ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#BTS


BTS บวกรับ ครม.ผ่านร่าง ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ’ หนุนอัพไซด์

BTS บวกรับ ครม.ผ่านร่าง ‘เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯ’ หนุนอัพไซด์

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.กรุงศรี ระบุ ราคาหุ้น BTS ปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้า คาดมีปัจจัยหนุน ได้แก่ 1. คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างพรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ และจะส่งให้สภาฯ พิจารณาต่อไป 2. คาดมีความคืบหน้าในการชำระหนี้ของกรุงเทพมหานคร (BMA) ที่มีมูลค่า 12,000 ล้านบาท และอาจมีเพิ่มเติมในอนาคต           ยืนยันคำแนะนำ "ซื้อ" หุ้น BTS ด้วยราคาพื้นฐานที่ 6.49 บาท การปรับตัวลงของราคาหุ้นในช่วงเดือนที่ผ่านมาไม่ได้ทำให้พื้นฐานเปลี่ยนแปลง ถือเป็นโอกาสในการซื้อ โดยราคาเป้าหมายดังกล่าวยังไม่ได้รวมผลประโยชน์ที่อาจเกิดจาก “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

BTS คาด กทม. ชำระคืน 2.9 หมื่นล. RABBIT แกร่ง โบรกขยับเป้า 6.30 บาท

BTS คาด กทม. ชำระคืน 2.9 หมื่นล. RABBIT แกร่ง โบรกขยับเป้า 6.30 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.เคจีไอ ระบุว่า BTS จัดประชุมเมื่อวานนี้เพื่อชี้แจงผลการดำเนินงานของบริษัท และแนวโน้มของธุรกิจ โดยมีประเด็นสำคัญที่น่าสนใจดังนี้ หนี้ค้างรับที่เกี่ยวข้องกับ กทม. หลังจากที่ศาลตัดสินให้ BTS ชนะ 2 คดีเกี่ยวกับหนี้ค้างรับของ กทม. และ กรุงเทพธนาคม ซึ่งมีมูลหนี้ 2.3 หมื่นล้านบาท (งาน E&M) และ 1.175 หมื่นล้านบาท (งาน O&M) จากการจ้างให้ BTS เดินรถไฟฟ้า และซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายทั้งสองส่วน ทั้งนี้ บริษัทได้รับชำระเงิน 2.3 หมื่นล้านบาทเรียบร้อยแล้วในเดือนมีนาคม 2567 โดยในปัจจุบัน ยังมีหนี้ค้างชำระจากคดีที่ค้างอยู่อีกประมาณ 2.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งคาดว่า กทม. จะชำระภายในปีนี้ ซึ่งจะทำให้ BTS มีสภาพคล่องเพิ่มขึ้นเพื่อนำไปใช้ลดหนี้และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยลงอีก           แผนกำหนดเพดานค่าตั๋วที่ 20 บาท/เที่ยว นโยบายรัฐบาลมีกำหนดการเริ่มใช้เพดานราคาตั๋วโดยสารรถไฟฟ้าทุกสายในกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ 20 บาท/เที่ยวภายในเดือนกันยายน 2568 ซึ่งผู้บริหารแจ้งว่าการเจรจารอบล่าสุดกับกระทรวงการคลังยังไม่ได้ข้อสรุป อย่างไรก็ตาม บริษัทคาดว่ารัฐบาลจะให้การอุดหนุนในช่วงแรก หลังจากนั้น รัฐบาลอาจจะซื้อคืนรถไฟฟ้าทุกสายและจ้างบริษัทที่ดำเนินการอยู่ในปัจจุบันให้ดำเนินการต่อไป           อย่างไรก็ตาม เราเป็นห่วงว่าแผนการจัดตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน 3 แสนล้านบาท เพื่อให้นโยบายนี้เกิดขึ้นได้อาจจะไม่เพียงพอในระยะยาว ถ้าหากจำนวนผู้โดยสารมาใช้บริการรถไฟฟ้าสูงกว่าที่คาด Rabbit Holdings (RABBIT) จะแข็งแกร่งขึ้น ก่อนหน้านี้ RABBIT ตั้งเป้าจะเพิ่มสัดส่วนรายได้จากบริการทางการเงินเป็น >50% ในอีกสามปีข้างหน้า จากในอดีตที่ประมาณ 30% ของรายได้รวม (โดยอีก 70% มาจากอสังหาริมทรัพย์) ทั้งนี้ ผู้บริหารจะขายสินทรัพย์ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์บางส่วนออกไปในปีนี้ ซึ่งจะให้ผลตอบแทนที่เป็นบวกกับบริษัท และจะทำให้ผลการดำเนินงานของบริษัทมีกำไร           ขยับไปใช้ราคาเป้าหมายปี FY68/69 (เมษายน 2568-มีนาคม 2569) เมื่อพิจารณาพัฒนาการด้านบวกในประเด็นหนี้ค้างจ่ายของ กทม. แล้ว เราปรับมูลค่าเหมาะสมโดยอิงการได้รับชำระหนี้จาก กทม. โดยปรับไปใช้ราคาเป้าหมาย SOTP ใหม่สำหรับปี FY68/69 ที่ 6.30 บาท           เรายังคงคำแนะนำถือ BTS โดยขยับไปใช้ราคาเป้าหมาย SOTP ปี 2569 (เมษายน 2568-มีนาคม 2569) ที่ 6.30 บาท (จากเดิมราคาเป้าหมายปี 2568 ที่ 5.60 บาท)

