ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

#กฟผ.


กฟผ. ลุยโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ  เปิดซองประกวดราคาถึง 18 เม.ย. นี้

กฟผ. ลุยโครงการโซลาร์เซลล์ลอยน้ำ เปิดซองประกวดราคาถึง 18 เม.ย. นี้

               หุ้นวิชั่น - กฟผ. เปิดขายเอกสารประกวดราคาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ หรือ โซลาร์เซลล์ลอยน้ำ เขื่อนภูมิพล ชุดที่ 1 จ.ตาก ตั้งแต่วันนี้ – 18 เมษายน 2568 ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาด หนุนประเทศสู่เป้าหมาย Carbon Neutrality ติดตามรายละเอียดที่ https://www4.egat.co.th/fprocurement/biddingeng/main/3582                นายทิเดช เอี่ยมสาย รองผู้ว่าการพัฒนาโรงไฟฟ้าและพลังงานหมุนเวียน การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. เดินหน้าพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ เขื่อนภูมิพล ชุดที่ 1 จ.ตาก                ขนาดกำลังผลิต 158 เมกะวัตต์ (MWac) ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่ติดตั้งอยู่บนทุ่นลอยน้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อน โดยโครงการฯ นี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนดำเนินงานเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี ค.ศ. 2050 และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emissions) ภายในปี ค.ศ. 2065 ผ่านกลไกการสนับสนุนการชดเชยและหลีกเลี่ยงการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อย่างเป็นรูปธรรม กำหนดจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ในปี 2570                ปัจจุบันโครงการฯ อยู่ระหว่างการเปิดขายเอกสารประกวดราคา ผู้ประกอบการที่สนใจมีส่วนร่วมในการสร้างพลังงานสะอาดให้กับประเทศ สามารถซื้อเอกสารประกวดราคาได้ ตั้งแต่วันนี้ – 18 เมษายน 2568 กำหนดเปิดซองประกวดราคาในวันที่ 14 กรกฎาคม 2568 (สามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามความเหมาะสม) ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www4.egat.co.th/fprocurement/biddingeng/main/3582                ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำ เขื่อนภูมิพล ชุดที่ 1 นี้ เป็นโครงการฯ ภายใต้แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP2018 Revision 1) รวมถึงร่างแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับใหม่ โดยมีแผนพัฒนาในพื้นที่เขื่อนของ กฟผ. ทั่วประเทศ กำลังผลิตรวม 2,725 เมกะวัตต์ ภายในปี 2573 ภายใต้หลักการสำคัญ คือ เพิ่มสัดส่วนการผลิตพลังงานสะอาดขับเคลื่อนเป้าหมายประเทศ ใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยก่อสร้างโรงไฟฟ้าบนพื้นที่ผิวน้ำในเขื่อนของ กฟผ. และใช้อุปกรณ์หลักร่วมกันกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่มีอยู่เดิม ช่วยลดต้นทุนการผลิต ทำให้ค่าไฟฟ้ามีราคาต้นทุนที่เหมาะสม เป็นมิตรต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม

ปลัดพลังงาน สั่ง กฟผ. เร่งขุดขนถ่านหินแม่เมาะไม่ให้กระทบค่าไฟ

ปลัดพลังงาน สั่ง กฟผ. เร่งขุดขนถ่านหินแม่เมาะไม่ให้กระทบค่าไฟ

          หุ้นวิชั่น - ปลัดกระทรวงพลังงานยืนยันกรณี การว่าจ้างการขุดขนถ่านหินเหมืองแม่เมาะที่ล่าช้า ได้สั่งการให้ กฟผ. เร่งงานทุกสัญญา ไม่กระทบค่าไฟ พร้อมขอบคุณรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ที่ดำเนินการตรวจสอบ สร้างความเชื่อมั่นและแสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการของ กฟผ.           วันนี้ (14 มีนาคม 2568) นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน และประธานบอร์ด การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กล่าวว่า ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน (รมว.พน.) ได้แต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง กรณีการจ้างเหมา ขุด-ขนถ่านหิน ที่เหมืองแม่เมาะ ปัจจุบันผลการสอบข้อเท็จจริงได้สิ้นสุดแล้ว ไม่มีเรื่องทุจริต หรือ การประพฤติมิชอบ ทุกอย่างเป็นไปตามกฎระเบียบข้อบังคับ ซึ่งทาง กฟผ. จะได้เดินหน้าดำเนินการลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะการประมูลต่อไป ซึ่ง กฟผ. จะเร่งการขุดขนถ่านหินจากทุกสัญญา เพื่อให้มีถ่านหินเพียงพอในการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะให้ได้เต็มที่ ไม่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าในรอบถัดไป            อย่างไรก็ตาม ตามที่คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ได้ตั้งข้อสังเกตว่า กฟผ. ไม่ควรเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะโรงที่ 8 ถึง 11 เนื่องจากสถานการณ์ของสงครามรัสเซีย-ยูเครนไม่รุนแรงอย่างที่คาดการณ์ไว้ ในส่วนนี้ ขอชี้แจงว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา สงครามรัสเซีย-ยูเครนยืดเยื้อ มีความไม่แน่นอน และความไม่สงบในภูมิภาคตะวันออกกลาง ได้ส่งผลกระทบให้ราคาก๊าซธรรมชาติเหลวหรือ LNG ผันผวนในระดับสูง ที่ 14 - 15 เหรียญสหรัฐต่อล้านบีทียู ในการนี้ กฟผ. ได้มีการปรับสัดส่วนเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าให้มีความเหมาะสมด้านราคาและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมไปพร้อม ๆ กัน ซึ่ง กฟผ. พยายามใช้เชื้อเพลิงที่มีต้นทุนที่ต่ำที่สุดในการผลิตไฟฟ้า จึงยังคงจำเป็นต้องเดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะโรงที่ 8 ถึง 11 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน ซึ่งการเดินเครื่องโรงไฟฟ้าถ่านหินแม่เมาะ โรงที่ 8 ถึง 11 ส่งผลให้ปี 2567 สามารถลดการนำเข้า LNG ได้ประมาณ 18 ลำ มูลค่ากว่า 65,000 ล้านบาท หรือลดต้นทุนการผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 11 - 13 สตางค์ต่อหน่วย            ในส่วนของการใช้วิธีพิเศษในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างนั้น ก็เป็นไปตามกระบวนการที่ถูกต้อง ได้เปิดโอกาสให้บริษัทที่มีศักยภาพสามารถเข้าร่วม จำนวน 6 ราย โดยการคัดเลือกได้พิจารณาทั้งเทคโนโลยีที่บริษัทนำเสนอ แผนการดูแลรักษาเครื่องจักร อุปกรณ์ที่สำคัญ รวมทั้ง ประสบการณ์ในการดำเนินงาน และข้อเสนอด้านราคาของบริษัทที่เข้าร่วมการประมูล           “ผมขอยืนยันว่า ถึงแม้จะมีความล่าช้าในการจัดจ้างงานขุดขนถ่านหิน ผมในฐานะประธานบอร์ด กฟผ. และผู้บริหารทุกท่าน ได้พยายามบริหารจัดการการใช้เชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าที่มีต้นทุนที่ต่ำที่สุด เพื่อไม่ให้กระทบกับภาระค่าใช้จ่ายของประชาชน และผมต้องขอขอบคุณที่ท่านรัฐมนตรีฯ ได้กรุณาจัดให้มีการตรวจสอบที่เป็นกลาง ถือเป็นโอกาสอันดีที่แสดงให้เห็นว่าการจัดซื้อจัดจ้างของ กฟผ. มีความโปร่งใส เป็นไปตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างทุกขั้นตอน นอกจากนั้น คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงฯ ก็ได้ให้คำแนะนำให้ปรับปรุงระเบียบให้รัดกุมมากขึ้น ซึ่งทาง กฟผ. ได้น้อมรับคำแนะนำต่าง ๆ และจะดำเนินการปรับปรุง ข้อบังคับ และระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง จากนี้ กฟผ. จะดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อลงนามสัญญาว่าจ้างผู้ชนะการประมูล และจะเร่งดำเนินการในทุกสัญญาการขุดขนถ่านหินที่มีอยู่ ตลอดจนใช้สรรพกำลังของ กฟผ. ที่จะขุดขนถ่านหินให้ได้เต็มที่ เพื่อให้สามารถเดินเครื่องโรงไฟฟ้าแม่เมาะได้เต็มกำลังและไม่ส่งผลกระทบต่อราคาค่าไฟประชาชนต่อไป” นายประเสริฐ กล่าว

