำการ ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มีนาคม 2568 ถึงวันที่ 2 เมษายน 2568 เพื่อการเตรียมการเกี่ยวกับการจัดสรรหุ้นของ NewCo ให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้นของ GULF รวมถึงการดำเนินการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการนำหลักทรัพย์ของ NewCo เข้าเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติทุน จดทะเบียน จำนวนหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ของหุ้น และทุนชำระแล้วของ NewCo ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ ทุนจดทะเบียนจำนวน 14,939,837,683 บาท           ทุนชำระแล้วจำนวน 14,939,837,683 บาท                                                                                                                                                                                                     แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 14,939,837,683 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้ หุ้นละ 1 บาท คณะกรรมการบริษัทฯ เห็นสมควรเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้นร่วมพิจารณาอนุมัติจัดสรรหุ้นของ NewCo ให้แก่ผู้ถือหุ้น โดยหุ้นที่จะนำมาจัดสรรเป็นหุ้นสามัญของ NewCo มีจำนวนทั้งสิ้น 14,939,837,683 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1 บาท จัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ GULF ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ และ GULF ณ วันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหุ้นเพื่อรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นของ NewCo (Book Closing Date) ซึ่งได้กำหนดเป็นวันที่ 25 มีนาคม 2568 ในอัตราส่วนตามที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ของบริษัทฯ และ GULF รวมถึงการปัดเศษหุ้นหากมีเศษหุ้นที่เกิดขึ้นจากการคำนวณตามอัตราส่วนการจัดสรร ราคาชดเชยต่อหุ้นกรณีผู้ถือหุ้นถูกปัดเศษหุ้นทิ้ง การที่นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ได้เสนอทำหน้าที่เป็นผู้เกลี่ยหุ้น (Balancer) ในการปัดเศษหุ้น และชำระเงินให้แก่หรือรับเงินชดเชยจาก NewCo ในการเกลี่ยหุ้นดังกล่าว ตลอดจนการมอบอำนาจให้กรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ หรือ GULF หรือ NewCo หรือบุคคลที่ได้รับมอบหมายจากกรรมการผู้มีอำนาจของบริษัทฯ หรือ GULF หรือ NewCo มีอำนาจดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการจัดสรรหุ้นสามัญของ NewCo ตามรายละเอียดที่เสนอ