มุมมองโบรก BEM – BTS  นั่งฟรี 7วัน วิกฤติ PM2.5

มุมมองโบรก BEM – BTS นั่งฟรี 7วัน วิกฤติ PM2.5

หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี ยังคงมีมุมมองว่า BEM และ BTS จะได้รับประโยชน์เพียงเล็กน้อยจากโครงการนั่งฟรี 7 วัน (25-31 มกราคม 2025) ซึ่งจัดโดยกระทรวงคมนาคมทางบกเพื่อแก้ปัญหาวิกฤติฝุ่นในกรุงเทพฯ BTS วางแผนขอเพิ่มสวัสดิการสนับสนุน • BTS จะขอรับเงินสนับสนุนไม่น้อยกว่า 200 ล้านบาทสำหรับการให้บริการ 4 สาย ได้แก่ Green, Yellow, Pink และ Gold ระหว่างโครงการนั่งฟรี 7 วัน โดยการขอเงินสนับสนุนดังกล่าวคำนวณจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นในช่วงโครงการ เพื่อรองรับต้นทุนการดำเนินงานเพิ่มเติม ประโยชน์ที่จำกัดสำหรับ BEM และ BTS • ผลกระทบ: งบประมาณ 140 ล้านบาทสำหรับโครงการนี้ (สำหรับระบบรางและรถโดยสาร) ถูกกำหนดโดยกระทรวงคมนาคมทางบก หากสมมติว่างบประมาณนี้ใช้สำหรับระบบรางเท่านั้น จะมีเงินสนับสนุนวันละประมาณ 20 ล้านบาทสำหรับผู้ให้บริการ 2 ราย (BTS และ BEM) o BEM มีรายได้จากสายสีน้ำเงินประมาณ 12 ล้านบาทต่อวันในช่วงปกติ o BTS มีรายได้จากสายสีเขียวประมาณ 21 ล้านบาทต่อวันในช่วงปกติ o การสนับสนุนที่ประกาศไว้เพียงพอสำหรับการดำเนินการในช่วงปกติเท่านั้น • BTS ได้ขอเพิ่มการสนับสนุนเป็น 200 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 25 ล้านบาท/วันสำหรับสายสีเขียว โดยคาดว่าจำนวนผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น 19% เป็น 800,000 เที่ยว/วันในช่วงโครงการ o สายสีชมพูขอเงินสนับสนุน 13 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น 45% เป็น 60,000 เที่ยว/วัน o สายสีเหลืองขอเงินสนับสนุน 10 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น 38% เป็น 47,000 เที่ยว/วัน • ความแตกต่างระหว่างเงินสนับสนุนที่ประกาศไว้และที่ขอขึ้นอยู่กับการเจรจา แต่เรามองว่าคำขอดังกล่าวมีความเหมาะสมเนื่องจากผู้ให้บริการต้องรับภาระต้นทุนเพิ่มเติม ผลกระทบต่อรายได้ • BTS คาดว่าจะมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียง 35 ล้านบาทในช่วงโครงการ ซึ่งคิดเป็นเพียง 0.4% ของรายได้ที่เราคาดการณ์สำหรับ FY25F ของสายสีเขียว • สำหรับ BEM คาดว่าผู้โดยสารจะเพิ่มขึ้น 20% เป็น 504,000 เที่ยว/วัน ซึ่งจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นเพียง 14 ล้านบาท หรือ 0.2% ของรายได้ FY24F คำแนะนำและการดำเนินการ • แม้โครงการจะให้ประโยชน์ที่จำกัด เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ทั้ง BEM และ BTS แต่ชอบ BTS มากกว่าเนื่องจากมูลค่าหุ้นที่ยังต่ำ และปัจจัยกดดันหลายประการได้รับการคลี่คลาย เช่น ภาระผูกพันด้าน O&M ที่ต้องชำระโดย KT/BMA และการขาดทุนจากสายสีชมพูและสีเหลือง ราคาเป้าหมาย:           • BEM: 10.4 บาท           • BTS: 6.49 บาท

BTS ออกหุ้นกู้ 2 ชุด  ดอกเบี้ย 2 ปี 4.30% - 5 ปี 4.80%

BTS ออกหุ้นกู้ 2 ชุด ดอกเบี้ย 2 ปี 4.30% - 5 ปี 4.80%

          หุ้นวิชั่น - กรุงเทพฯ 7 มกราคม 2568  – บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ (BTS) ประกาศความพร้อมในการเสนอขายหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 6 เดือนตลอดอายุหุ้นกู้ เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ระหว่างวันที่ 9-10 และ 13 มกราคม 2568 ผ่าน 10 สถาบันการเงินชั้นนำที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย โดยหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “ระดับลงทุน” (Investment Grade) ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) สะท้อนความแข็งแกร่งทั้งสถานะธุรกิจที่มีความหลากหลาย และฐานะการเงินที่มั่นคง           นางสาวชวดี รุ่งเรือง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “บีทีเอส กรุ๊ปฯ” กล่าวว่า หุ้นกู้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการผลตอบแทนคงที่ และสม่ำเสมอ ในช่วงเวลาที่อัตราดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง  และต้องการลงทุนในบริษัทที่มั่นคง ซึ่งบริษัทฯ ได้รับอันดับความน่าเชื่อถืออยู่ในระดับ “Investment Grade” โดยได้รับการจัดอันดับเครดิตที่ระดับ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 ซึ่งสะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจและการเงินที่แข็งแกร่ง           นอกจากนี้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ประสบความสำเร็จในการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนจำนวน 13.2 พันล้านบาทในเดือนตุลาคม 2567 ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้ถือหุ้น อีกทั้ง บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จํากัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ได้รับเงินชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) จากกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา รวมมูลค่า 14.5  พันล้านบาท สามารถเสริมสภาพคล่องและลดภาระหนี้สินของบริษัทฯ อย่างมีนัยสำคัญ สะท้อนให้เห็นถึงความพร้อมของสถานะการเงินของบริษัทฯ และโอกาสในการเติบโตของธุรกิจในอนาคต โดยบริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ในครั้งนี้ ไปชำระคืนหนี้เดิม           ทั้งนี้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ เป็นกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงข้อมูลเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนและสื่อโฆษณา รวมทั้งการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ ผ่านการดำเนินธุรกิจใน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ 1) แพลตฟอร์ม MOVE ผู้ให้บริการการเดินทางด้วยรูปแบบการคมนาคมขนส่งที่หลากหลายอย่างไร้รอยต่อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต 2) แพลตฟอร์ม MIX ผู้ให้บริการทางการตลาดในรูปแบบ Offline-to-Online โซลูชันส์ที่ครบวงจร รวมถึงการใช้ประโยชน์สูงสุดจากฐานข้อมูลแก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ 3) แพลตฟอร์ม MATCH สร้างโอกาสและความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการแบ่งปันแพลตฟอร์ม MOVE และ MIX ให้แก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ           สำหรับสถาบันการเงินชั้นนำที่ได้รับแต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)           ขณะเดียวกันสถาบันการเงินในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า หุ้นกู้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากผู้ลงทุน โดยสถาบันการเงินทั้ง 10 แห่งได้เตรียมความพร้อมทั้งช่องทางการจำหน่าย การให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับผู้ลงทุน โดยปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนสนใจมาจากองค์ประกอบโดยรวม ทั้งอัตราผลตอบแทน อันดับความน่าเชื่อถือ และพื้นฐานของบริษัทฯ ที่มีความมั่นคงและมีศักยภาพในการเติบโต รวมทั้งมีความแข็งแกร่งด้านการเงิน ซึ่งนอกจากความสำเร็จจากการเพิ่มทุนแล้ว บริษัทฯ ได้รับชำระเงินต้นพร้อมดอกเบี้ยค้างชำระจาก กทม. และบริษัท กรุงเทพธนาคม จำกัด (เคที) สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M)  ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างฐานทุนของบริษัทฯ ให้แข็งแกร่ง นอกจากนั้น บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระหนี้เดิม ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถลดภาระหนี้สิน และทำให้โครงสร้างเงินทุนของบริษัทแข็งแกร่งยิ่งขึ้น สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้บีทีเอส กรุ๊ปฯ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท  และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยสามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้งรุ่นอายุ 2 ปี และอายุ 5 ปี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Bangkok Bank Mobile Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 869 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย (ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ SCB EASY สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย (ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้เฉพาะรุ่นอายุ 2 ปี ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ CIMB Thai สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Dime! สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร) บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050 บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-009-8351-56 บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004 บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร 02-658-8888

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

BTS เงินสดคล่อง หลัง BMA จ่ายหนี้

BTS เงินสดคล่อง หลัง BMA จ่ายหนี้

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.กรุงศรี คาดการจ่ายเงินจาก BMA จะช่วยเพิ่มกระแสเงินสด บทวิเคราะห์ยืนยันคำแนะนำ "ซื้อ" สำหรับหุ้น BTS และปรับราคาเป้าหมายตามวิธี SOTP ขึ้นเป็น 6.49 บาท (จาก 5.59 บาท) หลังรวมการชำระหนี้ด้วยเงินสด 14.5 พันล้านบาทที่ BTS คาดว่าจะได้รับจาก BMA ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าหนี้คงค้างจะลดลงเหลือ 150 พันล้านบาทจาก 165 พันล้านบาทหลังการชำระหนี้ 14.5 พันล้านบาท และอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะลดลงจาก 3.69 เท่า เหลือ 3.34 เท่า ในกรณีที่ดีที่สุด หาก BMA ชำระหนี้เพิ่มอีก 30 พันล้านบาท อัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุนจะลดลงเหลือ 2.7 เท่า BMA อาจชำระเงิน 14.5 พันล้านบาท สำหรับหนี้ O&M ให้ BTS ในสัปดาห์นี้ • ตามรายงานในหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น BMA มีแนวโน้มที่จะชำระเงิน 14.5 พันล้านบาท (รวมดอกเบี้ย) ให้กับ BTS สำหรับบริการ O&M ในอดีตในสัปดาห์นี้ หลังการประกาศงบประมาณเพิ่มเติมในราชกิจจานุเบกษาเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ BMA อาจพิจารณาชำระหนี้ที่เหลืออีกประมาณ 30 พันล้านบาทสำหรับบริการ O&M • ข่าวนี้สอดคล้องกับความคิดเห็นของเราที่มีต่อ BTS เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สิ่งที่น่าประหลาดใจคือ BMA อาจชำระหนี้ที่เหลืออยู่ แม้ว่าบริษัท KT จะยื่นอุทธรณ์คำสั่งศาล โดยอ้างว่า NACC ระบุว่าสัญญา O&M ไม่สามารถบังคับใช้ได้ • ผลกระทบต่อกำไรขาดทุนน้อย: BTS วางแผนที่จะใช้เงินที่ได้รับเพื่อลดหนี้ (ประมาณ 167 พันล้านบาท) ซึ่งจะลดค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม BTS ได้บันทึกรายได้ดอกเบี้ยจากหนี้ O&M ไว้แล้ว ดังนั้น ค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่ลดลงจะชดเชยรายได้ดอกเบี้ยที่ลดลงในอนาคต • การชำระหนี้ดังกล่าวจะช่วยเพิ่มราคาเป้าหมายของเรา เนื่องจาก BTS ต้องกู้ยืมเงินเพื่อดำเนินงาน O&M ในโมเดลของเรา เราได้รวมรายได้ที่ยังไม่ได้รับ 31 พันล้านบาทจาก BMA เท่านั้น ขณะที่หนี้ที่ BMA มีต่อ BTS สำหรับบริการ O&M อยู่ที่ประมาณ 45.5 พันล้านบาท ดังนั้น เราจึงเพิ่มเงินอีก 14.5 พันล้านบาทในโมเดลของเรา ยืนยันคำแนะนำ "ซื้อ" พร้อมปรับราคาเป้าหมายตาม SOTP ขึ้นเป็น 6.49 บาท (จาก 5.59 บาท) • ปรับราคาเป้าหมายขึ้นเป็น 6.49 บาท (จาก 5.59 บาท) หลังรวมเงินสด 14.5 พันล้านบาทจาก BMA และสมมติว่า BTS จะใช้เงินดังกล่าวทั้งหมดเพื่อลดหนี้

KSS คาด SET “ช่วงปลายความผันผวน” ต้าน 1415 จุด ชู KTB, SCB, BTS

KSS คาด SET “ช่วงปลายความผันผวน” ต้าน 1415 จุด ชู KTB, SCB, BTS

           หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาด SET วันนี้ “ช่วงปลายความผันผวน” ต้าน 1411/1415 จุด รับ 1380/1363 จุด ดัชนีS&P500 ดิ่ง -2.95% ตอบ รับผลประชุม Fed ที่แม้ปรับลดดอกเบี้ย -25 bps ตามคาด แต่ประเด็นที่ตลาดให้น ้าหนัก คือ Dot Plot ปี2025F ที่คาดปรับลดดอกเบี้ยเหลือ 2 ครั้ง (vs ตลาดคาด 2-3 ครั้ง, เดิม 4 ครั้ง) โดยรวมผลกระทบนโยบาย Trump 2.0 ขณะที่ปรับเพิ่ม GDP ปี2025F สู่ 2.1% (เดิม 2.0%) vs prev. 2.5% หลังประชุม US Bond Yield 10 ปี+12 bps มาที่ 4.51% Dollar Index แข็งค่าสู่ 107.9 จุด ประเมินระยะสั้นท าให้เกิดภาพปรับสถานะ สินทรัพย์เสี่ยงโลกอีกรอบ แต่ประเมินความผันผวนจะอยู่ในช่วงปลาย โดยไทยกดดันจากเงินบาทอ่อนค่าสู่ 34.5 +/- บาท อย่างไรก็ตาม ภาพ หลักปี2025F ที่ Fed ยังมองวงจรดอกเบี้ยเป็นขาลง เศรษฐกิจสหรัฐ Soft Landing vs BOT ที่ยังคงคาดการณ์ GDP ปี2025F เร่งขึ้น โดย มีภายในหนุน เราประเมินความผันผวนระยะสั้นเป็นโอกาสทยอยตั้งรับ หุ้นเด่น คือ กลุ่ม Domestic ที่เกาะไปกับกระแส Yield เร่งขึ้น+เศรษฐกิจ ภายในเด่น อาทิธนาคาร ประกัน ผสาน หุ้น Defensive อาทิสื่อสาร ค้าปลีก (สินค้าจ าเป็น) ร.พ. กลุ่มที่ได้จิตวิทยาบวกเงินบาทอ่อนค่าหนุน วันนี้แนะน ำ KTB, SCB, BTS

BTS เตรียมออกหุ้นกู้ คาดเสนอขายกลางม.ค 68

BTS เตรียมออกหุ้นกู้ คาดเสนอขายกลางม.ค 68

          หุ้นวิชั่น - BTS เตรียมออกหุ้นกู้ 2 ชุด อายุ 2 ปี ดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี และอายุ 5 ปี ดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี เสนอขายแก่ผู้ลงทุนทั่วไป เผยอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ “ระดับลงทุน” (Investment Grade) ที่ “BBB+” พร้อมแต่งตั้ง 10 สถาบันการเงินชั้นนำเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่าย คาดเสนอขายกลางเดือนมกราคม 2568           กรุงเทพฯ 13 ธันวาคม  2567  – บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส กรุ๊ปฯ (BTS) เตรียมออกหุ้นกู้ครั้งที่ 1/2568 เป็นหุ้นกู้ชนิดระบุชื่อผู้ถือ ประเภทไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีประกัน และมีผู้แทนผู้ถือหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี เสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 9 - 10 และ 13 มกราคม 2568 โดยทั้งองค์กรและหุ้นกู้ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจากทริสเรทติ้งในกลุ่มระดับลงทุน (Investment Grade) ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) สะท้อนความแข็งแกร่งของบริษัทฯ ที่มีธุรกิจหลากหลาย มีศักยภาพในการขยายธุรกิจ ภายใต้กลยุทธ์ 3M : MOVE, MIX และ MATCH           นางสาวชวดี รุ่งเรือง ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ “บีทีเอส กรุ๊ปฯ” เปิดเผยว่า บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) เพื่อออกและเสนอขายหุ้นกู้ จำนวน 2 ชุด ให้แก่ผู้ลงทุนทั่วไป ประกอบด้วย หุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 2 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.30% ต่อปี และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.80% ต่อปี จ่ายดอกเบี้ยทุก 6 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ โดยคาดว่าจะเสนอขายระหว่างวันที่ 9-10 และ 13 มกราคม 2568 ผ่านสถาบันการเงินชั้นนำ 10 แห่ง ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ประกอบด้วย ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด และบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน)           สำหรับหุ้นกู้ดังกล่าว ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือในกลุ่มระดับลงทุน (Investment Grade) ที่ “BBB+” แนวโน้ม “คงที่” (Stable) จากบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2567 สะท้อนถึงสถานะทางธุรกิจและการเงินที่แข็งแกร่งจากการมีรายได้ค่าบริการที่สม่ำเสมอจากการให้บริการเดินรถไฟฟ้าและซ่อมบำรุง (Operation and Maintenance-O&M) ตามสัญญา ตลอดจนกระแสเงินสดรับจำนวนมากจากการลงทุนในสัดส่วน 33.33% ในกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานระบบขนส่งมวลชนทางรางบีทีเอสโกรท (BTSGIF) และการมีสถานะที่มั่นคงในธุรกิจโฆษณา           บีทีเอส กรุ๊ปฯ เป็นกลุ่มบริษัทที่ประกอบธุรกิจในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยมุ่งเน้นการใช้ประโยชน์จากการเข้าถึงข้อมูลเครือข่ายระบบขนส่งมวลชนและสื่อโฆษณา รวมทั้งการร่วมเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับบริษัทต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ ผ่านการดำเนินธุรกิจใน 3 แพลตฟอร์ม ได้แก่ 1) แพลตฟอร์ม MOVE ผู้ให้บริการการเดินทางด้วยรูปแบบการคมนาคมขนส่งที่หลากหลายอย่างไร้รอยต่อ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต 2) แพลตฟอร์ม MIX ผู้ให้บริการทางการตลาดในรูปแบบ Offline-to-Online โซลูชันส์ที่ครบวงจร รวมถึงการใช้ประโยชน์สูงสุดจากฐานข้อมูลแก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ 3) แพลตฟอร์ม MATCH สร้างโอกาสและความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ๆ ผ่านการแบ่งปันแพลตฟอร์ม MOVE และ MIX ให้แก่กลุ่มบริษัทและพันธมิตรทางธุรกิจ           ล่าสุด บีทีเอส กรุ๊ปฯ ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งใหญ่ โดยเมื่อช่วงปลายเดือนตุลาคม 2567 บริษัทฯ สามารถระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุน (Right Offering: RO) จำนวน 13.2 พันล้านบาท ได้สำเร็จ และได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเกินจำนวนที่เสนอขาย (oversubscribed) แสดงถึงความเชื่อมั่นและการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากนักลงทุน ทั้งนี้ ได้มีการจัดสรรเงินที่ระดมทุนได้จำนวน 13.2 พันล้านบาท ในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน RABBIT และ ROCTEC ผ่านการทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์โดยสมัครใจ (Voluntary Tender Offer: VTO) จำนวน 7.1 พันล้านบาท  ทำให้ทั้งสองบริษัทดังกล่าว กลายเป็นบริษัทย่อยของ บีทีเอส กรุ๊ปฯ โดยมีผลตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2567 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับโครงสร้างการถือหุ้นในครั้งนี้จะเป็นการสนับสนุนและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้บริษัท และคาดว่าจะนํามาซึ่งโอกาสทางธุรกิจของบีทีเอส กรุ๊ป และบริษัทย่อยในอนาคต           ในส่วนของฐานะทางการเงิน บีทีเอส กรุ๊ปฯ มีเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงานในระดับที่แข็งแกร่งขึ้น บริษัทฯ รายงานกระแสเงินสดสุทธิจากกิจกรรมการดำเนินงาน จำนวน 22.8 พันล้านบาท (ข้อมูลสําหรับงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2567) หลักๆ จากการได้รับชำระหนี้ E&M จาก กทม. รวมถึงยังได้รับเงินสนับสนุนงวดที่ 2 สำหรับการดำเนินงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังคาดว่าจะได้รับชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุง (O&M) ของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายที่ 1 และ 2 (คดีฟ้องร้องครั้งที่ 1) จาก กทม.และบริษัท กรุงเทพธนาคม จํากัด (เคที)  จำนวนประมาณ 14.5 พันล้านบาท ภายใน 180 วัน นับจากวันที่ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษา ซึ่งจะครบกำหนดภายในวันที่ 22 มกราคม 2568 การชำระหนี้ดังกล่าว พร้อมกับเงินที่เหลือจากการเพิ่มทุน (RO) จะช่วยเสริมฐานะทางการเงินของบริษัทฯ รวมถึงอัตราส่วนโครงสร้างทางการเงิน (Leverage ratio) จะปรับตัวดีขึ้นต่อไป           “เรามั่นใจว่า หุ้นกู้ บีทีเอส กรุ๊ปฯ จะได้รับการตอบรับอย่างดีอีกครั้งจากผู้ลงทุน ด้วยอายุของหุ้นกู้ทั้งรุ่นอายุ 2 ปีและอายุ 5 ปี ซึ่งเป็นระยะเวลาที่ได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนทั่วไป พร้อมทั้งอัตราผลตอบแทนที่น่าสนใจในช่วงอัตราดอกเบี้ยขาลง ภายใต้อันดับความน่าเชื่อถือในกลุ่มระดับลงทุน (Investment grade) บริษัทฯ มีเป้าหมายที่จะนำเงินจากการออกหุ้นกู้ครั้งนี้ไปชำระคืนหนี้เดิมของบริษัทฯ เพื่อปรับโครงสร้างทางการเงินให้แข็งแกร่งขึ้น นอกจากนี้ หลังจากบริษัทฯ ได้รับชำระหนี้เพิ่มเติมจาก กทม. จะยิ่งเป็นการสนับสนุนความแข็งแกร่งของฐานะทางการเงินของบริษัทฯ เพิ่มขึ้นอีก สอดคล้องกับแนวทางการปรับลดระดับหนี้ของบริษัทฯ” ผู้อำนวยการใหญ่สายการเงิน บีทีเอส กรุ๊ปฯ กล่าว           ทั้งนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งยังไม่มีผลใช้บังคับ สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจจองซื้อหุ้นกู้บีทีเอส กรุ๊ปฯ สามารถจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท  และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท และศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.sec.or.th หรือติดต่อผ่านผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ดังต่อไปนี้ ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ทั้งรุ่นอายุ 2 ปี และอายุ 5 ปี ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (ยกเว้นสาขาไมโคร) โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Bangkok Bank Mobile Banking สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 0-2111-1111 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Krungthai NEXT สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน)* โทร. 02-888-8888 กด 869 หรือจองซื้อผ่านเว็บไซต์ K-My Invest (www.kasikornbank.com/kmyinvest) สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย (ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารกสิกรไทย) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) โทร. 02-777-6784 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ SCB EASY สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสัญชาติไทย (ซึ่งรวมถึงบริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด ในฐานะหน่วยงานขายของธนาคารไทยพาณิชย์) ผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้เฉพาะรุ่นอายุ 2 ปี ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02-626-7777 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ CIMB Thai สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน)*** โทร. 02-165-5555 หรือจองซื้อผ่านแอปฯ Dime! สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดา (ซึ่งรวมถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะหน่วยงานขายของบริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทร) บริษัทหลักทรัพย์เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร. 02-658-5050 บริษัทหลักทรัพย์หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 02-0098351-56 บริษัทหลักทรัพย์เอเซีย พลัส จำกัด โทร. 02-680-4004 บริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร 02-658-8888 [PR News]

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

BTS แจ้งตั้งบ.ย่อยใหม่”สมาร์ท คลีนนิ่ง โซลูชั่น” ลุยธุรกิจบริการทำความสะอาด

BTS แจ้งตั้งบ.ย่อยใหม่”สมาร์ท คลีนนิ่ง โซลูชั่น” ลุยธุรกิจบริการทำความสะอาด

          บริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอแจ้งให้ทราบว่าในวันที่ 9 ธันวาคม 2567 บริษัทฯ ได้จดตั้งบริษัทย่อยใหม่จำนวน 1 บริษัท โดยมีรายละเอียดดังนี้ ชื่อบริษัท: บริษัท สมาร์ท คลีนนิ่ง โซลูชั่น จำกัด (Smart Cleaning Solution Company Limited) ประเภทธุรกิจ: ประกอบกิจการเกี่ยวกับการให้บริการทำความสะอาด ทุนเริ่มต้นและหุ้น: ทุนจดทะเบียน 60,000,000 บาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 600,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 100 บาท โครงสร้างการถือหุ้น: บริษัทฯ ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 65 ผู้ถือหุ้นอื่นถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 35 แหล่งที่มาของเงินลงทุน: เงินทุนหมุนเวียนของบริษัทฯ

ร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เมนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ หนุนจิตวิทยาบวก หุ้นบริการ AOT, BTS, BJC

ร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เมนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ หนุนจิตวิทยาบวก หุ้นบริการ AOT, BTS, BJC

          หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า รมช. คลัง คาดว่าใช้เวลา 1 เดือน ก่อนรอเสนอ ครม. พิจารณา ร่าง พ.ร.บ. เอ็นเตอร์เมนเม้นท์ คอมเพล็กซ์ หลังผ่านขั้นตอน Public Hearing ที่มีประชาชนเห็นด้วย 82% แล้ว มองจิตวิทยาบวกหุ้นที่เกี่ยวข้อง กลุ่มทุนใหญ่ที่มีกระแสข่าวสนใจลงทุนและหุ้นภาคบริการ AOT, BTS, VGI, BJC, STEC, ERW, BA, MBK ที่มา : บล.กรุงศรี

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011