ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

วันนี้หุ้นฟลอร์กี่ตัว

          หุ้นวิชั่น – เมื่อ จีน ไม่ยอมอ่อนข้อให้สหรัฐฯ พร้อมตอบโต้การเก็บภาษีศุลกากร สงครามการค้าระเบิดแล้ว ทำให้นักลงทุนทั่วโลกแห่ขายหุ้นกันอย่างหนัก ตลาดหุ้นเอเซียวานนี้ (7 เมษายน 2568) ดิ่งเหวกันทั่วหน้า ตลาดหุ้นจีน ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตปิดลบไปถึง 7.34% ตลาดหุ้นโตเกียวดัชนีนิกเกอิปิดร่วง 7.83% ตลาดหุ้นฮ่องกง ดัชนีฮั่งเส็งปิดดิ่ง 13.74%

          วันนี้ถึงคิวหุ้นไทย หลังได้รับอานิสงส์วันหยุดวานนี้ จะโดนแรงขายทบต้นทบดอกหรือไม่?

           ล่าสุดตลาดหลักทรัยพ์แห่งประเทศไทย ได้ประกาศแผนรับมือ ปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor จากเดิม 30% มาเหลือ 15% และห้ามขายชอร์ตชั่วคราว ทั้งนี้ หลักเกณฑ์เกี่ยวกับราคาเสนอซื้อขายสูงสุดและต่ำสุด (Ceiling & Floor) จะไม่ใช้บังคับกับการซื้อขาย DR และ DRx

          พร้อมทั้งได้ปรับกรอบราคาซื้อขายแบบ Dynamic Price Band เป็นรายหลักทรัพย์ จากเดิม 10% จากราคาซื้อขายล่าสุดของหลักทรัพย์นั้น เป็น 5% จากราคาซื้อขายล่าสุดของหลักทรัพย์นั้น อย่างไรก็ตาม การห้ามการขายชอร์ตทุกหลักทรัพย์นั้น ยกเว้น Market Maker สำหรับ SET, mai และ TFEX

          กฎนี้ มีผลตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2568 และไม่เกินวันที่ 11 เมษายน 2568

          ถามเป็นมาตรการที่ดีหรือไม่ ของตลาดหลักทรัพย์ฯรอบนี้ ก็ต้องตอบว่า ดีในระดับหนึ่ง เพราะเป็นการชะลอแรงขายหุ้น เพื่อให้นักลงทุนได้มีเวลาศึกษาข้อมูลการลงทุนให้ครบถ้วนและรอบด้าน โดยเฉพาะนักลงทุนสถาบัน และเจ้าของหุ้นทั้งหลาย

          แต่อีกด้านหนึ่ง การชะลอแรงขายแบบนี้ อาจทำให้ตลาดหุ้นตกอยู่การถูกแรงขายครอบงำยาวนานขึ้น เพราะเป็นมาตรการที่ผิดธรรมชาติการลงทุน หากผู้ลงทุนคิดดีแล้ว และต้องการขายหุ้นออกลดความเสี่ยง หนีภาวะสงครามการค้าออกไปก่อน ดังนั้น วันนี้อาจจะเป็นวันที่มีหุ้นในตลาดไทย ทำสถิติฟลอร์มากที่สุดวันหนึ่งก็ได้

ธรุกิจอะไรไม่โดนภาษี 36%

          จากข้อมูลข่าวจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจของไทยระบุว่า ล่าสุดประเทศไทยเกินดุลการค้าสหรัฐฯ ประมาณ 40,000 ล้านดอลลาร์ ดังนั้นเพื่อรับมือกับมาตรการภาษี ต้องทำให้สัดส่วนการเกินดุลของไทยที่มีต่อสหรัฐฯ ลดลง ซึ่งมีแนวทางเจรจากับสหรัฐฯ ดังนี้

          ประการแรก ไทยต้องนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ให้มากขึ้น โดยมีพร้อมนำเข้าสินค้าหลายประเภทจากสหรัฐฯ เช่น ข้าวโพด ปลาทูน่า เป็นต้น และประการที่สองคือ สินค้าที่นำเข้าจากสหรัฐฯ ต้องเป็นสินค้าที่สามารถนำมาผลิตหรือแปรรูปในไทยเพื่อส่งออกได้ อันจะนำไปสู่การส่งเสริมการผลิตในประเทศ

          และประการที่สาม คือ กระตุ้นและส่งเสริมส่งออกสินค้าที่ผลิตในประเทศไทยมากขึ้น ด้วยการออกใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Certificate of Origin) ซึ่งเป็นเอกสารใช้เพื่อรับรองสินค้าของผู้ส่งออกว่า ส่งออกมาจากประเทศใดให้เข้มงวดมากขึ้น

          ภาครัฐบาลย้ำอีกว่า แนวทางการเจรจาเหล่านี้ ไม่ได้มีเป้าหมายการลดส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ แต่เป็นการทำให้ช่องว่างของการได้เปรียบดุลการค้าลดลง และที่สำคัญคือ การเพิ่มขีดความสามารถในการนำเข้าสินค้าที่ไทยต้องการ และนำมาผลิตและส่งออกให้ได้ด้วย โดยหลังจากนี้ภาครัฐ เอกชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการในรายละเอียดกันต่อไป

