ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#D


[ภาพข่าว] D เปิด “Smile Signature” สาขาสุขุมวิท

[ภาพข่าว] D เปิด “Smile Signature” สาขาสุขุมวิท

          นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D  เป็นประธานเปิดสาขาใหม่  คลินิกทันตกรรม สไมล์ซิกเนเจอร์  หรือ Smile Signature สาขาสุขุมวิท  พร้อมด้วยนายณัฐสิทธิ์ สุรพันธ์ไพโรจน์  ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบัญชีและการเงิน  และทีมบุคลากร  ซึ่งสาขาสุขุมวิท จะ รองรับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลัก  ตามแผนการตลาดในเชิงรุกของกลุ่มบริษัท  เปิดสาขาใหม่ในแหล่งท่องเที่ยว           คลินิกทันตกรรม Smile Signature สาขาสุขุมวิท ตั้งอยู่บนทำเลแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ  เป็นสาขาที่เปิดเพื่อรองรับกลุ่ม medical tourism ที่เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ 100%  มีพื้นที่ให้บริการกว่า 300 ตารางเมตร  เป็นสาขาที่มีการตกแต่งสวยงามทันสมัย มีพื้นที่ให้ลูกค้านั่งรอรับบริการ กว้างขวางและสะดวกสบาย มีห้องให้บริการทันตกรรมจำนวน 6 ห้อง สามารถรองรับลูกค้าได้วันละประมาณ 100 คน

D  เจาะลูกค้า medical tourism เปิดคลินิก “Smile Signature” ใจกลางสุขุมวิท

D เจาะลูกค้า medical tourism เปิดคลินิก “Smile Signature” ใจกลางสุขุมวิท

          "เดนทัล คอร์ปอเรชั่น" เปิดคลินิกทันตกรรม “Smile Signature”  ใจกลางสุขุมวิท  ปลายเดือนมีนาคมนี้ เจาะลูกค้าต่างชาติกลุ่ม medical tourism 100%  คาดเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปีนี้  ตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปีกว่า 30 ล้าน           นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ผู้ให้บริการทันตกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมเปิดสาขา คลินิกทันตกรรม สไมล์ซิกเนเจอร์ (Smile Signature) สาขาสุขุมวิท  ซึ่งเป็นสาขาแรกของปี 2568 ในปลายเดือนมีนาคมนี้ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลัก           โดยคาดว่าคลินิกทันตกรรม สไมล์ซิกเนเจอร์  สาขาสุขุมวิท    จะสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 2568 และได้ตั้งเป้าหมายรายได้สาขาสุขุมวิทปีละประมาณ 30 ล้าน ซึ่งเป็นไปตามแผนการดำเนินธุรกิจของกลุ่มบริษัท จากกลยุทธ์ทำการตลาดในเชิงรุก ในการเปิดสาขาใหม่ในแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งในปีนี้กลุ่มบริษัท เปิดสาขาไม่ต่ำกว่า 4 สาขา  และตั้งเป้าหมายรายได้ทั้งปี เติบโตจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 10% หรือคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท           คลินิกทันตกรรม สไมล์ซิกเนเจอร์  สาขาสุขุมวิท ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิท ในทำเลที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว และแหล่งที่พักอาศัยของชาวต่างชาติ  ซึ่งเป็นสาขาที่เปิดเพื่อรองรับกลุ่ม medical tourism ที่เป็นลูกค้าชาวต่างชาติ 100%  มีพื้นที่ให้บริการกว่า 300 ตารางเมตร มีห้องให้บริการทันตกรรมจำนวน 6 ห้อง สามารถรองรับลูกค้าได้วันละประมาณ 100 คน           “กำหนดการเปิด  flagship store คลินิค Smile Signature สุขุมวิท   ปลายเดือนมีนาคมนี้ สถานที่ตั้งอยู่ใจกลางสุขุมวิท เป็นแหล่งท่องเที่ยว และที่พักของชาวต่างชาติ กลุ่มเป้าหมายของสาขานี้เน้นลูกค้าชาวต่างชาติเป็นหลัก เป็นสาขาที่มีการตกแต่งสวยงามทันสมัย มีพื้นที่ให้ลูกค้านั่งรอรับบริการ กว้างขวางและสะดวกสบาย ในปีนี้ตามเป้าหมายน่าจะมีรายได้จากลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น 15% หรือประมาณ 70% ของรายได้จากบริการด้าน         ทันตกรรมของกลุ่ม D  เมื่อเทียบกับในปีก่อนหน้า”  นายพรศักดิ์ กล่าว [PR News]