กฟผ. เตรียมลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะประมูลงานจ้างเหมาฯ เหมืองแม่เมาะ

กฟผ. เตรียมลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะประมูลงานจ้างเหมาฯ เหมืองแม่เมาะ

          หุ้นวิชั่น - กฟผ. เตรียมลงนามสัญญาจ้างผู้ชนะการเสนอราคางานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 หลังผลการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงพลังงานไม่พบการทุจริต พร้อมรับข้อเสนอแนะมาปรับปรุง ย้ำกระบวนการจ้างยึดถือความโปร่งใส่ ปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างอย่างเคร่งครัด เพื่อบริหารถ่านหินและราคาต้นทุนพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยคำนึงถึงประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ           นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ. อยู่ระหว่างดำเนินการตามขั้นตอนลงนามสัญญาจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 หลังคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีงานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะของ กฟผ. ที่แต่งตั้งโดยกระทรวงพลังงานไม่พบการทุจริต และให้ กฟผ. พิจารณาดำเนินการตามความถูกต้องเหมาะสมและตามอำนาจหน้าที่ รวมถึงรับความเห็นและข้อเสนอแนะของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานมาปรับปรุงกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น           งานจ้างเหมาขุด-ขนดินและถ่านที่เหมืองแม่เมาะ สัญญาที่ 8/1 นี้ ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนแม้สถานการณ์วิกฤตราคาพลังงานจะคลี่คลาย แต่สถานการณ์สงครามยังมีความไม่แน่นอน ทำให้การผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินของโรงไฟฟ้าแม่เมาะซึ่งมีต้นทุนต่ำที่สุดยังคงมีความจำเป็นเพื่อช่วยพยุงราคาค่าไฟฟ้าของประเทศ โดยที่ผ่านมา กฟผ. ต้องนำถ่านหินภายใต้สัญญาเดิม (สัญญา 8 และ 9) มาใช้ก่อนกำหนดจนปริมาณถ่านหินครบก่อนสิ้นสุดสัญญา เพื่อรองรับการเลื่อนแผนการปลดโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 8 – 11 และการนำโรงไฟฟ้าแม่เมาะเครื่องที่ 4 กลับมาผลิตไฟฟ้าจนถึงปี 2568 เพื่อกระจายสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงเพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า ลดการพึ่งพาการนำเข้าเชื้อเพลิงจากต่างประเทศ และลดผลกระทบต้นทุนค่าไฟฟ้าของประเทศ เพราะหากปริมาณถ่านหินสำรองที่เตรียมไว้ใช้ในฤดูฝนหมดลงมีความเสี่ยงที่ต้องลดกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าแม่เมาะลง ดังนั้นจึงจำเป็นต้องเร่งดำเนินการจ้างขุด-ขนดินและถ่านหินใหม่เพื่อให้มีปริมาณเพียงพอสำหรับผลิตไฟฟ้าเต็มกำลังผลิตได้อย่างต่อเนื่อง           กฟผ. ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กฟผ. บริหารการผลิตไฟฟ้าที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะและบริหารจัดการเชื้อเพลิงถ่านหินที่มีอยู่เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยมิให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงด้านการผลิตไฟฟ้าและต้นทุนราคาพลังงานของประเทศอย่างเต็มความสามารถ

อินโนพาวเวอร์ หนุนโครงการ EV Fleet กฟผ. มุ่งขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอน

อินโนพาวเวอร์ หนุนโครงการ EV Fleet กฟผ. มุ่งขับเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอน

          หุ้นวิชั่น - อินโนพาวเวอร์ ร่วมกับ กฟผ. เปิดตัวโครงการให้บริการรถบัสไฟฟ้า (EV Fleet) รับ-ส่งผู้ปฏิบัติงานสำนักงานกลาง กฟผ. พร้อมพนักงานขับรถ จำนวน 29 คัน โดยบริการตามเส้นทางที่ กฟผ. ได้กำหนดและวางแผนไว้เพื่อสนับสนุนการให้บริการ และได้เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 ตั้งเป้าขยายรถบัสไฟฟ้าเพิ่มเป็น 200 คัน ภายในปีหน้า 2569 พร้อมต่อยอดธุรกิจ Future of Mobility เพื่อรองรับธุรกิจแบตเตอรี่ และขยาย Service Offering ของ EV จาก EV Bus เป็น E-Bike และ E-Truck รวมถึงสร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อพัฒนา EV Management และ Operation Platform           นายอธิป ตันติวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด ได้สนับสนุนโครงการจัดรถมินิบัสไฟฟ้ารับ-ส่งผู้ปฏิบัติงานสำนักงานกลาง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ซึ่งโครงการนี้มีส่วนช่วยลดการปล่อยคาร์บอนกว่า 924,000 กิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี ซึ่งเทียบเท่ากับการลดจำนวนรถยนต์บนถนนประมาณ 201 คันต่อปี ส่งเสริมนโยบายความเป็นกลางทางคาร์บอนของประเทศ และขับเคลื่อนสังคมให้เกิดความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) โครงการ EV Fleet ถือเป็นส่วนหนึ่งของการผลักดันแผนยุทธศาสตร์ด้านสิ่งแวดล้อมของ กฟผ. ซึ่งมุ่งเน้นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกอย่างต่อเนื่อง โดยสอดคล้องกับ นโยบาย 30@30 ที่มีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ให้ได้ 30% ภายในปี 2030 ซึ่งเป็นหนึ่งในยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศไทยในการลดมลพิษและส่งเสริมการใช้พลังงานสะอาด กฟผ. ได้กำหนดเป้าหมายด้านพลังงานที่สะอาดและยั่งยืน เพื่อสนับสนุนประเทศไทยในการก้าวสู่การเป็นผู้นำด้านยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาค โดยเน้นการนำรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานทดแทนรถยนต์เดิมในองค์กร ซึ่งช่วยลดการพึ่งพาน้ำมันเชื้อเพลิง ลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และส่งเสริมคุณภาพชีวิตของพนักงานควบคู่กันไป รวมถึงการดูแลสิทธิมนุษยชน การสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี และการสนับสนุนชุมชนโดยรอบ เพื่อสร้างความพร้อมรับมือการเปลี่ยนแปลงในระยะยาว อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในเทคโนโลยีและโครงสร้างพื้นฐานด้านยานยนต์ไฟฟ้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความยั่งยืนทางพลังงานและเศรษฐกิจของประเทศ การเติบโตของอุตสาหกรรม EV ในประเทศไทย สะท้อนถึงความสำเร็จของนโยบายสนับสนุนที่ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมการผลิตรถยนต์ไฟฟ้า การลงทุนในแบตเตอรี่ระดับเซลล์ หรือมาตรการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐาน เช่น สถานีชาร์จไฟฟ้าสาธารณะและอัตราค่ากระแสไฟฟ้าที่เหมาะสม "อินโนพาวเวอร์ มุ่งพัฒนาโซลูชันพลังงานสะอาดเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ความร่วมมือโครงการ EV Fleet กับ กฟผ. ไม่เพียงช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์นโยบายพลังงานสะอาดของประเทศ โดยแผนงานด้าน Future of Mobility ของอินโนพาวเวอร์มีเป้าหมายขยาย EV Fleet เพิ่มถึง 200 คันภายในปี 2569 พร้อมต่อยอดธุรกิจ Future of Mobility เพื่อรองรับธุรกิจแบตเตอรี่ และขยาย Service Offering ของ EV จาก EV Bus เป็น E-Bike และ E-Truck รวมถึงสร้างเครือข่ายความร่วมมือ เพื่อพัฒนา EV Management และ Operation Platform" นายอธิปกล่าว อินโนพาวเวอร์ ในฐานะบริษัทด้านนวัตกรรมพลังงานสะอาด มุ่งเน้นการพัฒนาและนำเสนอโซลูชันที่ตอบสนองต่อความต้องการของสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยมีเป้าหมายในการเคลื่อนสังคมไร้คาร์บอนเสริมสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสำหรับประเทศ

abs

เจมาร์ท สร้างความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการสร้าง Synergy Ecosystem

กฟผ. มุ่งดูแลคุณภาพอากาศโรงไฟฟ้า พร้อมร่วมมือกับชุมชนบรรเทาปัญหาฝุ่น

กฟผ. มุ่งดูแลคุณภาพอากาศโรงไฟฟ้า พร้อมร่วมมือกับชุมชนบรรเทาปัญหาฝุ่น

          หุ้นวิชั่น - กฟผ. ดำเนินงานโดยคำนึงถึงสังคมและสิ่งแวดล้อมเป็นสำคัญ มุ่งดูแลคุณภาพอากาศโรงไฟฟ้าสามารถควบคุมได้ดีกว่ามาตรฐานกฎหมายกำหนด ซึ่งตระหนักถึงความสำคัญการดูแลคุณภาพอากาศ เผยควบคุมการปล่อยมลสารจากโรงไฟฟ้า กฟผ. ค่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดไว้ พร้อมร่วมมือกับชุมชนบรรเทาปัญหาลดฝุ่น           นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า ในช่วงนี้สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 โดยรวมของประเทศสะสมเกินค่ามาตรฐานอย่างต่อเนื่อง อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน ในส่วนของการดำเนินงานของ กฟผ. ควบคุมดูแลคุณภาพอากาศอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ตั้งแต่ต้นน้ำของการผลิตไฟฟ้า โดยเลือกใช้เทคโนโลยีในการผลิตกระแสไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ควบคุมการเผาไหม้ของโรงไฟฟ้าให้สมบูรณ์เพื่อลดการเกิดฝุ่น โดยใช้ระบบควบคุมปริมาณการระบายก๊าซออกไซด์ไนโตรเจน (Dry Low NOx Burner) ร่วมกับการฉีดน้ำเข้าไปยังห้องเผาไหม้ (Water Injection) เพื่อควบคุมอุณหภูมิในการเผาไหม้ ลดปริมาณการเกิดออกไซด์ของไนโตรเจน (NOx) ติดตั้งอุปกรณ์ชุดกรองฝุ่น (Inlet Air Filter System) เพื่อกรองฝุ่นที่ปนมากับอากาศที่ใช้ในการเผาไหม้ และติดตั้งระบบตรวจสอบคุณภาพอากาศแบบต่อเนื่อง (Continuous Emission Monitoring System) ที่ปล่องของโรงไฟฟ้า เพื่อตรวจวัดอัตราการระบายอย่างต่อเนื่อง           สำหรับโรงไฟฟ้าพลังความร้อนร่วมของ กฟผ. ดังเช่นโรงไฟฟ้าพระนครเหนือและโรงไฟฟ้าพระนครใต้ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งถือเป็นเชื้อเพลิงที่ปล่อยมลสารน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับเชื้อเพลิงฟอสซิลประเภทอื่น โดยพบว่าโรงไฟฟ้าของ กฟผ. ทุกแห่งควบคุมการปล่อยมลสารได้ดีกว่าค่าควบคุมตามที่กำหนดไว้ในรายงานประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมตั้งแต่ก่อนการพัฒนาโครงการ ซึ่งเป็นค่าที่เข้มงวดกว่าค่ามาตรฐานตามประกาศของกรมโรงงานอุตสาหกรรม ตารางเปรียบเทียบความเข้มข้นการปล่อยมลสารของโรงไฟฟ้า กฟผ. ปี 2567 * ค่ามาตรฐานตามประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม (พ.