ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#AMATA


AMATA เป้าขายที่ดินพุ่ง หนุนกำไรโต โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 33.50 บ.

AMATA เป้าขายที่ดินพุ่ง หนุนกำไรโต โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 33.50 บ.

             หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี ระบุ AMATA ปรับเป้ายอดขายที่ดินขึ้น 75% เป็น 3,500 ไร่ปีนี้ โดยปรับเป้ายอดขายที่ดินในประเทศไทยขึ้นจาก 1,500 เป็น 2,500 ไร่, เพิ่ม 500 ไร่ในลาว และคงยอดขาย 500 ไร่ในเวียดนาม การปรับเป้านี้บ่งชี้ถึงความเชื่อมั่นที่แข็งแกร่งต่อแนวโน้มนิคมอุตสาหกรรม สนับสนุนจากอุปสงค์จำนวนมากและการเจรจาขายที่ดินแปลงใหญ่หลายราย (มีดีลที่มีโอกาสปิดการขายระดับกลางถึงสูงมากกว่า 1,000 ไร่) เป้าใหม่นี้สูงกว่าประมาณการของเราที่ 2,562 ไร่ ซึ่งแสดงถึงอัพไซด์ เราคงประมาณการกำไรเติบโต 18% ในปีนี้ ราคาหุ้นไม่แพง โดยซื้อขายที่ -1SD ของ PER ปี FY25F (8.1 เท่า) และ PBV (1 เท่า) เราคงคำแนะนำ ซื้อ ปรับเพิ่มเป้ายอดขายที่ดินเป็น 3,500 ไร่ ในปี 2025              ยอดขายที่ดินจะเติบโต 16% yoy สนับสนุนจากการปรับเป้ายอดขายที่ดินเพิ่มขึ้นเป็น 2,500 ไร่ในประเทศไทย (จากเดิม 1,500 ไร่) การเพิ่ม 500 ไร่ในลาว (Amata Smart & Eco City Namor) และคงยอดขาย 500 ไร่ในเวียดนาม เป้าหมายนี้ได้รับการสนับสนุนจากสต๊อกที่ดินจำนวนมาก 13,086 ไร่ ซึ่งประกอบด้วย 1,739 ไร่ที่พร้อมขาย ณ สิ้นปี 2024 และที่ดินรอการพัฒนาอีก 11,347 ไร่ นอกจากนี้ยังพบว่ามีลูกค้ากลุ่ม EV, PCB, ศูนย์ข้อมูล, การแปรรูปอาหาร และพลังงานหมุนเวียนให้ความสนใจอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทฯ กำลังเจรจากับลูกค้าที่มีโอกาสปิดการขายระดับกลางถึงสูงจำนวนมากกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งรวมถึง 500-600 ไร่สำหรับพัฒนาศูนย์ข้อมูล ณ วันที่ 10 มีนาคม บริษัทฯ มียอดขายมากกว่า 300 ไร่ แล้ว (200+ ไร่ในไทย และ 138 ไร่ในเวียดนาม) นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนซื้อที่ดิน และพัฒนาโครงการมูลค่า 7 พันล้านบาทในปีนี้ ซึ่งการปรับเป้าครั้งนี้บ่งชี้ถึงอุปสงค์ที่ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งน่าจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นของนักลงทุนและลดความกังวลลงได้ นิคมใหม่ Amata Smart & Eco City Namor in Laos              บริษัทกำลังพัฒนาโครงการ Amata Smart and Eco City Namor เฟส 1 (6,000 จาก 130,000 ไร่) ซึ่งอยู่ห่างจากจีนเพียง 40 กม. และอยู่ติดกับสถานีรถไฟความเร็วสูง Namor ซึ่งจะเชื่อมต่อลาวกับโลกผ่านโครงการ Belt & Road Initiative (BRI) โดยโครงการนี้จะเหมาะกับอุตสาหกรรมอาหาร เกษตรกรรม และโลจิสติกส์ โดยมีกำหนดเปิดตัวในช่วง ปลายปี 2025 คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท              เป้ายอดขายที่ดินใหม่สูงกว่าประมาณการของเราที่ 2,562 ไร่ ซึ่งหมายถึงอัพไซด์จากประมาณการของเรา เราคงประมาณการกำไร FY25F ที่ 18% yoy เป็น 3 พันล้านบาท โดยมียอดรอรับรู้รายได้จำนวนมากถึง 2.12 หมื่นล้านบาท (1.94 หมื่นล้านบาทในประเทศไทยและ 1.8 พันล้านบาทในประเทศเวียดนาม) สนับสนุนจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่ง AMATA มีแผนปรับราคาขายขึ้น 5-10% ปีนี้ ซึ่งจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทมีแผนที่จะจดทะเบียนธุรกิจสาธารณูปโภค Amata Utility ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในปีนี้ ณ ราคาปิดล่าสุด หุ้นของบริษัทซื้อขายที่มูลค่าไม่แพงที่ 8.1 เท่าของ PER และ 1 เท่าของ PBV สำหรับปี FY25F ซึ่งคิดเป็น -1SD

AMATA เด้ง 0.40 บาท เล็งขายที่ดิน 3,500 ไร่

AMATA เด้ง 0.40 บาท เล็งขายที่ดิน 3,500 ไร่

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน ราคาหุ้น บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ปรับตัวเพิ่ม +0.40 บาท หรือ +1.90% อยู่ที่ 21.40 บาท รับแผนลงทุนปี 2568 โดยบริษัทเตรียมงบลงทุนในไทยไว้ไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่และพัฒนาที่ดินรองรับการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรม โดยพื้นที่นิคมฯในแต่ละแห่งตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทางด้านการค้าที่สำคัญ            อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มอมตะมีสถานการเงินที่แข็งแกร่ง โดยสิ้นปี 67 มีกระแสเงินสดประมาณ 5 พันล้านบาท และยอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอนอยู่จำนวนมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท สำหรับในปี 2568 ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ดินทั้งในไทยและต่างประเทศ 3,500 ไร่ เติบโตจากปีก่อนมากกว่า 15% โดยเฉพาะในเวียดนามที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ทั้งญี่ปุ่น จีน เกาหลี และยุโรป เป็นต้น

AMATA เป้าขายที่ดิน 3.5 พันไร่ โต15%

AMATA เป้าขายที่ดิน 3.5 พันไร่ โต15%

      หุ้นวิชั่น#AMATA คาดว่าจะมีการลงทุนในประเทศไทยกว่า 7 พันล้านบาท ขยายพื้นที่และพัฒนาระบบสาธารณูปโภค ไม่นับรวมถึงการลงทุนพลังงานสะอาดและโครงการใหม่ที่เกี่ยวข้องเพื่อปั้นฐานการผลิตเสริมแกร่ง 3 ประเทศต่อเนื่อง ทั้งไทย เวียดนาม และปีนี้พร้อมเปิดขายพื้นที่ นิคมอมตะ ซิตี้ นาหม้อ เขตเศรษฐกิจใหม่ สปป.ลาว ประตูค้าเชื่อมไทย-จีน ตั้งเป้ายอดขายที่ดินกลุ่มอมตะเติบโตกว่า 15%ทั้งในไทยและต่างประเทศ 3,500 ไร่ นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า ปี 2568 เป็นปีที่มีความท้าท้าย จากปัจจัยต่างๆ ทั้งภายในประเทศที่เศรษฐกิจไทยยังฟื้นตัวช้า ปัญหาค่าครองชีพ และหนี้ครัวเรือน และปัจจัยภายนอกประเทศ อย่างภาวะเศรษฐกิจโลก ความขัดแย้งภูมิรัฐศาสตร์ ความไม่แน่นอนของนโยบายการค้าและภาษีของสหรัฐฯ ทำให้เกิดการขยายฐานการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง ไปยังประเทศที่มีศักยภาพ ต้นทุนการผลิตที่ต่ำ และมีความพร้อมทางโครงสร้างพื้นฐาน ดังนั้นกลุ่มอมตะ จึงได้เตรียมความพร้อมในการเพิ่มประสิทธิภาพ การให้บริการด้านสาธารณูปโภค และโครงสร้างพื้นฐานที่ทันสมัย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยเตรียมงบลงทุนในไทยไว้ไม่ต่ำกว่า 7 พันล้านบาท เพื่อขยายพื้นที่และพัฒนาที่ดินรองรับการลงทุนจากภาคอุตสาหกรรม โดยพื้นที่นิคมฯในแต่ละแห่งตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์ทางด้านการค้าที่สำคัญ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันกลุ่มอมตะมีสถานการเงินที่แข็งแกร่ง โดยสิ้นปี 67 มีกระแสเงินสดประมาณ 5 พันล้านบาท และยอดขายที่รอรับรู้รายได้จากการโอนอยู่จำนวนมากกว่า 2 หมื่นล้านบาท สำหรับในปี 2568 ตั้งเป้าหมายยอดขายที่ดินทั้งในไทยและต่างประเทศ 3,500 ไร่ เติบโตจากปีก่อนมากกว่า 15% โดยเฉพาะในเวียดนามที่ได้รับความสนใจจากนักลงทุนอย่างมาก ทั้งญี่ปุ่น จีน เกาหลี และยุโรป เป็นต้น นางสาวเด่นดาว กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับแผนการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในประเทศไทยทั้ง 3 แห่ง ประกอบด้วย นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี ,นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง และนิคมอุตสาหกรรม ไทย- จีนนั้น ทางกลุ่มอมตะจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางด้านพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมตามหลักปรัชญา “ALL WIN” ถือเป็นการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน ด้านนายโอซามู ซูโด รักษาการประธานเจ้าหน้าที่การตลาด บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวในงานแถลงข่าว Outlook 2025 พร้อมจัดกิจกรรมขอบคุณสื่อมวลชน ภายใต้ธีม Eternal Dream ว่ากลุ่มอมตะให้ความสำคัญกับการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซต์ ที่สร้างผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (climate change) ดังนั้นแผนการการดำเนินงานในปี 2568 จึงได้เตรียมความพร้อมในด้านการพัฒนาพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม ทั้งด้านโครงสร้างพื้นฐานและนำนวัตกรรมพลังงานสะอาดที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมาใช้ โดยกลุ่มเป้าหมายสำคัญ ได้แก่ จีน และญี่ปุ่น รวมถึงกลุ่มประเทศแถบยุโรป โดยเฉพาะจีนยังมีทิศทางของการย้ายฐานการลงทุนต่อเนื่อง เป็นผลมาจากมาตรการการขึ้นภาษีของ สหรัฐฯ ทำให้ผู้ประกอบการจีนมีการวางแผนย้ายฐานการผลิต เพื่อการบริหารความเสี่ยงด้านต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น “ด้วยระบบ Supply Chain และสาธารณูปโภคที่ทันสมัย รวมถึงความมั่นคงด้านพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสิทธิประโยชน์จากนโยบายการส่งเสริมการลงทุนของภาครัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ทำให้กลุ่มอมตะได้รับความสนใจจากนักลงทุน โดยเฉพาะใน 5 อุตสาหกรรมเป้าหมายหลักตามนโยบายของรัฐบาล ได้แก่ 1. อุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) และชิ้นส่วน2. อุตสาหกรรมเซมิคอนดักเตอร์และอิเล็กทรอนิกส์ขั้นสูง แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์ (PCB)3.อุตสาหกรรมดิจิทัล Data Center และ Cloud Region 4. อุตสาหกรรมอาหารแห่งอนาคต และ 5. อุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียน” นายซูโดกล่าว นายวรงค์ ตังประพฤทธิ์กุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท อมตะซิตี้ ลาว จำกัด กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ในนิคมอุตสาหกรรม อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ในสปป.ลาว ปัจจุบันมีทั้งหมด 20,000 ไร่ เป็นที่ดินที่พร้อมพัฒนาแล้ว จำนวน 5,600 ไร่ ซึ่งนิคมฯดังกล่าวถือว่าเป็นเขตเศรษฐกิจแห่งใหม่ของสปป.ลาวที่กลุ่มอมตะได้นำนวัตกรรมที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมาพัฒนาและจะผลักดันให้เป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี เพื่อเป็นประตูการค้าสู่ประเทศจีนตอนใต้ โดยอาศัยเส้นทางรถไฟความเร็วสูงลาว-จีนเนื่องจากนิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวอยู่ห่างจากชายแดนจีนเพียง40กิโลเมตร ล่าสุด ทางนิคมอุตสาหกรรม อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ในสปป.ลาวได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนสูงสุดในภูมิภาค และสิทธิการส่งเสริมการลงทุนของนักลงทุน โดยการได้รับยกเว้นภาษี 30 ปี สำหรับผู้ลงทุนใน 7 ปีแรกที่ครอบคลุมอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ด้านการเกษตร เพื่อสนับสนุนการใช้วัตถุดิบภายในให้มีมูลค่ามากขึ้น,อุตสาหกรรมผลิตอุปกรณ์พลังงานทดแทน,อุตสาหกรรมผลิตยานยนต์และอาหาร,อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งแนวทางการพัฒนาของกลุ่มอมตะในลาวนำไปสู่การพัฒนาเป็นเมืองที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในระยะยาว ที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของ สปป.ลาว และภูมิภาคในอนาคต

AMATA คาดปีนี้กำไรแกร่ง Backlog นิวไฮ โบรกแนะซื้อ เคาะพื้นฐาน 33 บ.

AMATA คาดปีนี้กำไรแกร่ง Backlog นิวไฮ โบรกแนะซื้อ เคาะพื้นฐาน 33 บ.

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล. แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุ AMATA ตั้งเป้ายอดขายที่ดินปีนี้ Conservative 2 พันไร่ (vs. 3 พันไร่ปีที่แล้ว) แต่คาดจะมี Upside จากการขายที่ดินแปลงใหญ่ Data Center และการเริ่มขายที่ดินในลาว 2H68F           คาดกำไรปีนี้แข็งแกร่งต่อเนื่อง จาก Backlog สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 2.1 หมื่นลบ. ซึ่งจะหนุนยอดโอนที่ดิน รวมถึงคาดมาร์จิ้นเพิ่มขึ้นจากการปรับขึ้นราคาขายที่ดิน           ราคาหุ้นปัจจุบันต่ำกว่ามูลค่าบัญชี และ P/E 9x           แนวรับ = 20.8/21 แนวต้าน = 22.3/22           AMATA | ซื้อ | TP = 33 บ.

abs

ปตท. แข็งแกร่งร่วมกับสังคมไทย และเติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน

AMATA เป้าขายที่ดิน 2 พันไร่ ตุน Backlog 2.1 หมื่นล้านบาท

AMATA เป้าขายที่ดิน 2 พันไร่ ตุน Backlog 2.1 หมื่นล้านบาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด สรุปสาระสำคัญงาน Opportunity Day ของ AMATA Event ► ปี 2024 บริษัทฯ ทำยอดขายที่ดิน 3.0 พันไร่ (+63% YoY) ส่วนใหญ่มาจากกลุ่มเทคโนโลยี เช่น Electronics, Automotive Supply Chain และ Data Center จากประเทศจีนและไต้หวัน ส่วนการโอนที่ดิน 1.9 พันไร่ (+143% YoY) มีสัดส่วนพื้นที่ในนิคมชลบุรีที่มี GPM สูงเพียง 7% (จาก 16% ในปี 2023) ขณะที่นิคมระยองมีสัดส่วนมากกว่า 68% และเวียดนาม 25% ทำให้ GPM รวมของปี 2024 อยู่ที่ 34% (-527 bps YoY) ► บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายที่ดินปี 2025 แบบ Conservative ขั้นต่ำที่ 2.0 พันไร่ และมีโอกาสปรับเป้าขึ้นระหว่างปีเหมือนกับปี 2024 (ปี 2024 เป้าแรก 1.8 พันไร่ จบปีที่ 3.0 พันไร่) โดยความต้องการที่ดินยังเข้ามาต่อเนื่อง ทรงตัว YoY ซึ่งปัจจุบันบริษัทฯ อยู่ระหว่างเจรจากับลูกค้ากลุ่ม Electronics และ Data Center มากกว่า 1.0 พันไร่ ► 1QTD บันทึกยอดขายที่ดิน 200-250 ไร่ แม้อยู่ในระดับที่ไม่สูงมากนัก อย่างไรก็ตาม ช่วง Q1 เป็น Low Season ของการขายที่ดิน และลูกค้าชาวจีนมักจะเข้ามาหลังตรุษจีน (Q2 เป็นต้นไป) ► การปรับราคาขายที่ดินในปี 2025 YTD มีการปรับราคาขายที่ดินนิคมฯ ระยองราว +10% ขณะที่ชลบุรีทรงตัว YoY ► ปัจจุบันมี Backlog มูลค่ารวมกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท บริษัทคาดว่าจะโอนได้ภายในปี 2025 ไม่ต่ำกว่า 50% และคาดว่า GPM การโอนจะเพิ่มขึ้น YoY จากการโอนที่ดินในชลบุรีที่ GPM สูงเพิ่มขึ้น Our Take ► เราคาดว่ายอดขายและยอดโอน 1Q25 ลดลง QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล แต่คาดว่ายอดโอนเติบโต YoY และยอดขายทรงตัว YoY โดยความต้องการที่ดินยังอยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะจากกลุ่ม Electronics และ Data Center ที่ติดต่อเข้ามาดูพื้นที่ ซึ่งสอดคล้องกับยอดขอส่งเสริมการลงทุนจาก BOI ใน 4Q24 ที่เพิ่มขึ้นเด่น YoY ► ส่วนทั้งปี 2025 คาดว่ากำไร +3% YoY ทำ New High จาก Backlog ที่แน่นกว่า 2.1 หมื่นล้านบาท (+48% YoY) (ไทย 1.9 หมื่นล้านบาท) โดยภายในปีคาดว่าจะโอนที่ดินในไทยได้ราว 1.0 หมื่นล้านบาท และมี Upside หากการขายที่ดินใหม่ในปีนี้สามารถส่งมอบได้เร็วขึ้น ► Valuation ปัจจุบัน PER25 อยู่ที่เพียง 9.8 เท่า เทียบเท่ากับ -1.5 SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี นอกจากนี้ เงินปันผล 2H24 คิดเป็น Dividend Yield 2.3% ► คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท

AMATA เป้าขายที่2พันไร่ นิคมไทยยังแข็งแกร่ง

AMATA เป้าขายที่2พันไร่ นิคมไทยยังแข็งแกร่ง

           หุ้นวิชั่น - AMATA เชื่อประเทศไทยยังโอกาสดึงนักลงทุน ตั้งเป้าขายที่ดิน 2,000 ไร่ ในปี 2568 ชูจุดแข็งฐานลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมแผนลงทุน 7,000-8,000 ล้านบาท เผยมียอดขายที่ดินรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) มูลค่ารวม 21,203 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ประมาณ 50% ในปี 2568            นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า สำหรับปี 2568 บริษัทฯ คาดการณ์ผลการดำเนินงานจะเติบโตต่อเนื่องจากปีที่ผ่านมา โดยมาจากรายได้จากการให้บริการ รายได้ค่าสาธารณูปโภคที่เพิ่มขึ้นตามฐานลูกค้าภายในนิคมอุตสาหกรรมที่ขยายตัว และรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอย่างต่อเนื่อง            บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในปี 2568 ไว้ที่ 2,000 ไร่ ปัจจุบันสามารถทำยอดขายได้แล้วกว่า 200 ไร่ในประเทศไทย และ 138 ไร่ในเวียดนาม โดยรายได้ที่เติบโตในปีที่ผ่านมา ส่วนใหญ่ได้รับแรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูล (Data Center) เซมิคอนดักเตอร์ (Semiconductor) ในขณะที่อุตสาหกรรมยานยนต์มีการชะลอตัวเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสองปีก่อน ทั้งนี้ กลุ่มลูกค้าหลักยังคงเป็นนักลงทุนจากประเทศจีน ราคาที่ดินในพื้นที่จังหวัดชลบุรีคาดว่าจะคงที่เทียบเท่าปีที่ผ่านมา ขณะที่จังหวัดระยองมีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้นประมาณ 10% สำหรับข้อตกลงปัจจุบันเป็นการดำเนินการเฉพาะในประเทศไทย ขณะที่ในเวียดนามยังไม่มีการทำสัญญาใหม่ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนขยายพื้นที่บ่อน้ำและตั้งเป้าใช้น้ำจากแหล่งของตัวเองเป็นหลักในอนาคต            แนวโน้มการลงทุนในปี 2568 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 โดยบริษัทฯ มองว่าปีนี้เป็นปีแห่งโอกาสสำหรับประเทศไทยในการดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากภูมิรัฐศาสตร์สงคราม การค้า และการกีดกันทางเทคโนโลยีที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้นักลงทุนต้องเร่งเคลื่อนย้ายฐานการผลิตเพื่อลดความเสี่ยง โดยประเทศไทยมีความพร้อมและศักยภาพในหลายด้าน จึงกลายเป็นจุดหมายการลงทุนที่มั่นคงและปลอดภัยในภูมิภาค            สำหรับปี 2568 บริษัทฯ วางงบลงทุนไว้ที่ 7,000 – 8,000 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าปีที่ผ่านมาเล็กน้อย โดยตั้งเป้าโอนยอดขายไม่ต่ำกว่า 50% ของยอดคงค้าง ปัจจุบันบริษัทฯ มีที่ดินพร้อมขายรวมทั้งสิ้น 16,867 ไร่ แบ่งเป็นที่ดินในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ชลบุรี 12,614 ไร่ และในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ ระยอง 4,254 ไร่            ด้านยอดขายที่ลดลงในไตรมาสสุดท้ายของปี 2567 เนื่องจากประเทศเวียดนามประสบปัญหาน้ำท่วม แต่สถานการณ์ได้กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ปัจจุบันบริษัทฯ มียอดขายที่ดินรอโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) มูลค่ารวม 21,203 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถโอนกรรมสิทธิ์ได้ประมาณ 50% ในปี 2568 และส่วนที่เหลือจะทยอยโอนในปีถัดไป            นอกจากนี้ บริษัทฯ มุ่งเน้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตามแผนพัฒนาของสหประชาชาติ ด้วยการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการใช้พลังงานหมุนเวียน โดยตั้งเป้าลดการปล่อยคาร์บอนทางตรงและทางอ้อมลง 30% และตั้งเป้าเป็นเมืองที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ (Carbon Neutral City) ภายในปี 2583            สรุปผลการดำเนินงานปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้รวม 14,901 ล้านบาท เติบโต 54% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิหลังหักส่วนได้เสียจากการถือหุ้น 2,483 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% และมีกำไรจากการลงทุนในบริษัทร่วม 959 ล้านบาท ลดลง 10% นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังสามารถโอนที่ดินทั้งหมดได้ 1,912 ไร่ โดยมีมูลค่าที่ดินรอโอน (Backlog) มูลค่ารวม 21,203 ล้านบาท สะท้อนถึงการเติบโตของบริษัทฯ อย่างแข็งแกร่ง

AMATA จับตาขายที่ดินเวียดนาม แนะ “ซื้อ” - เป้า 33.50 บาท

AMATA จับตาขายที่ดินเวียดนาม แนะ “ซื้อ” - เป้า 33.50 บาท

           หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) ระบุถึง AMATA ว่า ยอดขายในเวียดนามจะดีขึ้น AMATAV (AMATA ถือหุ้น 73%) ตั้งเป้ายอดขายที่ดินเติบโต 30-40% yoy เป็น 100-110 เฮกตาร์ โดย Halong จะมีส่วนแบ่งยอดขายที่ดิน 60-70% แต่ Long Thanh จะมีมูลค่าขายมากกว่าคิดเป็น 50% ของมูลค่าการขายทั้งหมด หนุนจากราคาขายที่สูงกว่าเป็นสองเท่า เราคงประมาณการยอดขายที่ดินของ AMATA ที่ 2,562 ไร่ และกำไรเติบโต 18% ในปีนี้ ราคาหุ้นไม่แพง โดยซื้อขายที่ -1SD สำหรับ PER (8.1 เท่า) และ PBV (1 เท่า) สำหรับปี 2025 เราคงคำแนะนำ “ซื้อ” ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในเวียดนามเติบโต AMATAV ตั้งเป้ายอดขายที่ดินในเวียดนามเพิ่มขึ้น 30-40% เป็น 100-110 เฮกตาร์ (625-689 ไร่) ปีนี้ โดย AMATAV คาดว่ายอดขายใน Halong 60-70% และยอดขายที่เหลืออีก 30-40% ใน Long Thanh อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ คาดว่า Long Thanh จะมีมูลค่าขายมากกว่าที่ 50% เนื่องจากราคาขายใน Long Thanh สูงกว่า Halong (180-200 เหรียญสหรัฐต่อตร.ม. หรือ 10-11 ล้านบาทต่อไร่สำหรับ Long Thanh เทียบกับ 100 เหรียญสหรัฐต่อตร.ม. หรือ 5.5 ล้านบาทต่อไร่สำหรับ Halong) บริษัทฯ ได้เซ็นสัญญาที่ดิน 22 เฮกตาร์ (138 ไร่) ใน Halong แล้ว โดยคาดว่าจะโอนกรรมสิทธิ์ได้ภายใน 1H25 เป้ายอดขายที่ดินของ AMATAV สูงกว่าเป้ายอดขายที่ดินในเวียดนามของ AMATA ซึ่งตั้งเป้าไว้ 500-600 ไร่ (เป้าหมายการขายที่ดินรวมของ AMATA อยู่ที่ 1,800-2,000 ไร่ ต่ำกว่าที่ประมาณการของเราที่ 2,562 ไร่) อัตรากำไรขั้นต้นในเวียดนามจะดีขึ้น เนื่องจาก (i) ราคาขายของ Halong จะปรับเพิ่มขึ้น 15% และ (ii) สัดส่วนยอดขายที่ดินใน Long Thanh เพิ่มขึ้น ซึ่งมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงกว่า (เดิมสัดส่วนเพียง 7% ของยอดขายรวมเป็น 30-40%) การปฏิรูประบบราชการของเวียดนามส่งผลดีต่อภาคนิคมอุตสาหกรรมเวียดนามกำลังปฏิรูประบบราชการโดยการรวมกระทรวงต่างๆ เข้าด้วยกันเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและลดการซ้ำซ้อน หากเป็นไปด้วยดี การปฏิรูปจะช่วยให้ระบบราชการของเวียดนามมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดการทุจริต และสนับสนุนเป้าหมายที่จะเป็นเศรษฐกิจที่มีรายได้สูงภายในปี 2045 ซึ่งจะสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออำนวยมากขึ้นสำหรับภาคนิคมอุตสาหกรรม เราเชื่อว่าการดำเนินงานของ AMATAV จะดีขึ้นหลังจากการปฏิรูปเสร็จสิ้น แม้ว่าจะมีสะดุดบ้างในระยะสั้น คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท เราคงประมาณการกำไรเติบโต 18% yoy ปีนี้ เป็น 3 พันล้านบาท โดยมี backlog มากถึง 2.12 หมื่นล้านบาท (ไทย 1.94 หมื่นล้านบาท เวียดนาม 1.8 พันล้านบาท) AMATA มีแผนจะปรับราคา ขึ้น 5-10% ในปีนี้ ซึ่งน่าจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น นอกจากนี้ บริษัทมีแผนที่จะนำธุรกิจสาธารณูปโภคเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ปีนี้ ณ ราคาปิดล่าสุด บริษัทซื้อขายที่มูลค่าไม่แพงที่ 8.1 เท่าสำหรับ PER และ 1 เท่าสำหรับ PBV ของปี 2025 ซึ่งอยู่ที่ -1SD ของค่าเฉลี่ยในอดีต

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

AMATA กำไรQ4เกินคาด อนาคตเชิงบวก-เป้า 36 บ.

AMATA กำไรQ4เกินคาด อนาคตเชิงบวก-เป้า 36 บ.

          หุ้นวิชั่น - ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่าในไตรมาส 4/67 AMATA ทำกำไรสุทธิได้ 1.02 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 33.7% qoq และ 49.8% yoy สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯ และ Bloomberg consensus 21.3% และ 18% เนื่องจากมี SG&A และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ต่ำกว่าคาด แต่อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จากการขายที่ดินและรายได้ค่าสาธารณูปโภคต่ำกว่าคาดจึงหักล้างผลดีบางส่วน           AMATA ยังบันทึกกำไรจากการขายอสังหาฯ เพื่อการลงทุน 44.2 ล้านบาทในไตรมาส 4/67 ดังนั้น กำไรสุทธิปี 67 จึงเติบโต 31.7% yoy เป็น 2.48 พันล้านบาท คิดเป็น 107.8% ของประมาณของฝ่ายวิเคราะห์ฯ ซึ่งมาจากการเพิ่มขึ้นของยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและรายได้ประจำจากธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและธุรกิจให้เช่า           โดยยอดโอนกรรมสิทธ์ที่ดิน เพิ่มเป็น 1,147 ไร่ มีรายได้จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้นถึง 114.4% qoq และ 190% yoy เป็น 4.75 พันล้านบาท จากการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 1,147 ไร่ในไตรมาส 4/67 เทียบจากเพียง 452 ไร่ในไตรมาส 3/67 และ 303 ไร่ในไตรมาส 4/66 แต่ GPM จากการขายที่ดินลดเหลือ 33.6% จาก 38.3% ในไตรมาส 3/67 และ 42.7% ในไตรมาส 4/66 เนื่องจากบริษัทโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจากโครงการ Amata City Halong เพิ่มขึ้น ซึ่งมี GPM เพียง 15.8%           ในปี 67 AMATA มียอดขายที่ดินใหม่เพิ่มเป็น 3,018 ไร่ (ไทย 2,550 ไร่ , เวียดนาม 469 ไร่) ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่นับตั้งแต่ปี 56 และมียอดโอนกรรมสิทธิ์รวม 1,912 ไร่ ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน นอกจากนี้ ยอด backlog สิ้นปี 67 ยังเพิ่มขึ้น 48.4% yoy เป็น 2.12 หมื่นล้านบาท (ไทย 1.94 หมื่นล้านบาท, เวียดนาม 1.8 พันล้านบาท)           ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า ยังคงประมาณการยอดขายที่ดินใหม่ในปี 68 อยู่ที่ 2,300 ไร่และยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินอยู่ที่ 2,157 ไร่ โดย AMATA คาดว่า backlog ในไทยอย่างน้อยครึ่งหนึ่งหรือ 9.7 พันล้านบาทจะรับรู้เป็นรายได้ภายในปีนี้ ซึ่งสามารถประกันรายได้จากการขายที่ดิน 86.9% ของประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯ ขณะที่คาดว่า AMATA จะมีกำไรจากการดำเนินงานปกติเติบโตแข็งแกร่ง 21.1% yoy ในปีนี้ จากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายที่ดิน, รายได้ประจำจากค่าสาธารณูปโภคและค่าเช่า รวมถึง GPM           ฝ่ายวิเคราะห์ฯ ยังคาดว่า ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในปีนี้จะเพิ่มเป็น 2,157 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาจากนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี 2 ที่จะเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินในปีนี้ ส่วน GPM จากการขายที่ดินน่าจะเพิ่มเป็น 43.4% เทียบจาก38.2% ในปี 67 จากยอดโอนที่ดินที่เพิ่มขึ้นจากนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี 1และ 2 ซึ่งมี GPM สูงถึง 65% และ 50% ตามลำดับ           ปรับประมาณการ EPS ปี 68-69 ขึ้น 4.8-6.3% หลังปรับสมมติฐานสำคัญคือรายได้ค่าสาธารณูปโภค, GPM และ SG&A ส่งผลให้ราคาเป้าหมายตามเพิ่มเป็น 36.0 บาท ซึ่งจะเท่ากับ P/E 12.2 เท่าในปี 69 หรือ -0.25SD ของค่าเฉลี่ยห้าปี ยังแนะนำ “ซื้อ” AMATA เพราะมองว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งและ AMATAมีแนวโน้มกำไรสูงในปี 68-69 ยังเป็น top pick           แต่บริษัทอาจมี downside risk หากรัฐบาลเวียดนามส่งมอบที่ดินล่าช้าและการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินช้ากว่าคาด ส่วนปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้น คือ การที่บริษัทมียอดขายที่ดินใหม่และ GPM จากการขายที่ดินสูงกว่าคาด

AMATAกำไรปี 67 โอนที่ดิน 1,912 ไร่ ประเทศไทยยังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

AMATAกำไรปี 67 โอนที่ดิน 1,912 ไร่ ประเทศไทยยังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ

           หุ้นวิชั่น-AMATA โชว์กำไรปี 67 ที่ 2,483 ล้านบาท เติบโต 31% ส่วนรายได้รวม 14,901 ลบ. พุ่ง 53.63% หนุนโดยยอดโอนที่ดิน 1,912 ไร่ ดันรายได้ขายอสังหาฯ โต 87.43% พร้อมรับรู้รายได้ค่าสาธารณูปโภค-ค่าเช่าเพิ่ม มองปี 68 โตต่อเนื่อง ไทยยังเป็นเป้าหมายหลักดึงดูดการลงทุน            นางสาว เด่นดาว โกมลเมศ กรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือAMATA กำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัท 2,483 ล้านบาท เติบโต 31.74% จากปีก่อน 1,884.76 ล้านบาท ขณะที่ กำไรสุทธิสำหรับปี 2567 จำนวน 3,473 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 1,012 ล้านบาท หรือร้อยละ 41.13 จากช่วงเดียวกันของปี 2566 เนื่องจากมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ รายได้ค่าสาธารณูปโภค และรายได้จากการให้เช่าเพิ่มสูงขึ้น            รายได้รวม14,901 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.63% ธุรกิจพัฒนาที่ดินนิคมอุตสาหกรรมในปี 2567 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ จำนวน 9,004 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,200 ล้านบาท หรือ ร้อยละ 87.43 จากปีก่อน ซึ่งมาจากการโอนที่ดินจำนวนทั้งสิ้น 1,912 ไร่ (ไทย: 1,443 ไร่ และ เวียดนาม 469 ไร่)ในขณะที่ปี 2566 มีการโอนที่ดินจำนวน 787 ไร่ (ไทย: 414 ไร่ และ เวียดนาม: 373 ไร่) และมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ร้อยละ 38.18 ปรับตัวลงจากร้อยละ 47.49 เนื่องจากต้นทุนพัฒนาที่ดินในประเทศไทยและค่าก่อสร้างในประเทศเวียดนามปรับตัวสูงขึ้น ธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภค รายได้ค่าบริการสาธารณูปโภคของบริษัทฯ สำหรับปี 2567 จำนวน 4,779 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจำนวน 903 ล้านบาทหรือร้อยละ 23.32 จากปี 2566 เนื่องจากในปี 2567 บริษัทฯ มีรับรู้รายได้จากการให้บริการสาธารณูปโภคเพิ่มขึ้นจากนิคมอุตสาหกรรมในประเทศเวียดนาม ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น ปรับตัวลดลงจากร้อยละ 20.37 ในปี 2566เป็นร้อยละ 16.88 ในปี 2567 เนื่องจากการให้บริการดังกล่าวมีการกำหนดราคาต้นทุนและราคาขายจากทางรัฐบาลเวียดนาม ทำให้บริษัทฯ ไม่สามารถควบคุมอัตรากำไรขั้นต้นดังกล่าวได้ ธุรกิจโรงงานให้เช่าสำเร็จรูปและพื้นที่พาณิชยกรรม บริษัทฯ มีรายได้จากการให้เช่าจำนวน 940 ล้านบาทในปี 2567 เพิ่มขึ้นจำนวน 103 ล้านบาท หรือร้อยละ 12.31เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2566 โดยอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงงานให้เช่าสำเร็จรูปและพื้นที่พาณิชยกรรมอยู่ที่ร้อยละ 76.96 ในปี 2567 แนวโน้มการลงทุนในปี 2568 จะยังคงเติบโตต่อเนื่องจากปี 2567 และยังเป็นปีแห่งโอกาสที่ประเทศไทยจะสามารถดึงดูดการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยมีปัจจัยหนุนที่สำคัญ ได้แก่ ปัจจัยทางภูมิรัฐศาสตร์ สงครามการค้าและการกีดกันทางเทคโนโลยีที่คาดว่าจะทวีความรุนแรงยิ่งขึ้น ซึ่งจะผลักดันให้นักลงทุนต้องเร่งเคลื่อนย้ายฐานการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยง โดยไทยมีความพร้อมและมีศักยภาพในหลาย ๆ ด้าน อีกทั้งมีความสัมพันธ์ที่ดีกับนานาประเทศ สามารถเป็นสะพานเศรษฐกิจเชื่อมโยงซัพพลายเชนให้กับมหาอำนาจขัวต่าง ๆ ได้ นักลงทุนจึงมองไทยเป็นแหล่งลงทุนที่มีความมั่นคงปลอดภัย และมีความโดดเด่นในภูมิภาค

AMATA คาดปี68 กำไรที่ 3,187 ลบ. โบรกแนะซื้อ เป้า 34.00 บาท

AMATA คาดปี68 กำไรที่ 3,187 ลบ. โบรกแนะซื้อ เป้า 34.00 บาท

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.พาย ระบุ AMATA ผลประกอบการงวด 4Q24 ที่คาดว่าจะออกมาสูงถึง 1,251 ล้านบาท ได้รับผลดีจากยอดโอนที่ดินที่มากถึง 1,147 ไร่ หลังจากที่สามารถทำยอดขายทั้งปีได้กว่า 3,000 ไร่ และจากยอดขายที่ดีดังกล่าวทำให้มี Backlog สูงถึง 21,000 ล้านบาทซึ่ง จะเป็นปัจจัยที่หนุนผลประกอบการในปี 25 ทำให้เรามีการปรับกำไรขึ้นจากเดิม 27% มาอยู่ที่ระดับ 3,187 ล้านบาท สำหรับการขายที่ดินในปี 25 AMATA เบื้องต้นคาดไว้ที่ระดับ 2,000 ไร่ แบ่งเป็นที่ไทย 1,500 ไร่ และเวียดนามอีก 500 ไร่ AMATA (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 34.00 บาท)

abs

มุ่งมั่นเป็นผู้นำ เชื่อมโยงทุกโครงข่ายระบบคมนาคมขนส่งอย่างยั่งยืน

AMATAV เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน Amata B.Grimm Power Vietnam Company Limited

AMATAV เข้าซื้อหุ้นเพิ่มทุน Amata B.Grimm Power Vietnam Company Limited

           หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) (AMATAV) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้เข้าจองซื้อหุ้นเพิ่มทุน ของบริษัท Amata B.Grimm Power Vietnam Company Limited (ABPVN) ซึ่งประกอบธุรกิจเกี่ยวกับไฟฟ้า พลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนหลังคา ในประเทศเวียดนาม และถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 100 โดย บริษัท อมตะ บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (ABP) ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) (AMATA) และบริษัท บีกริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) (BGRIMM) โดย ABPVN ได้เพิ่มทุนจดทะเบียน จำนวน 25,621,933,333 เวียดนามดอง (เทียบเท่ามูลค่าประมาณ 33.817 ล้านบาท) และ ABP สละสิทธิการจองซื้อหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บริษัทฯ ทั้งหมด ส่งผลให้สัดส่วนการถือหุ้นใน ABPVN ของบริษัทฯ เท่ากับ ร้อยละ 25 ของทุนจดทะเบียน

AMATA ลุยเมืองอัจฉริยะในลาว

AMATA ลุยเมืองอัจฉริยะในลาว "อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ"

           บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA ภายใต้การนำของนายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัทฯได้เริ่มต้นก่อสร้างโครงการ อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ซึ่งตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ในแขวงอุดมไซ ทางตะวันตกเฉียงเหนือของ สปป.ลาว โดยมีการลงนามในสัญญาสัมปทานกับรัฐบาลลาวผ่านบริษัท อมตะ ซิตี้ ลาว จำกัด เมื่อปี 2565            โครงการดังกล่าวมีเป้าหมายในการพัฒนาเป็นต้นแบบของนิคมอุตสาหกรรมไฮเทคที่ใช้โซลูชั่นอัจฉริยะและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างความยั่งยืนทางเศรษฐกิจในภูมิภาค โดยครอบคลุมพื้นที่กว่า 19,000 ไร่ และเริ่มดำเนินการในเฟสแรกที่ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 6,000 ไร่            อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ติดกับกับสถานีรถไฟลาว-จีนแห่งใหม่ และแนวทางด่วนเพื่อเชื่อมต่อไปประเทศจีนในอนาคต นอกจากนี้ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านการลงทุนสูงสุดในภูมิภาค ทำให้เป็นจุดเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจและการค้าในระดับภูมิภาคที่สำคัญ ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนเริ่มต้นกว่า 500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 17,000 ล้านบาท            นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานกรรมการบริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ถือเป็นก้าวแรกของการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแต่สำหรับ สปป.ลาว แต่ยังเป็นการก้าวสู่อนาคตที่ยั่งยืนของภูมิภาคนี้ โครงการนี้เป็นการสร้างฐานเศรษฐกิจใหม่ที่ผสมผสานการพัฒนาอุตสาหกรรมที่ทันสมัยและเทคโนโลยีขั้นสูง กับการคำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืนเชื่อมั่นว่า อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ จะไม่เพียงแค่เป็นศูนย์กลางการพัฒนาอุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังจะกลายเป็นตัวอย่างของการพัฒนาเมืองในยุคใหม่ ที่สามารถตอบโจทย์ทั้งความต้องการทางเศรษฐกิจและการรักษาสิ่งแวดล้อมได้อย่างลงตัว เรามุ่งมั่นที่จะนำเสนอโมเดลการพัฒนาเมืองที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งสร้างโอกาสทางธุรกิจและการลงทุนที่ยั่งยืนสำหรับทุกคน            ด้านนายสอนประเสริฐ ดาลาวงศ์ หัวหน้าห้องว่าการคุ้มครองและส่งเสริมเขตเศรษฐกิจพิเศษ กระทรวงแผนการและการลงทุน สปป.ลาว กล่าวว่า โครงการนี้เป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของ สปป.ลาว และจะเป็นศูนย์กลางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะที่มุ่งเน้นการเติบโตที่ยั่งยืนด้านนวัตกรรม และการพัฒนาอุตสาหกรรมที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม มั่นใจว่า อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ จะกลายเป็นโครงการที่เป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนาในอนาคต และเป็นเครื่องพิสูจน์ว่าความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนได้ โครงการนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่ยังเป็นโมเดลของการพัฒนาเมืองที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนในระยะยาว ที่จะช่วยส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจของ สปป.ลาว และภูมิภาคในอนาคต            อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อ ถือเป็นการเริ่มต้นใหม่ที่สำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของ สปป.ลาว ด้วยการผสมผสานนวัตกรรมและการคำนึงถึงความยั่งยืน โดยไม่เพียงแต่จะเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาอุตสาหกรรมและเทคโนโลยี แต่ยังเป็นแบบอย่างที่สะท้อนถึงการร่วมมืออย่างมุ่งมั่นระหว่างภาครัฐและเอกชน ที่มุ่งมั่นเพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและมั่งคั่งสำหรับทั้งประเทศและภูมิภาค            ด้วยวิสัยทัศน์และการดำเนินงานที่มุ่งมั่น อมตะ สมาร์ท แอนด์ อีโค ซิตี้ นาหม้อจึงเป็นความหวังใหม่ของ สปป.ลาว ที่จะกลายเป็นแบบอย่างแห่งความสำเร็จในการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและเศรษฐกิจแห่งอนาคตในภูมิภาคนี้

AMATA โบรกจับตายอดโอนแน่น หนุนกำไร Q4/67 โต 42%

AMATA โบรกจับตายอดโอนแน่น หนุนกำไร Q4/67 โต 42%

          หุ้นวิชั่น - บล.กรุงศรี ส่องหุ้น AMATA มองว่าตัวเลขยอดขายที่ดินสูงกว่าคาดการณ์โดย AMATA มียอดขายที่ดินสถิติสูงสุดใหม่ 3,018 ไร่ในปี 2024 ซึ่งรวม 2,549 ไร่ในประเทศไทย ซึ่งนับเป็นส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดในประเทศ         ฝ่ายวิจัยคาดกำไรธุรกิจหลัก 932 ล้านบาทใน 4Q24 เพิ่มขึ้น 42% yoy และ 5% qoq สนับสนุนจากยอดโอนระดับสูงสุดใหม่ที่1,147 ไร่ ซึ่งจะทำให้กำไรธุรกิจหลักทั้งปีอยู่ที่ 2.5 พันล้านบาท (+25% yoy) ซึ่งใกล้เคียงประมาณการของฝ่ายวิจัย           ฝ่ายวิจัยคาดกำไรจะเติบโตต่อเนื่อง 15% yoy เป็น 3 พันล้านบาทในปี FY25F หนุนจาก Backlog ที่ 2.12 หมื่นล้านบาท           ฝ่ายวิจัยคาดเงินปันผลงวดสุดท้าย 0.6 บาท/หุ้น คิดเป็นอัตราผลตอบแทน 2.5% ซึ่งน่าจะเป็นปัจจัยบวกในระยะสั้น คงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท

abs

SSP : ผู้นำด้านพลังงานหมุนเวียน ทางเลือกใหม่เพื่ออนาคต

หุ้นดี ราคาถูก โบรกขอบอก! ชู AMATA - BDMS - BEM

หุ้นดี ราคาถูก โบรกขอบอก! ชู AMATA - BDMS - BEM

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.เอเซียพลัส ระบุ ของถูก ของดี มีมากมาย ในตลาดหุ้นไทย ฝ่ายวิจัยได้นำเสนอให้เห็นถึงความถูกของตลาดหุ้นไทยในหลายแง่มุม ไม่ว่าจะเป็น MARKET EARNING YIELD GAP ที่กว้าง 4.5 – 4.8%, ค่า PER ที่แท้จริงเมื่อตัดภาพลวงตาบางประการออกที่อยู่ในระดับต่ำ รวมถึงหุ้นใน SET 100 ที่ราคาไม่เกิน BOOK VALUE ที่มีมากถึง 40 บริษัท ส่วนในวันนี้ได้เพิ่มชุดข้อมูลอีก 1 ชุด โดยทำ HISTOGRAMของ PBV หุ้น 705 บริษัทในตลาดหุ้นไทย พบว่ามีหุ้นที่ PBV 1 เท่าลงมามากถึง 482 บริษัท ซึ่งในกลุ่มนี้นักลงทุนสามารถคัดกรองบริษัทที่มีการทำกำไรต่อเนื่อง และ จ่ายเงินปันผลสม่ำเสมอเพื่อลงทุนได้ นอกจากนี้บริษัทที่มีฐานะการเงินแข็งแกร่ง ก็มีโอกาสที่จะซื้อหุ้นคืน (TREASURY STOCK) ซึ่งเป็นผลดีต่อราคาหุ้นอีกด้วย ทั้งนี้องค์ประกอบสำคัญที่ตลาดหุ้นเรายังขาดไปคือ ความเชื่อมั่นที่สะท้อนผ่านมูลค่าการซื้อขายที่เบาบางเกินไป แม้ VALUATION จะต่ำอยู่มาก แต่มูลค่าการซื้อขายเบาบาง และยังไม่มีปัจจัยแวดล้อมเชิงบวกหนุน ทำให้การปรับตัวขึ้นยังต้องใช้เวลากรอบ วันนี้ 1335 – 1350 จุด TOP PICK เลือก AMATA, BDMS และ BEM

AMATA ผู้นำนิคม ลุยขยายลาวเพิ่ม

AMATA ผู้นำนิคม ลุยขยายลาวเพิ่ม

          หุ้นวิชั่น - AMATA ปี 2567 ลงทุนกว่า 2.5 แสนล้านบาท ใน 4 นิคม มีจีนสนใจลงทุนกว่า 400 ไร่ หนุนยอดขายที่ดินปี 67 โดดเด่น ปัจจุบัน มีพื้นที่พัฒนารวมกว่า 93,000 ไร่ 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม และ สปป.ลาว ในลาวมีแผนพัฒนากว่า 130,000 ไร่ เฟสแรกจำนวน 6,000 ไร่ คาดจะสามารถเปิดดำเนินการภายในปี 2568           “อมตะ” ผู้นำด้านการพัฒนาและบริหารเมืองอุตสาหกรรมครบวงจร ก้าวสู่ปีที่ 50 ปี ขับเคลื่อนแผนพัฒนาธุรกิจ ภายใต้แนวคิด “Eternal Dream” ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมครบวงจรด้วยโมเดล “All Win” เดินหน้าขยายพื้นที่การลงทุนใน 3 ประเทศ ทั้งไทย,เวียดนามและสปป.ลาว สู่ฐานการผลิตสำคัญภูมิภาคอาเซียน เชื่อมต่อเศรษฐกิจโลก มั่นใจทุกพื้นที่เป็นยุทธศาสตร์ฐานการผลิตเพิ่มศักยภาพการแข่งขันให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศเลือกทำเลรับกระแสการเปลี่ยนแปลง สนับสนุนเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียนให้เชื่อมต่อกับเศรษฐกิจโลก           นายวิกรม กรมดิษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานกรรมการ บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) หรือ AMATA เปิดเผยว่า เส้นทางความสำเร็จตลอดระยะเวลา 50 ปีของการพัฒนานิคมอุตสาหกรรม เพื่อรองรับการลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่มีส่วนสำคัญต่อการสนับสนุนการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยการเลือกพื้นที่และทำเลการลงทุนสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติส่งผลให้เกิดการลงทุนและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ ที่สามารถพัฒนานิคมฯสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมสมบูรณ์แบบ (Perfect City) โดยคำนึงถึงอุตสาหกรรมที่ไม่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม นับตั้งแต่เริ่มดำเนินธุรกิจจนถึงปี 2567 อมตะได้มีการลงทุนรวมมูลกว่า 250,000 ล้านบาทในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรม 4 แห่งในประเทศไทย โดยเฉพาะในปี 2567 ถือเป็นปีที่มีมูลค่าการลงทุนสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม และในปีนี้ได้มีนักลงทุนที่มีศักยภาพสูงเข้ามาลงทุนในนิคมอุตสาหกรรมอมตะในประเทศไทยจำนวนมาก อาทิ โรงงานผลิตนาฬิการะดับโลก และศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์ นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการจากจีนที่สนใจลงทุนในพื้นที่กว่า 400 ไร่ ส่งผลให้ปี 2567 เป็นปีที่โดดเด่นสำหรับอมตะในการขายที่ดินและดึงดูดนักลงทุนเข้าสู่นิคมฯ อย่างต่อเนื่อง           ปัจจุบัน อมตะมีพื้นที่พัฒนารวมกว่า 93,000 ไร่ ครอบคลุม 3 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม และ สปป.ลาว พร้อมแผนขยายการลงทุนในพื้นที่ใหม่อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุนจากหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมเป้าหมายในอนาคต อาทิ ดิจิทัล ยานยนต์ไฟฟ้า และศูนย์ดาต้าเซ็นเตอร์           “อมตะมุ่งเน้นการพัฒนาพื้นที่ในภูมิภาคอาเซียน เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน โดยมีแผนงานที่โดดเด่นทั้งด้าน รองรับโรงงานใหม่และการลงทุนจากนักลงทุนต่างชาติที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เน้นให้ความสำคัญกับการสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมและยั่งยืน อาทิ การบริหารจัดการน้ำที่มั่นคง สามารถรองรับการใช้งานต่อเนื่องได้ถึง 3 ปี แม้ในสภาพที่ไม่มีฝนตก รวมถึงการพัฒนาโครงการพลังงานสะอาดจากแสงอาทิตย์ และการสนับสนุนโครงการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้พลังงานหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก รวมถึงการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคต” นายวิกรม กล่าว           นอกจากนี้ยังให้ความสำคัญต่อการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในต่างประเทศเพื่อรองรับและตอบสนองต่อความต้องการของนักลงทุนอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศเวียดนามและสปป.ลาว โดยเมื่อเร็วนี้อมตะอยู่ระหว่างการศึกษาพัฒนานิคมฯ ใหม่ในจังหวัดฟู้เถาะ ทางตอนเหนือของเวียดนามใกล้ชายแดนจีน ซึ่งตั้งอยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญ เชื่อมเส้นทางรถไฟจากเวียดนามสู่จีน ตอบโจทย์อุตสาหกรรมและการขนส่งสินค้าการลงทุนช่วยให้อมตะสร้างฐานการผลิตที่หลากหลาย รองรับความต้องการของนักลงทุนที่มองหาตลาดอาเซียน ซึ่งมีแรงงานฝีมือและต้นทุนการผลิตที่แข่งขันได้ โดยเวียดนามยังเป็นตลาดที่เติบโตสูงที่สุดในภูมิภาค ด้วยอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจเฉลี่ย 5-6% ต่อปี           ในขณะที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะในสปป.ลาว มีเป้าหมายที่จะพัฒนาที่ดินในภาคเหนือของสปป.ลาว จำนวน 130,000 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ในแขวงอุดมไช ใกล้สถานีรถไฟฟ้าความเร็วสูงนาหม้อ ห่างจากชายแดนลาว-จีน เพียง 40 กิโลเมตร ซึ่งเป็นจุดและสามารถเชื่อมต่อไปยังไทย เวียดนามและพม่าได้ ซึ่งจะเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของภูมิภาคและกระตุ้นความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนาระบบสาธารณูปโภคบนพื้นที่เฟสแรกจำนวน 6,000 ไร่ เพื่อรองรับการลงทุนคาดว่าจะสามารถเปิดดำเนินการได้ภายในปี 2568 อมตะเชื่อมั่นว่าโครงการนี้จะดึงดูดนักลงทุนหลากหลายเชื้อชาติ โดยเฉพาะจากจีน พร้อมส่งเสริมเศรษฐกิจและสร้างงานใหม่ให้กับประชาชนใน สปป.ลาว และเป็นศูนย์กลางการค้าและการลงทุนเชื่อมอาเซียนและจีนตอนใต้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ           อย่างไรก็ตามอมตะยังคงมุ่งมั่นดำเนินธุรกิจภายใต้ปรัชญา “All Win” โดยสร้างความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ทุกภาคส่วนได้รับประโยชน์อย่างแท้จริง นอกจากนี้ อมตะยังเดินหน้าสร้างสรรค์โอกาสใหม่ในภูมิภาคอาเซียนผ่านการพัฒนาพื้นที่และโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก พร้อมสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากในชุมชนโดยรอบ ด้วยโครงการที่สร้างรายได้และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น การฉลองครบรอบ 50 ปีของอมตะ ไม่ได้เป็นเพียงการเฉลิมฉลองความสำเร็จในอดีต แต่ยังเป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวไปข้างหน้าด้วยความมุ่งมั่นที่จะสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับทุกภาคส่วนในภูมิภาคอาเซียน และส่งต่อความสำเร็จให้กับคนรุ่นต่อไปในอนาคตด้วยวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน อมตะพร้อมที่จะสร้างแรงบันดาลใจและเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจภูมิภาคอาเซียนในอีกหลายทศวรรษข้างหน้า

AMATA ปี 67 ขายที่ดินนิวไฮ โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 33.50 บาท

AMATA ปี 67 ขายที่ดินนิวไฮ โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 33.50 บาท

            หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล.กรุงศรี ระบุ AMATA ไกด์ยอดขายที่ดินปีที่แล้วสูงเป็นประวัติการณ์ ซึ่งเราคาดว่าน่าจะสูงกว่า 2,800 ไร่ และปีนี้จะยังคงมุ่งเน้นธุรกิจนิคมในประเทศไทย เวียดนาม และลาว เราคาดยอดขายที่ดิน 2,500 ไร่ปีนี้ สนับสนุนจากสงครามการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปิด Amata Smart and Eco City Namor อาจจะมีอัพไซด์ยอดขายที่ดินจากประมาณการของเราในปี 2025 เรายังคงคำแนะนำซื้อ ยอดขายที่ดินสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 และจะเน้นธุรกิจนิคมต่อไป สรุปสุนทรพจน์ของวิกรม กรมดิษฐ์ ในงานฉลองครบรอบ 50 ปีของ AMATA AMATA มียอดขายที่ดินสูงเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 สนับสนุนจากการลงทุนจากผู้ผลิตนาฬิกา ผู้ประกอบการศูนย์ข้อมูล และนักลงทุนชาวจีน ในปี 2025 จะยังคงมุ่งเน้นธุรกิจนิคมต่อไป บริษัทมองว่าอุปสงค์ยังแข็งแกร่งซึ่งได้รับแรงหนุนจากสงครามการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยจะเน้นนิคมที่ประเทศไทย เวียดนาม และลาว โดยการพัฒนาโครงการร่วมกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง ภายใต้แนวคิด Eternal Dream “เมืองแห่งความสมบูรณ์แบบและยั่งยืน” และโครงสร้างพื้นฐานที่ครบถ้วน ในประเทศไทย บริษัทมีสต๊อกที่ดินจำนวน 15,000 ไร่ (พื้นที่ขายประมาณ 75%) เพื่อรองรับอุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า ผู้ผลิตอะไหล่และแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ไฮเทค ดิจิทัลและคลาวด์ และอุตสาหกรรมศูนย์ข้อมูล ซึ่งบริษัทมีน้ำเพียงพอเพื่อรองรับศูนย์ข้อมูล ปัจจุบันที่อมตะซิตี้ชลบุรีมีน้ำสำรองราว 2 ปีของปริมาณการใช้น้ำ และบริษัทวางแผนที่จะเพิ่มเป็น 3 ปีโดยการพัฒนาอ่างเก็บน้ำใหม่ บริษัทจะลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้น ในเวียดนาม ปัจจุบันมี 4 โครงการ ได้แก่ Amata City Bien Hoa, Amata City Long Thanh, Amata City Halong และ Amata City Quan Tri (บริษัทร่วมทุนที่มีสัดส่วนการถือหุ้น 25%) บริษัทกำลังศึกษาความเป็นไปได้ของนิคมแห่งใหม่ในจังหวัด Phuc Tho ทางตอนเหนือของเวียดนาม ซึ่งตั้งอยู่ทำเลยุทธศาสตร์ใกล้เส้นทางรถไฟความเร็วสูงเวียดนาม-จีน อยู่ในขั้นตอนการออกแบบและน่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน ในประเทศลาว บริษัทกำลังพัฒนา Amata Smart and Eco City Namor เฟส 1 (6,000 จาก 130,000 ไร่) ซึ่งอยู่ห่างจากจีนเพียง 40 กม. และติดกับสถานีรถไฟความเร็วสูงสถานี Namor ซึ่งเชื่อมลาวกับประเทศต่างๆ ทั่วโลกผ่านโครงการ Belt & Road Initiative (BRI) นิคมนี้จะรองรับอุตสาหกรรมอาหาร เกษตรกรรม และโลจิสติกส์ มีกำหนดจะเปิดโครงการ ปลายปี 2025 ปรับโครงสร้างกลุ่มสาธารณูปโภคและบริการเรียบร้อยแล้ว โดยจะอยู่ใต้ Amata U Co.,Ltd. คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 33.50 บาท             จากข้อมูลข้างต้น เราคาดว่ายอดขายที่ดินปีที่แล้วของ AMATA จะสูงกว่า 2,800 ไร่ และเราคงประมาณการปี 2025 ที่ 2,500 ไร่ สนับสนุนจากสงครามการค้าและความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์ การเปิดโครงการ Amata Smart and Eco City Namor อาจจะทำให้มีอัพไซด์ประมาณการยอดขายที่ดินของเรา และการนำธุรกิจสาธารณูปโภคเข้าจดทะเบียนใน SET อาจเป็นปัจจัยบวกสนับสนุนราคาหุ้น

abs

ออกแบบและติดตั้งระบบเครือข่ายและระบบสื่อสารอย่างครบวงจร

AMATA มี Backlog พุ่งสุด 1.9 หมื่นลบ.  จีน-ไต้หวัน หนุนยอดขายที่ แนะซื้อเป้า 33 บ.

AMATA มี Backlog พุ่งสุด 1.9 หมื่นลบ. จีน-ไต้หวัน หนุนยอดขายที่ แนะซื้อเป้า 33 บ.

          หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงานว่า บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์  ชี้ AMATA ความต้องการที่ดินเป็นบวกต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากฐานลูกค้าจีนและไต้หวันที่ต้องการย้ายฐานการผลิตมาอาเซียนภายหลังทรัมป์ชนะการเลือกตั้ง ซึ่งจะหนุนยอดขายที่ดิน 4Q67F จนถึงปีหน้า           AMATA มี Backlog สูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.9 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะหนุนยอดโอนที่ดิน รวมถึงคาดรายได้สาธารณูปโภคและค่าเช่าโรงงานเติบโต ทำให้กำไรปีหน้าคงความแข็งแกร่งต่อเนื่องจากปีนี้           ในปีนี้ยังมีประเด็นหนุนจากแผนการทำ IPO หุ้น อมตะ ยู           แนวรับ = 27/27.5 แนวต้าน = 29.5/30           AMATA | ซื้อ | TP=33 บ.

[Vision Exclusive] ไทยเร่งเครื่องสู่ 'AI Hub' AMATA พร้อมดึงต่างชาติ

[Vision Exclusive] ไทยเร่งเครื่องสู่ 'AI Hub' AMATA พร้อมดึงต่างชาติ

          หุ้นวิชั่น - รัฐบาลเดินหน้าเต็มสูบ วางแผนลงทุนใน AI, EV และชิ้นส่วนอุปกรณ์รถ EV เสริมด้วย แผนผลิตบุคลากร AI กว่า 280,000 คนใน 5 ปี เพื่อรองรับความต้องการในตลาดอนาคต ด้าน AMATA เร่งขยายโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโรงไฟฟ้าและระบบน้ำ เตรียมพร้อมนิคมอุตสาหกรรมรองรับนักลงทุนต่างชาติ โบรกมอง หุ้นรับอานิสงส์ WHA, AMATA, BGRIM, GULF, INSET, BE8 เตรียมรับโอกาสครั้งใหญ่จากเม็ดเงินลงทุนมหาศาล           นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แถลงผลงานรัฐบาลแพทองธารครบรอบ 90 วัน พูดถึงประเด็นในเรื่อง Future Investment หรือการลงทุนในธุรกิจแห่งอนาคต ประเทศไทยต้องเป็น AI ฮับของภูมิภาค ที่มีการดึงดูดบริษัทการลงทุนใหญ่เข้ามา อย่างที่ผ่านมา google Microsoft และอื่นๆ อีกมากมาย ที่เข้ามาลงทุน ทำให้ต่างชาติทั่วโลกมองเห็นแล้วว่า ประเทศไทยพร้อมที่จะเตรียมตัวสำหรับธุรกิจแห่งอนาคต แต่ยังมีข้อจำกัดที่ต้องมีการดูและและพัฒนาขึ้น ไม่ว่าจะเป็นข้อจำกัดของคน อาจจะยังขาดความรู้หรือความเชี่ยวชาญ (Know-how) ในการทำธุรกิจนี้  โดย AI ใน Future หรืออนาคตอันใกล้ มีบทบาทสำคัญต่อทุกคน ยิ่ง AI มีข้อมูลมากก็ยิ่งฉลาดมากขึ้น ยังช่วยในเรื่องของกำแพงภาษาสามารถสื่อสารกันได้ง่ายขึ้น และยังสามารถช่วยคิดวิเคราะห์ต่างๆ จะเป็นโอกาสใหม่ๆ ให้แก่พี่น้องประชาชน ๆ สร้างงานให้กับเด็กนักเรียน นักศึกษาที่จบใหม่ (first jober)  ถ้ารู้จักใช้ AI ให้เป็น           ดังนั้นรัฐบาลก็มีแผนลงทุนเพิ่มในธุรกิจอนาคต ไม่ว่าจะเป็น AI หรือ EA รวมไปถึงการทำชิ้นส่วนอุปกรณ์รถอีวี รวมไปถึงเซมิคอนดักเตอร์ ซึ่งประเทศไทยอาจจะค่อยๆ เริ่มแม้จะช้า แต่มองว่าไม่สายเกินไป และจะสร้างคนให้ไปเรียนทางด้านนี้ให้ไปเรียนระดับมหาวิทยาลัย 280,000 คน ภายใน 5 ปี เพื่อประเทศไทยให้พร้อมสำหรับธุรกิจในอนาคต โดยต้องมีการทำเรื่องของการประหยัดพลังงานด้วยเพื่อให้ราคาสามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก           ข้อมูลจาก บริษัท อมตะ คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน)หรือ AMATA เผย ประเทศไทยมีศักยภาพก้าวเป็นศูนย์กลาง AI ของภูมิภาค ด้วยความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน (Infra Tech) ที่แข็งแกร่ง ดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอย่างต่อเนื่อง ล่าสุด NVIDIA บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีระดับโลก เดินทางเยือนไทยเพื่อผลักดันเทคโนโลยี AI ในประเทศ           ปัจจุบันมีนักลงทุน โดยเฉพาะ กลุ่มนักลงทุนจีน เจรจาซื้อที่ดินในนิคมอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ AMATA เดินหน้าขยายโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งโรงไฟฟ้าและระบบน้ำ เพื่อรองรับความต้องการของนักลงทุน พร้อมตอกย้ำความเชื่อมั่นในการลงทุนในไทย และขับเคลื่อนประเทศสู่ "AI Hub" ของภูมิภาค อย่างเต็มรูปแบบ           นอกจากนี้ AMATA ยังยึดมั่นในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน ผ่านการสร้างสมดุลระหว่างการพัฒนาอุตสาหกรรมและชุมชนรอบข้าง มุ่งเน้นพัฒนา "เมืองอัจฉริยะ" (Smart City) ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมวางเป้าหมาย "เมืองเป็นกลางทางคาร์บอน" ภายในปี 2583 และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกต่อหน่วยพื้นที่ที่พัฒนาแล้วลง 30% ภายในปี 2573 เมื่อเทียบกับปีฐาน 2562  และการเดินหน้าสู่ "AI Hub" ควบคู่กับการพัฒนาอย่างยั่งยืน จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศในเวทีโลก และตอกย้ำสถานะของไทยในฐานะ ศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง ในภูมิภาคนี้           นายมงคล พ่วงเภตรา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท หลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จํากัด (มหาชน) ระบุว่าการที่ ประเทศไทยจะเดินหน้าในเรื่อง AI เป็นเรื่องที่ดีมาก เพราะจะเกิดการผลักดันในเรื่องของ Infra Tech ด้วยทีจะมารองรับการใช้งานของบริษัทเทคในอนาคตที่เข้ามาลงทุนในไทย และในอนาคตหากมีการเติบโตต่อเนื่อง ก็เชื่อว่าจะสามารถช่วยทดแทนอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยที่ เห็นการเติบโตลดลง โดยหุ้นกลุ่มแรกๆ ที่จะได้รับประโยชน์จากการลงทุน หรือดึงนักลงทุนเข้ามาลงทุนในไทย คือ กลุ่มนิคมอุตสาหรรมที่จะสามารถขายที่ดินได้เพิ่มขึ้น และนำ WHA AMATA รวมไปถึง ส่วนกลุ่มโรงไฟฟ้าที่จะมีความต้องการจากการใช้ไฟฟ้าสะอาดทั้ง BGRIM GULF เป็นต้น รวมไปถึงกลุ่มที่เป็นซัพพลายหรือวางระบบ เช่น INSET BE8 เป็นต้น รายงาน ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว สำนักข่าว HoonVision

FDI หนุนนิคมอุตสาหกรรม โบรกแนะซื้อ AMATA และ WHA

FDI หนุนนิคมอุตสาหกรรม โบรกแนะซื้อ AMATA และ WHA

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล. เคจีไอ ระบุ AMATA และ WHA มีผลการดำเนินงาน 9M67 ที่โดดเด่นในด้านยอดขายที่ดินแข็งแกร่ง (+18% YoY) การโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนิคม ฯ (+57% YoY) และกำไร (+42 YoY) โดยปกติธุรกิจไตรมาสที่สี่เป็นช่วงพีคสุดของปี ดังนั้นคาดผลการดำเนินงานเข้าสู่ช่วงที่แข็งแกร่ง ขณะที่ ประมาณการของเราค่อนข้างอนุรักษ์นิยม โดยคาดยอดขายที่ดินปี 2568F ทรงตัว แต่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนิคม ฯ น่าจะยังคงแข็งแกร่งด้วยอัตราการเติบโตรายปีเป็นเลขสิบกลาง ๆ ช่วงปี 2567F-68F เนื่องจากมียอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (backlog) จำนวนมากรอรับรู้เป็นรายได้ในปีถัดไป อย่างไรก็ดี เราคาด upside น่าจะมาจากการฟื้นตัวของยอดขายที่ดินนิคม ฯ จากเวียดนามหลังจากที่มีผู้นำรัฐบาลใหม่เข้ามาบริหารแล้ว ในท่ามกลางกระแสการลงทุนที่เป็นใจและอัตราการเติบโตกำไรดี เราแนะนำซื้อทั้ง AMATA และ WHA ประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 34.00 บาทและ 6.60 บาท ตามลำดับ การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุน (BOI) ยังคงมีแนวโน้มเพิ่มต่อเนื่อง          การยื่นขอรับส่งเสริมการลงทุนจาก BOI พุ่งขึ้น 42% YoY อยู่ที่ 7.22 แสนล้านบาทในช่วง 9M67 เทียบกับค่าเฉลี่ย 28% ต่อปีในช่วง 2564-66 โดยที่ อุตสาหกรรมลำดับต้น ๆ ได้แก่ อิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ โครงสร้างพื้นฐาน และเทคโนโลยีดิจิทัล ขณะที่ นักลงทุนกลุ่มหลัก ๆ มาจากประเทศที่พูดภาษาจีนสื่อสาร อย่างเช่น จีน สิงคโปร์ และฮ่องกง ยอดขายและโอนที่ดินแข็งแกร่งจนถึงปัจจุบัน          ยอดขายที่ดินนิคม ฯ ของ Amata Corp (AMATA.BK, AMATA TB)* ถึงเป้าหมายปีนี้ไปแล้วที่ 2.018 พันไร่ (+68% YoY) ในช่วง 9M67 โดยปัจจุบัน ฝ่ายบริหารคาดยอดขายที่ดินทั้งปี 2567F จะอยู่ที่ 2.500 พันไร่ต่อปี ขณะที่ ยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินนิคม ฯ ของ AMATA เติบโตถึง 58% YoY ในช่วง 9M67 ส่วน WHA Group (WHA.BK, WHA TB)* มียอดขายที่ดินสูงเกือบ 1.800 ไร่ในช่วง 9M67 และยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ 1.570 พันไร่ (+56% YoY) ทั้งนี้ ยอดขายและโอนที่ดินนิคม ฯ รวมใน 9M67 เติบโต 18% และ 57% YoY ตามลำดับ เราคาดยอดขายที่ดินปี 2568F ทรงตัวแต่ยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินน่าจะยังแข็งแกร่งต่อ          เราประเมินยอดขายที่ดินนิคม ฯ ในปี 2567F-68F ที่ 2.50 พันไร่ต่อปีสำหรับ AMATA และ 2.50-2.60 พันไร่ต่อปีสำหรับ WHA โดยที่ upside น่าจะมาจากการฟื้นตัวของยอดขายที่ดินนิคม ฯ จากเวียดนามหลังจากที่ผู้นำของเวียดนามและสหรัฐอเมริกาได้รับการเลือกแล้ว ส่วนยอดการโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินรวมอาจโต 14% ในปี 2567F และ 12% ในปี 2568 เนื่องจากมี backlog อยู่สูงมาก อีกทั้งมีความเป็นไปได้ที่จะขายสินทรัพย์เข้า REITs มากขึ้น หรือเอาบริษัทฯลูกเข้าตลาดในปีหน้า ในขณะที่ backlog ของ AMATA อยู่ที่ 1.96 หมื่นล้านบาท (ประมาณ 50% จะถูกบันทึกในปี 2568F) ส่วน WHA มี backlog ที่ 1.259 พันไร่ (ราว 4-5 พันล้านบาท) พร้อมอีก 904 ไร่อยู่ระหว่างทำหนังสือแสดงเจตจำนง (Letters of intent) กรณีนี้น่าจะทำให้อัตราการเติบโตกำไรรวมเป็นเลขสองหลักที่ 18-20% ต่อปีในช่วงปี 2567F-68F เร่งการลงทุนเพิ่มขึ้นเพื่อพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ          AMATA อยู่ระหว่างพัฒนานิคมอุตสาหกรรมใหม่ 2 แห่งที่เพิ่งได้ซื้อมา ได้แก่ อมตะซิตี้ ระยอง 2 (หนองละลอก) พื้นที่ 1.547 พันไร่ และ อมตะซิตี้ ชลบุรี 2 (บ้านบึง) พื้นที่ 2.213 พันไร่ (ขายได้แล้ว 40%) นอกจากนี้ AMATA วางแผนที่จะเริ่มพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่แขวง Namor ในสปป.ลาว โดยเน้นลูกค้าหลักชาวจีน ทางด้าน WHA กำลังพัฒนา 6 นิคม ฯ โดยมีพื้นที่รวม 9.19 พันไร่ (6.79 พันไร่อยู่ในพื้นที่ EEC) ส่วนที่เวียดนาม WHA มีนิคม ฯ ในจังหวัด เหงะอาน (Nghe An) และอีก 3 แห่ง (2 แห่งในจังหวัด ทัญฮว้า (Thanh Hoa) และ 1 แห่งในจังหวัดกว่างนาม (Quang Nam)) ที่จะเปิดตัวในปีหน้า ทั้งนี้ บริษัทฯ แต่ละรายตั้งเป้าที่จะใช้จ่ายราว 5-6 พันล้านบาทต่อปีเพื่อการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมในอีก5ปีข้างหน้า กำไรรวม 9M67 โตถึง 42% YoY          กำไรรวม 3Q67 ที่ลดลง 19% เนื่องจากบริษัทย่อยของ WHA มีผลการดำเนินงานอ่อนแอคือ WHA Utilities & Power (WHAUP.BK, WHAUP TB) ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนและอีกทั้งมีต้นทุนภาษีพิเศษ สวนทางกับ AMATA ที่รายงานการฟื้นตัวแข็งแกร่งใน 3Q67 จากฐานต่ำ อย่างไรก็ดี รายได้และกำไรใน 9M67 เติบโตแข็งแกร่ง 25% YoY และ 42% YoY ตามลำดับ สอดคล้องกับการโอนที่ดินพุ่งขึ้น 57% YoY ในระหว่างสองบริษัทดังกล่าวข้างต้น WHA รายงานกำไรสุทธิแข็งแกร่งขึ้น 55% YoY เป็นเพราะยอดโอนที่ดินมากขึ้นด้วยอัตรากำไรที่สูงขึ้น ในขณะที่ไตรมาส 4 โดยปกติเป็นไตรมาสที่พีคสุดของปี ดังนั้นเราคาดผลการดำเนินงานที่กำลังจะถึงนี้แข็งแกร่ง Valuation & Action          ท่ามกลางกระแสการลงทุนที่เป็นใจและอัตราการเติบโตกำไรดี เราแนะนำซื้อทั้ง AMATA และ WHA ประเมินราคาเป้าหมาย SOTP ที่ 34.00 บาทและ 6.60 บาท ตามลำดับ ทั้งนี้ เราคงให้น้ำหนักลงทุนกลุ่มนี้ที่ “มากกว่าตลาด ฯ” (Overweight) Risks          ความรวดเร็วในอัตราการเติบโต GDP, การเพิ่มขึ้นของต้นทุนสาธารณูปโภคและค่าแรงงานขั้นต่ำ, ความผันผวนของอัตราดอกเบี้ย ความรวดเร็วในการโอนที่ดินนิคม ฯและเงินลงทุนจากต่างประเทศ (FDI)

abs

Hoonvision

AMATA 9เดือนกำไรโต21% ฟันยอดขายที่ดิน 2.5 พันไร่

AMATA 9เดือนกำไรโต21% ฟันยอดขายที่ดิน 2.5 พันไร่

          หุ้นวิชั่น - “อมตะ”เผยผลดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2567  รายได้รวมกว่า 9,000 ล้านบาท เติบโต 39% ทำกำไรสุทธิ อยู่ที่ 1,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตุน Backlog สิ้นกันยายนอยู่ที่ 19,269 ล้านบาท สะท้อนผลบวก นักลงทุนย้ายฐานการผลิต เข้าพื้นที่นิคมอมตะ ทั้งในและต่างประเทศ เชื่อมั่นยอดขายที่ดินปี 67 เป็นไปตามเป้าหมาย2,500 ไร่  ชูกลยุทธ์ขับเคลื่อนธุรกิจยั่งยืน  มุ่งสู่เมืองอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ ภายในปี 2583           นางสาวเด่นดาว โกมลเมศ ประธานเจ้าหน้าที่การเงิน บมจ.อมตะ คอร์ปอเรชัน หรือ AMATA เปิดเผยว่า ผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมทั้งสิ้น9,011 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 39% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ ทั้งสิ้น1,460 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 21% สะท้อนถึงแนวโน้มการขยายตัวของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศที่เข้ามาใช้พื้นที่ลงทุนของอมตะ  ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นจากทุกกลุ่มธุรกิจหลัก ทั้งจากการโอนที่ดิน รายได้ค่าสาธารณูปโภค และการให้เช่าอาคารและโรงงานสำเร็จรูป และการทำพื้นที่เชิงพาณิชย์เพื่อให้บริการกับลูกค้า          สำหรับรายได้ที่เพิ่มขึ้น มาจากการโอนที่ดิน 4,254 ล้านบาท เติบโตขึ้น 34% รายได้ค่าสาธารณูปโภคและอื่น ๆ 3,967 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 52% และรายได้จากการเช่าอาคารและโรงงานสำเร็จรูป 702 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15% โดยในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทฯ มีการโอนที่ดินไปแล้วทั้งสิ้น 766 ไร่ และมีมูลค่ายอดขายที่ยังไม่รับรู้รายได้ (Backlog) ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567 จำนวน 19,269 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าในไตรมาส 4  จะมีการลงนามสัญญาซื้อขายที่ดินเพิ่มขึ้น ดังนั้นเชื่อว่ายอดขายที่ดินในปีนี้ จะเป็นไปตามเป้าหมาย  2,500 ไร่           “ผลการดำเนินงานในรอบ 9 เดือนที่ผ่านมา ธุรกิจมีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้น  เป็นผลมาจากการบริหารจัดการและการดำเนินกลยุทธ์ที่เน้นการพัฒนาธุรกิจทุกภาคส่วน ทั้งในด้านที่ดิน ระบบสาธารณูปโภค และบริการให้เช่า ซึ่งสอดคล้องกับแผนการเติบโตระยะยาวของบริษัท  ที่มุ่งมั่นการพัฒนาเป็นเมืองอุตสาหกรรม   ที่เป็นต้นแบบของการพัฒนาเศรษฐกิจที่ยั่งยืนของประเทศ  ทั้งจากการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การบริหารจัดการน้ำและขยะมูลฝอยที่มีประสิทธิภาพ และการรักษาสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นภารกิจสำคัญ  ที่อมตะยึดมั่นเพื่อสร้างการเติบโตให้กับชุมชนและเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ” นางสาวเด่นดาว กล่าว            อย่างไรก็ตาม การพัฒนาธุรกิจกลุ่มอมตะ ได้วางเป้าหมายการขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน  โดยจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกให้ได้ 30% ภายในปี 2573 และมุ่งสู่การเป็นเมืองอุตสาหกรรมคาร์บอนต่ำ (Low Carbon City) ภายในปี 2583 โดยมีแผนงานด้านการจัดการพลังงาน การอนุรักษ์น้ำและธรรมชาติ และการบริหารจัดการขยะภายใต้แนวคิด Zero Waste to Landfill ซึ่งเป็นการลดขยะสู่การฝังกลบให้เหลือน้อยที่สุด           นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังเน้นการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ที่มีจุดมุ่งหมายในการลดผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสร้างสังคมที่ยั่งยืนสำหรับทุกคนและยังคงเดินหน้าพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมให้สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติ (UN SDGs) โดยมุ่งมั่นสร้างเมืองอุตสาหกรรมที่ตอบโจทย์ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกับทุกภาคส่วน

AMATA เล็งกำไร Q4 นิวไฮ โบรกเคาะ เป้า 33 บาท

AMATA เล็งกำไร Q4 นิวไฮ โบรกเคาะ เป้า 33 บาท

หุ้นวิชั่น - ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล(ประเทศไทย) หรือ CGSI ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า ในไตรมาส 3/67 AMATA ทำกำไรสุทธิได้ 765.1 ล้านบาท เติบโต 231% qoq และ 93% yoy สูงกว่าประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ฯ และ Bloomberg consensus 6.2% และ 8.3% ตามลำดับ เนื่องจาก SG&A, ดอกเบี้ยจ่ายและส่วนของผู้ถือหุ้นส่วนน้อยต่ำกว่าคาด ขณะที่รายได้จากการขายที่ดินเพิ่มขึ้น 125.4% qoq และ 37.3% yoy เป็น 2.22 พันล้าน บาท เพราะยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินฟื้นตัวแข็งแกร่งมาอยู่ที่ 452 ไร่ ส่วนอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) จากการขายที่ดินอยู่ที่ 38.3% เพิ่มขึ้นจาก 37.3% ในไตรมาส 3 ปีที่แล้ว แต่ลดลง qoq เมื่อเทียบกับ 43.1%ไตรมาส 2/67 เพราะโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินจังหวัดระยองและเวียดนามเพิ่มขึ้น ซึ่งมี GPM เพียง 33% และ 20% ตามลำดับ     ไตรมาส 3/67 AMATA มี SG&A เพิ่มขึ้น 7.2% qoq และ 37.4% yoy เป็น 411.8 ล้านบาท เพราะมีค่าใช้จ่ายที่รับรู้ครั้งเดียวจากการตัดจำหน่ายสินทรัพย์ (เสาไฟฟ้า) ที่ได้รับความเสียหายจากไต้ฝุ่นยางิ 80 ล้านบาท ดังนั้นกำไรสุทธิงวด 9 เดือนของปีนี้ จึงเติบโต 21.5% yoy เป็น 1.46 พันล้านบาท คิดเป็น 65.5% ของประมาณการทั้งปี งวด 9 เดือนปีนี้ AMATA มียอดขายที่ดินใหม่เพิ่มขึ้น 68% yoy เป็น 2,018 ไร่ แบ่งเป็นไทย 1,871 ไร่ และเวียดนาม 147 ไร่ ฝ่ายวิเคราะห์ฯเชื่อว่า AMATA จะทำยอดขายที่ดินทั้งปีนี้ได้ตามประมาณการที่ 2,500 ไร่ หรือเพิ่มขึ้น 34.8% yoy ด้วยอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในไทยจากกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, รถยนต์และชิ้นส่วน และ Data centre ขณะเดียวกัน AMATA โอนกรรมสิทธิ์ที่ดิน 452 ไร่ในไตรมาส 3/67 ประกอบด้วยที่ดิน 51 ไร่ในนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี, 300 ไร่ในนิคมอมตะซิตี้ ระยอง, 11 ไร่ในนิคมไทย-จีน ระยอง และ 90 ไร่ใน Amata City Halong (ACHL) ประเทศเวียดนาม นอกจากนี้ AMATA คาดจะเริ่มรับรู้รายได้จากนิคมอมตะซิตี้ ชลบุรี2 ในปี68 ดังนั้นยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินงวด 9 เดือนปีนี้ จึงเพิ่มขึ้น 58% yoy เป็น 766 ไร่ แบ่งเป็นไทย 619 ไร่ และเวียดนาม 147 ไร่ ฝ่ายวิเคราะห์ฯจึงประมาณการยอดขายในปี 67 อยู่ที่ 1,285 ไร่ เพิ่มขึ้น 63% yoy ฝ่ายวิเคราะห์ CGSI ระบุว่า AMATA มียอด backlog สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.94 หมื่นล้านบาท ณ สิ้นไตรมาส 3/67 ซึ่งแบ่งเป็น backlog ในไทย 1.76 หมื่นล้านบาทและในเวียดนามอีก 1.8 พันล้านบาท โดย backlog ในไทยจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ในไตรมาส 4/67 จนถึงปี 68 ส่วน backlog ในเวียดนามจะรับรู้เป็นรายได้ในปี 69 จึงคาดว่าไตรมาส 4/67 จะเป็นไตรมาสที่ AMATA ทำกำไรสุทธิได้สูงสุดในปีนี้ จากยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินที่เพิ่มขึ้นทั้งในไทยและเวียดนาม รวมทั้งรายได้ประจำจากธุรกิจให้บริการสาธารณูปโภคและธุรกิจเช่า ยังคงประมาณการ EPS ในปี 67-69 รวมถึงราคาเป้าหมายตามที่ 33 บาท ซึ่งเท่ากับ P/E 12.6 เท่าในปี 68 หรือ -0.5SD ของค่าเฉลี่ยในอดีตห้าปี แนะนำ “ซื้อ” AMATA เพราะมองว่าธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมยังมีอุปสงค์แข็งแกร่งและ AMATA มีแนวโน้มทำกำไรเพิ่มขึ้นในครึ่งปีหลัง ส่วนปัจจัยบวกที่จะช่วยหนุนราคาหุ้นคือยอดโอนกรรมสิทธิ์ที่ดินและ GPM จากการขายที่ดินที่สูงกว่าคาด แต่จะมี downside risk หากรัฐบาลเวียดนามส่งมอบที่ดินล่าช้าและไทยขาดเสถียรภาพทางการเมือง

AMATA โบรกฯมองสดใส รับเต็มบริษัทใหญ่ – อานิสงค์สงครามการค้า

AMATA โบรกฯมองสดใส รับเต็มบริษัทใหญ่ – อานิสงค์สงครามการค้า

         หุ้นวิชั่น - ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน จากบทวิเคราะห์ของ บล.เอเชียพลัส วิเคราะห์หุ้น AMATA ประเมินว่าจาก GDS International บริษัท Data Center ชั้นนำในเอเชีย เข้าลงทุนในโครงการ อมตะนคร (ชลบุรี 1) ขนาด 72ไร่ โดยคาดว่าจะรับรู้เข้ามาเป็น pre-sales ในงวด Q4/67 นี้ได้ทันที แม้ขนาดโครงการ 72ไร่อาจเป็นเพียง size ขนาดปานกลางที่ไม่ ใหญ่มากนัก แต่พื้นที่นิคมฯ อมตะนคร (ชลบุรี 1) มีราคาขายและ gross margin ระดับสูงมาก ที่ราวๆ ไร่ละ 11 –12 ล้านบาท และ gross margin 65 –70% การเลือกตั้ง ปธน. สหรัฐฯ ที่ Donald Trump สามารถหวนคืนสู่ทำเนียบขาวได้ เป็นสมัยที่ 2 ทั้งนี้ นโยบายของพรรค REPUBLICAN ที่จะมีการเก็บภาษีจากสินค้า ประเทศจีน (Trade War สหรัฐ-จีน) การเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากทั่วโลกส่งผลให้ ให้สงครามการค้าจีน-สหรัฐ (TRADE WAR) กลับมาปะทุร้อนแรงอีกครั้ง และจะส่ง ผลบวกต่อหุ้นนิคมฯ อย่าง AMATA โดย  AMATA จะประกาศงบในวันที่ 14 พ.ย. นี้ ช่วงเย็นซึ่งคาดว่าจะออกมาดีทั้ง QoQ และ YoY รวมถึงมี sentiment หนุนเพิ่มเติม เช่น Nvidia, Equinix วิจัยประเมิน มูลค่าเหมาะสม โดยอิง Historical PER 10 ปีย้อนหลัง ปรับเพิ่มขึ้น 0.5 S.D อยู่ที่ 17 เท่า ได้ราคาเหมาะสม 31.25 บาท ให้คำแนะนำการลงทุนที่ outperform 

พฤอา
311234567891011121314151617181920212223242526272829301234567891011