ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

ตลาดหุ้นกู้ไทยมีอะไรที่ควรจับตามอง [HoonVision x FynnCorp]

ภาพรวมตลาดตราสารหนี้ไทยไตรมาส 1 และแนวโน้มในปี 68

           ตลาดตราสารหนี้ไทยเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนด้วยมูลค่าตราสารหนี้ของทั้งภาครัฐและเอกชนที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากสัดส่วน 12% ของ GDP ในปี 2540 ไปสู่ 94% ของ GDP ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2568 โดย ณ 31 มีนาคม 2568 มูลค่าคงค้างตราสารหนี้ไทยตามรายงานของ ThaiBMA (ไม่รวมตราสารหนี้สกุลเงินต่างประเทศ) อยู่ที่ประมาณ 17.5 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน (YoY)

มูลค่าคงค้างในตลาดตราสารหนี้ไทย

Source: ThaiBMA

           การเพิ่มขึ้นของมูลค่าคงค้างนั้น มาจากการออกพันธบัตรรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งคิดเป็นเกือบ 74% ของมูลค่าคงค้างรวม ส่วนตราสารหนี้ภาคเอกชนคิดเป็น 26% ด้วยมูลค่าคงค้าง 4.5 ล้านล้านบาท ลดลงประมาณ 2.8% YoY เนื่องจากหุ้นกู้กลุ่ม High yield มีการออกน้อยกว่ามูลค่าที่ครบกำหนด ท่ามกลางการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทย และความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก ซึ่งทำให้มีปัจจัยที่นักลงทุนควรติดตามและพิจารณา มีดังนี้

เส้นอัตราผลตอบแทนขาลงไปตามภาวะดอกเบี้ย

           เส้นตอบเเทนพันธบัตรรัฐบาลไทย (Government bond yield curve) อยู่ในช่วงขาลงในไตรมาส 1 โดยเฉพาะภายหลังที่ กนง. ปรับลดออัตราดอกเบี้ยเมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ เร็วกว่าที่หลายฝ่่ายคาด ทำให้ Bond yield ไทย ณ 31 มีนาคม 68 รุ่นอายุ 2 ปี 5 ปี และ 10 ปี ปรับตัวลดลง 31-35 bps. จากสิ้นปี 2567 มาอยู่ที่ 1.69%, 1.74% และ 1.99% ตามลำดับ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับเส้นอัตราผลตอบแทนตราสารหนี้ภาคเอกชน (Corporate bond yield curve) ที่ปรับลดลง 26-52 bps. ในหุ้นกู้กลุ่ม Investment grade (AAA, AA, A และ BBB+) รุ่นอายุ 5 ปี มาอยู่ที่ระดับ 2.29% 2.63% 3.01% และ 4.31% ตามลำดับ ในช่วงเวลาเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม หาก กนง. มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีกในช่วงที่เหลือของปี 2568 ก็จะส่งผลตราสารหนี้ที่ยังจ่ายดอกเบี้ยสูงที่ออกมาก่อนหน้านี้จะยิ่งน่าสนใจ ส่งผลให้นักลงทุนหันมาซื้อตราสารหนี้มากขึ้น ราคาก็จะสูงขึ้นตาม และ bond yield ลดลงตามลำดับ

นักลงทุนต่างชาติแห่ซื้อสะสม

           ThaiBMA รายงานกระแสเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ (Fund flow) ในไตรมาสแรกของปีเป็นการซื้อสะสมสุทธิที่มูลค่า 10,297 ล้านบาท โดยเฉพาะในเดือนกุมภาพันธ์และมีนาคม ภายหลังการเข้ารับตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้การถือครองของนักลงทุนต่างชาติ มีมูลค่า 8.74 แสนล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 5% ของมูลค่าคงค้างตราสารหนี้ไทย

           ตั้งแต่ต้นปีนี้จนถึงปัจจุบัน (10 เม.ย. 68) ต่างชาติมีการซื้อสะสมตราสารหนี้ไทยสูง รวมมูลค่า 21,574 ล้านบาท พลิกจากการขายสะสมสุทธิที่ 67,393 ล้านบาทในปี 2567 สะท้อนการเข้าถือครองสินทรัพย์ที่มีเสถียรภาพอย่างตราสารหนี้มากขึ้น ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนโดยเฉพาะภายหลังที่สหรัฐฯ ประกาศปรับเพิ่มภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) กับทั่วโลก รวมทั้งประเทศไทย