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

INUCH ปี67กำไรดี แตะ 13,472 ล้าน

INUCH ปี67กำไรดี แตะ 13,472 ล้าน

          หุ้นวิชั่น - INTUCH ปี 67 กำไรแตะ 13,472 ล้านบาท เติบโตจากการรับรู้รายได้ของ TTTBB และการขยายตัวของธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ บริการอินเทอร์เน็ต และลูกค้าองค์กร ส่งผลให้ เอไอเอส กำไรพุ่ง 21% พร้อมประกาศจ่ายปันผลรวม 8.54 บาทต่อหุ้น รวมเงินปันผลพิเศษ 6.54 บาท ที่จะจ่าย 4 มี.ค. 2568 แม้ต้นทุนและค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นจากการขยายโครงข่าย 5G และใบอนุญาตคลื่น 700 MHz           เศรษฐกิจไทยปี 2567 ขยายตัวต่อเนื่องจากปี 2566 นำโดยการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและภาคการส่งออกสินค้า รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงปลายปี ขณะที่การบริโภคภาคเอกชนยังคงฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง แม้จะเผชิญแรงกดดันต่อเศรษฐกิจจากสถานการณ์อุทกภัย           โดยในปี 2567 กลุ่มอินทัชยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เอไอเอส ซึ่งเป็นเงินลงทุนหลักของอินทัช มีกำไรเพิ่มขึ้น ร้อยละ 21 จากปีก่อน จากการเติบโตของรายได้จากธุรกิจหลัก ได้แก่ • บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ จากเครือข่ายที่มีคุณภาพและความต้องการใช้ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง • บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ภายหลังการควบรวมกับ TTTBB • บริการลูกค้าองค์กร ที่เติบโตจากความต้องการเชื่อมต่อข้อมูลที่เพิ่มขึ้น           ในปี 2567 อินทัชได้ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลประกอบการครึ่งปีแรกของปี 2567 และประกาศจ่ายเงินปันผลพิเศษอันเป็นส่วนหนึ่งของธุรกรรมการปรับโครงสร้าง รวมทั้งสิ้น 8.54 บาทต่อหุ้น หรือ 27,385 ล้านบาท โดยเงินปันผลพิเศษจำนวน 6.54 บาทต่อหุ้น จะจ่ายให้กับผู้ถือหุ้นในวันที่ 4 มีนาคม 2568 ผลการดำเนินงานของกลุ่มอินทัชและเฉพาะบริษัท ในปี 2567 กลุ่มอินทัชมีกำไรสุทธิรวม 13,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกำไรจาก เอไอเอส โดยได้รับแรงหนุนจากการเติบโตของรายได้หลัก และการรับรู้ผลประกอบการจากการเข้าซื้อกิจการ TTTBB สุทธิจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุน ค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางการเงิน           สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะบริษัท อินทัช มีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสุทธิ (ไม่รวมผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโครงการ InVent) สำหรับปีนี้อยู่ที่ 286 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน เนื่องจากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ อย่างไรก็ตาม หากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสุทธิของอินทัชจะลดลง           ส่วนแบ่งผลกำไรจากเงินลงทุนในกลุ่มเอไอเอส เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของรายได้หลัก และการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB สุทธิจากการเพิ่มขึ้นของต้นทุนและค่าใช้จ่าย รวมถึงต้นทุนทางการเงินจากการก่อหนี้ที่ใช้สำหรับการซื้อกิจการ TTTBB และต้นทุนทางการเงินของหนี้สินตามสัญญาเช่าของ 3BBIF รายได้จากการขายและการให้บริการ ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตของ: • รายได้จากการให้บริการในธุรกิจอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2566 จากการรับรู้รายได้ของ TTTBB ในปี 2567 เต็มปี และการเติบโตตามปกติด้วยกลยุทธ์การขายพ่วงบริการเสริมที่มีมูลค่าเพิ่ม การขยายฐานผู้ใช้บริการ และการเพิ่ม ARPU ที่สูงขึ้นจากการขายแพ็กเกจที่รวมหลายบริการ • รายได้จากธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อน จากคุณภาพโครงข่ายที่แข็งแกร่ง รวมถึงการเติบโตของ ARPU จากกลยุทธ์การขายพ่วงบริการที่มีมูลค่าเพิ่ม และแรงสนับสนุนจากการท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ • รายได้จากธุรกิจบริการลูกค้าองค์กรและบริการอื่น ๆ โดยเพิ่มขึ้นจากปีก่อนจากการให้บริการ การเชื่อมต่อสื่อสารโครงข่ายข้อมูล (EDS) และคลาวด์ (Cloud) รวมถึงการรับรู้รายได้ของ TTTBB และรายได้บริการอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้สัญญาโรมมิ่งกับ NT • รายได้จากการขายอุปกรณ์และซิม โดยเพิ่มขึ้นจากปี 2566 จากการมุ่งเน้นการขาย Handset ค้าปลีกที่เพิ่มขึ้น ต้นทุนขายและต้นทุนการให้บริการ เพิ่มขึ้นเมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเติบโตตามรายได้ และการรับรู้ต้นทุนค่าเสื่อมราคาของสินทรัพย์สิทธิการใช้ของ TTTBB ในปี 2567 เต็มปี รวมถึงการรับรู้ค่าเสื่อมราคาการขยายโครงข่าย 5G และค่าตัดจำหน่ายใบอนุญาตคลื่นความถี่ 700 เมกะเฮิรตซ์ ต้นทุนในการจัดจำหน่ายและค่าใช้จ่ายในการบริหาร ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2566 ส่วนใหญ่เนื่องจากการรับรู้ค่าใช้จ่ายของ TTTBB ในปี 2567 เต็มปี รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน และการตั้งสำรองอุปกรณ์ล้าสมัยเพิ่มขึ้น

GULF ประกาศจ่ายปันผล 1.01 บาท INTUCH จ่ายเงินปันผลพิเศษ 6.54 บาท ขึ้น XD วันที่ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568

GULF ประกาศจ่ายปันผล 1.01 บาท INTUCH จ่ายเงินปันผลพิเศษ 6.54 บาท ขึ้น XD วันที่ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2568

          หุ้นวิชั่น - รายงาน บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ ว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท อนุมัติการจ่ายปันผลเป็นเงินสด อัตราการจ่ายเงินปันผลพิเศษ 6.54 บาทต่อหุ้น กำหนด วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 19 กุมภาพันธ์ 2568 ส่วนวันที่จ่ายปันผล 04 มีนาคม 2568           ส่วนบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า บริษัทฯ จะจ่ายปันผลเป็นเงินสด อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด 1.01 บาทต่อหุ้น โดยจะจ่ายปันผลวันที่ 06 มี.ค.2568 และกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 19 กุมภาพันธ์ 2568

INTUCH อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแกร่ง จับตาแผนควบรวม เป้า 107.7 บ.

INTUCH อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแกร่ง จับตาแผนควบรวม เป้า 107.7 บ.

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบถุึง INTUCH ว่า "ซื้อ" INTUCH (Bloomberg Consensus 107.70 บาท) "การควบรวมกับ GULF คาดจะแล้วเสร็จภายใน 2Q68"          บริษัทมีกำไรสุทธิ 3Q67 เท่ากับ 3,459 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และ +6% YoY ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกำไรจาก ADVANC จากการรับรู้รายได้ของ TTTBB และการเติบโตปกติของบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง รวมถึงการเติบโตของ ARPU และจำนวนเลขหมายที่เพิ่มขึ้น เป็นผลจากการมุ่งเน้นบริการที่สร้างมูลค่าเพิ่ม นอกจากนี้ใน 3Q67 INTUCH มีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่าธรรมชาติของเงินลงทุนในโครงการ InVent (เป็นโครงการลงทุนใน Venture Capital) จำนวน 31 ล้านบาท ฝ่ายวิจัยให้ความคิดเห็น          ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อผลประกอบการ 4Q67 โดยคาดว่ากำไรสุทธิจะเติบโต QoQ และ YoY ธุรกิจโทรศัพท์เคลื่อนที่และบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่แข็งแกร่ง และบริหารต้นทุนด้านเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยังเติบโตได้ตามเศรษฐกิจที่มีโอกาสขยายตัวจากจำนวน นักท่องเที่ยวต่างประเทศที่ตอบรับมาตรการของภาครัฐ และการเบิกจ่ายภาครัฐที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นเนื่องจากเป็นช่วงท้ายของงบประมาณปี 67 ขณะที่การควบรวมกับ GULF คาดว่าจะแล้วเสร็จภายใน 2Q68 แนะนำ “ซื้อ”

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

KSS คาด SET แกว่งตัวในกรอบ ต้าน 1367 จุด แนะ  ADVANC, INTUCH, CPALL เด่น

KSS คาด SET แกว่งตัวในกรอบ ต้าน 1367 จุด แนะ ADVANC, INTUCH, CPALL เด่น

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “แกว่งตัวในกรอบ” ต้าน 1363/1367 จุด รับ 1346/1340 จุด ดัชนี S&P500 แกว่งซึมลงปิด -0.21%กดดันจากแรงขายหุ้น Tech ขณะที่กลุ่ม Value ที่ Laggard ช่วยหนุน ประเมินเกิดจากเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีสัญญาณอ่อนลง ยอดค้าปลีก ธ.ค.24 ต่ำกว่าคาด +0.4%m-m ถ่วง US Bond Yield 10 ปี ลงอีก -4 bps และรอติดตามนโยบายที่คุณ Trump เดินหน้าได้เร็ว หลังรับตำแหน่ง 20ม.ค. ในส่วน Trade War ทั้งนี้ ตลาดหุ้น EM อิง MSCI EM ที่แกว่งลงต่อเนื่อง -6.7% ตั้งแต่คุณ Trump ชนะเลือกตั้งน่าจะสะท้อนความเสี่ยง ล่วงหน้าพอสมควรมาแล้ว ทำให้ประเมินความผันผวนอยู่ช่วงปลาย ภายใน แม้ตลาดน่าจะรอติดตามท่าทีคุณ Trump หลังรับตำแหน่งเช่นกัน แต่หากอิงภาพวานนี้ SET แกว่งตัว Underperform สวนทางโลกไปจาก ความเข้าใจคลาดเคลื่อน SSO, ปัจจัยเฉพาะหุ้นกลาง-เล็ก คาด SET วันนี้แกว่งตัวในกรอบได้ หุ้นเด่น คือ หุ้น Domestic ในธีม Peaking Yield (เช่าซื้อ โรงไฟฟ้า สื่อสาร High Yield หนี้สูง) และหุ้น Domestic อิงภาคบริโภคที่กระแสคึกคักตลอดงวด 1H25F วันนี้แนะนำ ADVANC, INTUCH, CPALL เด่น