D ปี 67 กวาดรายได้ 955 ล้านบาท ลูกค้าต่างชาติโตต่อ

D ปี 67 กวาดรายได้ 955 ล้านบาท ลูกค้าต่างชาติโตต่อ

              หุ้นวิชั่น - "เดนทัล คอร์ปอเรชั่น" ปลื้มลูกค้าต่างชาติโตต่อเนื่อง สร้างสัดส่วนรายได้กว่า 70% ปี 2568  เดินหน้าเจาะนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่ม ทุ่มงบลงทุนกว่า 30 ล้าน เปิด 4 สาขาใหม่ในแหล่งท่องเที่ยว ประเดิมเปิดสาขาสุขุมวิท มีนาคมนี้  โชว์ผลงานปี 67 ทำรายได้ 954.4 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โตไม่ต่ำกว่า 10% ขณะที่มติบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผล ในอัตรา 0.045 บาทต่อหุ้น               นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ผู้ให้บริการทันตกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจปี 2568 กลุ่มบริษัทได้วางกลยุทธ์ทำการตลาดในเชิงรุก ซึ่งได้เตรียมความพร้อมเพื่อเปิดสาขาใหม่ไม่ต่ำกว่า 4 สาขา และตั้งงบประมาณลงทุนไว้กว่า 30 ล้านบาท โดยได้เป้าหมายรายได้ทั้งปีเติบโตจากปีที่ผ่านมาไม่ต่ำกว่า 10% หรือคาดว่าไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท               โดยกลุ่มบริษัท เตรียมเปิดสาขาทั้งในส่วนของ คลินิกทันตกรรม สไมล์ซิกเนเจอร์ (smile signature) และ เดนทัล แพลนเน็ตคลินิกทันตกรรม (Dental planet) ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เพื่อเน้นลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นหลัก  ซึ่งคาดว่าในปีนี้จะมีรายได้จากลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้น 15% จากในปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทมีรายได้จากลูกค้าต่างชาติ จำนวน 403 ล้านบาท หรือประมาณ 70% ของรายได้ธุรกิจให้บริการทันต กรรม               ส่วนผลการดำเนินงานในปี 2567 บริษัท มีรายได้รวมจำนวน 954.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า จำนวน 27.1 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 3% และมีกำไรสุทธิจำนวน 50.5 ล้านบาท โดยกลุ่มบริษัทมีรายได้จากการให้บริการทางทันตกรรมจำนวน 654.3 ล้านบาท และมีรายได้จากการขาย จำนวน 300.1 ล้านบาท               ด้านโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ BIDH ที่เน้นให้บริการกลุ่มลูกค้าคนไทยที่มีรายได้สูง ผู้บริหารชาวต่างประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย (Expat) และกลุ่มนักท่องเที่ยว (Tourist) ซึ่งเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง ในปี 2567  มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติสูงถึง 72%   และสร้างรายได้รวมให้กับกลุ่มบริษัทจำนวน 154.1 ล้านบาท หรือเติบโตขึ้น 7% จากปีก่อนหน้า               “ลูกค้าต่างชาติให้ความเชื่อมั่นในมาตรฐานการบริการและการรักษาทันตกรรมของกลุ่ม D ปีนี้จึงใช้กลยุทธทางการตลาดให้ชาวต่างชาติเข้าถึงการให้บริการได้ง่ายขึ้น ได้เตรียมเปิดสาขาใหม่ในแหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก ในเดือนมีนาคมนี้ เปิดสาขาสุขุมวิทเป็นสาขาแรกของปีนี้ ส่วนลูกค้าชาวไทยยังมีการขยายฐานเพิ่ม โดยเปลี่ยน Brand Positioning ตามแนวคิด SMART-SMILES-STARS ให้มีค่าบริการที่เหมาะสม บริการทันสมัย สะดวก ครบวงจร มีประสิทธิภาพ มีภาพลักษณ์เข้าถึงง่าย เป็นมิตรกับผู้เข้ารับบริการทุกกลุ่มอายุ”   นายพรศักดิ์ กล่าว               อย่างไรก็ตามจากการประชุมคณะกรรมการของบริษัท เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2568 มีมติอนุมัติให้จ่ายปันผลจากกำไรสุทธิสำหรับผลการดำเนินงานงวดครึ่งหลังปี 2567 ในอัตรา 0.045 บาทต่อหุ้น รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 15.4 ล้านบาท ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ มีการจ่ายเงินปันผลงวด 6 เดือนแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.045 บาท รวมมูลค่า 15.4 ล้านบาท ดังนั้นในปี 2567 มีการจ่ายเงินปันผลรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30.8 ล้านบาท [PR News]

D ทำฟันปี68 พลิกโต 17% โบรกส่อง Yield สูง ให้เป้า 4 บ.

D ทำฟันปี68 พลิกโต 17% โบรกส่อง Yield สูง ให้เป้า 4 บ.

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด ระบุถึง D ว่า กำไร 4Q67E ฟื้น QoQ, YoY แต่ปรับกำไร 67E ลดลงจากเดิม 20%           ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงประมาณการรายได้ปี 67 ตามเดิมที่ 965 ล้านบาทซึ่งเติบโต 4% แต่ปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นจากเดิม 35% เหลือ 34% จากนโยบายปรับลดอัตราค่าบริการลงจากเดิม 10-20% เพื่อเข้าถึงลูกค้าคนไทยมากขึ้น และอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทางทันตกรรมที่ลดลง ขณะที่ประมาณการค่าใช้จ่ายขายและบริหารที่เพิ่มขึ้น 2.5% จากการใช้งบประชาสัมพันธ์ยาสีฟัน Elite Smile และการขึ้นค่าคอมมิชชั่นให้กับพนักงานขาย ส่งผลให้ประมาณการกำไรใหม่ปี 67 ลดลง 20% เหลือ 59 ล้านบาท ซึ่งหดตัว 18% จากปี 66 ทั้งนี้ประมาณการรายได้และกำไรงวด 4Q67E อยู่ที่ราว 252 และ 14 ล้านบาท +18% YoY, +3% QoQ และ +69% YoY, +42% QoQ ตามลำดับ คาดกำไรปี 68 พลิกเติบโต 17% YoY           ภาพรวมการดำเนินงานในปี 68 มีโอกาสพลิกเติบโตจากคาดการณ์กำไรหดตัวในปี 67 เนื่องจากการปรับเปลี่ยนแบรนด์ (Rebranding) เพื่อขยายฐานกลุ่มลูกค้าคนไทยมากขึ้น การเปิดเพิ่มสาขาคลินิกทันตกรรมราว 4 สาขาโดยเน้นเปิดใน กทม. และต่างจังหวัดที่เป็นเขตท่องเที่ยวในจังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต คงประมาณการรายได้ปี 68 ตามเดิมที่ 1,013 ล้านบาท เติบโต 5% YoY แต่เราปรับลดสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเหลือ 34.5% จากเดิม 35% ส่งผลให้ประมาณการกำไรใหม่ลดลงจากเดิม 12% เหลือ 69 ล้านบาท +17% YoY กำไรต่อหุ้น 0.20 บาทจากเดิม 0.23 บาท คงแนะนำ "ซื้อ" ปรับลดราคาเหมาะสมเหลือ 4 บาท (เดิม 5.06 บาท)           ฝ่ายวิจัยมีมุมมองบอกต่อศักยภาพในการเติบโตของผลประกอบการปี 68 ที่คาดจะพลิกเติบโตราว 17% ในการประเมินราคาเหมาะสมซึ่งอิง Prospective PER ที่ปรับลดเหลือ 20 เท่าจากเดิม 22 เท่า (สอดคล้องกับภาวะตลาด) จากประมาณการกำไรต่อหุ้นใหม่ที่ 0.20 บาท (จากเดิม 0.23 บาท) คำนวณเป็นราคาเหมาะสมใหม่ที่ 4 บาท (จากเดิม 5.06 บาท) ซึ่งยังมี upside จากราคาปิดล่าสุด พร้อมคาดการณ์ Yield ราว 3.2-3.7% จึงคงคำแนะนำ "ซื้อ"

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

D เปิดแผนปี 68 วางงบ 40 ล. ลุยขยายคลินิคทำฟันรองรับต่างชาติ

D เปิดแผนปี 68 วางงบ 40 ล. ลุยขยายคลินิคทำฟันรองรับต่างชาติ

          เดนทัล คอร์ปอเรชั่น กางแผนงานปี 2568  ตั้งงบไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท เตรียมเปิดสาขาคลินิกทันตกรรมเพิ่มกว่า 4 สาขา เน้นเขตท่องเที่ยวทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด หวังขยายฐานรายได้ลูกค้าชาวชาติเพิ่มกว่า 10%  ประเดิมสาขาแรก สาขาสุขุมวิท วางเป้าหมายผลงานปีนี้คาดโตไม่ต่ำกว่า 20%           นายพรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ผู้ให้บริการด้านทันตกรรมแบบครบวงจร เปิดเผยถึงแผนธุรกิจของบริษัทในปี 2568 โดยกลุ่มบริษัท ได้ปรับยุทธศาสตร์การตลาดในเชิงรุก เพื่อให้ผลการดำเนินงาน เป็นไปตามเป้าหมายของกลุ่มบริษัท ที่คาดว่าจะเติบโตที่ 20% และมีรายได้ไม่ต่ำ 1,000 ล้านบาท           ในปีนี้กลุ่มบริษัท ตั้งเป้าหมายเปิดสาขาเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 4 สาขา และตั้งงบประมาณในการขยายสาขาไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท ซึ่งเป็นสาขาทั้งในส่วนของ คลินิกทันตกรรม สไมล์ซิกเนเจอร์  (smile signature) และ เดนทัล แพลนเน็ต คลินิกทันตกรรม (Dental planet) โดยขยายสาขาทั้งในเขตกรุงเทพ และต่างจังหวัด  ในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวเป็นหลัก เช่น  ถนนข้าวสาร ในกรุงเทพ , พัทยา จังหวัดชลบุรี , ป่าตอง จังหวัด ภูเก็ต  เพื่อรองรับการให้บริการครอบคลุม ทั้งกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ           นายพรศักดิ์ กล่าวอีกว่า การขยายสาขาคลินิกทันตกรรมในแหล่งท่องเที่ยว เพื่อรองรับและให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าต่างชาติ  ในปีนี้กลุ่มบริษัทคาดว่าจะมีการเติบโตของรายได้จากลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% จากในปี 2567 ที่มีสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติ 60%  หรือมีรายได้ประมาณ 400 ล้านบาท ในปี 2566  มีรายได้ 380 ล้านบาท  ซึ่งสัดส่วนลูกค้าต่างชาติของกลุ่มบริษัทมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง           “สาขาที่จะเปิดในปีนี้จะเปิดในพื้นที่ท่องเที่ยวเป็นหลัก  เพื่อเน้นกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติที่เป็นนัก ท่องเที่ยว  ปัจจุบันลูกค้าหลักของกลุ่ม D  ยังเป็นลูกค้าชาวต่างชาติถึง 60% เรามองเห็นศักยภาพที่สามารถเพิ่มขึ้นได้อีก ในขณะที่กลุ่มลูกค้าคนไทยก็ยังมีโอกาสขยายเพิ่มขึ้นได้อีกเช่นกัน ปีนี้เราเริ่มเปิดให้บริการสาขาแรก สาขาสุขุมวิท ของ        แบรนด์ Smile signature ในเดือนมีนาคมนี้ อยู่ในอาคารธรรมเลิศ ชั้น 2 ใกล้ BTS อโศก”  นายพรศักดิ์ กล่าว [PR News]

[Vision Exclusive] โกลเบล็ก แจกหุ้นเด็ด mai ATP30 - D ท็อปฟอร์ม

[Vision Exclusive] โกลเบล็ก แจกหุ้นเด็ด mai ATP30 - D ท็อปฟอร์ม

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.โกลเบล็ก แนะลงทุนปีมะเส็ง พร้อมคัดหุ้นเด็ด! mai ชี้ "ATP30" ฮอต รถรับส่งพนักงานจากแหล่งชุมชนสู่โรงงานคึกคัก เล็งให้บริการลูกค้าใหม่เพียบ แถมรถหมดค่าเสื่อมหนุนมาร์จิ้นพอง 20% เคาะเป้า 1.25 บาท ส่วนอีกหนึ่งหุ้น แนะนำ "D" อิงกระแส Medical Tourism โตเด่น           นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (GBS) เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แนวโน้มการลงทุนในปี 2568 ควรแบ่งกลยุทธ์การลงทุนออกเป็นระยะสั้นและระยะยาว โดยในระยะสั้น นักลงทุนควรพิจารณาลงทุนก่อนและหลังการประกาศผลประกอบการปี 2567 เพื่อให้ได้ผลตอบแทนจากเงินปันผล ส่วนการลงทุนระยะยาวในช่วง 3-6 เดือน ควรเลือกหุ้นตามปัจจัยที่มีผลต่อการเติบโตในอนาคต           สำหรับหุ้นที่คาดว่าจะมีผลการดำเนินงานเติบโตอย่างต่อเนื่องและมีผลประกอบการที่แข็งแกร่ง ได้แก่ บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP 30 ซึ่งได้รับการจับตามองจากนักลงทุนในฐานะหุ้นที่มีศักยภาพสูง           อีกทั้ง ATP30 ยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจให้บริการรับ-ส่งพนักงานจากเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรม โดยมีฐานลูกค้าเก่าที่มั่นคงและเตรียมเพิ่มลูกค้าใหม่อย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทได้รับประโยชน์จากรถให้บริการที่หมดค่าเสื่อม ซึ่งช่วยสนับสนุนให้อัตรากำไร (มาร์จิ้น) ในปี 2568 อยู่ในทิศทางขาขึ้น           บริษัทตั้งเป้าอัตรากำไรขั้นต้น (Gross Profit Margin) ให้อยู่ที่ระดับ 20% ซึ่งในช่วง 2 ไตรมาสที่ผ่านมา ATP30 สามารถรักษาฐานและตัวเลขดังกล่าวได้ตามเป้าหมาย สะท้อนถึงการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ด้วยแนวโน้มการเติบโตที่มั่นคงและอัตรากำไรที่แข็งแกร่ง ฝ่ายวิเคราะห์ยังคงมองว่า ATP30 เป็นหุ้นที่น่าสนใจสำหรับการลงทุนในปี 2568 พร้อมแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเหมาะสมไว้ที่ 1.25 บาทต่อหุ้น           ฝ่ายวิเคราะห์คาดอีกหนึ่งหนึ่งที่น่าสนใจ และคาดจะได้รับอานิสงส์จากไฮซีซั่นท่องเที่ยว คือ บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D ซึ่งดำเนินธุรกิจให้บริการทางทันตกรรมแบบครบวงจร ยังคงได้รับแรงหนุนจากกระแส Medical Tourism ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้การท่องเที่ยวในช่วงที่ผ่านมาได้รับผลกระทบบางส่วนจากกรณี 'ซิง ซิง' นักแสดงชาวจีนหายตัวบริเวณชายแดนไทย-เมียนมา           อย่างไรก็ตาม ความต้องการด้านเวสเนสและการรักษาสุขภาพของนักท่องเที่ยวต่างชาติยังคงเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการเข้ารับบริการทันตกรรมในประเทศไทย ซึ่งเป็นที่ยอมรับในด้านคุณภาพและมาตรฐานระดับสากล           D จึงถูกมองว่าเป็นหุ้นที่น่าสนใจในกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ โดยมีแนวโน้มได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและความเชื่อมั่นที่กลับมาอย่างต่อเนื่อง รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

D ทุ่ม 30ล. ผุดสาขาทำฟันลักชัวรี

D ทุ่ม 30ล. ผุดสาขาทำฟันลักชัวรี

          หุ้นวิชั่น - D คาดแนวโน้มธุรกิจปี 68 สดใส เทรดดิ้งรับอานิสงส์งบรัฐเบิกจ่าย เล็งปีนี้ 400 ล้านบาท ด้านผู้บริหาร "พรศักดิ์ ตันตาปกุล" ควักเงิน 30 ล้าน ผุด 4 สาขาทันตกรรมใหม่ เจาะต่างชาติทำเงิน ปักหมุดโลเคชั่นลักชัวรี ดีเดย์สาขาแรก 1 มีนาคมนี้ พร้อมตั้งเป้ารายได้โต 15-20%           ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เปิดเผยกับทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า แนวโน้มธุรกิจในปี 2568 มีทิศทางสดใส โดยได้รับแรงหนุนจากการจัดสรรงบประมาณภาครัฐที่คาดว่าจะออกได้ตามกำหนดเวลา หรือในช่วงปลายปี ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการประมูลงานและการใช้จ่ายในภาครัฐให้กลับสู่ภาวะปกติ           สำหรับธุรกิจเทรดดิ้งของ D คาดว่าปี 2568 จะมียอดขายเพิ่มขึ้นแตะระดับ 400 ล้านบาท จากประมาณการปี 2567 ที่ 350 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากการประมูลงานในภาคการศึกษาด้านทันตกรรม โดยคณะทันตแพทยศาสตร์ของมหาวิทยาลัยต่างๆ คาดว่าจะเริ่มเปิดการประมูลเพิ่มขึ้น หลังจากในช่วงโควิดงบประมาณส่วนใหญ่ถูกนำไปใช้ในด้านสาธารณสุข           ทั้งนี้ ในแต่ละปี มูลค่าการประมูลงานในภาคการศึกษาทางทันตกรรมคาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านบาท โดย D มีส่วนแบ่งงานประมูลเฉลี่ยที่ 100-120 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในปี 2568           ทิศทางธุรกิจทันตกรรมในปี 2568 จะเป็นบวก โดยได้รับผลดีจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวและอัตราแลกเปลี่ยนที่อ่อนค่าลง ซึ่งทำให้ค่าใช้บริการไม่สูงมาก อีกทั้งบริษัทตั้งเป้าหมายขยายตลาดไปยังลูกค้าต่างชาติ หลังจากที่ในปีที่ผ่านมา สัดส่วนลูกค้าต่างชาติเติบโตสูงกว่าช่วงก่อนโควิด           ในปี 2568 บริษัทเตรียมเปิดสาขาทันตกรรมเพิ่มอีก 4 แห่งจากปัจจุบันที่มี 16 แห่ง โดยสาขาแรกจะตั้งอยู่ในย่านสุขุมวิท ซึ่งบริษัทได้เซ็นสัญญาพื้นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะเปิดให้บริการในวันที่ 1 มีนาคม 2568 ภายใต้แบรนด์ "สุไมล์ ซิกเนเจอร์" (Smile Signature)           สำหรับสาขาที่ 2 คาดว่าจะเปิดที่จังหวัดภูเก็ต โดยบริษัทจะใช้แบรนด์ Smile Signature จากเดิมที่มีคลินิกทันตกรรมแบรนด์ BIDC แล้ว และทำเลที่ตั้งจะอยู่ในพื้นที่หาดบางเทา ซึ่งเป็นทำเลลักชัวรีของเกาะภูเก็ต ขณะที่สาขาที่ 3 จะเปิดที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งบริษัทมีสาขาคลินิกทันตกรรม BIDC อยู่แล้วที่ถนนนิมมาน           สาขาที่ 4 บริษัทตั้งเป้าเปิดที่พัทยา โดยทั้ง 3 สาขาในต่างจังหวัดยังอยู่ระหว่างการหาทำเลที่เหมาะสม โดยบริษัทมีแผนจะเปิดสาขาใหม่ทุกไตรมาสในปี 2568 เพื่อรองรับการเติบโตของธุรกิจ ส่วนงบลงทุนในการเปิดสาขาใหม่ 4 แห่ง คาดจะใช้เงินลงทุนราว 30 ล้านบาท           ทพ.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทิศทางการเติบโตในปี 2568 จะอยู่ที่ระดับ 15-20% เมื่อเทียบกับปี 2567 โดยคาดว่า ค่าใช้จ่ายต่อบิลจะเพิ่มขึ้น 5-10% จากการปรับค่าบริการ รวมถึงการเติบโตของโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ “BIDH” ที่ตั้งอยู่ซอยสุขุมวิท 2 ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง การเติบโตนี้สะท้อนถึงการขยายตัวของธุรกิจทันตกรรมทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดย D ยังคงมุ่งมั่นที่จะเพิ่มศักยภาพการให้บริการเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าในตลาดที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

ไฮซีซั่นท่องเที่ยว D - TNP ขึ้นแท่น

ไฮซีซั่นท่องเที่ยว D - TNP ขึ้นแท่น

หุ้นวิชั่น -  นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัดหรือ GBS เปิดเผยกับ ทีมข่าวหุ้นวิชั่น ว่า ช่วงไตรมาส 4 หรือไตรมาสสุดท้ายของปีถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจท่องเที่ยว ซึ่งคาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกให้กับหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กที่เตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยเฉพาะ บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D และ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP ที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากเทศกาลท่องเที่ยวในช่วงนี้          บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) โดยกลุ่มธุรกิจของ D ให้บริการทางทันตกรรมครบวงจรผ่านโรงพยาบาลทันตกรรม ศูนย์ทันตกรรม และคลินิกทันตกรรม รวมถึงธุรกิจจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรม          ในช่วงไตรมาส 4 ที่ถือเป็นช่วงไฮซีซั่นของการท่องเที่ยว คลินิกบริการทันตกรรมของ D จะได้รับประโยชน์จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติที่มีสัดส่วนประมาณ 60% ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และอเมริกาที่เดินทางมาท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ นอกจากนี้ยังได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวในปี 2568 และการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2568           D มีแผนการทำการตลาดยาสีฟันสำหรับผู้ที่จัดฟัน เพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ และในระยะยาวภายใน 3 ปีข้างหน้า D มีแผนปรับปรุงคลินิกสาขาที่ตั้งอยู่ในเมืองท่องเที่ยว เช่น จังหวัดเชียงใหม่และภูเก็ต ให้กลายเป็นโรงพยาบาลฟันในรูปแบบเดียวกับโรงพยาบาลทันตกรรม กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH)          สำหรับผลประกอบการ D ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 720.02 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 44.31 ล้านบาท          ขณะที่ บริษัท ธนพิริยะ จำกัด (มหาชน) หรือ TNP คาดไตรมาส 4/2567 จะเติบโตต่อเนื่องจากไตรมาสก่อนหน้า และช่วงเดียวกันกับปีก่อน (Y-Y , Q-Q) จาก 3 ประเด็น คือ การเข้าสู่ High Season การได้รับอานิสงส์จากการแจกเงินสด 10,000 บาท ที่กลุ่มผู้มีสิทธิ์เพิ่มได้รับเมื่อช่วงปลายไตรมาส 3/2567 รวมทั้งรอบเก็บตก ต.ค.-ธ.ต.          และขยายสาขาใหม่อีก 2 สาขา สู่ ณ สิ้นปี 2567 ทั้งหมด 49 สาขา ทั้งนี้ฝ่ายวิเคราะห์เตรียมปรับเพิ่มประมาณการกำไรทั้งปี 2567 จากเดิมที่ 177 ล้านบาท +10% Y-Y แนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสม 5 บาท          สำหรับผลประกอบการ TNP ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวม 2,152.27 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 134.64 ล้านบาท รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

[Vision Exclusive] “D” ปักหมุดทันตกรรมต่างชาติ ชูธง Medical Tourism ดันยอด

[Vision Exclusive] “D” ปักหมุดทันตกรรมต่างชาติ ชูธง Medical Tourism ดันยอด

          หุ้นวิชั่น - รู้หรือไม่! บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เป็นบริษัทที่มุ่งเน้นธุรกิจด้านการให้บริการทันตกรรมครบวงจร ทั้งในประเทศไทยและสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ มีบทบาทสำคัญในด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) โดยรายได้จากกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยรายได้จากกกลุ่มลูกค้าต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมากหลังจากสถานการณ์ COVID-19 กลับเข้าสู่ภาวะปกติ           ปัจจุบัน บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D มีสาขาทั้งหมด 16 แห่ง โดยแบ่งเป็นศูนย์ทันตกรรมหลักอย่าง Bangkok International Dental Center (BIDC) และคลินิกทันตกรรม Smile Signature ซึ่งตั้งอยู่ในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทย เช่น สาขาสยามพารากอน สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ สาขาพระราม 2 และสาขาอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อรองรับลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมารับบริการด้านทันตกรรมและการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์           สำหรับโครงสร้าง D มีรายได้หลักมาจาก 3 ธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจบริการทันตกรรม (Dental Services ซึ่งแบ่งออกเป็นการให้บริการภายใต้แบรนด์ต่าง ๆ เช่น ศูนย์ทันตกรรมบางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล เดนทัล เซ็นเตอร์ (BIDC), คลินิกทันตกรรม BIDC และคลินิกทันตกรรม สไมล์ ซิกเนเจอร์ (Smile Signature) โดยรายได้หลักมาจากการให้บริการรักษาและทำฟันต่าง ๆ เช่น การปลูกรากฟันเทียม การจัดฟัน การฟอกสีฟัน และทันตกรรมเพื่อความสวยงาม           ธุรกิจนำเข้าและจำหน่ายวัสดุและอุปกรณ์ทันตกรรม (Dental Supplies) บริษัทลูกในเครือ อย่าง เดนทัล วิชั่น (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบการนำเข้าและจัดจำหน่ายวัสดุอุปกรณ์ทางทันตกรรมให้กับคลินิกทันตกรรมต่าง ๆ ทั้งในเครือและภายนอก และธุรกิจผลิตชิ้นงานทันตกรรม (Dental Lab) โดยบริษัท เดนทัล ออล (ประเทศไทย) จำกัด รับผิดชอบการผลิตชิ้นงานทางทันตกรรม เช่น ครอบฟัน ฟันปลอม สะพานฟัน และอื่น ๆ เพื่อจำหน่ายให้กับคลินิกต่าง ๆ​           ทีมข่าววิชั่นได้สัมภาษณ์ ทพ.พรศักดิ์ ตันตาปกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เดนทัล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ D เกี่ยวกับแนวโน้มธุรกิจในช่วง Q4/67 โดย ทพ.พรศักดิ์ ระบุว่า แนวโน้มในช่วงไตรมาสสุดท้ายนี้ยังคงเป็นไปในทิศทางที่ดี เนื่องจากเป็นช่วงไฮซีซั่น (High Season) ของการท่องเที่ยวในประเทศไทย จึงคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศจำนวนมาก ส่งผลให้มีความต้องการใช้บริการทางทันตกรรมสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ           ด้วยศักยภาพของประเทศไทยในฐานะจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism) ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ ทำให้ศูนย์ทันตกรรมและคลินิกในเครือของ D มีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ซึ่งบริษัทคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดรายได้และผลกำไรได้อย่างต่อเนื่อง           นอกจากนี้ บริษัทยังได้เตรียมความพร้อมในการรองรับนักท่องเที่ยวและผู้ใช้บริการ ด้วยการเพิ่มจำนวนทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและการขยายบริการทันตกรรมต่าง ๆ ให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้เข้ามารับบริการ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการเติบโตของธุรกิจในช่วงโค้งสุดท้ายของปีนี้           ปัจจุบัน D มีสัดส่วนรายได้มาจากกลุ่มลูกค้าต่างชาติคิดเป็น 60% และกลุ่มลูกค้าชาวไทย 40% ของรายได้รวมทั้งหมด โดยสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติเริ่มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อการเดินทางและการท่องเที่ยวทั่วโลก           อย่างไรก็ตาม สัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติในปัจจุบันยังไม่สามารถกลับไปสู่ระดับสูงสุดในช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19 ได้ เนื่องจากในช่วงเวลานั้น สัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างชาติเคยสูงถึง 70-80% ของรายได้ทั้งหมด ขณะที่ปัจจุบันยังมีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาใช้บริการน้อยกว่าช่วงก่อนโควิดอยู่บ้าง           เมื่อพิจารณาถึงปริมาณลูกค้าในประเทศ แม้ว่าจะมีจำนวนมากกว่าลูกค้าต่างชาติ แต่รายได้เฉลี่ยต่อหัว (Spending per Head) ของลูกค้าคนไทยยังคงต่ำกว่าลูกค้าต่างชาติอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ทำให้สัดส่วนรายได้ของบริษัทมาจากลูกค้าต่างชาติในระดับสูงแม้จะมีจำนวนลูกค้าน้อยกว่า           ทพ.พรศักดิ์ กล่าวต่อว่า บริษัทคงเดินหน้าขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง โดยนอกจากสาขาที่มีอยู่แล้ว บริษัทยังมองหาพื้นที่ที่มีศักยภาพเพิ่มเติม โดยเฉพาะย่านสุขุมวิท ซึ่งถือเป็นแหล่งที่มีกลุ่มลูกค้าต่างชาติใช้บริการจำนวนมาก คาดว่าแผนการเปิดสาขาใหม่จะเริ่มได้ในช่วงปลายปี 2567 หรือไม่ก็ช่วงต้นปี 2568 เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มนักท่องเที่ยวเชิงการแพทย์ (Medical Tourism)           ในขณะเดียวกัน โรงพยาบาลทันตกรรมกรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล (BIDH) ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจสำคัญของบริษัท มีศักยภาพในการให้บริการและสร้างรายได้เพิ่มขึ้น โดยหากเดินหน้าเต็มกำลัง คาดรายได้จากโรงพยาบาล BIDH จะทำได้สูงถึง 400 ล้านบาท จากที่ผ่านมาโรงพยาบาล BIDH มีรายได้อยู่ที่ 200 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งคาดว่าการให้บริการของ BIDH จะสามารถสร้างรายได้ได้เต็มที่ เนื่องจากโรงพยาบาลเพิ่งเริ่มดำเนินธุรกิจได้เพียง 3-4 ปีเท่านั้น           สำหรับภาพรวมผลประกอบการในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ในปี 2564 บริษัทมีรายได้รวม 534.39 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 24.23 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2565 รายได้เพิ่มขึ้นเป็น 829.34 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 57.50 ล้านบาท ส่วนในปี 2566 รายได้เติบโตเป็น 944.93 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 71.25 ล้านบาท ขณะที่ผลประกอบการในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 บริษัทสามารถทำรายได้รวม 472.23 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 34.14 ล้านบาท           นอกจากนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าตามแผนการเติบโต โดยตั้งเป้ารายได้ในปี 2567 ที่มากกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะเป็นไปตามแผนที่วางไว้ จากการเติบโตของสาขาและการขยายฐานลูกค้าใหม่ที่มีศักยภาพในอนาคต รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456