ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#EE


“EE” ชี้แจง ลงทุนสู่ธุรกิจเทคฯ  มุ่งความมั่นคงและการเติบโตระยะยาว

“EE” ชี้แจง ลงทุนสู่ธุรกิจเทคฯ มุ่งความมั่นคงและการเติบโตระยะยาว

          หุ้นวิชั่น - บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE โดย นายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมกรณีบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจและอำนาจควบคุมต่อกรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ณ วัน 11 ธันวาคม 2567 โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจ Tech ว่าบริษัทฯจะยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจกัญชงและกัญชาต่อไป แต่ด้วยความผันผวนของนโยบายภาครัฐและภาวะอุตสาหกรรมที่ส่งผลต่อราคาผลผลิตตกต่ำจากสภาวะอุปทานส่วนเกิน บริษัทฯ จึงเล็งเห็นถึงความจำเป็นในการขยายการลงทุนสู่ธุรกิจใหม่ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงเพื่อสร้างความมั่นคงในระยะยาว บริษัทฯ ได้วางแนวทางการขยายสู่ ธุรกิจอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสารสนเทศ (“ธุรกิจ Tech”) ซึ่งมีโอกาสในการสร้างรายได้และการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย: 1.         ธุรกิจสื่อเทคโนโลยี (Technology Media) 2.         ธุรกิจให้บริการชำระเงิน (Payment Gateway Solution) 3.         ธุรกิจแพลตฟอร์มตลาดซื้อขาย (Marketplace Platform) บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าธุรกิจ Tech จะสามารถสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 12.0 พร้อมศักยภาพการเติบโตที่มั่นคงในอนาคต ทั้งนี้ เพื่อให้การลงทุนในธุรกิจใหม่ดำเนินไปได้ทันต่อสถานการณ์ บริษัทฯ มีแผนระดมทุนผ่าน Private Placement โดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด แม้ว่าบริษัทฯ ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อธุรกิจที่อยู่ระหว่างการศึกษาการลงทุนได้ในขณะนี้ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนแห่งอื่น และอาจส่งผลกระทบต่อการเจรจาธุรกรรม บริษัทฯ คาดว่าจะได้ข้อสรุปเกี่ยวกับการลงทุนในธุรกิจ Tech ภายในไตรมาส 2–3 ของปี 2568 บริษัทฯ ขอย้ำถึงความตั้งใจที่จะสร้างความมั่นคงและผลตอบแทนอย่างยั่งยืนให้แก่ผู้ถือหุ้น พร้อมมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในอนาคต           เกี่ยวกับบริษัท EE: บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจกัญชงและกัญชา พร้อมขยายสู่ธุรกิจเทคโนโลยีและสารสนเทศ เพื่อสร้างรายได้และการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว

EE แจงศึกษาแผนลงทุนธุรกิจ Tech เพิ่มเติม คาดชัดเจน Q2 – Q3 ปี 68

EE แจงศึกษาแผนลงทุนธุรกิจ Tech เพิ่มเติม คาดชัดเจน Q2 – Q3 ปี 68

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE ได้รับหนังสือจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ขอให้บริษัทฯ ชี้แจงข้อมูลกรอบเวลาที่จะศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในธุรกิจ Tech นั้น           บริษัทฯ ขอชี้แจงว่าบริษัทฯ จะยังคงดำเนินธุรกิจกัญชงและกัญชาต่อไป แต่เนื่องด้วยธุรกิจกัญชงและกัญชามีความเสี่ยงสูงจากการเปลี่ยนแปลงของนโยบายภาครัฐ อีกทั้งสภาวะอุตสาหกรรมที่ส่งผลให้ราคาผลผลิตตกต่ำลงจากสภาวะอุปทานส่วนเกิน ซึ่งส่งผลโดยตรงกับผลประกอบการของบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงมีแนวทางในการขยายการลงทุนในธุรกิจอื่นที่มีศักยภาพในการเติบโต กล่าวคือ ธุรกิจอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสารสนเทศ (“ธุรกิจ Tech”) โดยบริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจ Tech ซึ่งรวมถึง (1) ธุรกิจสื่อเทคโนโลยี (Technology Media) (2) ธุรกิจให้บริการชำระเงิน (PaymentGateway Solution) และ/หรือ (3) ธุรกิจแพลตฟอร์มตลาดซื้อขาย (Marketplace Platform) เนื่องจากเห็นว่าธุรกิจ Tech เป็นธุรกิจที่มีศักยภาพในการสร้างรายได้และความสามารถขยายตัวได้อย่างรวดเร็ว และเป็นธุรกิจที่สอดคล้องกับทิศทางเมกะเทรนด์          บริษัทฯ จึงมีความสนใจในการเข้าลงทุนในธุรกิจดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะสามารถสร้างกระแสเงินสดให้กับบริษัทฯ อย่างสม่ำเสมอ มีผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 12.0 และมีศักยภาพการเติบโตในอนาคต (Potential Upside)          อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ประสงค์ที่จะระดมทุนโดยการเข้าทำรายการ Private Placement เพื่อให้บริษัทฯ สามารถระดมเงินทุนให้ได้ทันท่วงทีสำหรับการเข้าลงทุนในธุรกิจ Tech ดังกล่าว โดยบริษัทฯ ยังไม่สามารถเปิดเผยชื่อของธุรกิจที่บริษัทฯ อยู่ในระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนได้ เนื่องจากธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจของบริษัทจดทะเบียนแห่งอื่น และการเปิดเผยข้อมูลในขณะที่ยังไม่มีความแน่นอนอาจจะทำให้บริษัทจะทะเบียนดังกล่าวได้รับผลกระทบ และอาจส่งผลต่อการเจราจาราคาของธุรกรรมการลงทุนนี้ อย่างไรก็ดีบริษัทฯ คาดว่าจะได้ความแน่นอนเกี่ยวกับการศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนในธุรกิจ Tech ภายในไตรมาส 2 – 3 ปี 2568

“นอท กองสลากพลัส

“นอท กองสลากพลัส"เข้าถือหุ้นใหญ่ EE ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจสู่ยุคใหม่

          หุ้นวิชั่น - "พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์" หรือ "นอท กองสลากพลัส" เข้าถือหุ้น 57.81% ของ EE พร้อมนั่งเก้าอี้ประธานกรรมการ ลั่นบริหารโปร่งใส เดินหน้าปรับโครงสร้างธุรกิจ สร้างผลตอบแทนยั่งยืนแก่ผู้ถือหุ้น มั่นใจศักยภาพและการเติบโต พร้อมประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ก.พ. 2568 ผลักดัน EE สู่การเป็นองค์กรชั้นนำระดับประเทศ และเตรียมเสนอเปลี่ยนชื่อบริษัท สู่ยุคใหม่ในชื่อ TECHLEAD NPN “บริษัท เทคลีด เอ็นพีเอ็น จำกัด (มหาชน)” (TECHLEAD NPN Public Company Limited)           นายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE แจ้งรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงมติการประชุมของบริษัทครั้งที่ ครั้งที่ 9/2567 และ 10/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 โดยมีวาระที่ประกาศความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการประชุมคณะกรรมการบริษัท 2 ครั้งล่าสุด โดยมีรายละเอียดดังนี้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างและกรรมการบริหาร โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้ง นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เป็นประธานกรรมการคนใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่างลง เพื่อรองรับทิศทางธุรกิจในอนาคต           และมีมติการลดและเพิ่มทุนเพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจบริษัทมีมติลดทุนจดทะเบียนจำนวน 2,780 ล้านบาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 2,720 ล้านบาท โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อเพิ่มความสามารถในการลงทุนและขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ราคาที่กำหนดจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของประกาศ ทจ. 28/2565 และไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด โดยราคาตลาดคำนวณจากค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลัง 15 วันทำการ ทั้งนี้ การเสนอขายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้น (Control Dilution) เกินร้อยละ 25 จึงต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของเสียงทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง           ด้านการสร้างความชัดเจนให้แก่โครงสร้างธุรกิจใหม่ ทางบริษัทจึงเห็นชอบและเตรียมเสนอเปลี่ยนชื่อบริษัท สู่ยุคใหม่ในชื่อ TECHLEAD NPN “บริษัท เทคลีด เอ็นพีเอ็น จำกัด (มหาชน)” (TECHLEAD NPN Public Company Limited) เพื่อสะท้อนถึงทิศทางธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน หลังการเปลี่ยนแปลงกลุ่มผู้บริหาร           ด้านนายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “การเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘TECHLEAD NPN’ ไม่เพียงแค่เป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กร แต่ยังแสดงถึงความชัดเจนในโครงสร้างธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง ภายหลังการปรับเปลี่ยนกลุ่มผู้บริหาร แนวทางใหม่นี้สอดคล้องกับเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน โดยธุรกิจใหม่ที่เรามุ่งเน้นจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่กว้างขึ้น เพิ่มรายได้และผลกำไรอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมั่นใจว่าธุรกิจใหม่มีศักยภาพสูงและมีทิศทางการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับความสำเร็จของบริษัทในอนาคต”           ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้จะถูกนำเสนอใน การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ผ่านระบบ e-Meeting ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. โดยมีการกำหนดวัน Record Date ในวันที่ 24 ธันวาคม 2567           จากกระแสข่าวและคอมเม้นต์ต่างๆที่เกี่ยวกับการเข้ามาถือหุ้นในบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ‘EE’ ซึ่งได้มีการรายงานตามกระบวนการขั้นตอนที่กำหนดไว้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 แบบ Big Lot จำนวน 1,607,000,000 หุ้นคิดเป็นสัดส่วน 57.81% ของทุนชำระแล้วของบริษัท โดยผู้ดำเนินการเพิ่มทุนคือ นาย พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือที่รู้จักกันในนาม “นอท กองสลากพลัส” ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับได้รับสิทธิ์บริหารตามสัดส่วนการถือหุ้นในตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท           นาย พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) น้อมส่งคำชี้แจงถึงการเข้าเป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้นในครั้งนี้ว่า “การเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรับตำแหน่งประธานกรรมการของบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ‘EE’ ถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางการทำงานของผม ผมมองเห็นศักยภาพและโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทในธุรกิจด้านเทคโนโลยี และเชื่อมั่นว่า ‘EE’ จะสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ด้วยการบริหารที่โปร่งใส มีเป้าหมายที่ชัดเจน และการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน ผมตั้งใจที่จะผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นและผลักดันให้ ‘EE’ กลายเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือในระดับประเทศได้”           “ผมขอเน้นย้ำถึงความโปร่งใสและความตั้งใจที่จริงจังในการบริหารงานภายใต้ความร่วมมือจากคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ การตัดสินใจทุกอย่างจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรอบคอบและผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกคน ผมให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา และพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่เหมาะสมและสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว”           “ผมทราบดีว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้เกิดคำถามและความกังวลในบางกลุ่ม แต่ผมขอให้คำมั่นว่าผมและทีมงานทุกคนจะทำงานอย่างเต็มความสามารถและโปร่งใส เพื่อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จและความมั่นคงของบริษัทในอนาคต ผมขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในตัวผม และผมจะใช้โอกาสนี้สร้างผลงานที่จับต้องได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่ายและนำพา ‘EE’ ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความสำเร็จร่วมกัน”           ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนในการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยซึ่ง จะมีการจัดการประชุมกรรมการบริหาร เพื่อหารือและลงมติถึงการเข้าทำธุรกิจใหม่ ให้นำพาสู่รายได้และกำไรอันสูงสุด โดยบริษัทฯจะมีการรายงานคำชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมถึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบในช่องทางข่าวสารอย่างเป็นทางการของบริษัทต่อไป ทั้งนี้ ในหลังจากรายงานตลาดหลักทรัพย์ ก็มีการขอให้ EE ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติม และขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลด้วยความระมัดระวังก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจและอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ           ตามที่ วันที่ 4 ธันวาคม 2567 บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) (EE) ได้แจ้งสารสนเทศสำคัญมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนี้:           มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่เป็น นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ซึ่งเข้ามาถือหุ้น EE ในสัดส่วน 57.81% และมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่ราคาหุ้นละ 0.14 บาท           คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุน 2,720 ล้านหุ้น (49.45% ของทุนชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน) ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.19 บาท เป็นเงิน 517 ล้านบาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement: PP) 5 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากกระทบต่อสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้น (Control Dilution) มากกว่า 25%           วัตถุประสงค์: นำเงินเพิ่มทุนไปใช้ลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ธุรกิจ Tech)คาดการณ์ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ไม่น้อยกว่า 12% แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้           (รายละเอียดเพิ่มเติมตามข่าวของ EE วันที่ 4 ธันวาคม 2567)           จากรายการข้างต้น ส่งผลให้ EE มีการเปลี่ยนแปลงทั้งธุรกิจและอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ โดยธุรกิจใหม่มีความเสี่ยงที่แตกต่างจากธุรกิจปัจจุบัน ซึ่งเป็นธุรกิจการเกษตรบริษัทคาดว่าจะเริ่มลงทุนภายในปี 2568 โดยธุรกิจใหม่นี้เป็นข้อมูลสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน ดังนั้น ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ EE ชี้แจงกรอบเวลาศึกษาความเป็นไปได้ของการลงทุนในธุรกิจ Tech ให้แล้วเสร็จ และรายงานผ่านระบบเผยแพร่ข้อมูลของตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายใน วันที่ 11 ธันวาคม 2567 ตลาดหลักทรัพย์ฯ จึงขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลของ EE ด้วยความระมัดระวังก่อนการตัดสินใจลงทุน และติดตามความคืบหน้าของบริษัทในการเข้าลงทุนในธุรกิจ Tech ต่อไป

คำแถลงการณ์ “นอท กองสลากพลัส” ประธาน EE

คำแถลงการณ์ “นอท กองสลากพลัส” ประธาน EE

          หุ้นวิชั่น - จากกระแสข่าวและคอมเม้นต์ต่างๆที่เกี่ยวกับการเข้ามาถือหุ้นใน บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ‘EE’ ซึ่งได้มีการรายงานตามกระบวนการขั้นตอนที่กำหนดไว้ของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567 แบบ Big Lot จำนวน 1,607,000,000 หุ้นคิดเป็นสัดส่วน 57.81% ของทุนชำระแล้วของบริษัท โดยผู้ดำเนินการเพิ่มทุนคือ นาย พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ หรือที่รู้จักกันในนาม “นอท กองสลากพลัส” ซึ่งส่งผลให้โครงสร้างการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป พร้อมกับได้รับสิทธิ์บริหารตามสัดส่วนการถือหุ้นในตำแหน่ง ประธานกรรมการบริษัท           นาย พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ ประธานกรรมการ บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) น้อมส่งคำชี้แจงถึงการเข้าเป็นกรรมการบริษัทและถือหุ้นในครั้งนี้ว่า “การเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่และรับตำแหน่งประธานกรรมการของบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ ‘EE’ ถือเป็นก้าวสำคัญในเส้นทางการทำงานของผม ผมมองเห็นศักยภาพและโอกาสที่ยิ่งใหญ่ของบริษัทในธุรกิจด้านเทคโนโลยี และเชื่อมั่นว่า ‘EE’ จะสามารถก้าวไปสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ด้วยการบริหารที่โปร่งใส มีเป้าหมายที่ชัดเจน และการทำงานร่วมกันอย่างเข้มแข็งของทีมผู้บริหารและพนักงานทุกคน ผมตั้งใจที่จะผลักดันบริษัทให้เติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้นและผลักดันให้ ‘EE’ กลายเป็นองค์กรที่น่าเชื่อถือในระดับประเทศได้”           “ผมขอเน้นย้ำถึงความโปร่งใสและความตั้งใจที่จริงจังในการบริหารงานภายใต้ความร่วมมือจากคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ การตัดสินใจทุกอย่างจะตั้งอยู่บนพื้นฐานของความรอบคอบและผลประโยชน์สูงสุดของบริษัทและผู้ถือหุ้นทุกคน ผมให้ความสำคัญกับการสื่อสารที่เปิดเผย ตรงไปตรงมา และพร้อมรับฟังข้อคิดเห็นจากทุกฝ่าย เพื่อให้มั่นใจว่าบริษัทจะสามารถดำเนินธุรกิจไปในทิศทางที่เหมาะสมและสร้างความเชื่อมั่นในระยะยาว”           “ผมทราบดีว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้อาจทำให้เกิดคำถามและความกังวลในบางกลุ่ม แต่ผมขอให้คำมั่นว่าผมและทีมงานทุกคนจะทำงานอย่างเต็มความสามารถและโปร่งใส เพื่อพิสูจน์ว่าการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้จะนำมาซึ่งความสำเร็จและความมั่นคงของบริษัทในอนาคต ผมขอขอบคุณผู้ถือหุ้นทุกท่านที่ให้ความไว้วางใจในตัวผม และผมจะใช้โอกาสนี้สร้างผลงานที่จับต้องได้เพื่อสร้างความมั่นใจให้ทุกฝ่ายและนำพา ‘EE’ ก้าวสู่ยุคใหม่แห่งความสำเร็จร่วมกัน”           ทั้งนี้ ทางบริษัทมีแผนในการปรับโครงสร้างธุรกิจเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะตลาดและความต้องการของผู้บริโภคในประเทศไทยซึ่ง จะมีการจัดการประชุมกรรมการบริหาร เพื่อหารือและลงมติถึงการเข้าทำธุรกิจใหม่ ให้นำพาสู่รายได้และกำไรอันสูงสุด โดยบริษัทฯจะมีการรายงานคำชี้แจงต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยรวมถึงแจ้งให้ผู้ถือหุ้นทราบในช่องทางข่าวสารอย่างเป็นทางการของบริษัทต่อไป [PR News]

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

“EE” เปลี่ยนชื่อสู่ “TEACHLEAD NPN” เพื่อสะท้อนถึงทิศทางธุรกิจใหม่

“EE” เปลี่ยนชื่อสู่ “TEACHLEAD NPN” เพื่อสะท้อนถึงทิศทางธุรกิจใหม่

          หุ้นวิชั่น - บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) แจ้งเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในองค์กร เตรียมเข้าสู่ยุคใหม่ในชื่อ TECHLEAD NPN           นายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ EE แจ้งรายงานต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยถึงมติการประชุมของบริษัทครั้งที่ ครั้งที่ 9/2567 และ 10/2567 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2567  โดยมีวาระที่ประกาศความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากการประชุมคณะกรรมการบริษัท 2 ครั้งล่าสุด โดยมีรายละเอียดดังนี้           เปลี่ยนแปลงโครงสร้างและกรรมการบริหาร โดยคณะกรรมการบริษัทมีมติแต่งตั้ง นายพันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เป็นประธานกรรมการคนใหม่ แทนตำแหน่งที่ว่างลง เพื่อรองรับทิศทางธุรกิจในอนาคต           และมีมติการลดและเพิ่มทุนเพื่อความยั่งยืนทางธุรกิจบริษัทมีมติลดทุนจดทะเบียนจำนวน 2,780 ล้านบาท และเพิ่มทุนจดทะเบียนใหม่จำนวน 2,720 ล้านบาท โดยจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อเพิ่มความสามารถในการลงทุนและขยายโอกาสทางธุรกิจ โดยการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ราคาที่กำหนดจะเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของประกาศ ทจ. 28/2565 และไม่ต่ำกว่าร้อยละ 90 ของราคาตลาด โดยราคาตลาดคำนวณจากค่าเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักย้อนหลัง 15 วันทำการ ทั้งนี้ การเสนอขายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้น (Control Dilution) เกินร้อยละ 25 จึงต้องได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่า 3 ใน 4 ของเสียงทั้งหมดที่มีสิทธิออกเสียง           ด้านการสร้างความชัดเจนให้แก่โครงสร้างธุรกิจใหม่ ทางบริษัทจึงเห็นชอบและเตรียมเสนอเปลี่ยนชื่อบริษัท สู่ยุคใหม่ในชื่อ TECHLEAD NPN “บริษัท เทคลีด เอ็นพีเอ็น จำกัด (มหาชน)” (TECHLEAD NPN Public Company Limited) เพื่อสะท้อนถึงทิศทางธุรกิจใหม่ที่ชัดเจน หลังการเปลี่ยนแปลงกลุ่มผู้บริหาร           ด้านนายอิศรา เรืองสุขอุดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวว่า “การเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น ‘TECHLEAD NPN’ ไม่เพียงแค่เป็นการสะท้อนภาพลักษณ์ใหม่ขององค์กร แต่ยังแสดงถึงความชัดเจนในโครงสร้างธุรกิจที่กำลังเปลี่ยนแปลง ภายหลังการปรับเปลี่ยนกลุ่มผู้บริหาร แนวทางใหม่นี้สอดคล้องกับเศรษฐกิจและสภาพแวดล้อมทางธุรกิจในปัจจุบัน โดยธุรกิจใหม่ที่เรามุ่งเน้นจะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจที่กว้างขึ้น เพิ่มรายได้และผลกำไรอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ คณะกรรมการบริษัทมั่นใจว่าธุรกิจใหม่มีศักยภาพสูงและมีทิศทางการเติบโตที่มั่นคงในระยะยาว ซึ่งจะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับความสำเร็จของบริษัทในอนาคต”           ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้จะถูกนำเสนอใน การประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2568 ผ่านระบบ e-Meeting ในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เวลา 14.00 น. โดยมีการกำหนดวัน Record Date ในวันที่ 24 ธันวาคม 2567 [PR News]