ส่องกลยุทธ์ INTOUCH หุ้นมีปันผล คาดอัตราสูง 6.7%

ส่องกลยุทธ์ INTOUCH หุ้นมีปันผล คาดอัตราสูง 6.7%

หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรีส่องหุ้น INTOUCH ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ "ถือ" ราคาเป้าหมายที่ 108 บาท อิงจากส่วนลด 5% จากNAV ของ ADVANC คำแนะนำ "ถือ" ของฝ่ายวิจัยมีสาเหตุหลักมาจากผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดว่าจะสูงถึง 6.7% สำหรับการถือหุ้นเพียง 3 เดือน คาดเงินปันผลต่อหุ้น (DPS) อยู่ที่ 6.5 บาท ประกอบด้วย DPS ใน 2H24 ที่ 2 บาท และ DPS พิเศษที่4.5 บาท สำหรับปันผล 2H24 หนุนจากคาดการณ์กำไรใน 4Q67 ที่แข็งแกร่งที่3.54 พันล้านบาท (เพิ่มขึ้น ทั้ง YoY และ QoQ) ทั้งนี้ ยังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมาย 108 บาท ฝ่ายวิจัยยังคงคำแนะนำ “ถือ” สำหรับหุ้นตัวนี้ โดยมีราคาเป้าหมายที่ไม่เปลี่ยนแปลงที่ 108 บาท โดย ใช้ส่วนลด 5% จาก NAV ของ ADVANC คำแนะนำของฝ่ายวิจันยอยู่บนพื้นฐานของอัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่คาดว่าจะสูงถึง 6.7% สำหรับระยะเวลาถือครอง 3เดือน

GULF – INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ADVANC และ THCOM วันที่ 25 ธ.ค.นี้

GULF – INTUCH ตั้งโต๊ะเทนเดอร์ ADVANC และ THCOM วันที่ 25 ธ.ค.นี้

           ตามที่ และ บริษัท อินทัช โฮลดิ้ง จำกัด(มหาชน) และ บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ได้แจ้งมติที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (“ตลาดหลักทรัพย์ฯ”) เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ซึ่งได้อนุมัติธุรกรรมการปรับโครงสร้างของบริษัทฯ โดยรวมถึง(ก) ธุรกรรมการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ ADVANC โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ ADVANC (โดยไม่รวมหุ้นซึ่งผู้ทำคำเสนอซื้อถืออยู่) โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) และ(ข) ธุรกรรมการได้มาซึ่งหลักทรัพย์ของ THCOM โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดของ THCOM (โดยไม่รวมหุ้นซึ่งผู้ทำคำเสนอซื้อถืออยู่) โดยสมัครใจแบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ (Conditional Voluntary Tender Offer) (ให้เรียกธุรกรรมตาม (ก) และ (ข) รวมกันว่า “การทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ”)โดยมีเงื่อนไขบังคับก่อนตามที่บริษัทฯ ได้เปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม 2567 และวันที่ 6 กันยายน 2567 นั้น บริษัทฯ ขอเรียนให้ทราบว่า ขณะนี้ บริษัทฯ ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าเงื่อนไขบังคับก่อนดังกล่าวได้สำเร็จลงหรือได้รับการผ่อนผัน (แล้วแต่กรณี) บริษัทฯ จึงจะดำเนินการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ โดยบริษัทฯ ได้ยื่นเอกสารคำเสนอซื้อในการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 และจะเริ่มทำการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ฯ ของ ADVANC และ THCOM พร้อมกันในวันที่ 25 ธันวาคม 2567 ต่อไป

abs

ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร

INTUCH กำไร Q3/67 แตะ 3.45 พันล้าน

INTUCH กำไร Q3/67 แตะ 3.45 พันล้าน

           กลุ่มอินทัชในไตรมาส 3/2567 กำไรสุทธิรวมแตะ 3,459 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อน โดยมาจากการเติบโตของเอไอเอสและการรวมผลประกอบการของ TTTBB พร้อมแผนปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ ร่วมกับบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2568 ตั้งเป้าขยายธุรกิจสู่พลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และดิจิทัล เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้และเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต            บริษัท อินทัช โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ INTUCH ในไตรมาส 3/2567 กลุ่มอินทัชยังคงเติบโตอย่างแข็งแกร่ง เอไอเอสซึ่งเป็นการลงทุนหลักของอินทัชมีกำไรเพิ่มขึ้นทั้งจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อน แม้จะเผชิญแรงกดดันทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์อุทกภัยส่งผลให้การใช้จ่ายในประเทศแผ่วลงในช่วงไตรมาส 3                       เอไอเอสมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพการให้บริการเพื่อตอบสนองต่อความต้องการที่เพิ่มขึ้นของการใช้งานด้านดิจิทัล พัฒนาประสบการณ์ของลูกค้า ซึ่งสนับสนุนให้รายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่เติบโตจากทั้งจำนวนผู้ใช้บริการและรายได้เฉลี่ยต่อเลขหมายต่อเดือน (“ARPU”) ในส่วนของบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง AIS 3BB Fibre เติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จากการขยายฐานผู้ใช้บริการที่มุ่งเน้นคุณภาพ และ ARPU ที่สูงขึ้นจากการขายสินค้าและบริการที่เกี่ยวเนื่อง (Cross-selling)            ในไตรมาส 3/2567 และงวดเก้าเดือนของปี 2567 กลุ่มอินทัชมีกำไรสุทธิรวม 3,459 ล้านบาท และ 10,166 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งผลกำไรจากเอไอเอส โดยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมาเนื่องจากการเติบโตของรายได้หลักและการเพิ่มขึ้นของกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ส่วนแบ่งผลกำไรจากเอไอเอสเพิ่มขึ้นจากการรับรู้ผลประกอบการของ TTTBB โดยการรวมรายได้ ต้นทุน และค่าใช้จ่ายของ TTTBB จากการเข้าซื้อกิจการ TTTBB รวมถึงการเติบโตของรายได้หลัก สุทธิกับการเพิ่มขึ้นของต้นทุน ค่าใช้จ่าย และต้นทุนทางการเงิน            สำหรับผลการดำเนินงานเฉพาะบริษัท อินทัชมีค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสุทธิ (ไม่รวมผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโครงการ InVent) สำหรับไตรมาสนี้และงวดเก้าเดือนของปีนี้อยู่ที่ 59 ล้านบาท และ 110 ล้านบาทตามลำดับ เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสที่ผ่านมาและปีก่อน จากค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ โดยหากไม่รวมค่าใช้จ่ายดังกล่าว ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานสุทธิของอินทัชจะลดลง            ในไตรมาส 3/2567 อินทัชมีผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนในโครงการ InVent จำนวนประมาณ 31 ล้านบาท            ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 ของอินทัช เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 มีมติอนุมัติการเข้าทำธุรกรรมการควบบริษัทเพื่อการปรับโครงสร้างการถือหุ้นของบริษัทฯ ซึ่งประกอบด้วย ธุรกรรมการควบบริษัทระหว่างบริษัทฯ และบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ธุรกรรมการได้มาซึ่งหลักทรัพย์โดยการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ทั้งหมดโดยสมัครใจ แบบมีเงื่อนไขก่อนทำคำเสนอซื้อ ของบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) (รวมเรียกว่า “ธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ”) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มความหลากหลายในธุรกิจของบริษัทฯ จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีการถือหุ้นในเอไอเอสซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่มีนัยสำคัญเพียงบริษัทเดียว ไปสู่กลุ่มธุรกิจพลังงาน โครงสร้างพื้นฐาน และดิจิทัล อันจะทำให้มีโอกาสสร้างรายได้และการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว และการผสานความเชี่ยวชาญและทรัพยากรของทั้งสองบริษัท จะช่วยต่อยอดโอกาสในการขยายธุรกิจและสร้างผลตอบแทนที่ยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้คาดว่าธุรกรรมการปรับโครงสร้างฯ จะแล้วเสร็จในไตรมาส 2/2568            ที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2567 ของ ITV เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2567 ได้มีมติอนุมัติการเลิกบริษัท และ ITV ดำเนินการจดทะเบียนเลิกบริษัทต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์แล้ว เมื่อวันที่ 17 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ปัจจุบันอยู่ระหว่างการชำระบัญชี