          “คาดเจรจากับทางสหรัฐฯ ภายใน 2-3 สัปดาห์ เพื่อลดผลกระทบต่อภาคธุรกิจส่งออกไทย เนื่องเพราะประเมินว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐฯรอบนี้ อาจสะเทือนกับ GDP ไทยไม่น้อยกว่า 1%”

          ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาเนื้อหาข้อความ เมื่อวันที่ 2 เม.ย. 68 ที่ปธน. ทรัมป์ลงนามประกาศคำสั่ง EO กำหนดภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) สรุปสาระสำคัญ ได้ดังนี้

1. Baseline Tariff: จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการจากทุกประเทศในอัตราร้อยละ 10 โดยเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 5 เม.ย. 2568

2. Individualized Reciprocal Higher Tariff: จัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าทุกรายการเป็นรายประเทศ สำหรับประเทศที่สหรัฐฯ มีการขาดดุลการค้าด้วยสูง โดยไทยถูกกำหนดภาษีในอัตราร้อยละ 36 โดยมีผลบังคับใช้ในวันที่ 9 เม.ย. 2568

3. สินค้าที่ไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการ Reciprocal Tariffs คือ (1) สินค้าที่อยู่ภายใต้มาตรา 232 อยู่แล้ว ได้แก่ เหล็ก/อลูมิเนียม และรถยนต์/ชิ้นส่วนรถยนต์ (2) สินค้าที่ระบุไว้ในเอกสาร Annex II ของ EO ครอบคลุมทองแดง ผลิตภัณฑ์ยา เซมิคอนดักเตอร์ ไม้แปรรูป แร่ที่มีความสำคัญ และพลังงาน

4. Duty-free de minimis: สินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 เหรียญสหรัฐฯ จะยังได้รับสิทธิยกเว้นภาษีตามข้อกำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ (duty-free de minimis treatment) ต่อไป

          เห็นได้ว่า ธุรกิจส่งออกที่ไม่อยู่ในข่าย โดนภาษีตอบโต้ 36% ประกอบด้วย เหล็ก/อลูมิเนียม และรถยนต์/ชิ้นส่วนรถยนต์ และอาจรวมถึง ทองแดง ผลิตภัณฑ์ยา เซมิคอนดักเตอร์ ไม้แปรรูป แร่ที่มีความสำคัญ และพลังงาน อีกด้วย (รอการพิจารณาความชัดเจน)

          ขณะที่ผู้บริหาร TEGH นางสินีนุช ได้โพสเฟสบุ๊คว่า ยางพาราธรรมชาติ อยู่ใน list Annex IIที่ “ไม่” ถูกเก็บภาษี 37% นะคะ และขยายความว่า อุตสาหกรรมยางล้อและชิ้นส่วนยานยนต์ของ USA ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจประมาณ 170,600 ล้าน USD และสร้างงานมากกว่า 291,000 ตำแหน่ง USA ไม่ได้ปลูกยางพารา จึงต้องนำเข้ายางพาราธรรมชาติ ประมาณ 1 ล้าน ตันต่อปี โดยนำเข้าจาก ไทย ในสัดส่วน 25%

          ทั้งนี้ สินค้าที่จะได้รับผลกระทบ คือ ยางล้อรถยนต์ (USA นำเข้ายางล้อ ประมาณ 170 ล้านเส้นต่อปี) (ซึ่งไทย คือผู้ส่งออกยางล้อรายใหญ่สุด ไป USA) ทำให้ผู้ผลิตยางล้อที่พึ่งพาตลาด USA จะได้รับผลกระทบทางตรง ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตยางล้อใน USA อาจนำเข้ายางธรรมชาติมากขึ้น ผู้ผลิตยางธรรมชาติที่มีตลาดใน USA อาจส่งออกได้มากขึ้น (TEGH มีสัดส่วนการขายไป USA ที่ 14%)

          ผลกระทบในระยะสั้น คือ ราคายางอ่อนตัว Supply chain ที่พึ่งพา จีน จะได้รับผลกระทบรุนแรง จีน คงจะเล่นสงครามราคา เพื่อคงอัตราการผลิต EU ถูกจัดเก็บ 20% ซึ่งต่ำกว่าประเทศผู้ผลิตยางล้ออื่นๆ น่าจะยังพอแข่งขันได้ สายโทรศัพท์ whitehouse คงไหม้ ในสัปดาห์นี้ (โฟสทิ้งท้าย)

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

'กสิกรไทย' คาดค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า กรอบ 33.50–34.20 บ./ดอลลาร์ฯ

'กสิกรไทย' คาดค่าเงินบาทสัปดาห์หน้า กรอบ 33.50–34.20 บ./ดอลลาร์ฯ

ตลาดหุ้นกู้ไทยมีอะไรที่ควรจับตามอง [HoonVision x FynnCorp]

ตลาดหุ้นกู้ไทยมีอะไรที่ควรจับตามอง [HoonVision x FynnCorp]

[Vision Exclusive] แนะสะสมไม้แรก ใกล้จุด Bottom แล้ว

[Vision Exclusive] แนะสะสมไม้แรก ใกล้จุด Bottom แล้ว

Art Tokenization เปลี่ยนภาพวาดให้กลายเป็นสินทรัพย์ [Hoonvision x TokenX]

Art Tokenization เปลี่ยนภาพวาดให้กลายเป็นสินทรัพย์ [Hoonvision x TokenX]

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด