หุ้นวิชั่น - AWC โชว์ผลงานปี 2567 เติบโตแข็งแกร่ง สร้าง 5 สถิติสูงสุดใหม่ กำไรสุทธิ 5,850 ล้านบาท โต 14.6% YoY ดัน RevPAR พุ่ง 14.8% สูงกว่าตลาด พร้อมปันผลหุ้นละ 0.075 บาท เพิ่มขึ้น 50% ผู้ถือหุ้นรับทรัพย์ 2,400 ล้าน!
บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) หรือ AWC ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2568
ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ดังนี้
1. มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 ของบริษัทฯ (“ที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ”) เพื่อพิจารณาอนุมัติงบการเงินของบริษัทฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2567 ซึ่งผ่านการตรวจสอบโดยผู้สอบบัญชีรับอนุญาตและได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจสอบแล้ว
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานโดยสรุปมีดังต่อไปนี้
• บริษัทฯ มีผลประกอบการเติบโตแข็งแกร่งต่อเนื่องในปี 2567 พร้อมสร้าง 5 สถิติสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ จากการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและกลยุทธ์การลงทุนที่แข็งแกร่ง ได้แก่
1. กำไรสุทธิ 5,850 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 14.6 เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน (YoY)
2. กำไรจากการดำเนินงานกลุ่มธุรกิจ (BU EBITDA) 11,965 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 11.9 (YoY)
3. รายได้เฉลี่ยต่อวัน (Average Daily Rate: ADR) 5,873 บาทต่อคืน เติบโตร้อยละ 3.8 (YoY)
4. รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) 4,200 บาทต่อคืน เติบโตร้อยละ 14.8 (YoY) สูงกว่าค่าเฉลี่ยของตลาด
5. อัตราผลตอบแทนกำไรจากการดำเนินงานต่อทรัพย์สินถาวร (EBITDA Yield) ของทรัพย์สินดำเนินงานเติบโตสู่ร้อยละ 10.1
โดยมีมูลค่าทรัพย์สินถาวรรวมเติบโตเท่าตัวภายใน 5 ปี สู่มูลค่า 198,726 ล้านบาท
บริษัทฯ ดำเนินกลยุทธ์ GROWTH-LED Strategy และพัฒนาโครงการคุณภาพร่วมกับพันธมิตรระดับโลกเพื่อสร้าง AWC’s Lifestyle Destination ในเมืองท่องเที่ยวสำคัญทั่วไทย
• กลุ่มธุรกิจโรงแรม เดินหน้าสร้างกระแสเงินสดอย่างก้าวกระโดด โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ของกลุ่มธุรกิจโรงแรมและบริการ
เติบโตร้อยละ 31 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY) จากผลประกอบการที่เติบโตโดดเด่นในทุกเซกเมนต์ และยังสร้างการเติบโตเหนือกว่าตลาดในหลายมิติ ได้แก่
• อัตราการเข้าพักอยู่ที่ร้อยละ 72 เติบโตแข็งแกร่งร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
• รายได้เฉลี่ยต่อห้องพัก (RevPAR) อยู่ที่ 4,200 บาท เติบโตร้อยละ 14.8 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
• มีดัชนีการสร้างรายได้ (Revenue Generation Index หรือ RGI) สูงกว่าค่าเฉลี่ยตลาด โดยเฉพาะ
o โรงแรมกลุ่มรีสอร์ตระดับลักซ์ชัวรีที่มีค่า RGI อยู่ที่ 123
o โรงแรมในกรุงเทพฯ ที่มีค่า RGI อยู่ที่ 119
• กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อการพาณิชย์ เติบโตได้ดี โดยยังคงสร้างกระแสเงินสดที่มั่นคงควบคู่กับการเติบโตต่อเนื่อง
• มีกำไรจากการดำเนินงาน (EBITDA) ของกลุ่มธุรกิจคอมเมอร์เชียลเติบโตร้อยละ 12 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
• มียอดปล่อยพื้นที่เช่าใหม่มากกว่า 34,000 ตารางเมตร (ย้อนหลัง 12 เดือน) เพิ่มขึ้นร้อยละ 15 เมื่อเทียบกับปีก่อน (YoY)
• บริษัทฯ มุ่งยกระดับธุรกิจอาคารสำนักงานสู่แนวคิด “Lifestyle Workplace Destination”
• มุ่งพัฒนาศูนย์การค้าด้วยประสบการณ์ “Lifestyle Retail Destination”
• เปิดตัว "ฟีนิกซ์" ศูนย์กลางด้านอาหารครบวงจรระดับโลก ใจกลางย่านประตูน้ำ
2. มีมติให้เสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นของบริษัท เพื่อพิจารณาอนุมัติการจัดสรรกำไรสุทธิเพื่อเป็นทุนสำรองตามกฎหมายเป็นจำนวนประมาณ 180 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 5 ของกำไรสุทธิจากงบการเงินเฉพาะกิจการ และพิจารณาอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลประกอบการที่ปรากฏตามงบการเงินรวม ประจำปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.075 บาท รวมเป็นเงินจำนวนประมาณ 2,400 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้น ร้อยละ 50 เมื่อเทียบกับปีก่อน หากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 มีมติอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลดังกล่าว
• วันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผล (Record Date): 9 พฤษภาคม 2568
• วันจ่ายเงินปันผล: 28 พฤษภาคม 2568
นอกจากนี้ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) (“บริษัทฯ”) ขอแจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 1/2568ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2568 ดังนี้มีมติอนุมัติการได้มาซึ่งทรัพย์สินของบริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย โดยการเข้าซื้อหุ้นสามัญทั้งหมดในบริษัท เลอคองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด เพื่อให้ได้มาซึ่งโครงการโรงแรมและอาคารสำนักงาน เลอ คองคอร์ด จากนิติบุคคลซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ โดยมีมูลค่ารวมสุทธิประมาณ 4,415.0 ล้านบาท และเงินลงทุนเพื่อใช้ในการพัฒนาโครงการจำนวนประมาณ 4,289.0 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) การเข้าทำรายการนี้คิดเป็นมูลค่าการลงทุนประมาณ 8,704.0 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
นอกจากนี้ มีมติให้บริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อย เข้าลงทุนเพิ่มเติมในบริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัดซึ่งเป็นการซื้อหุ้นสามัญเพิ่มเติมอีกจำนวน 4,900 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 49 ในอัตราหุ้นละ 100 บาท รวมมูลค่า 490,000 บาทจากนิติบุคคลซึ่งไม่เป็นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัทฯ และจัดเงินกู้ผู้ถือหุ้นรวมประมาณ 8,768 ล้านบาท(เงินกู้ผู้ถือหุ้น 64 ล้านบาท และเงินกู้ผู้ถือหุ้นใหม่ 8,704 ล้านบาท)
โดยการเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ทำให้บริษัทฯ และ/หรือบริษัทย่อยเป็นเจ้าของหุ้นสามัญทั้งหมด คิดเป็นร้อยละ100 ในบริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้ เดเวลอปเมนท์ จำกัด และจะดำเนินการให้บริษัทดังกล่าวเป็นผู้เข้าลงทุนในบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด การเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้จะมีผลให้บริษัท เอดับบลิวซี ฮอสปิทอลลิตี้เดเวลอปเมนท์ จำกัด และบริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด เป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
บริษัท เลอ คองคอร์ด โฮเต็ล จำกัด มีทรัพย์สินครอบคลุม
• อาคารสำนักงานขนาด 45,792 ตารางเมตร
• โรงแรมขนาด 407 ห้อง
ที่ช่วยสร้างกระแสเงินสดได้อย่างทันทีให้กับบริษัทฯ โดยบริษัทฯ มีแผนพัฒนาโครงการนี้ภายใต้ชื่อ Jubilee Prestige Tower ให้เป็นอาคารสำนักงานไลฟ์สไตล์รูปแบบใหม่ และโรงแรมหรูภายใต้แบรนด์ JW Marriottที่บริหารงานโดย แมริออท อินเตอร์เนชันแนล เครือโรงแรมที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งเป็นโครงการที่ตั้งอยู่ใจกลางถนนรัชดาภิเษก โดยมีแผนพัฒนาให้เป็นโมเดล AWC’s Lifestyle Destination ผสมผสาน Wellness และ ประสบการณ์แบบ Bleisure และ Luxury MICE พร้อมเปิดดำเนินการได้เต็มรูปแบบภายใต้แบรนด์ใหม่ภายในปี 2571การเข้าทำรายการดังกล่าว เข้าข่ายเป็น รายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่มีขนาดรายการเล็ก ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ. 20/2551 เรื่อง หลักเกณฑ์ในการทำรายการที่มีนัยสำคัญที่เข้าข่ายเป็นการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ (รวมทั้งที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติม) และประกาศคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เรื่อง การเปิดเผยข้อมูลและการปฏิบัติการของบริษัทจดทะเบียนในการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์ พ.ศ. 2547 (รวมทั้งที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม) (รวมเรียกว่า “ประกาศเรื่องรายการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์”) บริษัทฯ จึงไม่มีหน้าที่ต้องเปิดเผยสารสนเทศต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยตามประกาศเรื่องการได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งสินทรัพย์