พลังงาน อสังหาฯ การเงิน 3 กลุ่มที่ครองการออกหุ้นกู้สูงสุด

           พลังงาน (ENERG) พัฒนาอสังหาฯ (PROP) และการเงิน (FIN) เป็น 3 กลุ่มอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าการออกหุ้นกู้มากที่สุด ตามลำดับในช่วงไตรมาส 1 ปี 2568 เนื่องจากลักษณะของอุตสาหกรรมที่ต้องใช้เงินลงทุนสูง รวมถึงเป็น sector ที่มีหุ้นกู้ระยะยาวครบกำหนดไถ่ถอนในช่วง 3 ไตรมาสที่เหลือของปีมากที่สุด โดยกลุ่ม FIN มีหุ้นกู้ครบกำหนดมูลค่า 144,655 ล้านบาท ส่วนกลุ่ม PROP และ ENERG มีมูลค่าครบกำหนด 121,054 ล้านบาท และ 85,467 ล้านบาท ตามลำดับ

มูลค่าการออกหุ้นกู้ในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรม (1Q24 vs 1Q25)

Source: ThaiBMA

การออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนลดลง

           มูลค่าการออกหุ้นกู้ของภาคเอกชนลดลงมาตั้งแต่ปี 2565 ที่มูลค่า 1,261,548 ล้านบาท สู่ 913,141 ล้านบาทในปี 2567 และในไตรมาส 1 ปี 2568 มูลค่าการออกอยู่ที่ 203,486 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 1.76% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม หุ้นกู้ในกลุ่ม Investment Grade มีมูลค่าการออกสูงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนว่านักลงทุนให้ความสนใจและเน้นการลงทุนในบริษัทที่มีอันดับเครดิตสูง เนื่องจากสถานการณ์ที่มีหุ้นกู้ผิดนัดชำระและเลื่อนชำระยังคงมีให้เห็นต่อเนื่อง ซึ่งในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา มีหุ้นกู้ที่ผิดนัดชำระรวม 1,605 ล้านบาท จากผู้ออก 3 ราย (CV, WTX, CHO) ขณะที่หุ้นกู้เลื่อนชำระมีมูลค่า 8,841 ล้านบาท จากผู้ออก 9 ราย (RICHY, CV, CGD, JCK, PRIME, NRF, EP, TPOLY, ECF) จึงมีส่วนให้นักลงทุนอาจขาดความเชื่อมั่นและหันไปลงทุนในบริษัทที่มีอันดับเครดิต Investment Grade ขึ้นไปเพิ่มขึ้น

มูลค่าการออกหุ้นกู้ระยะยาว

Source: ThaiBMA

เอกชนออก ESG Bonds เพิ่มขึ้น สวนทางกับหุ้นกู้ปกติ

           ESG Bonds ที่ประกอบด้วย Green Bonds, Social bonds, Sustainability bonds และ Sustainability-linked bonds (SLBs) มีการออกเพิ่มขึ้นในภาคเอกชนกว่า 37% จากปีก่อน รวมมูลค่ากว่า 70,000 ล้านบาทในปี 2567 และยังขยายไปสู่อุตสาหกรรมที่หลากหลายขึ้น อย่าง โรงแรม หรือแม้แต่ Microfinance ขณะเดียวกัน ภาครัฐโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะได้ออก SLB มูลค่า 30,000 ล้านบาทในปี 2567 ซึ่งถือว่าเป็นการออก SLB โดยภาครัฐเป็นครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ สะท้อนเทรนการออกหุ้นกู้ตราสารหนี้กลุ่มความยั่งยืน เพื่อเป็นอีกทางเลือกให้กับนักลงทุนที่สนใจและมองเห็นศักยภาพการเติบโตของธุรกิจในระยะยาว

           ดังนั้น หากนักลงทุนในตราสารหนี้ติดตามปัจจัยที่กล่าวมาข้างต้น ก็จะเป็นอีกตัวช่วยในการตัดสินใจลงทุนได้ดียิ่งขึ้นตามสถานการณ์ ควบคู่ไปกับการศึกษาข้อมูลรายบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ที่เราสนใจลงทุน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

หุ้นผ่อนคลายที่ใช่

หุ้นผ่อนคลายที่ใช่

[Vision Exclusive] 5หุ้น ปันผลยีลด์เด่น ยึดพื้นฐานสู้ผันผวน

[Vision Exclusive] 5หุ้น ปันผลยีลด์เด่น ยึดพื้นฐานสู้ผันผวน

หุ้นได้เสีย! ลดดอกเบี้ยสัปดาน์นี้

หุ้นได้เสีย! ลดดอกเบี้ยสัปดาน์นี้

6 เรื่องสำคัญ! นักลงทุนควรรู้ ก่อนลงทุน DELTA

6 เรื่องสำคัญ! นักลงทุนควรรู้ ก่อนลงทุน DELTA

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด