หุ้นวิชั่น – ในดือนเม.ย.2568 จะมีหุ้นจำนวน 114 ตัว ถูกขึ้นเครื่องหมาย XD โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ TCAP จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 11 เม.ย. จ่ายปันผลที่ 2.05 บาท/หุ้น, SCB จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 16 เม.ย. และจะมีการจ่ายเงินปันผลอยู่ที่ 8.44 บาท/หุ้น, KTB ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 16 เม.ย. จ่ายปันผลที่ 1.55 บาท/หุ้น, KBANK ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 17 เม.ย. จ่ายปันผลที่ 8.00 บาท/หุ้น, BBL ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 23 เม.ย. จ่ายปันผลที่ 6.50 บาท/หุ้น, TISCO ขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 25 เม.ย. จ่ายปันผลที่ 5.75 บาท/หุ้น, CIMBT จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เม.ย. จ่ายปันผลที่ 0.04 บาท/หุ้น และ LHFG จะขึ้นเครื่องหมาย XD วันที่ 28 เม.ย. จ่ายปันผลที่ 0.03 บาท/หุ้น เป็นต้น
นายมงคล พ่วงเภตรา รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุนหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในเดือนนี้จำนวนรวม 8 บริษัท ประเมินจะมีผลต่อ SET Index ราว -8.71 จุด (คำนวณจาก SET Index วันที่ 27 มี.ค.68 ที่ 1,187 จุด)
สำหรับผู้ที่รอซื้อหุ้น SCB, KBANK, BBL, KTB, TTB แนะนำให้ไปรอซื้อหลังวันขึ้นเครื่องหมาย XD เนื่องจากมองว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก อาจไม่คุ้มกับเงินปันผลที่จะได้รับ แต่หากอยากถือยาว สามารถซื้อได้ทันที เพื่อ lock yield ของปีหน้า
วิธีคำนวณ ถ้าอยากรู้ว่า ราคาหุ้นหลัง XD จะลงไปที่ใด ปกติให้เอาราคาวันก่อน XD ลบด้วยเงินปันผลจ่ายในงวดนั้น กรณีของ SCB คือ ราคาวัน XD อาจลงไปที่ 114 บาท (ถ้าใช้ราคาตลาดที่ 122.5 มาคำนวณ) แต่ถ้าราคาหุ้นขึ้นมามากกว่าปกติ คือ เก็งล่วงหน้ามามากกว่าเงินปันผลจ่าย ราคาหุ้นก็อาจกลับลงไปที่จุดก่อนขึ้นมาก็ได้
ในกรณีของ SCB คือ ที่ 117 บาท และ 110 บาท ซึ่งจะเป็นจุดรับ หรือจุดเข้าซื้อหุ้นหลัง XD คือ ใช้คำนวณว่า คุ้มไหม ถ้าจะถือหุ้นติด XD อย่างเช่น ถ้ามีทุน 125 บาท แล้วราคาลงไปที่ 110 บาท ได้ปันผลมาที่ 8.44 บาท แต่ขาดทุนจากราคาหุ้น 15 บาท อาจไม่คุ้ม ต้องขายก่อน XD ดีไหม
อย่างไรก็ตามการลงทุนในหุ้นปันผล ก็ยังถือเป็นจังหวะที่ดีในช่วงที่ตลาดหุ้นไทยนั้นอยู่ในโซนที่ไม่แพง หลังจากดัชนีฯ นั้นปรับตัวลงมาต่อเนื่อง จากผลกระทบเหตุการณ์แผ่นดินไหว ตลอดจนการปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าของสหรัฐ ซึ่งไทยถูกปรับขึ้นเป็น 37% ทำให้กระทบต่อการส่งออก ที่ถือเป็นเครื่องยนต์หลักของประเทศ ทำให้นักลงทุนต่างกังวลว่าอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของไทย (GDP) ในปีนี้
ขณะที่ยังมีหลายบริษัทที่ยังมีการเติบโตได้ดีอยู่ ซึ่งเมื่อราคาหุ้นปรับตัวลงมา ก็มองเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสม