ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#IMPACT


IMPACT อีเวนต์ใหญ่แน่น พร้อมต้อนรับ Miss Universe 2025

IMPACT อีเวนต์ใหญ่แน่น พร้อมต้อนรับ Miss Universe 2025

          IMPACT เผยภาพรวมปี 68 คึกคัก ด้วยทัพอีเวนต์ใหญ่ระดับนานาชาติเตรียมจัดงานต่อเนื่องตลอดทั้งปี สะท้อนความเชื่อมั่นของผู้จัดงานทั่วโลกต่อศักยภาพของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางไมซ์ระดับภูมิภาค และข่าวดีล่าสุดที่สร้างกระแสฮือฮา ในการกลับมาของเวทีประกวดนางงามระดับโลก Miss Universe สู่ประเทศไทยในปีนี้ โดยนับเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่ประเทศได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ซึ่งได้เลือก IMPACT Challenger เป็นสถานที่จัดรอบตัดสินสุดยิ่งใหญ่ สะท้อนถึงความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐานและทีมงานระดับสากล ตอกย้ำบทบาทของ IMPACT ในการผลักดันอุตสาหกรรมไมซ์ (MICE) และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยอย่างต่อเนื่อง พร้อมขับเคลื่อน ซอฟต์พาวเวอร์ไทย ผ่านเวทีระดับโลกสู่สายตานานาชาติ           นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และผู้บริหารทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ IMPACT Growth REIT (IMPACT) เปิดเผยว่า IMPACT  เปิดศักราชปี 2568 อย่างคึกคัก ด้วยอีเวนต์ขนาดใหญ่หลากหลายรูปแบบที่แน่นตลอดทั้งปี ทั้งคอนเสิร์ตระดับโลก งานแสดงสินค้า การประชุมระดับนานาชาติ และเทศกาลสร้างสรรค์ ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางธุรกิจไมซ์ (MICE) และเวทีของอุตสาหกรรมสร้างสรรค์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้           และข่าวดีที่สร้างกระแสตื่นเต้นในช่วงต้นปี คือ การที่ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดการประกวด Miss Universe 2025 หรือการประกวดนางงามจักรวาลครั้งที่ 74 ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 4 ในประวัติศาสตร์ที่ไทย โดยกำหนดจัดรอบตัดสินในวันที่ 21 พฤศจิกายน 2568 ณ อาคารชาเลนเจอร์ อิมแพ็ค เมืองทองธานี (IMPACT Challenger) นับเป็นอาคารจัดแสดงสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลกแบบไร้เสากลาง (column-free) ซึ่งสะท้อนความยิ่งใหญ่ของโครงสร้าง และความพร้อมด้านระบบสนับสนุนทุกมิติ สำหรับต้อนรับผู้เข้าประกวดจากกว่า 130 ประเทศทั่วโลก และแฟนนางงามนานาชาติที่จะหลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยอย่างคึกคักในช่วงปลายปี           “การที่ IMPACT ได้รับความไว้วางใจให้เป็นสถานที่จัดงานรอบตัดสิน Miss Universe 2025 ถือเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศไทยบนเวทีระดับโลก และเป็นเวที Soft Power ไทย ที่จะได้เปล่งประกายผ่านความงาม วัฒนธรรม การต้อนรับ และความคิดสร้างสรรค์ของคนไทยอย่างเต็มที่ นอกจากช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศ ยังถือเป็นแรงกระตุ้นสำคัญต่ออุตสาหกรรมไมซ์ การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ที่จะส่งต่อเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง” นายพอลล์ กล่าว           อย่างไรก็ดี IMPACT เตรียมความพร้อม ด้วยโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย และมี Ecosystem ที่ครบวงจรที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรม ร้านอาหาร พื้นที่สันทนาการ และการเดินทางที่สะดวกใกล้ทางด่วน สนามบิน และล่าสุดกับโครงการ Sky Entrance ทางเชื่อมจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าสู่อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ พร้อมอำนวยความสะดวกในการเดินทาง นอกจากนี้ ยังมีการยกระดับความปลอดภัยด้วยการติดตั้งระบบ CCTV และเทคโนโลยีอัจฉริยะ มุ่งหน้าสู่เป้าหมายการเป็น “IMPACT Smart City” อย่างเป็นรูปธรรม           สำหรับปี 2568 เริ่มต้นด้วยกิจกรรมอีเวนต์ขนาดใหญ่ที่คึกคักตั้งแต่ต้นปี ไม่ว่าจะเป็น งาน VIV Asia 2025 (วิฟ เอเชีย) งานแสดงสินค้าและเทคโนโลยีด้านปศุสัตว์ครบวงจรระดับโลก ที่ดึงดูดทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนทั่วภูมิภาค และล่าสุดที่เริ่มเปิดฉาก อย่างงานบางกอก อินเตอร์เนชันแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 26 มีนาคม – 6 เมษายนนี้ ณ อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 และอาคาร 4 อิมแพ็ค ฟอรั่ม อิมแพ็ค เมืองทองธานี บรรยากาศโดยรวมสะท้อนให้เห็นว่า การจัดงานยังคงคึกคัก ได้รับความสนใจจากผู้ร่วมงานทั้งในและต่างประเทศ             “IMPACT ไม่ใช่แค่สถานที่จัดงาน แต่คือสัญลักษณ์ของ ความพร้อม ความเชื่อมั่น และความสามารถของประเทศไทย ในการเป็นเจ้าภาพงานระดับโลก เราจะยังคงเป็นฟันเฟืองสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจสร้างสรรค์ และส่งพลัง Soft Power ไทยไปสู่สายตาทั่วโลก” นายพอลล์ กล่าวทิ้งท้าย

IMPACT กางแผนปั้นเมืองทองธานี สู่ Tourism Destination

IMPACT กางแผนปั้นเมืองทองธานี สู่ Tourism Destination

         IMPACT ลุยสร้างโรงแรมใหม่เสริมเมืองทองธานี สู่ Tourism Destination ตั้งเป้ามี 3,000 ห้องภายในปี 2030 เสริมจุดเด่นรับอุตสาหกรรม MICE และท่องเที่ยวครบวงจร ด้านรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเข้าเมืองทองธานี ปัจจัยหนุนดึงคนเข้างาน ขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่ม          อุตสาหกรรมไมซ์ เป็นหนึ่งในเครื่องจักรสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ด้วยภูมิรัฐศาสตร์ของไทยบนภูมิภาคนี้ ส่งผลให้ไทยคือจุดหมายปลายสำคัญของนักเดินทางกลุ่มไมซ์ โดยปี 2568 สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) หรือ ทีเส็บ (TCEB) ตั้งเป้าจำนวนนักเดินทางไมซ์ที่ 34 ล้านคน คาดว่าจะสร้างรายได้ 2 แสนล้านบาท สอดรับกับแผนการดำเนินงานของ IMPACT ที่จะเสริมทัพธุรกิจเพิ่มจุดแข็งรอบด้าน ความพร้อมในการรองรับการจัดงานนิทรรศการ คอนเสิร์ต ด้วยการลงทุนสร้างโรงแรมเพิ่มหนุนการเติบโตของธุรกิจทั้งปัจจุบันและอนาคต          นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์กองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็คโกรท (IMPACT GROWTH REIT) หรือ IMPACT เปิดเผยว่า การปั้นเมืองทองธานี ให้เป็น Tourism Destination คือแผนสำคัญสำหรับปี 2568 และเป้าหมายสำคัญคือการสร้าง Smart City ที่จะต้องมีความพร้อมในหลายด้าน          “การที่มีระบบขนส่งสาธารณะจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยดึงดูด และทำให้คนตัดสินใจเดินทางมายังเมืองทองธานีง่ายขึ้น นอกจากนี้ เราวางแผนที่จะเพิ่มระบบ CCTV ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องฮาร์ดแวร์เท่านั้น แต่รวมถึงเทคโนโลยีที่เพิ่มประสิทธิภาพด้านความปลอดภัย และการลงทุนหลักของเรานอกจากร่วมลงทุนในรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย 2 สถานีมายังเมืองทองธานีแล้ว เรายังวางแผนลงทุน พัฒนาโรงแรมแห่งใหม่ระดับ 4-5 ดาว ขนาด 1,000 ห้อง ประเมินใช้เงินลงทุนประมาณ 4,000 – 5,000 ล้านบาท คาดแล้วเสร็จในปี 2571  นอกจากนี้ IMPACT ยังวางเป้าหมายขยายการลงทุนสร้างโรงแรมเพิ่มเติมเป็น 3,000 ห้อง ภายในปี 2573 และ 5,000 ห้องภายในปี 2578          ปัจจุบันเมื่อมีการจัดงานสเกลใหญ่ใน IMPACT พร้อมๆ กัน เราไม่สามารถรองรับผู้ต้องการเข้าพักโรงแรมได้ทั้งหมด  แต่การลงทุนด้านโรงแรมจะเพิ่มศักยภาพในการเป็นพื้นที่จัดงานขนาดใหญ่ ทั้งจากลูกค้าในประเทศและต่างประเทศ นี่คือโอกาสด้านรายได้สำคัญ ทำให้ IMPACT ก้าวสู่สเต็ปของการเป็น Destination Tourism แต่ถ้าโรงแรม ร้านอาหารไม่เพียงพอ จะทำให้เราสูญเสียโอกาส เรามั่นใจมากว่าแผนการลงทุนครั้งนี้จะเป็นการหนุนให้ดีมานด์เพิ่มขึ้น”          สำหรับ โครงการ Sky Entrance เชื่อมต่อสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย จำนวน 2 สถานี คือ สถานี อิมแพ็ค เมืองทองธานี และสถานีทะเลสาปเมืองทอง เชื่อมการเดินทางให้เข้าสู่งานประชุม งานแสดงสินค้าได้สะดวกขึ้น ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อมองในภาพรวมของประชากรย่านเมืองทองธานีที่จะได้รับประโยชน์ด้วย โดย กำหนดการสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย คาดจะเปิดให้บริการภายในช่วงเดือนพฤษภาคมปีนี้          ปีที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งปีที่อุตสาหกรรม MICE ในไทยประสบความสำเร็จอย่างมาก ตั้งแต่เดือนมกราคม-ธันวาคม 2567 จำนวนผู้เข้ามาใช้บริการ IMPACT เกือบ 10 ล้านคน หลังการเปิดใช้รถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายคาดว่าจะเพิ่มจำนวนผู้มาใช้บริการเพิ่มขึ้น          ขณะที่ นายพอลล์ กาญจนพาสน์ มองภาพรวมของอุตสาหกรรมไมซ์ว่า ยังมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการสนับสนุนของภาครัฐ และแผนธุรกิจของ IMPACT ที่จะดึงดูดให้นักลงทุนเข้ามาจัดงานแสดงสินค้า การประชุมในไทยเพิ่มขึ้น          “สถานการณ์เศรษฐกิจทั้งไทยและโลก อาจมีผลกระทบต่อการจัดงานบ้าง เพราะงบประมาณส่วนนี้อยู่ในงบการตลาด  ดังนั้น เราต้องโฟกัสจากกลุ่มที่น่าจะมีโอกาส นั่นคือ จีน อินเดีย 2 ประเทศนี้มีปัจจัยหลายด้านที่ทำให้เราต้องโฟกัส ทั้งการขยายตัวด้านเศรษฐกิจ เทคโนโลยี โดยเฉพาะจีนที่เราต้องสร้างความสัมพันธ์ระยะยาว ไม่ใช่การพูดคุยแค่กลุ่ม Exhibitor เท่านั้น แต่เราต้องเชื่อมสัมพันธ์ไปถึง Exhibition Hall ให้เกิดความสัมพันธ์แบบไปกลับ หรือการหา Exhibitor ให้กันและกัน จีนเป็นประเทศใหญ่ เป็นไปไม่ได้ที่จะจัดงานเมืองเดียวแล้วสามารถดึงดูดคนให้มารวมกันที่เดียวกัน เราต้องขยายโอกาสออกไปยังเมืองต่างๆ ด้วย และอาจมีแผนที่จะตั้งศูนย์ธุรกิจที่จีนในอนาคต”          ด้าน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ โครงการมูลค่าแสนล้านบาทของรัฐบาล นายพอลล์ กาญจนพาสน์ กล่าวว่า อิมแพ็คให้ความสนใจเช่นกัน ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของรัฐบาล “อิมแพ็ค มีความสนใจในโครงการนี้ ซึ่งเราเองมีความพร้อมในหลายๆ ด้าน แต่คงไม่ใช่เรื่องที่เราจะโฟกัสเป็นอันดับแรก ส่วนแผนการดำเนินธุรกิจ ที่มีการพัฒนาในทุกด้านเพื่อรองรับธุรกิจหลัก นั่นคือ ศูนย์การประชุมแสดงสินค้า นิทรรศการ และคอนเสิร์ต” [PR News]

กองทรัสต์ IMPACT เผยปลายปีไฮซีซั่นงานอีเวนท์ - Sky Entrance คืบหน้าเกือบ 80%

กองทรัสต์ IMPACT เผยปลายปีไฮซีซั่นงานอีเวนท์ - Sky Entrance คืบหน้าเกือบ 80%

          หุ้นวิชั่น - กองทรัสต์ IMPACT เผยปลายปีอีเวนท์คึกคัก งานใหญ่ Flagship พาเหรดจัดเต็มพื้นที่ ด้านงานคอนเสิร์ตยอดจองล้นไปถึงปีหน้า จึงมั่นใจปีนี้ผลงานส่อแววสดใส ปักธงรายได้เติบโต 20-25% พร้อมกับอัตราการจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหน่วยเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกัน ด้านโครงการ Sky Entrance เชื่อมสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูมีความคืบหน้างานก่อสร้างไปแล้ว 77% คาดแล้วเสร็จกุมภาพันธ์ปีหน้า หนุนการเดินทางปีหน้าสะดวกสบาย ขยายฐานลูกค้าใหม่ต่อเนื่องในปี 68/69 พร้อมจัดทัพบุกโรดโชว์ลูกค้า โฟกัสตลาดต่างประเทศ           นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT GROWTH REIT) ผู้นำศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและในภูมิภาคเอเชีย เปิดเผยถึง ภาพรวมอุตสาหกรรม MICE และการท่องเที่ยวในปลายปีนี้ส่งสัญญาณบวก คึกคักรับไฮซีซั่นการจัดงานอีเวนท์และคอนเสิร์ตในช่วงปลายปี หรือในไตรมาส 3 ปี2567/2568 (ตุลาคม - ธันวาคม) มีการจัดงานใหญ่ต่อเนื่อง อาทิ งาน Motor Expo ครั้งที่ 41, งานบ้านและสวน, DronTech, Thailand Space Week และ Baby & Kids Best Buy ขณะที่ งานคอนเสิร์ตทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศมีคิวบุ๊คกิ้งเข้ามาเต็ม ล้นยาวไปจนถึงปีหน้า ในด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ ในช่วงที่ผ่านมากองทรัสต์ฯ ได้ดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ให้ทันสมัย เพิ่มประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้าในการเข้ามาใช้บริการ เพื่อรักษาฐานลูกค้าเดิม และเพิ่มเติมลูกค้าใหม่ ด้วยมาตรฐาน และการพัฒนาบนหลัก Sustainability โดยจุดที่มีการปรับปรุงแล้วเสร็จ ได้แก่ IMPACT Common Space, Thai Thai Food Court และ Sky Kitchen Premium Food Court นอกจากนี้ โครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการ ในโครงการ Sky Entrance สะพานทางเชื่อมระหว่างสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยายเมืองทองธานีเข้าสู่อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ ปัจจุบันคืบหน้างานก่อสร้างไปแล้ว 77% คาดแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 สอดคล้องกับกำหนดการสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูส่วนต่อขยาย คาดจะเปิดให้บริการภายในช่วงเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ปีหน้า เพิ่มความสะดวกในการเดินทาง และดึงลูกค้าใหม่ๆ เข้ามาเพิ่มเติม ขณะที่แผนการลงทุนในสินทรัพย์ใหม่ อยู่ระหว่างศึกษาและพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อผลตอบแทนสูงสุดต่อผู้ถือหน่วยทรัสต์ อย่างไรก็ดี จากความสำเร็จของผลงานดำเนินงานช่วงครึ่งปีแรกที่ออกมาเติบโต กองทรัสต์ IMPACT จึงมั่นใจภาพรวมสิ้นปีนี้ ในปี 2567/68 (งบปีสิ้นสุด 31 มีนาคม 2568) จะเติบโตราว 20-25% จากปีก่อนมีรายได้รวมประมาณ 1,752 ล้านบาท พร้อมกับนโยบายการจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหน่วยเพิ่มขึ้นในระดับเดียวกันที่ 20-25% และคาดอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยรวม (Occupancy Rate) 37-40% ทั้งนี้ กองทรัสต์ IMPACT มีนโยบายการจ่ายเงินปันผลตอบแทนผู้ถือหน่วยที่ 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้ว โดยในไตรมาส 1 ปี 2567/68 จ่ายปันผลไปแล้ว 0.22 บาท/หน่วย นับเป็นการจ่ายปันผลสูงสุดของไตรมาส 1 ตั้งแต่จัดตั้งกองทรัสต์ และที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สำหรับไตรมาส 2 ปี 2567/2568 ที่ 0.11 บาท/หน่วย กำหนดวันที่จ่ายในวันที่ 13 ธันวาคม 2567 สนับสนุนให้ในงวดครึ่งปีแรก จ่ายปันผลรวมกันอยู่ที่ 0.33 บาท/หน่วย พร้อมประเมินภาพรวมกองทรัสต์ปี 2568/69 ภาพรวมธุรกิจ MICE คาดจะมีการจัดงานกลับมาใกล้เคียงช่วงก่อนโควิด ตามภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศ และการขยายตัวของลูกค้าต่างชาติ โดยเฉพาะพื้นที่อิมแพ็ค อารีน่า โดดเด่นในการรองรับการจัดงานขนาดใหญ่ ชูกลุ่ม Entertainment  ทั้งงานคอนเสิร์ต และงานมิวสิคเฟสติวัล เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ขณะที่ งานท่องเที่ยวเพื่อเป็นรางวัล (Incentive) มีทิศทางที่ดี จากหลากหลายองค์กรทั้งในและต่างประเทศมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง งานในกลุ่ม Global Conventions อยู่ระหว่างพูดคุยและรอคอนเฟิร์มเพิ่มเติม นอกจากนี้ วางแผนออกงานโรดโชว์และออกงานแสดงสินค้า บุกขยายฐานลูกค้าต่างประเทศเพิ่มเติม โดยเฉพาะตลาดจีนที่มีการเติบโตขึ้นมาก รวมทั้ง โฟกัสกลุ่มใหม่ๆ อาทิ อินเดีย เวียดนาม และ เกาหลี  เป็นต้น สำหรับก่อนหน้านี้ กองทรัสต์ IMPACT รายงานผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน ประจำปี 2567/2568 (เมษายน - กันยายน 2567) มีรายได้รวม 1,058.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.6%  กำไรสุทธิ 559.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47.8% เทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 378.6 ล้านบาท โดยมีอัตราการใช้พื้นที่เฉลี่ยรวม 39.3% และมีอัตราค่าเช่าพื้นที่เฉลี่ยรวม 84 บาทต่อตารางเมตร ลูกค้ามีการกระจายตัว 6 เดือนแรกปีนี้ แบ่งเป็น เอกชน 45% รัฐบาล 28% และต่างชาติ 27% ข้อมูลสรุป ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท : IMPACT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท หรือ IMPACT ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่จะเข้าลงทุนในกรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินประเภทศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์การประชุม โดยมี บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด จะทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager) บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด ทำหน้าที่เป็นทรัสตี (Trustee) บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ ปัจจุบัน IMPACT มีทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การจัดแสดงอิมแพ็ค อารีน่า อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ (ฮอลล์ 1-3) ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม (ฮอลล์ 4) และศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ฮอลล์ 5-12)  ซึ่งทรัพย์สินทั้ง 4 แห่ง ตั้งอยู่ในโครงการอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีพื้นที่รวม 479,761 ตร.ม. และพื้นที่จัดแสดงสุทธิ 122,165 ตร.ม.