GULF ฉลุยควบ INTUCH จับตาหนุนธุรกิจโตแกร่ง

GULF ฉลุยควบ INTUCH จับตาหนุนธุรกิจโตแกร่ง

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี รายงานว่า เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา GULF ได้จัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) เพื่อพิจารณาการควบรวมกิจการกับ INTUCH โดยผลการลงคะแนนเสียงแสดงให้เห็นว่ามีผู้ถือหุ้นร้อยละ 99.9931 หรือประมาณ 10,497 ล้านเสียงที่สนับสนุนการควบรวม ขณะที่มีเพียง 0.0068% หรือ 715,100 เสียงที่ไม่เห็นด้วย เรามีมุมมองบวกจากค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านไม่เป็นสาระสำคัญและไม่ส่งผลกระทบต่อสถานะทางการเงินของบริษัท           Our view: การซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านไม่เป็นสาระสำคัญ เพื่อให้เป็นไปตามพรบ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. 2535 GULF จะต้องเสนอซื้อหุ้นจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านในราคาตลาดในวันที่ทำการสุดท้ายก่อนการประชุม ซึ่งในกรณีนี้คือราคาปิดในวันที่ 2 ตุลาคม 2567 หรือ 56.50 บาท ทำให้ค่าใช้จ่ายในการซื้อหุ้นคืนจากผู้ถือหุ้นที่คัดค้านอยู่ที่เพียง 40.4 ล้านบาท หรือ 0.0085% ของสินทรัพย์รวมของ GULF ณ สิ้นมิ.ย. 2567 เท่านั้น เราจึงมีมุมมองบวกต่อ GULF ที่จะทำให้การควบรวมกิจการกับ INTUCH ไปสู่ขั้นตอนต่อไปได้           สำหรับขั้นตอนต่อไป GULF และ INTUCH จะดำเนินการส่งหนังสือแจ้งเจ้าหนี้ของ GULF และ INTUCH ภายใน 14 วัน หลังวัน EGM และให้ส่งคำคัดค้านภายในสองเดือนนับแต่วันที่ได้รับแจ้งมติ และเมื่อเงื่อนไขบังคับก่อนการทำธุรกรรมการทำ VTO ใน ADVANC และ THCOM สำเร็จครบถ้วน (หรือได้รับการผ่อนผัน) โดยเงื่อนไขที่สำคัญคือการขอ consent จากเจ้าหนี้ของทั้งสองบริษัท รวมถึงการขอ consent จาก third party ของบริษัทในกลุ่ม และการจัดหาเงินทุนสำหรับ VTO จึงจะเริ่มทำ VTO ของ ADVANC และ THCOM ในช่วง 4Q24-1Q25 นอกจากนี้ ช่วงเวลาดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ผู้รับซื้อหุ้นของ GULF และ INTUCH จากผู้ถือหุ้นที่คัดค้าน (หรืออาจจะดำเนินการก่อนช่วง VTO) โดยราคารับซื้อหุ้น GULF จะอยู่ที่ 56.50 บาท และ INTUCH อยู่ที่ 91 บาท (ราคารับซื้อเดิมของ GULF คือ 45 บาท และ INTUCH คือ 76 บาท ทั้งนี้จากราคา หุ้นที่เกินกว่าที่กำหนดจะเป็นดุลพินิจของผู้รับซื้อหุ้นว่าจะรับซื้อหรือไม่ หากไม่รับซื้อ ทั้ง GULF และ INTUCH ต้องหาผู้มารับซื้อใหม่)           Consensus ราคาเป้าหมายเฉลี่ยอยู่ที่ 57.3 บาท แนะนำซื้อ GULF เทรดอยู่ที่ premium เทียบกับคู่แข่ง โดยจากข้อมูล consensus คือเทรดอยู่ที่ 2024F PBV ที่ 5 เท่า PER ที่ 36 เท่า และมี ROE สูงอยู่ที่ 12% เรามองการประเมินมูลค่าเหมาะสมได้รับการสนับสนุนจากกลยุทธ์ของบริษัทที่จะมีการเติบโตทั้งในกลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน สาธารณูปโภค และในธุรกิจโทรคมนาคมผ่าน INTUCH, ADVANC และ THCOM หลังการควบรวมกิจการ