ศ.2547) เรื่อง กำหนดค่าปริมาณสารเจือปนที่ระบายออกจากโรงงานผลิต ส่ง หรือจำหน่ายไฟฟ้า และประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (พ.ศ.2566) เรื่อง กำหนดมาตรฐานควบคุมการปล่อยทิ้งอากาศเสียจากโรงไฟฟ้า ** ค่าควบคุมที่กำหนดตามรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือและโรงไฟฟ้าพระนครใต้           อีกทั้ง กฟผ. ยังใส่ใจในเรื่องวิกฤต PM2.5 ได้ศึกษาวิจัยร่วมกับสถาบันวิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำรวจมลสารทางอากาศ และจำแนกแหล่งกำเนิดของฝุ่น PM2.5 ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าพระนครเหนือ           ผศ.ดร.สุดจิต ครุจิต อาจารย์ประจำสาขาวิชาวิศวกรรมสิ่งแวดล้อม มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ที่ปรึกษาของโครงการวิจัยเผยผลวิจัยว่า ฝุ่นจากปล่องของโรงไฟฟ้าพระนครเหนือไม่ส่งผลกระทบต่อปริมาณฝุ่นในบรรยากาศทั่วไปของชุมชนในพื้นที่ใกล้เคียงโรงไฟฟ้าพระนครเหนือที่พุ่งสูงขึ้น โดยพบว่า สัดส่วนขององค์ประกอบทางเคมีของฝุ่น (DNA) จากปล่องโรงไฟฟ้าพระนครเหนือแตกต่างจาก DNA ของฝุ่นในบรรยากาศในพื้นที่ชุมชน นอกจากนี้ ผลการศึกษาการปล่อยฝุ่น PM2.5 จากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ ในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้าพระนครเหนือในรัศมี 5 กิโลเมตร พบว่าฝุ่น PM2.5 มาจากการสัญจรบนถนนสายหลักและถนนสายรองมากถึง 73.5% รองลงมาเป็นโรงงานอุตสาหกรรม 13.4% และที่พักอาศัย 5.4% โดยเป็นฝุ่นจากโรงไฟฟ้าพระนครเหนือคิดเป็นสัดส่วนเพียง 1.8% เท่านั้น ส่วนการปล่อยสาร NOx คิดเป็นเพียง 11% ของแหล่งกำเนิดทุกประเภท           นอกจากนี้โรงไฟฟ้า กฟผ. กำลังพิจารณาแนวทางเพื่อช่วยลดปริมาณฝุ่นในพื้นที่ โดยการเพิ่มอุณหภูมิปากปล่องโรงไฟฟ้า (Stack Temperature) ให้สูงขึ้นในบางช่วงเวลา เพื่อช่วยระบายฝุ่นในชั้นบรรยากาศออกไปด้วย           ในขณะเดียวกันโรงไฟฟ้าและเขื่อน ของ กฟผ. ทั่วประเทศยังดำเนินมาตรการต่าง ๆ เพื่อช่วยคลี่คลายปัญหาฝุ่นให้กับชุมชนโดยรอบพื้นที่ กฟผ. อาทิ ผลักดันการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ภายในประเทศ ติดตั้งเซนเซอร์ตรวจวัดคุณภาพอากาศแบบ Real Time ผ่านแอปพลิเคชัน Sensor for All กว่า 1,250 จุดทั่วประเทศ เพื่อให้ประชาชนเฝ้าระวังและสามารถวางแผน การใช้ชีวิตประจำวันได้ รวมถึงสนับสนุนภารกิจป้องกันไฟป่าและหมอกควันตามที่ได้รับการร้องขอจากหน่วยงานต่าง ๆ

กฟผ. แจกของขวัญปีใหม่ 2568 ส่วนลดเบอร์ 5 – ชาร์จ EV – บ้านพักเขื่อน

กฟผ. แจกของขวัญปีใหม่ 2568 ส่วนลดเบอร์ 5 – ชาร์จ EV – บ้านพักเขื่อน

          หุ้นวิชั่น - กฟผ. เตรียมของขวัญปีใหม่ 2568 ให้คนไทยในรูปแบบ 3 ส่วนลดพิเศษ ส่วนลดผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 30,000 สิทธิ์ ส่วนลดค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ณ สถานี EleX by EGAT 20,000 สิทธิ์ และส่วนลดบ้านพักเขื่อน กฟผ. อีก 2,600 สิทธิ์ เพื่อให้คนไทยฉลองปีใหม่แบบแฮปปี้และรักษ์โลกไปพร้อมกัน           วันนี้ (16 ธันวาคม 2567) นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นประธานการแถลงข่าวเปิดตัวกิจกรรม กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ คนไทยใส่ใจรักษ์โลก พร้อมลงนามความร่วมมือโครงการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 ระหว่าง กฟผ. กับ ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า จำนวน 9 ราย ณ ห้อง Press Conference อาคาร 50 ปี กฟผ. สำนักงานใหญ่ จ.นนทบุรี           นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ ผู้ว่าการ กฟผ. เผยว่า กฟผ. ร่วมสนองนโยบายรัฐบาลและกระทรวงพลังงานด้วยการ มอบของขวัญให้กับคนไทยเพื่อร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับ 3 แคมเปญ “กฟผ. ส่งความสุขปีใหม่ คนไทยใส่ใจรักษ์โลก” [caption id="attachment_21317" align="aligncenter" width="2560"] Elex Max by EGAT[/caption]           1) ฉลากเบอร์ 5 ด้วยรัก(ษ์) และผูกพัน ร่วมกับผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้า มอบส่วนลดผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 เป็นของขวัญเทศกาลปีใหม่ ส่งเสริมการประหยัดไฟ รักษ์สิ่งแวดล้อม รวม 30,000 สิทธิ์ มูลค่าส่วนลดรวม 8.1 ล้านบาท แบ่งเป็น ส่วนลด 200 บาท สำหรับซื้อผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 ในราคา 1,000 บาทขึ้นไป จำนวน 23,000 สิทธิ์ ส่วนลด 500 บาท สำหรับซื้อผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 ในราคา 3,000 บาทขึ้นไป จำนวน 7,000 สิทธิ์ โดยสามารถใช้สิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 – 15 มกราคม 2568 กิจกรรมแชร์ไอเดีย “ส่งรักษ์รับปีใหม่” เลือกผลิตภัณฑ์เบอร์ 5 อะไร เป็นของขวัญให้คนที่คุณรัก โดยร่วมกิจกรรมทาง Facebook : กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 25 ธันวาคม 2567 – 15 มกราคม 2568 ลุ้นรับเครื่องฟอกอากาศเบอร์ 5 จำนวน 30 รางวัล โดยจะประกาศผลวันที่ 20 มกราคม 2568           2) ชาร์จใจ ชาร์จไฟไปกับ EleXA มอบคูปองชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า ส่งเสริมสังคมยุคใหม่ไร้คาร์บอน ให้คนไทยกลับบ้านอย่างปลอดภัย รวม 20,000 สิทธิ์ มูลค่าส่วนลดรวม 2.72 ล้านบาท สามารถกดรับสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน EleXA โดยจะได้รับคูปองส่วนลดมูลค่า 68 บาท จำนวน 2 ใบต่อ 1 สิทธิ์ (จำกัด 1คน/ 1 สิทธิ์) ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 - วันที่ 15 มกราคม 2568 โดยคูปองมีอายุ 180 วันหลังจากกดรับสิทธิ์ สามารถใช้ได้ที่ EleX by EGAT ทุกสถานีทั่วประเทศ           3) เติมพลังชีวิต ใกล้ชิดธรรมชาติ มอบคูปองส่วนลดค่าที่พักเขื่อน กฟผ. มูลค่ารวม 2,600 สิทธิ์ มูลค่าส่วนลดรวม 3.05 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจและเป็นการสนับสนุนชุมชนโดยรอบ ดังนี้ มอบคูปองส่วนลดค่าที่พักในเขื่อนของ กฟผ. จำนวน 8 แห่ง คือ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนศรีนครินทร์ เขื่อนวชิราลงกรณ เขื่อนสิรินธร เขื่อนจุฬาภรณ์ เขื่อนอุบลรัตน์และเขื่อนรัชชประภา จำนวน 2,500 สิทธิ์ แบ่งเป็น มูลค่า 500 บาท จำนวน 2,000 สิทธิ์ และ มูลค่า 1,000 บาท จำนวน 500 สิทธิ์ พิเศษหากเข้าพักในวันธรรมดาคูปองจะมีมูลค่าเพิ่มอีกใบละ 500 บาท นอกจากนี้ ผู้เข้าพักที่บ้านครินทร์ เขื่อนศรีนครินทร์ จ.กาญจนบุรี จะได้รับสิทธิ์ส่วนลด 3,000 บาท จำนวน 100 สิทธิ์ อีกด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิ์ส่วนลดได้ตั้งแต่วันที่ 25 ธันวาคม 2567 – 15 มกราคม 2568 ทาง Facebook : กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย โดยจะประกาศผลผู้ได้รับสิทธิ์ส่วนลดค่าที่พักในวันที่ 20 มกราคม 2568 และสามารถใช้สิทธิ์ได้ในระหว่างวันที่ 20 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2568           กฟผ. ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการส่งมอบความสุขล้นใจแบบรักษ์โลกส่งท้ายปี 2567 และต้อนรับปีใหม่ปี 2568 ช่วยประหยัดพลังงาน ลดค่าใช้จ่ายของครัวเรือน สนับสนุนการเดินทางอย่างปลอดภัยไร้คาร์บอน และส่งเสริมการท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจกระจายรายได้สู่ชุมชน ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ทาง Facebook : กฟผ. การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

พฤอา
242526272812345678910111213141516171819202122232425262728293031123456