ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#BC


BC ลั่นแผ่นดินไหวไม่กระทบ ดีมานด์เข้าพัก Low Rise คึก

BC ลั่นแผ่นดินไหวไม่กระทบ ดีมานด์เข้าพัก Low Rise คึก

                     หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ภายใต้โมเดล “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale: BOS) ตอกย้ำความมั่นใจความปลอดภัยของโครงการในพอร์ตทั้งหมด ทั้งในกรุงเทพฯ และแหล่งท่องเที่ยวในต่างจังหวัด หลังเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวในช่วงที่ผ่านมา ยืนยันว่าโครงการทั้งหมดของ BC เป็นอาคารประเภท Low Rise ทำเลใจกลางเมือง ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวแต่อย่างใด           นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยว่า BC ได้ส่งทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญเข้าตรวจสอบความมั่นคงของโครงการอย่างละเอียด ครอบคลุมทั้งโครงสร้างอาคาร ระบบน้ำ ไฟฟ้า และระบบภายในอื่นๆ โดยไม่พบข้อบ่งชี้ถึงความเสียหาย พร้อมวางแผนตรวจสอบซ้ำโดยบริษัทผู้เชี่ยวชาญภายนอกในสัปดาห์นี้ทันทีเพื่อเสริมความมั่นใจให้ผู้ใช้งานอีกระดับ และตอกย้ำ โครงการของเราให้ความสำคัญด้านคุณภาพและความปลอดภัยในทุกขั้นตอน ตั้งแต่งานโครงสร้างและระบบวิศวกรรมต่างๆ โดยดำเนินการก่อสร้างผ่านผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์สูง และผ่านการควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด มีมาตรฐานสูง นอกจากนี้ โครงการทั้งหมดของเรายังมีประกันภัยความเสี่ยงทุกประเภท (All Risks Insurance) เพื่อคุ้มครองทั้งทรัพย์สินและความปลอดภัยของผู้เช่าและผู้ใช้งานอย่างรอบด้าน           อย่างไรก็ดี จากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้น คาดส่งผลให้กลุ่มโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นของ BC โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ มีอัตราการเข้าพักเพิ่มขึ้น  เนื่องจากกลุ่มลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเลือกเข้าพักในอาคาร Low Rise ของ BC ซึ่งผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความมั่นคงแล้วเรียบร้อย           ทั้งนี้ ปัจจุบัน BC มีโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นที่เปิดให้บริการรวม 9 โครงการ ในกรุงเทพฯ เชียงใหม่ ภูเก็ต และชลบุรี (พัทยา) รวมถึงโครงการศูนย์การค้า “โคฟฮิลล์” ย่านเจริญกรุง ที่ได้รับการพัฒนาโดยคำนึงถึงความปลอดภัยในทุกมิติ

BC - เดอะ อิชชูเออร์ มั่นใจ Summer Point ไม่กระทบเหตุแผ่นดินไหว

BC - เดอะ อิชชูเออร์ มั่นใจ Summer Point ไม่กระทบเหตุแผ่นดินไหว

             หุ้นวิชั่น - บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BC) ผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) ยืนยันโครงการ “ซัมเมอร์ พ้อยท์” (Summer Point) อาคารสำนักงานให้เช่าแนวใหม่ ออกแบบพื้นที่ใช้สอยแบบมิกซ์ยูส ตั้งอยู่ติดกับรถไฟฟ้า BTS สถานีพระโขนง ย่านสุขุมวิท ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 หลังจากทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญและฝ่ายอาคารเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคารอย่างละเอียด พบว่ายังคงอยู่ในสภาพแข็งแรง สมบูรณ์ และปลอดภัยต่อการใช้งาน โดยได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 29 มีนาคม 2568 เป็นต้นไป              นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของโครงการ Summer Point เปิดเผยว่า บริษัทให้ความสำคัญสูงสุดกับมาตรฐานการก่อสร้างที่สอดคล้องตามกฎหมายและข้อกำหนดด้านความปลอดภัยมาโดยตลอด ซึ่งถือเป็นหลักปฏิบัติสำคัญที่ BC ยึดมั่น ส่งผลให้โครงการสามารถรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดคิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสร้างความมั่นใจให้กับผู้ประกอบการ ร้านค้า และผู้ใช้บริการทุกคน              นายอริน รัตนโกวิท กรรมการและรองประธานเจ้าหน้าที่บริหารสินทรัพย์ บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด ในฐานะผู้ออกโทเคนดิจิทัล ชี้ให้เห็นว่าเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพของสินทรัพย์ที่คัดเลือกนำมาระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์ หรือ “Summer Point Token” ที่มี โครงการ Summer Point เป็นสินทรัพย์อ้างอิง โดยได้ระดมทุนแล้วเสร็จไปเมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2568 มูลค่ารวม 450 ล้านบาท ทั้งนี้ ภายหลังการตรวจสอบแล้วพบว่าสินทรัพย์ยังอยู่ในสภาพดี ปลอดภัย พร้อมเดินหน้าซื้อขายโทเคนดิจิทัลในตลาดรอง Bitkub อย่างเป็นทางการในวันที่ 2 เมษายน 2568 โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายว่า “SUMX” การเดินหน้าซื้อขาย Summer Point Token ในตลาดรอง นับเป็นอีกก้าวสำคัญ ที่สะท้อนถึงศักยภาพในการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ควบคู่กับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่ เพื่อสร้างโอกาสการลงทุน              นายปรับ ทักราล กล่าวทิ้งท้ายว่า “บมจ. บูทิค คอร์ปอเรชั่น ยืนยันเดินหน้าอย่างมั่นคงในฐานะผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ของโครงการ Summer Point ที่ได้ให้ความสำคัญกับคุณภาพ ความปลอดภัย และการบริหารจัดการที่โปร่งใส เพื่อส่งมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ผู้ใช้งาน พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในปัจจุบันและอนาคต”

BC  คาดปิดการขาย Summer Point Q1/68 ปันผล 0.052 บ. 27 พ.ค. นี้

BC คาดปิดการขาย Summer Point Q1/68 ปันผล 0.052 บ. 27 พ.ค. นี้

           หุ้นวิชั่น -  “บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC)” เปิดเผยผลประกอบการประจำปีพลิกกำไรตามนัด คาดผลประกอบการไตรมาส 1/68 เกินเป้า ยอดจองโรงแรมแน่น รับเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวเติบโตดี แย้มแผนการขาย “Summer Point Token” โดย บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (“Token X”) บริษัทภายใต้ SCBX ระหว่างวันที่ 24 ก.พ. – 14 มี.ค.นี้ ฮอตสุดๆ ในตลาด ICO นอกจากนี้ BC เตรียมปูพรมเปิดโรงแรมใหม่ “Journey hub Bangkok Sukhumvit 26” ภายใน Q1/68 และอยู่ระหว่างพัฒนาโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้านบอร์ดไฟเขียวมีมติอนุมัติการจ่ายปันผลตอบแทนผู้ถือหุ้นทันที 0.052 บาท/หุ้น กำหนดจ่ายวันที่ 27 พ.ค.นี้ ตอกย้ำความเชื่อมั่นของนักลงทุน และมั่นใจว่า BC กลับมาคืนฟอร์มอย่างแข็งแกร่ง พร้อมแนวโน้มการเติบโตที่สดใส             นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) เปิดเผยแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/2568 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ได้รับปัจจัยบวกจากภาพรวมอสังหาริมทรัพย์ในแลนด์มาร์คเศรษฐกิจและแหล่งท่องเที่ยวยังเติบโตดี ในช่วงแรกของปีประเทศไทยมีจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ จีน มาเลเซีย รัสเซีย เกาหลีใต้ และอินเดีย ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนจากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐต่อตลาดท่องเที่ยวโลก เช่น มาตรการ “Ease of Traveling” ที่ช่วยอํานวยความสะดวกในการเดินทาง และการยกเว้นวีซ่าของนักท่องเที่ยวหลายประเทศ อาทิ มาเลเซียและจีน มุ่งผลักดันประเทศไทยให้เป็นจุดหมายปลายทางระดับโลก ทั้งการเข้าพักระยะสั้นและระยะยาว ส่งผลให้ตลาดการท่องเที่ยวขยายตัวอย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉพาะโครงการโรงแรมในจังหวัดเชียงใหม่ของบริษัทมีอัตราการเข้าพักในระดับสูง ตอกย้ำศักยภาพของ BC ในตลาดโรงแรมและอสังหาริมทรัพย์เพื่อการท่องเที่ยว             ขณะเดียวกัน แผนการเดินหน้าระดมทุนผ่าน ICO โดยใช้โครงการซัมเมอร์พอยท์ (Summer Point) เป็นสินทรัพย์อ้างอิงในการออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน ในชื่อ “Summer Point Token” โครงการมิกซ์ยูสสุดฮอตบนถนนสุขุมวิท ติดสถานี BTS พระโขนง โครงการนี้ได้รับกระแสตอบรับดีอย่างดีเยี่ยม ด้วยศักยภาพที่โดดเด่นของโครงการ ในไตรมาส 4/2567 มีการเติบโตของอัตราการเช่าพื้นที่เฉลี่ย 96% ของพื้นที่ทั้งหมด รวมทั้ง EBITDA ที่ปรับตัวขึ้นเป็น 61.9% สะท้องถึงประสิทธิภาพในการบริหารจัดการต้นทุน โดยมี บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X ภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเค็นดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) คาดว่า ธุรกรรมของโครงการซัมเมอร์พอยท์จะแล้วเสร็จในเดือนมีนาคมนี้ และจะช่วยเสริมสภาพคล่อง BC เพื่อการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ใหม่ๆ ต่อไป             โดย BC ยังคงมุ่งเน้นพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในโมเดลธุรกิจ BOS เพื่อสะท้อนถึงศักยภาพในการขยายธุรกิจและการลงทุนในภาคอสังหาริมทรัพย์อย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในทำเลที่มีศักยภาพสูง ปัจจุบัน BC เตรียมแผนเปิดโรงแรมใหม่ภายใต้ชื่อ “Journeyhub Bangkok Sukhumvit 26” ในไตรมาส 1/2568             และมีโครงการที่กำลังอยู่ในแผนพัฒนาต่อเนื่องในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ อาทิ โครงการโรงแรมกมลา 1 ภายใต้ เมอเวนพิค แบรนด์ จำนวน 197 ห้อง และกมลา 2 โรงแรมระดับ ลักซูรี่ รีสอร์ทจำนวน 200 ห้อง ที่จังหวัดภูเก็ตบนพื้นที่รวม 9 ไร่ และโครงการที่สุขุมวิท 5 จำนวน 194 ห้อง เป็นต้น             สำหรับโครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) มิกซ์ยูสอาคารสำนักงานและพื้นที่เชิงพาณิชย์ย่านเจริญกรุงเปิดตัวโครงการไปเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดี และคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้เต็มปีได้ในปีนี้             อย่างไรก็ดี ผลการดำเนินงานในปี 2567 ที่ผ่านมา BC สามารถพลิกกลับเทิร์นอะราวด์ได้ตามนัด กำไรพุ่งกว่า 226 ล้านบาท อยู่ที่ 32.2 ล้านบาท ด้านรายได้รวมอยู่ที่ 632.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 58.5% จากความสำเร็จดังกล่าว ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการจ่ายปันผลจากผลประกอบการประจำปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.052 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท หรือคิดเป็น 5% dividend yield จากราคาหุ้นปัจจุบัน โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคม 2568 เพื่อตอกย้ำภาพรวมธุรกิจและสถานะการเงินที่แข็งแกร่ง มีความมั่นคง             อีกทั้ง ก่อนหน้านี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียน จากเดิม 629,237,982 บาท เป็น 992,551,622 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 363,313,640 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท โดยแบ่งเป็น จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร และพนักงาน ภายใต้โครงการ BC-ESOP 2025 รวมทั้ง รองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ ครั้งที่ 3 หรือ BC-W3 และการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิ BC-W4             นอกจากนี้ การเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป จำนวนไม่เกิน 171,656,820 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนสำหรับธุรกิจ และลงทุนเพิ่มเติมในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ดำเนินการอยู่ปัจจุบันหรือลงทุนในบริษัทอื่นที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหลักตามแผนยุทธศาสตร์ของบริษัท ในการเข้าทำธุรกรรมรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท บีคิว ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด ซึ่งรวมถึงที่ดินบนถนนสุขุมวิท 24 เพื่อขยายพื้นที่พัฒนาโครงการของบริษัท โดยธุรกรรมดังกล่าวมีมูลค่ารวม 709.87 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การเติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาโครงการโรงแรมระดับพรีเมียมแห่งใหม่ในอนาคต  ซึ่งแผนการเพิ่มทุนนี้มุ่งเน้นการสร้างรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนให้แก่บริษัทและผู้ถือหุ้น ซึ่งต้องรอผ่านการอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 28 เมษายนนี้ [PR News]

BC ปี 67 พลิกกำไร! 226 ลบ. เทิร์นอะราวน์ 117% แจกปันผล 0.052 บาท/หุ้น

BC ปี 67 พลิกกำไร! 226 ลบ. เทิร์นอะราวน์ 117% แจกปันผล 0.052 บาท/หุ้น

            หุ้นวิชั่น - บมจ. บูทิค คอร์ปอเรชั่น หรือ BC ประกาศผลประกอบการปี 2567 โชว์การเติบโตแบบก้าวกระโดดกว่า 226 ล้านบาท จากปีก่อนหน้า ทำกำไรสุทธิปี 2567 อยู่ที่ 32.2 ล้านบาท พลิกจากขาดทุน 194 ล้านบาทในปีก่อน จากกลยุทธ์ธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale: BOS) พร้อมกระแสการท่องเที่ยวฟื้นตัว หนุนรายได้รวมอยู่ที่ 632.3 ล้านบาท เติบโต 58.5% โดยมีปัจจัยหนุนจากกำไรจากการขายเงินลงทุนใน โครงการ Cove Hill และ Ibis Chiang Mai Nimman Journeyhub รวมถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้ EBITDA ทะยานอยู่ที่ 217.5 ล้านบาท จับตาไฮไลท์ปี 68 เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ Journeyhub Bangkok Sukhumvit 26 ในช่วง Q1 ปีนี้ ทั้งนี้บอร์ดอนุมัติจ่ายปันผล 0.052 บาท/หุ้น เตรียมจ่าย 27 พฤษภาคม นี้ ด้านความคืบหน้าของโครงการ Summer Point Token โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์ ที่มีโครงการ Summer Point อาคารสำนักงานมิกซ์ยูสใจกลางสุขุมวิท (ติดสถานี BTS พระโขนง) เป็นสินทรัพย์อ้างอิง ซึ่ง ก.ล.ต. อนุมัติไฟลิ่งแล้ว และอยู่ในช่วงการเปิดให้จองซื้อระหว่างวันที่ 24 ก.พ. - 14 มี.ค. 2568 คาดบันทึกกำไรจากการขายภายในเดือนมีนาคม             นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BC) ผู้นำด้านพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) เปิดเผยถึง ผลการดำเนินงานปี 2567 เทิร์นอะราวด์ตามนัด ทำกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัท เพิ่มขึ้น 226 ล้านบาท อยู่ที่ 32.2 ล้านบาท ปรับตัวดีขึ้น 117% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้าขาดทุน 194 ล้านบาท สำหรับ EBITDA ในปี 2567 มีกำไรอยู่ที่ 217.5 ล้านบาท เทียบกับขาดทุนในปีก่อน 24.1 ล้านบาท ซึ่งการปรับตัวที่ดีขึ้นอย่างมีนัยสำคัญครั้งนี้ มาจากความสำเร็จในโมเดลธุรกิจหลัก สร้าง-ดำเนินการ-ขาย (Build-Operate-Sale: BOS) ที่เดินหน้าขายออกเงินลงทุนในโครงการได้ตามแผนที่วางไว้ในโครงการ โคฟฮิลล์ (Cove Hill) และโครงการ ไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นีย์ฮับ (Ibis Chiang Mai Nimman Journeyhub) ประกอบกับ การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและมาตรการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพของบริษัท นอกจากนี้ จากภาพรวมของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในประเทศไทยที่ฟื้นตัวอย่างมีนัยสำคัญ จำนวนนักท่องเที่ยวกลับมาใกล้เคียงระดับก่อนเกิดโรคระบาดโควิด ส่งผลให้รายได้จากการดำเนินงานโรงแรมและศูนย์การค้าและสำนักงานให้เช่าดีขึ้น ทำให้ BC สามารถพลิกกลับมาสร้างฐานการเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง             ในด้านรายได้รวมปี 2567 อยู่ที่ 632.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 233.5 ล้านบาท หรือ 58.5% ปัจจัยหลักมาจากการรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุน 2 โครงการ จำนวน 159.8 ล้านบาท ในงบการเงินรวม ประกอบกับ  ผลการดำเนินงานที่ดีขึ้น ตามกลยุทธ์ของทีมบริหารที่วางไว้ และการเปิดโครงการโคฟฮิลล์ (Cove Hill) ไลฟ์สไตล์ รีเทล มอลล์ ทำเลใจกลางเมือง บนถนนเจริญกรุง ในช่วงไตรมาส 4 ปี 2567 ซึ่งมีอัตราจองพื้นที่รวมและอัตราการเช่าจริงอยู่ที่ 74% ในขณะที่ ภาพรวมการควบคุมค่าใช้จ่ายทำได้ดีขึ้น ซึ่งลดลง 2% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการปรับกลยุทธ์การบริหารงานในรูปแบบกลุ่มของโรงแรม (Clustering Strategy) ซึ่งทำให้เกิดการแบ่งปันทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ             ทั้งนี้ ปัจจุบัน BC มีโรงแรมและเซอร์วิสอพาร์ทเม้นที่อยู่ในระหว่างดำเนินการ (Operate) ทั้งสิ้น 9 โครงการ แบ่งเป็นพื้นที่ในกรุงเทพฯ ประกอบด้วย ซิทาดีนส์ 8, ซิทาดีนส์ 11, ซิทาดีนส์ 16, โอ๊ควู้ด เรสซิเดนซ์ สุขุมวิท 24 และ โจโน่ อโศก และต่างจังหวัด ประกอบด้วย เจอร์นี่ย์ฮับ ภูเก็ต, เจอร์นีย์ฮับ พัทยา เซ็นทรัล, โนโวเทล เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นี่ย์ฮับ และไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นี่ย์ฮับ นอกจากนี้ ยังดูแลโครงการของลูกค้าภายนอก ในภูเก็ต และ กะรน ภายใต้แบรนด์ โจโน่เอ็กซ์ ซึ่งเป็นแบรนด์บริษัท และได้รับค่าตอบแทนจากการบริหารรายได้และการบริหารโรงแรม             สำหรับปี 2568 BC เตรียมเปิดโรงแรมใหม่ภายใต้ชื่อ Journeyhub Bangkok Sukhumvit 26 ในไตรมาส 1/2568 ซึ่งจะสร้างรายได้จากการดำเนินงานเข้ามาเพิ่มเติม นอกจากนี้ โครงการ Summer Point ศูนย์การค้าและสำนักงานให้เช่าอยู่ในพื้นที่ที่มีศักยภาพทางธุรกิจสูง ย่านสุขุมวิท มีอัตราการเช่าพื้นที่ 96.1% อยู่ระหว่างระดมทุนในรูปแบบ (ICO) ในชื่อ Summer Point  Token โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์อ้างอิง มีอัตราผลตอบแทนทั้งโครงการเฉลี่ยต่อปี (IRR) 10.2% ปัจจุบันได้รับอนุมัติจากสำนักงาน ก.ล.ต. แล้ว และมีกำหนดเปิดให้จองซื้อระหว่าง 24 กุมภาพันธ์ – 14 มีนาคม 2568 คาดว่าจะสามารถบันทึกกำไรจากการขายได้ภายในเดือนมีนาคมนี้ “ในปี 2568 เตรียมเดินหน้าขยายธุรกิจด้วยโครงการใหม่ๆ โดยยังคงมุ่งมั่นสร้างการเติบโตในธุรกิจหลักรูปแบบ BOS ด้วยโครงการที่อยู่ระหว่างบริหารจำนวน 9 โครงการ และโครงการที่อยู่ระหว่างพัฒนาอีก 5 โครงการ ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ด้วยกระแสการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมอย่างมาก รวมถึงการบันทึกกำไรจากการขายเงินลงทุน และการระดมทุนรูปแบบ ICO ในโครงการที่มีศักยภาพ จึงคาดหวังว่าปีนี้จะเป็นอีกปีที่ BC สามารถทำกำไรได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมวางเป้าหมายรายได้เติบโตจากปีก่อนไม่ต่ำกว่า 20% และ BC ยังเล็งที่จะขยายแบรนด์ Jono, JonoX และ Journeyhub เพิ่มเติมไปสู่โรงแรมอื่นๆ นอกเครือ BC ในปีนี้อีกด้วย             ทั้งนี้ บริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายปันผลจากผลประกอบการประจำปี 2567 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.052 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 30 ล้านบาท คิดเป็น Dividend Yield 5% และ Dividend Payout Ratio 65%  ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้น (Record Date) ในวันที่ 20 มีนาคม 2568 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 27 พฤษภาคมนี้ เพื่อตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้ความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทเสมอมา ทั้งนี้จะมีการขออนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นในวันที่ 28 เมษายนนี้อีกครั้ง [PR News]

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

BC และ เดอะ อิชชูเออร์ ผนึก โทเคน เอกซ์ เตรียมเสนอขาย Summer Point Token

BC และ เดอะ อิชชูเออร์ ผนึก โทเคน เอกซ์ เตรียมเสนอขาย Summer Point Token

           หุ้นวิชั่น - BC ผู้นำพัฒนาอสังหาฯ โมเดล BOS และ เดอะ อิชชูเออร์ ผสานความร่วมมือ โทเคน เอกซ์ นำเสนอนวัตกรรมการลงทุนรูปแบบดิจิทัล “Summer Point Token” โดยมี BC เป็นสปอนเซอร์ เตรียมเสนอขายโทเคนดิจิทัล “Summer Point” ที่มีอาคารสำนักงานย่านใจกลางสุขุมวิท ติดสถานี BTS พระโขนง เป็นสินทรัพย์อ้างอิง จำนวนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน ที่ราคาเสนอขาย 0.50 บาทต่อโทเคน มูลค่ารวมไม่เกิน 450 ล้านบาท เพื่อรับผลตอบแทนเป็นรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิและเงินต้นทยอยคืน ตลอดอายุโครงการเป็นระยะเวลาประมาณ 25 ปี            นางสาวจิตตินันท์ ชาติสีหราช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด หรือ Token X ภายใต้กลุ่มเอสซีบี เอกซ์ (SCBX Group) ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัลในประเทศไทย (ICO Portal) ที่ได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (“สำนักงาน ก.ล.ต.”) เปิดเผยว่า Token X ผสานความร่วมมือกับ BC ผู้นำพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ BOS และ บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จํากัด ผู้ออกโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน เปิดตัว “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์” หรือ “Summer Point Token” ที่มีโครงการอาคารสำนักงาน “Summer Point” ซึ่งตั้งอยู่ในย่านศูนย์กลางธุรกิจ ติดกับสถานี BTS พระโขนง เป็นสินทรัพย์อ้างอิง โดย Summer Point Token นับเป็นนวัตกรรมการลงทุน ผ่านการแปลงสินทรัพย์ให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัล หรือ Tokenization ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน ช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงการลงทุนในโทเคนดิจิทัลที่มีอสังหาริมทรัพย์เป็นสินทรัพย์อ้างอิง บนทำเลไพร์มแอเรีย โดยใช้เงินลงทุนจำนวนไม่มาก และสามารถซื้อขายโทเคนในตลาดรองได้ตลอด 24 ชั่วโมง ภายหลังโทเคนดิจิทัลเข้าจดทะเบียนในศูนย์ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล            ทั้งนี้ หลังจากได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน และร่างหนังสือชี้ชวนต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายโทเคนดิจิทัลฯ ต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (ICO) และได้รับอนุญาตให้เสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชนตามที่บริษัทยื่นคำขออนุญาต ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขาย Summer Point Token จำนวนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน ที่ราคาเสนอขาย 0.50 บาทต่อโทเคน รวมมูลค่าไม่เกิน 450 ล้านบาท โดยการลงทุนมีอายุโครงการประมาณ 25 ปี นับตั้งแต่วันที่ก่อตั้งกองทรัสต์ ถึงวันที่ 14 กันยายน 2592 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดอายุสิทธิการเช่าที่ดินของทรัพย์สินของโครงการ โดยจะนำเงินไปลงทุนในสัญญา RSTA (Revenue Sale and Transfer Agreement) เพื่อให้ได้กระแสรายรับจากทรัพย์สินของโครงการ Summer Point จากบริษัท บูทิค พระโขนง ทรี จํากัด ซึ่งเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์และสิทธิครอบครองในทรัพย์สินของโครงการ และลงทุนในหุ้นของบริษัท บูทิค พระโขนง ทรี จํากัด คิดเป็นสัดส่วน 100% รวมถึงนำไปชำระค่าใช้จ่ายการทำธุรกรรม และเป็นเงินทุนหมุนเวียนของผู้ออกโทเคนดิจิทัล            ผู้ถือ Summer Point Token จะได้รับผลตอบแทนและสิทธิต่างๆ ได้แก่ 1) สิทธิในการได้รับผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิของโครงการ Summer Point และเงินต้นทยอยคืนตลอดอายุโครงการ ซึ่งผลตอบแทนดังกล่าวจะเป็นรายได้จากค่าเช่าหลังหักค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่เกี่ยวข้องกับการดําเนินงาน ในส่วนของการชําระคืนเงินต้น ผู้ถือโทเคนดิจิทัลจะได้รับการชําระคืนเงินต้น แยกเป็นคนละส่วนกับผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิเพื่อผลประโยชน์ทางด้านภาษี โดยจะชําระคืนเงินต้นเป็นรายไตรมาสในอัตราคงที่ 1% ของมูลค่าการระดมทุน ส่วนมูลค่าคงเหลือที่เกินกว่ามูลค่าเงินต้นในงวดนั้นๆ จะถูกจ่ายเป็นผลตอบแทนรายไตรมาสจากค่าเช่าสุทธิ และ 2) สิทธิในการลงมติที่เกี่ยวข้องกับโทเคนดิจิทัล เช่น การเปลี่ยนแปลงและแต่งตั้งทรัสตีในกองทรัสต์, การกําหนดค่าตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่บริษัทผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) อื่น, การเปลี่ยนแปลงผลประโยชน์ผลตอบแทนหรือการจัดสรรผลตอบแทนให้ผู้ถือโทเคนดิจิทัล เป็นต้น            ทั้งนี้ หลังจากระดมทุนแล้วเสร็จ ผู้ออกโทเคนดิจิทัลจะแต่งตั้งบริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์บริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์มานาน ให้ทำหน้าที่เป็นผู้บริหารอสังหาริมทรัพย์ (Property Manager) เพื่อบริหารจัดการทรัพย์สินของโครงการตลอดอายุโครงการโทเคนดิจิทัล            นายปรับชะรันซิงห์ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) กล่าวว่า อาคารสำนักงานซัมเมอร์พ้อยท์ ตั้งอยู่ในย่าน ใจกลางสุขุมวิท ติดสถานีรถไฟฟ้า BTS พระโขนง และใกล้จุดขึ้นทางพิเศษฉลองรัช แวดล้อมด้วยสถานที่สำคัญ อาทิ, St Andrews International School, สถานีตำรวจนครบาลพระโขนง, ท้องฟ้าจำลองกรุงเทพ, ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์, โรงพยาบาลสุขุมวิท, โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท ฯลฯ จึงมีอัตราเช่าพื้นที่เฉลี่ยสูงกว่า 96% ซึ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงความชำนาญของทีมในการบริหารโครงการ Summer Point ได้เป็นอย่างดี            ปัจจุบันตัวอาคารอยู่ในสภาพค่อนข้างใหม่ เนื่องจากเพิ่งเปิดดำเนินการในปี 2563 โดยเป็นอาคารสูง 5 ชั้น และมีชั้นใต้ดิน 2 ชั้น พร้อมที่จอดรถ 78 คัน มีพื้นที่รวมทั้งหมดเกือบหมื่นตารางเมตร ผสมผสานการใช้งานเป็นสำนักงานและพื้นที่ให้เช่าแก่ร้านค้า แบ่งเป็น พื้นที่สำนักงาน 4,797.86 ตารางเมตร พื้นที่ร้านค้า 998.75 ตารางเมตร และพื้นที่ส่วนกลางและบริการ 4,200.39 ตารางเมตร            “บริษัทฯ มีความมั่นใจในศักยภาพของโครงการซัมเมอร์พ้อยท์ ขณะที่กลุ่มผู้เช่าของโครงการเป็นบริษัทที่มีคุณภาพ และกระจายตัวจากหลากหลายอุตสาหกรรม รวมถึงอยู่ในธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะเติบโตในอนาคต ช่วยลดความเสี่ยงและเพิ่มโอกาสการต่อสัญญาเช่าในระยะยาว อาทิ ธุรกิจให้เช่าช่วงพื้นที่และบริการสํานักงาน, สื่อบันเทิงและโฆษณา, สถาบันเสริมความงาม, ร้านอาหาร, ร้านกาแฟ, ร้านขายยาและเวชภัณฑ์ ฯลฯ ซึ่งจะสนับสนุนให้มีกระแสรายรับจากค่าเช่าที่ต่อเนื่องและยั่งยืน” นายปรับชะรันซิงห์ กล่าว [PR News]

BC แกรนด์โอเพนนิ่ง “โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill)” ยกระดับไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่

BC แกรนด์โอเพนนิ่ง “โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill)” ยกระดับไลฟ์สไตล์มอลล์แห่งใหม่

      บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC) จัดงาน Grand Opening เปิดตัวโครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) ศูนย์การค้าไลฟ์สไตล์คอมมูนิตี้แห่งใหม่ย่านเจริญกรุง ด้วยมูลค่าโครงการ 270 ล้านบาท และเป็นอีกหนึ่งโครงการที่น่าจับตามองอย่างยิ่ง ด้วยทำเลทองย่านกรุงเก่ามีศักยภาพการเติบโตสูง พัฒนาขึ้นจากแรงบันดาลใจ ในการรวมเสน่ห์ของย่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เข้ากับความทันสมัย ปักธงเป็นศูนย์รวมพื้นที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ด้วยร้านค้าและพื้นที่จัดกิจกรรมครบครัน ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจของประเทศไทย ทั้งด้านการท่องเที่ยว และการกระจายรายได้สู่ชุมชน             นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) กล่าวว่า บริษัทฯ พร้อมยกระดับย่านเจริญกรุง จัดงานเปิดตัวโครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) สุดยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน 2567 นับเป็นCommunity Lifestyle Mall แห่งล่าสุดของกลุ่มบริษัทบูทิค ที่ได้รับการตอบรับจากผู้ลงทุนเป็นอย่างมาก ด้วยมูลค่าโครงการอยู่ที่ 270 ล้านบาท บนพื้นที่กว่า 4,000 ตารางเมตร และจำนวน 28 ร้านค้า พร้อมมอบประสบการณ์ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกกลุ่มได้อย่างครอบคลุม ด้วยทำเลใกล้โรงเรียนนานาชาติ และสถานที่ท่องเที่ยว ทำให้ประสบความสำเร็จ มีอัตราการเช่าพื้นที่ร้อยละ 70 และมุ่งหวังในการเป็นศูนย์กลางธุรกิจและการท่องเที่ยวแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ที่มีเอกลักษณ์            โดยโครงการ โคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) มีแนวคิดที่ผสมผสานสไตล์นอร์ดิกอันเรียบง่ายและทันสมัยเข้ากับเสน่ห์ทางประวัติศาสตร์ของย่านเจริญกรุง มีการออกแบบเพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ด้วยจุดเด่นที่เน้นความสะดวกสบาย การมีส่วนร่วมในกิจกรรม และประสบการณ์การรับประทานอาหารที่ตอบโจทย์ทุกกลุ่มลูกค้า มีแรงบันดาลใจมาจากความต้องการที่จะรวมเสน่ห์ของย่านประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอันเป็นเอกลักษณ์เข้ากับประสบการณ์ไลฟ์สไตล์ที่ทันสมัยและแปลกใหม่เข้าด้วยกัน และย่านเจริญกรุง ถือเป็นทำเลศักยภาพที่มีทั้งนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สามารถผสมผสานความเก่าแก่ที่เป็นเอกลักษณ์และความทันสมัยได้อย่างน่าสนใจ           อีกทั้ง โดดเด่นด้วยร้านอาหารและเครื่องดื่ม (F&B) ที่หลากหลาย มีโซนการศึกษา โซนส่งเสริมและดูแลสุขภาพ รวมถึงร้านชื่อดังต่างๆ อาทิ VE/la, Kowloon Diner, JIAN CHA, CHALACHOL BANGKOK, Peninsula Tailors และ Lumilux Clinic เป็นต้น อีกทั้งยังมีพื้นที่สำหรับการถ่ายรูป ทำแอคทิวิตี้ต่างๆ มากมาย นอกจากนี้ ยังจัดพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่เน้นการเชื่อมโยงกับชุมชน เพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างคนในพื้นที่ มุ่งมั่นสร้างงานให้กับชุมชน สนับสนุนเศรษฐกิจท้องถิ่นด้วยการเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กในพื้นที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ รวมถึงการจัดกิจกรรมที่ส่งเสริมศิลปะ วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว เช่น ตลาดศิลปะและกิจกรรมสร้างสรรค์ต่างๆ อีกทั้ง เล็งแผนพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยการจัดอีเวนต์พิเศษ เช่น นิทรรศการศิลปะ เทศกาลอาหาร และกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ ต่อยอดพัฒนาพื้นที่ไฮไลต์ใหม่ๆ เพื่อคงความน่าสนใจในระยะยาว           “โครงการโคฟ ฮิลล์ (Cove Hill) นับเป็นอีกหนึ่งโครงการไฮไลต์ของ BC ในปี 2567 ที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในโมเดลธุรกิจ BOS ตั้งแต่การเลือกทำเลที่โดดเด่นใจกลางเมืองบนถนนเจริญกรุง มีอัตราผู้เช่าในระดับสูง อีกทั้งยังสามารถขายเงินลงทุนในโครงการดังกล่าวได้ในสัดส่วน 50% ตั้งแต่ยังไม่เปิดตัว จากความเชื่อมั่นในศักยภาพการเติบโตของโครงการ ซึ่งโครงการนี้ บริษัทฯ หวังเป็นพื้นที่ในการยกระดับชุมชนในย่านเจริญกรุง และหนุนรายได้เติบโตในส่วนของงานดำเนินการ (Operate) อย่างแข็งแกร่งได้ในอนาคต” นายปรับ กล่าวปิดท้าย

BC เทิร์นอะราวน์รอบ 5ปี ขาย ‘Summer Point Token’

BC เทิร์นอะราวน์รอบ 5ปี ขาย ‘Summer Point Token’

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC เปิดเผยว่า คาดผลประกอบการ BC ปี 2567 จะเป็นปีแห่งการเทิร์นอะราวน์รอบ 5 ปีหลังจากเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ หลังจากผลประกอบการไตรมาส 3/2567 พลิกมีกำไร 54.5 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 44.8 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 221.7% ส่วน 9 เดือนแรกปี 2567 พลิกมีกำไร 66.2 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 151 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 143.8%           ส่วนรายได้ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 198 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 91.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.2% ขณะที่ 9 เดือนปี 2567 ทำได้ 495.6 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 276.8 ล้านบาท เติบโต 79.1%           ขณะเดียวกัน BC คาดว่าผลประกอบการในปี 2568 จะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 ได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของการท่องเที่ยว ซึ่งกลับมาคึกคัก ส่งผลให้โรงแรมในเครือ BC มีนักท่องเที่ยวเข้าพักเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในพื้นที่หัวเมืองท่องเที่ยวหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ พัทยา เชียงใหม่ และภูเก็ต           บริษัทอยู่ระหว่างแผนการขายสินทรัพย์อย่างต่อเนื่องในปี 2568 เพื่อนำเงินมาขยายการลงทุน โดยมีแผนพิจารณาขายสินทรัพย์เพิ่มเติมอีก 2-3 แห่ง พร้อมกับศึกษากลยุทธ์การขายสินทรัพย์รูปแบบใหม่ เช่น การขายสินทรัพย์เข้ากองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REIT) ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อระดมทุนและเพิ่มโอกาสในการขยายธุรกิจในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่หลากหลาย ทั้งนี้ บริษัทคาดการณ์ว่ารายได้จากการขายสินทรัพย์ในปี 2568 จะเติบโตขึ้นราว 5-10% เมื่อเทียบกับปีนี้           บริษัทประเมินว่าทิศทางดอกเบี้ยขาลงจะส่งผลบวกต่อการซื้อขายสินทรัพย์ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ โดยช่วยเพิ่มสภาพคล่องในตลาดและเปิดโอกาสให้อัตราผลตอบแทนจากการขายสินทรัพย์ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น นอกจากนี้ภาวะดอกเบี้ยที่ลดลงยังส่งผลให้ต้นทุนทางการเงินของบริษัทลดลงตาม ซึ่งจะสนับสนุนแผนการขยายการลงทุนในอนาคต           บริษัทอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการ "กมลา 1" ซึ่งตั้งอยู่บนหาดกมลา จังหวัดภูเก็ต โดยคาดว่าจะเสร็จและเปิดให้บริการในช่วงปี 2568 โครงการนี้จะเป็นโรงแรมหรูที่มุ่งเน้นการบริการนักท่องเที่ยวไฮเอนด์ นอกจากนี้ บริษัทยังมีโครงการในระหว่างการพัฒนาที่ย่านสุขุมวิท ซอย 5 ซึ่งเป็นทำเลทองในกรุงเทพฯ โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2568 หรือต้นปี 2569 มูลค่ารวมของทั้งสองโครงการนี้มีมากกว่า 2 พันล้านบาท           บริษัทมีแผนการระดมทุนผ่านการออก ICO (Initial Coin Offering) หรือการเสนอขายดิจิทัลโทเคน (Digital Token) เพื่อปลดล็อกการเติบโต โดยได้ยื่นแบบคำขอเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในเดือนตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา ภายใต้ชื่อ “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์” หรือ “Summer Point Token”           โดยมี บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด จะเป็นผู้ออกและเสนอขาย โดยบริษัทตั้งเป้าระดมทุนผ่านการเสนอขายโทเคนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน มูลค่ารวมไม่เกิน 450 ล้านบาท ซึ่งในขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการพิจารณาข้อมูลจาก ก.ล.ต. เงินที่ได้จากการระดมทุนจะนำไปใช้หมุนเวียนในการพัฒนาโครงการต่าง ๆ ตามแผน โดยคาดว่า ICO นี้จะสามารถเสนอขายได้ภายในสิ้นปี 2567 รายงานโดย : มินตรา แก้วภูบาล บรรณาธิการข่าว mai สำนักข่าว Hoonvision

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

BC ไตรมาส3 เทิร์นอะราวน์ 221.7%

BC ไตรมาส3 เทิร์นอะราวน์ 221.7%

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC แจ้งผลประกอบการไตรมาส 3/2567 พลิกมีกำไร 54.5 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 44.8 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 221.7% ส่วน 9 เดือนแรกปี 2567 พลิกมีกำไร 66.2 ล้านบาท จากช่วงเดียวกันกับปีก่อนขาดทุน 151 ล้านบาท เทิร์นอะราวน์ 143.8%           ส่วนรายได้ในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 198 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อนที่ 91.6 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 116.2% ขณะที่ 9 เดือนปี 2567 ทำได้ 495.6 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน 276.8 ล้านบาท เติบโต 79.1%

[ภาพข่าว] Bespoke Wellness บริษัทในกลุ่ม BC บริจาคสมุนไพรทางการแพทย์

[ภาพข่าว] Bespoke Wellness บริษัทในกลุ่ม BC บริจาคสมุนไพรทางการแพทย์

           บริษัท บีสโปค เวลเนส จำกัด (Bespoke Wellness) ภายใต้บริษัทในกลุ่ม บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำในอุตสาหกรรมการดูแลสุขภาพ บริจาคสมุนไพรไทยคุณภาพสูงเพื่อการแพทย์ จำนวน 24 กิโลกรัม มูลค่ากว่าหนึ่งล้านบาท ให้กับโรงพยาบาลพระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ซึ่งอยู่ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข โดยการส่งมอบนี้มุ่งหวังที่จะสนับสนุนความพยายามของโรงพยาบาลในการผลิตยาและผลักดันการวิจัยทางการแพทย์เกี่ยวกับการรักษาด้วยสมุนไพรไทย เนื่องจากโรงพยาบาลได้วิจัยและผลิตยาให้กับโรงพยาบาลในเครือกระทรวงสาธารณสุขอยู่แล้ว จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งเพื่อเพิ่มแนวทางในการรักษาหรือบำบัดได้ในอนาคต            เนื่องด้วยปัจจุบัน การบำบัดด้วยยาสมุนไพรไทยทางเลือก เป็นที่จับตามองและได้รับความสนใจมากขึ้น Bespoke Wellness เล็งเห็นโอกาสในการสนับสนุนและส่งมอบสมุนไพรไทยเพื่อการแพทย์ ให้โรงพยาบาล เพื่อนำไปใช้ในการผลิตยารักษาโรค ยาปรุงเฉพาะรายบุคคล และยังเป็นส่วนสำคัญในการช่วยให้โรงพยาบาลสามารถให้บริการผู้ป่วยที่มีภาวะสุขภาพที่หลากหลายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น            สำหรับ Bespoke Wellness ประกอบธุรกิจคลินิกการแพทย์แผนไทย เพื่อจำหน่ายยาและผลิตภัณฑ์ที่มีสมุนไพรไทยเป็นส่วนประกอบ ได้รับใบอนุญาตที่เกี่ยวข้องสำหรับการให้บริการคลินิกแพทย์แผนไทย รวมถึงใบอนุญาตให้ประกอบกิจการสถานพยาบาล ในลักษณะคลินิกการแพทย์แผนไทย ชื่อ คณาคลินิกการแพทย์แผนไทย ณ โครงการซัมเมอร์ พ้อยท์ โดย Bespoke Wellness ส่งเสริมการใช้สมุนไพรไทยเพื่อสุขภาพอย่างมีความรับผิดชอบในบริบทของการบำบัด เป็นส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของบริษัทในการตอบแทนชุมชนและสนับสนุนภาคส่วนการดูแลสุขภาพในการค้นหาทางเลือกการบำบัดตามธรรมชาติ

[PR News] BC เล็งโครงการ Summer Point ให้ เดอะ อิชชูเออร์ ผ่านแผน ICO

[PR News] BC เล็งโครงการ Summer Point ให้ เดอะ อิชชูเออร์ ผ่านแผน ICO

          บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“BC”) กางแผนขายโครงการซัมเมอร์พ้อยท์ มิกซ์ยูสสุดฮอตใจกลางสุขุมวิท ให้ บริษัท เดอะ อิชชูเออร์ จำกัด (“เดอะ อิชชูเออร์”) ผ่านการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัลในรูปแบบ ICO ล่าสุด เดอะ อิชชูเออร์ ในฐานะผู้ออกและเสนอขายโทเคนดิจิทัล พร้อมด้วย บริษัท โทเคน เอกซ์ จำกัด (Token X) บริษัทภายใต้กลุ่มธุรกิจเทคโนโลยีทางการเงิน SCBX ผู้ให้บริการระบบเสนอขายโทเคนดิจิทัล (ICO Portal) ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขาย (ไฟลิ่ง) และร่างหนังสือชี้ชวน เพื่อขออนุมัติการเสนอขายโทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุน (Investment Token) ภายใต้ชื่อ “โทเคนดิจิทัลเพื่อการลงทุนซัมเมอร์พ้อยท์” หรือ “Summer Point Token” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการลงทุนในโครงการซัมเมอร์พ้อยท์โดยโครงการซัมเมอร์พ้อยท์ซึ่งเป็นสินทรัพย์ในการอ้างอิงของโครงการ อยู่ในทำเลศักยภาพสูง ติดรถไฟฟ้า BTS พระโขนง และมีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) เฉลี่ยประมาณ 96% ฐานผู้เช่าแข็งแกร่งกระจายตัวอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพ เสริมทัพทางเลือกในการขายเงินลงทุนผ่านการระดมทุนด้วยโทเคนดิจิทัล           ทั้งนี้ “Summer Point Token” อยู่ระหว่างพิจารณาข้อมูลจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ในการเสนอขายโทเคนดิจิทัล จำนวนไม่เกิน 900 ล้านโทเคน มูลค่าการเสนอขายไม่เกิน 450 ล้านบาท วัตถุประสงค์ในการใช้เงินที่ได้จากการเสนอขายโทเคนดิจิทัลต่อประชาชน แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ การลงทุนเพื่อให้ได้มาซึ่งกระแสรายรับของโครงการซัมเมอร์พ้อยท์ และใช้สำหรับชำระทำธุรกรรมซื้อหุ้น บริษัท บูทิค พระโขนง ทรี จำกัด จากกลุ่ม BC           นักลงทุน และผู้ที่สนใจสามารถอ่านเอกสาร Filing ฉบับเต็มได้ที่ https://market.sec.or.th/public/ipos/IPOSTD01.aspx?TransID=655028&lang=th           สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดทำความเข้าใจและศึกษาลักษณะสินค้า เงื่อนไข ผลตอบแทน และความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน และลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

[PR News] BC ปิดดีล ขาย “IBIS เชียงใหม่” บุ๊คกำไรเข้า Q3/67

[PR News] BC ปิดดีล ขาย “IBIS เชียงใหม่” บุ๊คกำไรเข้า Q3/67

BC ลั่นข่าวดี ปิดดีล ขายเงินลงทุนในโครงการ “IBIS เชียงใหม่” ในสัดส่วน 37% บุ๊คกำไรเข้า Q3/67 ตามโมเดลธุรกิจหลัก BOS “บมจ.บูทิค คอร์ปอเรชั่น (BC)” ผู้นำธุรกิจพัฒนาอสังหาฯ รูปแบบ BOS ประกาศข่าวดี ปิดดีลขายเงินลงทุนโครงการ “โรงแรมไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นีย์ฮับ” ในสัดส่วน 37% ด้วยราคามูลค่ายุติธรรมโครงการที่ 420 ล้านบาท หนุนกำไรบุ๊คเข้ามาใน Q3/67 สะท้อนศักยภาพโครงการที่โดดเด่น หนุนผลงานพลิกเทิร์นอะราวด์ตามนัด นายปรับ ทักราล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูทิค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BC ผู้นำด้านธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้โมเดลธุรกิจ “สร้าง-ดำเนินการ-ขาย” (Build-Operate-Sale : BOS) เปิดเผยความสำเร็จในการปิดดีลขายสัดส่วนเงินลงทุนในโครงการ “โรงแรมไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นีย์ฮับ” นับเป็นโรงแรมยอดนิยมในจังหวัดเชียงใหม่ ในสัดส่วน 74% (รวมผู้ลงทุนร่วม) ด้วยราคามูลค่าหุ้นที่  149.5 ล้านบาท โดย BC ขายเงินลงทุนของตัวเองเป็นสัดส่วน 37% จะได้ค่าตอบแทนจากการจำหน่ายหุ้นดังกล่าวรวมทั้งสิ้นประมาณ 75 ล้านบาท ซึ่งจะรับรู้กำไรจากการขายเงินลงทุนเข้ามาที่ BC ในไตรมาส 3 ปี 2567 นี้ทันที ซึ่งภายหลังจากการขายออกเงินลงทุนตามโมเดลธุรกิจหลัก BOS แล้ว BC จะเหลือถือหุ้นในสัดส่วนหุ้นอยู่ที่ 26% โดยโครงการดังกล่าวมีมูลค่ารวมอยู่ที่ 420 ล้านบาท มองว่า ด้วยศักยภาพของโรงแรมไอบิส เชียงใหม่ นิมมาน เจอร์นีย์ฮับ ภายใต้การออกแบบสไตล์ร่วมสมัย (Contemporary) ผสมผสานกันจนเกิดเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยจำนวนห้องพัก 143 ห้อง ตั้งอยู่ใกล้กับย่านนิมมานเหมินทร์ แหล่งไลฟ์สไตล์สุดฮิปของเมืองเชียงใหม่ ถนนเส้นหลักจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวที่รักการช้อปปิ้ง และดื่มด่ำบรรยากาศในย่านเมืองเก่าที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวทั้งไทยและเทศต่างหลงใหล ซึ่งสร้างความเชื่อมั่นแก่นักลงทุนในการเข้ามาลงทุน สร้างกระแสเงินสดที่ดี อย่างไรก็ดี จากความสำเร็จการปิดดีลโครงการนี้ นับเป็นโครงการที่ 2 ของปี 2567 ซึ่งจะมีการบุ๊คกำไรเข้ามาสนับสนุนให้แนวโน้มไตรมาส 3 BC มั่นใจจะเป็นอีกไตรมาสที่สามารถเทิร์นอะราวด์ได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งในช่วงปลายปี ธุรกิจกลุ่ม Hospitality เข้าสู่ไฮซีซั่นในการเติบโต คาดจะสนับสนุนให้ปิดผลงานพลิกทำกำไรได้อย่างแข็งแกร่ง

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011