โบรกแนะซื้อ

โบรกแนะซื้อ "INTUCH" มองบวกหากควบรวม ADVANC - GULF

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี ระบุว่า ราคาหุ้น INTUCH พุ่งขึ้นอย่างมากในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา แต่ยังคงแนะนำให้ซื้อ INTUCH ปรับราคาเป้าหมายขึ้นจาก 98 บาทเป็น 105 บาท (อิงจาก discount NAV ราว 5% ของ ADVANC) เพื่อสะท้อนราคาเป้าหมายที่สูงขึ้น สำหรับ ADVANC การลงทุนใน INTUCH ที่ราคาปัจจุบันสะท้อนถึง EPS ที่เติบโตโดดเด่นในไตรมาส 3 ปี 2567 (พร้อมกับแนวโน้มการปรับประมาณการขึ้น) เช่นเดียวกับเงินปันผลอย่างน้อย 6 บาท หากบริษัทได้รับการอนุมัติในการควบรวมกับ GULF ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้ ณ ราคาปัจจุบัน ผลตอบแทนจากเงินปันผลน่าสนใจที่ระดับ 6.4% คาดกำไร 3Q67 อยู่ที่ 3.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 13% yoy แต่ทรงตัว qoq           ปัจจัยหนุนจากผลดำเนินงานของ ADVANC เนื่องจาก INTUCH มีธุรกิจด้านการลงทุนในธุรกิจเพียงไม่กี่รายการในพอร์ตโฟลิโอ เราคาดว่า ADVANC จะมีกำไร 3.45 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่คงที่เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งถือว่าแข็งแกร่ง เนื่องจากกำไรโดยปกติจะอ่อนตัวลงตามฤดูกาลในไตรมาส 3 โดยลดลง 5-10% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า ปีนี้ผลกระทบตามฤดูกาลจะน้อยลง เนื่องจาก ARPU ที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากการแข่งขันที่ลดลง (ดูรายละเอียดในคาดการณ์ผลประกอบการ ADVANC 30/09/2567) มีแนวโน้มปรับกำไรปี 2567 ขึ้นจาก 13.5 พันล้านบาท จากแนวโน้มกำไรของ ADVANC           กำไร 9 เดือนแรกอยู่ที่ 75% ของการคาดการณ์กำไรทั้งปี มี upside risk ต่อการประมาณการของเรา เนื่องจากเราคาดหวังกำไรที่แข็งแกร่งขึ้นจาก ADVANC ในไตรมาส 4 เนื่องจากเป็นช่วง High season เราคงประมาณการเติบโตของกำไร 16% สำหรับปี 2567 และ 6% สำหรับปี 2568 เราคาดว่า INTUCH จะประกาศเงินปันผลอีกสองครั้งในปีนี้ - เงินปันผลพิเศษ 4 บาท ตามการอนุมัติให้ควบรวมกับ GULF ในการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นวันนี้ (3 ตุลาคม 2567) และ 2 บาทสำหรับผลประกอบการครึ่งหลังของปี 2567 แนะนำซื้อ ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 105 บาท จาก 98 บาท           ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 105 บาท (จาก 98 บาท) จากการปรับราคาเป้าหมายของ ADVANC เรามีมุมมองเชิงบวกหากมีการอนุมัติการควบรวมกิจการ โดยจะได้ประโยชน์จากผลดำเนินงานที่แข็งแกร่งขึ้น อีกทั้งยังได้รับเงินปันผลพิเศษ 6 บาท ซึ่งคิดเป็นเงินปันผลราว 6%

abs

Hoonvision

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456