ตลท.ขอ EE ชี้แจงแผนลงทุนธุรกิจ Tech พร้อมเตือนนักลงทุนศึกษาข้อมูลรอบคอบ

ตลท.ขอ EE ชี้แจงแผนลงทุนธุรกิจ Tech พร้อมเตือนนักลงทุนศึกษาข้อมูลรอบคอบ

          หุ้นวิชั่น - ตลาดหลักทรัพย์ฯ ขอให้ EE ชี้แจงข้อมูลเพิ่มเติมและขอให้ผู้ลงทุนศึกษาข้อมูลด้วยความระมัดระวังก่อนตัดสินใจลงทุน กรณีบริษัทมีการเปลี่ยนแปลงธุรกิจและอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ ตามที่วันที่ 4 ธันวาคม 2567 บริษัท อีเทอร์นัล เอนเนอยี จำกัด (มหาชน) (EE) ได้แจ้งสารสนเทศสำคัญมายังตลาดหลักทรัพย์ฯ ดังนี้ 1. มีการเปลี่ยนแปลงผู้ถือหุ้นใหญ่เป็นนายพนธ์ธวัช นาควัชรสิทธิ์ ซึ่งเข้ามาถือหุ้น EE ในสัดส่วน 57.81% และมีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ที่ราคาหุ้นละ 0.14 บาท 2. คณะกรรมการบริษัทมีมติให้เรียกประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นในวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2568 เพื่อพิจารณาอนุมัติการเพิ่มทุน 2,720 ล้านหุ้น (49.45% ของทุนชำระแล้วภายหลังการเพิ่มทุน) ราคาเสนอขายหุ้นละ 0.19 บาท เป็นเงิน 517 ล้านบาท เพื่อเสนอขายให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement: PP) 5 ราย ซึ่งเป็นจำนวนที่มีนัยสำคัญ เนื่องจากกระทบต่อสิทธิออกเสียงของผู้ถือหุ้น (Control Dilution) มากกว่า 25% โดยมีวัตถุประสงค์นำเงินเพิ่มทุนไปใช้ลงทุนในธุรกิจอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและสารสนเทศ (ธุรกิจ Tech) ซึ่งบริษัทคาดว่าจะมีผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ไม่น้อยกว่า 12% แต่บริษัทยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เนื่องจากอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ในการลงทุนและธุรกิจดังกล่าวเป็นธุรกิจของบริษัทจดทะเบียน (รายละเอียดตามข่าวของ EE วันที่ 4 ธันวาคม 2567) จากรายการข้างต้นส่งผลให้ EE มีการเปลี่ยนแปลงทั้งธุรกิจและอำนาจควบคุมอย่างมีนัยสำคัญ โดยธุรกิจใหม่มีความเสี่ยงที่แตกต่างจากธุรกิจปัจจุบันของบริษัทซึ่งเป็นธุรกิจการเกษตร บริษัทคาดว่าจะลงทุนภายในปี 2568 และมีผลตอบแทนการลงทุน (IRR) ไม่น้อยกว่า 12% จึงเป็นข้อมูลสำคัญต่อการตัดสินใจลงทุน

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011