[PR News] บอร์ด IMPACT Growth REIT ไฟเขียว “อิมแพ็ค ไลฟ์ เนชั่น”

[PR News] บอร์ด IMPACT Growth REIT ไฟเขียว “อิมแพ็ค ไลฟ์ เนชั่น”

          IMPACT Growth REIT เผยความคืบหน้าครั้งใหญ่ บอร์ดไฟเขียวให้บริษัท อิมแพ็ค ไลฟ์ เนชั่น จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง IMPACT และ Live Nation Entertainment ให้เช่าอาคารและที่ดินอิมแพ็ค อารีน่า ระยะยาว 20 ปี หนุนฐานรายได้มั่นคง รับรู้รายได้ต่อเนื่อง และตอกย้ำการใช้บริการศูนย์แสดงสินค้า การประชุม และการจัดคอนเสิร์ตระดับเวิล์ดคลาส             ที่ประชุมคณะกรรมการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ อิมแพ็ค โกรท (IMPACT Growth REIT) ได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท อิมแพ็ค ไลฟ์ เนชั่น จำกัด (บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด และ Live Nation Entertainment) เข้ามาเช่าอาคารและที่ดินอิมแพ็ค อารีน่า สร้างความมั่นคงการรับรู้รายได้ค่าเช่าในระยะยาว 20 ปี กำหนดจัดประชุมผู้ถือหน่วยทรัสต์ ในวันศุกร์ที่ 8 พฤศจิกายน 2567 เวลา 10.00 น. ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์           นายพอลล์ กาญจนพาสน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ IMPACT Growth REIT กล่าวว่า นับเป็นการต่อยอดจุดแข็งของ IMPACT Growth REIT กองทรัสต์ด้านศูนย์การจัดประชุม และนิทรรศการนานาชาติ ครบวงจร ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ผสานกับ Live Nation Entertainment ซึ่งเป็นบริษัทธุรกิจบันเทิง และผู้บริหารศูนย์การจัดแสดงงานระดับโลก มุ่งหวังสร้างความคึกคักให้แก่อาคารอิมแพ็ค อารีนา และสนับสนุนประเทศไทยกลายเป็นหนึ่งในประเทศหลักการทัวร์คอนเสิร์ตของโลก           ด้าน นางสาววันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ IMPACT Growth REIT อนุมัติให้บริษัท อิมแพ็ค ไลฟ์ เนชั่น จำกัด เข้ามาเช่าอาคารและที่ดินอิมแพ็ค อารีน่า ระยะยาว 20 ปี โดยมองเป็นโอกาสขยายพาร์ทเนอร์เชิงกลยุทธ์ที่จะเข้ามาสร้างความแข็งแกร่งของผลการดำเนินงาน ด้วยรายได้ค่าเช่าที่มีความมั่นคงสม่ำเสมอ และโอกาสในการต่อยอดจุดแข็งทั้งสองฝ่ายร่วมกัน           ทั้งนี้ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT Growth REIT) ลงทุนในกรรมสิทธิ์ ทรัพย์สินประเภทศูนย์แสดงสินค้าและศูนย์การประชุม โดยมี บริษัท อาร์ เอ็ม ไอ จำกัด ทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ (REIT Manager) บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ และบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด ทำหน้าที่เป็นทรัสตี (Trustee)           โดยปัจจุบัน IMPACT Growth REIT มีทรัพย์สินที่ลงทุนทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ ศูนย์การจัดแสดงอิมแพ็ค อารีน่า อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ (ฮอลล์ 1-3) ศูนย์การประชุมอิมแพ็คฟอรั่ม (ฮอลล์ 4) และศูนย์การแสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี (ฮอลล์ 5-12) ซึ่งทรัพย์สินทั้ง 4 แห่ง ตั้งอยู่ในโครงการอิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมีพื้นที่รวม 479,761 ตร.ม. และพื้นที่จัดแสดงสุทธิ 122,165 ตร.ม.

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011