ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#DOHOME


DOHOME ปันผลเป็นหุ้น 21:1 - เงินสด 0.0052 บ./หุ้น XD 4 มี.ค.68

DOHOME ปันผลเป็นหุ้น 21:1 - เงินสด 0.0052 บ./หุ้น XD 4 มี.ค.68

         หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) (DOHOME) แจ้งการจ่ายปันผล เรื่อง : จ่ายปันผลเป็นหุ้นปันผลและเงินสด วันที่คณะกรรมการมีมติ : 19 ก.พ. 2568 ชนิดการปันผล :  จ่ายปันผลเป็นหุ้นปันผลและเงินสด วันกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผล (Record date) :  5 มี.ค. 2568 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล(XD) : 4 มี.ค. 2568 จ่ายให้กับ : ผู้ถือหุ้นสามัญ อัตราการจ่ายหุ้นปันผล(หุ้นเดิม :หุ้นปันผล) : 21.00 : 1.00 อัตราการจ่ายปันผลเป็นหุ้น (บาทต่อหุ้น) : 0.0476190476 อัตราการจ่ายปันผลเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 0.0052910053 อัตราการจ่ายปันผลรวม (บาทต่อหุ้น) : 0.0529100529 การชดเชยกรณีเศษหุ้นเป็นเงินสด (บาทต่อหุ้น) : 0.0476190476 มูลค่าที่ตราไว้ (Par)(บาท) : 1.00 วันที่จ่ายปันผล : 26 พ.ค. 2568 จ่ายปันผลจาก : งวดดำเนินงานวันที่ 01 ม.ค. 2567 ถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2567

DOHOME กำไรปี 67 โต 15.2% เน้นขายสินค้า House Brand 

DOHOME กำไรปี 67 โต 15.2% เน้นขายสินค้า House Brand 

           หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นางตรีปราง อู่นนทกานต์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานบัญชีและการเงิน บริษัท ดูโฮม จำกัด (มหาชน) (DOHOME) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้รวมเท่ากับ 31,327.03 ล้านบาท ลดลง 247.16 ล้านบาท หรือ คิดเป็นลดลงร้อยละ 0.8 จากปี 2566 และกลุ่มบริษัทฯ มีอัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นจากร้อยละ 15.7 เป็นร้อยละ 17.1 จากการเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นในทุกกลุ่มสินค้าและการบริหารจัดการต้นทุนขายที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นของ สินค้าภายใต้ตราสินค้าของกลุ่มบริษัทฯ (House Brand) ที่เพิ่มขึ้น จึงทำให้กำไรขั้นต้นเพิ่มสูงขึ้นจาก 4,901.13 ล้านบาท ในปี 2566 เป็น 5,308.46 ล้านบาท ในปี 2567 หรือเพิ่มขึ้น 407.33 ล้านบาท            ทั้งนี้กลุ่มบริษัทฯ มีค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารที่เพิ่ม สูงขึ้นจากค่าใช้จ่ายของสาขาขนาดใหญ่และสาขาขนาดเล็ก (Dohome ToGo) ที่เปิดดำเนินการใหม่และค่าใช้จ่ายการตลาด เพื่อส่งเสริมการขาย ส่งผลให้กำไรสุทธิสำหรับปี 2567 เท่ากับ 674.08 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 88.79 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น ร้อยละ 15.2 จากปี 2566            สำหรับการขยายสาขาในปี 2567 กลุ่มบริษัทฯ เปิดสาขาขนาดเล็ก (Dohome ToGo) เพิ่ม 4 สาขา ส่งผลให้ณ 31 ธันวาคม 2567 มีสาขาขนาดใหญ่ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 24 สาขา และมีสาขาขนาดเล็ก (Dohome ToGo) ที่เปิดบริการทั้งสิ้น 15 สาขา            ในปี 2567 สถานการณ์โดยรวมยังได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย ทั้งสภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว อัตราดอกเบี้ยที่ยังอยู่ ในระดับสูง และการลงทุนภาครัฐที่ลดลงในช่วงต้นปีจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีล่าช้า จึงส่งผลกระทบทำให้ภาคการก่อสร้างชะลอตัว รวมถึงการลงทุนจากภาคเอกชนที่ชะลอตัวจากสถานการณ์ของสภาวะเศรษฐกิจอย่างไรก็ตามกลุ่มบริษัทฯ ได้มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อผลักดันรายได้ทุกช่องทางและยังคงพัฒนาช่องทางการขายต่างๆ เพื่อให้ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น            อย่างไรก็ดีถึงแม้สถานการณ์โดยรวมยังได้รับผลกระทบจากหลายปัจจัย แต่ในช่วงไตรมาส 4 กลุ่มบริษัทฯ สามารถผลักดันรายได้สาขาเดิมให้เติบโต และรายได้จากช่องทางการขายต่างๆ ให้เติบโตได้ เมื่อเทียบกับช่วง เดียวกันของปีก่อน

DOHOME กำไรฟื้น ชี้พื้นฐาน 9.50 บาท

DOHOME กำไรฟื้น ชี้พื้นฐาน 9.50 บาท

          หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล. ดาโอระบุว่า ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” DOHOME จากเดิม “ถือ” ที่ราคาเป้าหมายเดิม 9.50 บาท อิง 2025E PER 31x (3-yr avg.) DOHOME รายงานกำไรปกติ 4Q24 ที่ 160 ล้านบาท (+11% YoY, +108% QoQ) ใกล้เคียงคาดการณ์ โดยมี SSSG พลิกกลับมาเป็นบวกที่ +1.5% (Back office +2%, End-user <1%) ฟื้นตัวจาก 3Q24 ที่ติดลบ -4.5% แต่ยังต่ำกว่าคาดที่ +3-4% รายได้รวมอยู่ที่ 7,623 ล้านบาท (+4.0% YoY, +3.1% QoQ) ได้แรงหนุนจากการเปิดสาขาใหม่ (บางพูน) ขณะที่ GPM อยู่ที่ 16.8% (-10 bps YoY, +40 bps QoQ) ต่ำกว่าคาดจากสัดส่วนสินค้าก่อสร้างที่เพิ่มขึ้น แม้ House Brand ช่วยหนุนมาร์จิ้นแนวโน้ม 1Q25E คาดว่า SSSG ทรงตัวถึงเป็นบวกเล็กน้อย โดย End-user มีโอกาสฟื้นตัวดีขึ้นตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่ปี 2025E คงประมาณการกำไรที่ 871 ล้านบาท (+29% YoY) จากการขยายสาขาขนาดใหญ่อีกครั้ง โดยคาดเปิด 2 สาขาใหม่ และเริ่มก่อสร้างอีก 3 แห่ง ซึ่งเป็นปัจจัยหนุนการเติบโตในระยะกลางราคาหุ้นปรับตัว underperform SET -13.1% ใน 1 เดือนที่ผ่านมา สะท้อนความกังวลเรื่องกำลังซื้อที่ยังเปราะบาง และแนวโน้มฟื้นตัวที่ช้ากว่าคาด ขณะที่ 6M และ 12M underperform ตลาด -34.4% และ -27.8% ตามลำดับ และการฟื้นตัวของกำลังซื้อ End-user ยังไม่ชัดเจน ทำให้ sentiment ต่อหุ้นยังค่อนข้างลบ อย่างไรก็ตามกำไรปกติ 4Q24 ฟื้นตัวได้ และคาดเห็นการเติบโตต่อใน 2025E/26E จากการ rebound จากฐานต่ำในปี 2023/24     ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น “ซื้อ” จากเดิม “ถือ” ที่ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท อิง 2025E PER 31x จากราคาหุ้นปัจจุบันปรับตัวลงมาเทรดที่ต่ำ ทำให้มี downside จำกั

รัฐจ่อลดค่าไฟฟ้า CPALL – CPAXT – DOHOME รับอานิสงส์

รัฐจ่อลดค่าไฟฟ้า CPALL – CPAXT – DOHOME รับอานิสงส์

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี ระบุว่าตามเจตนารมณ์ของรัฐบาลอาจมีการปรับลดราคาค่าไฟฟ้าอีกครั้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 เป็นต้นไป มุมมองของนักวิเคราะห์คือสามารถลดราคาลงเหลือ 3.85 บาทต่อหน่วย ส่งผลให้ค่าไฟฟ้าปี 2025F ต่ำกว่าปี 2024F ถึง 6.1% ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่ม upside ให้กับกำไรปี 2025F ของเราที่ 0.9-4.7% อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลปรับลดเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย (ตามแถลงการณ์ก่อนหน้านี้, -8.8% yoy) upside อาจเพิ่มขึ้นเป็น 1.3%-6.7% ในทั้ง 2 สถานการณ์ผู้ได้รับประโยชน์สูงสุดอาจเป็น CPALL (4.7%-6.7%) ตามมาด้วย CPAXT (3.5%-5.1%) และ DOHOME (3.1%-4.4%) CPALL (TP 70) และ HMPRO (TP 13.50) เป็นหุ้นเด่นของเราในกลุ่มนี้ ทั้งสองบริษัทอาจเห็นยอดขายสาขาเดิม (SSSG) เติบโตในเชิงบวกในปี 2025 และมีการประเมินมูลค่าที่น่าสนใจที่ 17x ถึง 19x, -1.5 ถึง -2SD จากค่าเฉลี่ยระยะยาว ลดค่าไฟฟ้าจากพฤษภาคมเป็นต้นไป           ในความพยายามที่จะลดต้นทุนการครองชีพ รัฐบาลได้ลดราคาค่าไฟฟ้าต่อหน่วยลง 0.03 บาท เหลือ 4.15 บาท ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเมษายน 2025 และยังระบุด้วยว่าสามารถลดต้นทุนค่าไฟฟ้าได้อีกเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วยตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2025 เป็นต้นไป เนื่องจากการขาดทุนหนัก หากค่าไฟฟ้าลดเหลือ 3.70 บาทต่อหน่วย เราคาดว่าสามารถลดลงเหลือ 3.85 บาทต่อหน่วย แม้ว่ายังคงมีความไม่แน่นอนอยู่มาก แต่เราคาดว่าค่าไฟฟ้าทุกๆ 0.10 บาทต่อหน่วยที่ลดลง อาจช่วยเพิ่ม upside ให้กับกำไรของภาคธุรกิจในปี 2025F ได้ที่ 0.4%-1.8% SSSG เป็นบวกในปี 2025           ประเมินว่า SSSG ในปี 2025 อาจฟื้นตัวจากระดับปี 2024 และอยู่ระหว่าง 2%-5% ในปี 2025 ซึ่งอาจได้รับแรงหนุนจาก: 1) มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐเพิ่มเติม (โดยเฉพาะการแจกเงินสดเพิ่มเติม 10,000 บาท) และ 2) การเติบโตของ GDP ที่ดีขึ้นในปี 2025F เราหันมามองเชิงบวกมากขึ้นเรื่อยๆ ต่อกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยที่ราคาหุ้นยังเป็น laggards เนื่องจากคาดว่า SSSG ของพวกเขาจะเปลี่ยนเป็นบวกจากลบในปี 2024 (รูปที่ 3) และอาจเป็นผลดีต่อราคาหุ้น ความเสี่ยงหลักคือการบริโภคที่ฟื้นตัวช้ากว่าที่คิด           ความเสี่ยงหลักคือการฟื้นตัวของการบริโภคช้ากว่าคาด หุ้นเด่นคือ: 1) CPALL (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย 70 บาท) เนื่องจากได้ประโยชน์หลักจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล และ 2) HMPRO (ซื้อ, ราคาเป้าหมาย TP 13.50 บาท) เนื่องจาก valuation ที่ -2SD ในขณะที่ SSSG อาจกลับมาเป็นบวกที่ +2% ในปี 2025F จาก -3.6% ในปี 2024F และเป็น positive catalyst

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

DOHOME กำไรปกติ Q4 ฟื้น กระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้าหนุน

DOHOME กำไรปกติ Q4 ฟื้น กระตุ้นเศรษฐกิจปีหน้าหนุน

          หุ้นวิชั่น - บทวิเคราะห์ บล.ดาโอระบุว่า คงคำแนะนำ “ถือ” DOHOME แต่มีการปรับราคาเป้าหมายลงอยู่ที่ 9.50 บาท จากเดิมที่ 10.00 บาท อิง 2025E PER 31x (หรือเท่ากับ 3-yr avg. PER) ตามประมาณการที่ปรับลง           คาดกำไรปกติ 4Q24E ที่ 162 ล้านบาท ขยายตัว +12% YoY, +110% QoQ (กำไรสุทธิ -18% YoY และ +110% QoQ) โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้ 1) คาด SSSG ใน 4Q24E ที่ +3-4% โดยกลุ่มลูกค้า Back office อยู่ที่ +4-5% และกลุ่มลูกค้า End user เริ่มเห็นกลับมาเป็นบวกได้ที่ +1% ประกอบกับมีการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขา (สาขาบางพูน) ที่เพิ่มขึ้น YoY ทำให้คาดรายได้รวมอยู่ที่ 7.8 พันล้านบาท +6% YoY และ +5% QoQ 2) คาด GPM อยู่ที่ระดับ 17.1% จากปัจจัยฤดูกาล และสัดส่วนยอดขายของลูกค้ากลุ่ม End user ที่กลับมาเป็นบวกได้ และ คาด GPM เหล็กอยู่ที่ 9-10% จากราคาเหล็กที่มีความผันผวนน้อยลงและราคาที่ปรับตัวดีขึ้นปรับประมาณการกำไรปี 2025E ลง -7% อยู่ที่ 871 ล้านบาท จากเดิมที่ 934 ล้านบาท ขยายตัวได้ +29% YoY จากการกลับมาขยายสาขาใหญ่อีกครั้ง โดยเราประเมินกำไร 2024E อยู่ที่ 673 ล้านบาท จากประมาณการกำไร 4Q24E ที่อยู่ที่ 162 ล้านบาท ที่ขยายตัวได้ตามปัจจัยฤดูกาลและ SSSG ที่เห็นการฟื้นตัวเป็นบวกได้ โดยแนวโน้ม 1Q25E คาดเห็นการฟื้นตัวของลูกค้ากลุ่ม End user ได้ดีขึ้นจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงต้นปี 2025Eราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเล็กน้อย underperform ตลาดน้อยลงในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จากความกังวลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคต่อกลุ่มที่เริ่มคลี่คลาย หลังเริ่มเห็นแนวโน้มกำลังซื้อเริ่มกลับมา คาดจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวใน 4Q24E-1Q25E หนุนด้วย post-flood demand ใน 4Q24E ทั้งนี้กำไร 2024E/25E ของบริษัทยังฟื้นตัวได้จากฐานที่ต่ำใน 2023/24E ยังให้คำแนะนำเป็น ถือ จากราคาหุ้นเทรดอยู่ในระดับสูง เมื่อเทียบกับกำไรและแนวโน้มอุตสาหกรรมที่ยังขยายตัวได้จำกัดในช่วงสั้น

เจาะ DOHOME โบรกฯหวังฟื้นตัว Q4 ไฮซีซั่น-ปีหน้า

เจาะ DOHOME โบรกฯหวังฟื้นตัว Q4 ไฮซีซั่น-ปีหน้า

          หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน จากบทวิเคราะห์ บล. เอเชียพลัส เจาะหุ้น DOHOME รายงานกำไรสุทธิงวด Q3/67 ที่ 77 ล้านบาท (-60% QoQ, -15% YoY) โดยกำไรที่ลดลงแรง QoQ เพราะยอดขายลดลง จากผลของฤดูกาล กำลังซื้อที่อ่อนแอ รวมทั้งมาร์จิ้นตกต่ำตามราคาเหล็ก (สินค้าหลัก) ที่ลดลง ส่วนกำไรที่ลดลงYoY เพราะมีค่าใช้จ่ายขายและบริหารสูงขึ้น ขณะที่ยอดขายค่อนข้างทรงตัว กำไรสุทธิ9M67 มีสัดส่วน 74% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณกำไรปี 2567– 2568 ไว้ที่ 695 ล้านบาท - 988 ล้านบาท ตามลำดับ รวมทั้งคงราคาเป้าหมายปี2568 ที่ 10.50 บาท (อิง PER 34.4 เท่า) แต่ปรับเพิ่มคำแนะนำ จาก เดิม “Underperform” เป็น “Neutral” เพราะเชื่อว่ากำไรน่าจะผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วใน Q3/67 และฟื้นตัวดีขึ้นใน Q4/67 ที่เป็น high season ของธุรกิจ รวมทั้งคาดหวังการเติบโตของกำไรในปี 2568 ที่สูงราว 42% เทียบกับฐานต่ำปีนี้           ฝ่ายวิจัยแนะนำ ปรับคำแนะนำจากเดิม “Underperform” เป็น “Neutral” กำไรสุทธิงวด 9M67 ที่ออกมามีสัดส่วน 74% ของคาดการณ์กำไรทั้งปี บวกกับคาดหวังการฟื้นตัวของกำไรในงวด Q4/67 ที่เป็น high season ทำให้ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปี 2567 –2568 ไว้ที่ 695 ล้านบาท (+19% YoY) และ 988 ล้านบาท (+42% YoY) รวมทั้งคงราคาเป้าหมายสำหรับปี 2568 ที่ 10.50 บาท (อิงPER ที่ 34.4 เท่า) อย่างไรก็ตามเราได้ปรับคำแนะนำสำหรับหุ้น DOHOME จากเดิม “Underperform” เป็น “Neutral” เพราะเชื่อว่าปัจจัยลบจากกำไร Q3/67 ที่อ่อนแอ ได้สะท้อนในราคาหุ้นไปมากแล้ว โดยราคาหุ้นปรับลงราว 6% ในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ขณะที่แนวโน้มใน Q4/67 ดูสดใสขึ้น และจะต่อเนื่องไปในปี 2568 ที่คาดกำไรจะฟื้นได้แรงเมื่อเทียบกับฐานต่ำในปีนี้ ฝ่ายวิจัยแนะนำ Neutral ให้ราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 10.50 บาท

ดิจิทัลหมื่นบาทมาแล้ว มีหุ้นอะไรได้ประโยชน์?

ดิจิทัลหมื่นบาทมาแล้ว มีหุ้นอะไรได้ประโยชน์?

          หุ้นวิชั่น - บล. DAOL เผยคาดใช้จ่ายกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคมากสุดหลังเริ่มแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท           วานนี้ กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง เริ่มจ่ายเงินให้กับผู้มีสิทธิรับเงิน 10,000 บาท ตามโครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ตของรัฐบาล โดยมีการเริ่มทยอยโอนเงินเข้าบัญชีพร้อมเพย์และบัญชีธนาคารที่แจ้งไว้ให้กับผู้มีสิทธิ์ และจะดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. นี้ รวม 6 วัน จำนวน 14.5 ล้านราย หรือคิดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 145,000 ล้านบาท จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชน พบว่าประชาชนส่วนใหญ่จะนำเงินไปใช้เพื่อการบริโภคและอุปโภคในชีวิตประจำวัน อาทิ ของใช้ในบ้าน, สินค้าเพื่อการศึกษา, สินค้าเพื่อการเกษตร, สินค้าไอที โทรศัพท์มือถือ DAOL: คงน้ำหนักการลงทุนกลุ่ม Commerce เป็น "มากกว่าตลาด"           โครงการแจกเงิน 10,000 บาทจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวม โดยคาดว่าจะส่งผลต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ซึ่งจะช่วยหนุนและเป็นบวกต่อหุ้นในกลุ่ม Commerce โดยตรง เรายังมองเป็นบวกต่อกลุ่ม Commerce ว่าจะเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยรวมได้ โดยจะเป็นประโยชน์ทางอ้อมต่อการบริโภคโดยรวมของกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มห้างสรรพสินค้าและซูเปอร์มาร์เก็ต ซึ่งมีสัดส่วนการจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคสูง           ฝ่ายวิเคราะห์ ชอบ CPAXT (ซื้อ/เป้า 36.00 บาท), CPALL (ซื้อ/เป้า 84.00 บาท) และ CRC (ซื้อ/เป้า 40.00 บาท) ตามลำดับ จากการคาดการณ์การใช้จ่ายจะอยู่ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคเป็นหลัก           รองมาเป็นกลุ่ม Home Improvement HMPRO (ซื้อ/เป้า 15.00 บาท), GLOBAL (ถือ/เป้า 16.00 บาท) และ DOHOME (ถือ/เป้า 11.00 บาท) จากจำนวนสาขาที่มีในพื้นที่ที่มีผู้ได้รับสิทธิ์มากที่สุด ตามลำดับ หุ้นอื่นๆ ที่ได้ประโยชน์           และยังชอบกลุ่มผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคโดยตรง คือ NEO (ซื้อ/เป้า 64.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้จากสินค้าอุปโภค 100%, OSP (ซื้อ/เป้า 28.00 บาท) มีสัดส่วนรายได้สินค้าอุปโภคที่ 9% ของรายได้รวม และ SFLEX (ซื้อ/เป้า 4.80 บาท) ได้ประโยชน์ต่อเนื่องจากยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภคที่เพิ่มขึ้น ทำให้มีการใช้ flexible packaging เพิ่มขึ้น, CBG (ซื้อ/เป้า 88.00 บาท) กลุ่มเปราะบางเป็นลูกค้าหลักของเครื่องดื่มชูกำลังแบรนด์คาราบาวแดง คาดช่วยหนุนรายได้เครื่องดื่มชูกำลังในประเทศใน 4Q24E โตต่อ YoY, QoQ

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011