ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

[Vision Exclusive] หุ้นไทยถูกแต่ไร้เสน่ห์ โฟกัส mai

           หุ้นวิชั่น –  “สุธน สิงหสิทธางกูร” “เจ็กกี้” นักลงทุนแนว VI เปิดใจมองหุ้นไทยราคาถูกแต่ไร้แรงจูงใจ เหตุขาดการเติบโต แนะจับตาหุ้น mai ที่ยังมีศักยภาพ พร้อมเสนอเปิดเผยข้อมูลพร้อมกัน-ทบทวนโครงสร้างภาษีเงินปันผล หวังยกระดับความน่าสนใจของตลาดทุนไทย มองตลาดจีนยังมีความน่าสนใจ โอกาสโตยังสูง ปัจจุบันเน้นลงทุนในจีนเป็นหลักประมาณ 78% แนะเลี่ยงการปรับพอร์ตกระทันหัน

           นายสุธน สิงหสิทธางกูร หรือ “เจ็กกี้” นักลงทุนเน้นคุณค่า (นักลงทุนแนว VI) เปิดเผยกับ “Hoonvision” ว่า ตลาดหุ้นไทยในปัจจุบันยังคงเผชิญกับแรงกดดันจากหลายปัจจัย โดยเฉพาะความไม่แน่นอนจากสงครามการค้า ซึ่งส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนยังไม่เอื้อต่อการเข้ามาของนักลงทุน แม้ว่าราคาหุ้นไทยในเชิงมูลค่าจะอยู่ในระดับที่ “ถูก” เมื่อเทียบกับอดีต แต่ในด้านของ “พื้นฐาน” กลับพบว่าอัตราการเติบโตของบริษัทจดทะเบียนส่วนใหญ่ยังอยู่ในระดับต่ำ

           “ในอดีต เราเคยเห็นบริษัทจดทะเบียนเติบโตได้หลายเท่าตัว แต่ปัจจุบันภาพแบบนั้นแทบไม่หลงเหลืออยู่ในหุ้นใหญ่แล้ว” นายสุธนกล่าว พร้อมระบุว่า หุ้นกลุ่ม SET100 ในปัจจุบันยังไม่พบบริษัทที่มีศักยภาพโดดเด่นเหมือนในอดีตที่ผ่านมา ทำให้ตลาดขาดแรงดึงดูดนักลงทุนต่างชาติอย่างชัดเจน

           อย่างไรก็ตาม เขาเชื่อว่า “ตลาด mai” ยังคงมีโอกาสสำหรับนักลงทุน โดยเฉพาะหุ้นขนาดเล็กหลายตัวที่ราคาปรับตัวลงมาอยู่ในระดับต่ำมาก จึงเป็นช่วงจังหวะที่เหมาะสมในการค้นหาหุ้นที่ยังมีศักยภาพซ่อนอยู่

           นอกจากนี้ นายสุธนยังเสนอแนวทางให้ภาคตลาดทุนพิจารณาปรับปรุงกลไกด้านการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทจดทะเบียน โดยควรส่งเสริมให้มีการเปิดเผยข้อมูลสำคัญพร้อมกัน เพื่อให้เกิดความเท่าเทียมในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของนักลงทุนทั่วไป และหลีกเลี่ยงการจัด Analyst Meeting แบบเฉพาะกลุ่มล่วงหน้า ซึ่งอาจก่อให้เกิดความเหลื่อมล้ำด้านข้อมูลได้ พร้อมกันนี้ ยังเสนอให้มีการพิจารณาปรับโครงสร้างด้านภาษี โดยเฉพาะภาษีเงินปันผล เพื่อไม่ให้ภาษีในประเทศไทยเป็นอุปสรรคต่อความสามารถในการแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน

           สำหรับภาพรวมของตลาดหุ้นต่างประเทศ แม้หลายตลาดยังเผชิญแรงกดดันคล้ายกับไทย โดยเฉพาะจีนและเวียดนามที่ดัชนีปรับตัวลดลง แต่เขายังเชื่อมั่นในศักยภาพของบางประเทศ โดยเฉพาะ “จีน” ที่ยังมีระบบซัพพลายเชนที่แข็งแกร่ง และมีหุ้นหลายกลุ่มที่ยังคงมีแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว

           “ในพอร์ตส่วนตัวของผม ปัจจุบันเน้นลงทุนในจีนเป็นหลักประมาณ 78% รองลงมาเป็นเวียดนาม 9% และอีกส่วนน้อยเป็นหุ้นไทย” นายสุธนกล่าว

           ทั้งนี้ เขายอมรับว่าการปรับตัวลงแรงของตลาดเวียดนามส่งผลกระทบบางส่วนต่อพอร์ตลงทุน แต่ยังมั่นใจว่าการกระจายการลงทุนอย่างเหมาะสม โดยพิจารณาจากพื้นฐานของกิจการเป็นหลัก จะช่วยลดความผันผวนในระยะยาวได้ สำหรับกลยุทธ์การลงทุนในช่วงนี้ นายสุธนแนะนำว่า ไม่ควรปรับพอร์ตแบบเร่งรีบ เพราะอาจไม่ทันกับจังหวะของตลาด แต่หากนักลงทุนมีการลงทุนในหุ้นที่มีพื้นฐานดีอยู่แล้ว ก็ยังสามารถถือต่อหรือทยอยลงทุนเพิ่มได้ พร้อมเน้นย้ำว่า “การเลือกลงทุนควรพิจารณาเป็นรายตัว” โดยมองความแข็งแกร่งของกิจการเป็นหลัก

รายงานโดย ณัฏฐ์ชญา ปุริมปรัชญ์ภัทร บรรณาธิการข่าว Hoonvision

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กสิกรไทย' คาดค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า กรอบ 33.50–34.20 บ./ดอลลาร์ฯ

'กสิกรไทย' คาดค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า กรอบ 33.50–34.20 บ./ดอลลาร์ฯ

ตลาดหุ้นกู้ไทยมีอะไรที่ควรจับตามอง [HoonVision x FynnCorp]

ตลาดหุ้นกู้ไทยมีอะไรที่ควรจับตามอง [HoonVision x FynnCorp]

[Vision Exclusive] แนะสะสมไม้แรก ใกล้จุด Bottom แล้ว

[Vision Exclusive] แนะสะสมไม้แรก ใกล้จุด Bottom แล้ว

Art Tokenization เปลี่ยนภาพวาดให้กลายเป็นสินทรัพย์ [Hoonvision x TokenX]

Art Tokenization เปลี่ยนภาพวาดให้กลายเป็นสินทรัพย์ [Hoonvision x TokenX]

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด