หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง TFG ว่า คาดกำไรปกติ 4Q24 ทรงตัว QoQ และเติบโต YoY ดีกว่ากลุ่มที่ชะลอลง QoQ
คาดกำไรปกติ 4Q24 ของ TFG ที่ 1,236 ล้านบาท ทรงตัว QoQ และพลิกจากขาดทุนปกติ 938 ล้านบาท ในปี ก่อน ดีกว่าที่เราประเมินไว้ก่อนหน้าว่าจะชะลอลง QoQ โดยแม้ราคาขายเฉลี่ยของบริษัทคาดปรับลดลง จากธุรกิจไก่ตามราคาตลาดในประเทศ และราคาส่งออกที่ชะลอตัว แต่ชดเชยได้ด้วยปริมาณขายที่สูงขึ้น ทั้งจากธุรกิจไก่และหมู ประกอบกับรายได้ธุรกิจร้าน Fresh Shop ที่สูงขึ้น
โดยปัจจุบันจำนวนสาขาเพิ่ม เป็น 401 สาขาตามเป้าหมายของบริษัท (จาก 3Q24 ที่ 368 สาขา) โดยรวมเราคาดรายได้ที่ 17,974 ล้านบาท (+6.4% QoQ, +23.5% YoY) หนุนจากปริมาณขาย และคาด GPM ที่ 15.3% (+10 bps QoQ, +1,450 bps YoY) หนุนจาก Economies of scale และราคาต้นทุนวัตถุดิบที่ปรับลง โดยหากเป็นไป ใกล้เคียงกับที่เราคาดจะทำให้กำไรปกติปี 2024 จะมี Upside จากประมาณการของเราราว 14%
แนวโน้มกำไร 1Q25 เติบโตต่อทั้ง QoQ และ YoY แม้มีฐานที่สูง
ประเมินแนวโน้มกำไร 1Q25 ของ TFG จะปรับตัวสูงขึ้นต่อทั้ง QoQ และ YoY เนื่องจากเห็นสัญญาณ บวกของราคาหมูในประเทศที่สูงขึ้น ปัจจุบันอยู่ที่ราว 74-75 บาท/กก. จากเฉลี่ยใน 4Q24 ที่ราว 73 บาท/กก. และหมูเวียดนามที่ปรับขึ้นเป็น 66,000 ดอง/กก. (+10% QoQ) นอกจากนี้ การขยายธุรกิจ Fresh Shop เพิ่มอีกราว 50 สาขา ใน 1Q25 เป็นปัจจัยหนุนรายได้
ขณะที่แนวโน้มราคาต้นทุนวัตถุดิบ ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากนัก ทำให้เราประเมินทั้งรายได้ และ GPM ของ TFG จะปรับขึ้นต่อ QoQ นอกจากนี้เราคงประมาณการกำไรปกติปี 2025 ที่ 3,930 ล้านบาท (+22.9% YoY) หนุนจากการขยายการ เติบโตในเวียดนามหนุนปริมาณขาย และราคาขายเฉลี่ยหมูในเวียดนามยังมีแนวโน้มปรับขึ้นต่อใน 1H25 เป็นอย่างน้อยจากผลกระทบของการระบาดโรค ASF ขณะที่ในประเทศเราราคาเฉลี่ยดีขึ้น YoY และ บริษัทตั้งเป้าเปิดสาขา Fresh Shop เพิ่มอีก 200 สาขา ในปี 2025 (เป็น 600 สาขา)
ปรับราคาเหมาะสมลงเพื่อเพิ่มความระมัดระวัง ราคาหุ้นถูกสุดในกลุ่ม… คง แนะนำ “ซื้อ”
ราคาหุ้นปรับลงต่อเนื่องตามปัจจัยตลาดและความกังวลประเด็นสัดส่วนการวาง Margin ที่สูง อย่างไรก็ตาม เชิงพื้นฐานเราคงมุมมองบวกต่อภาพการเติบโตของธุรกิจ หนุนจากธุรกิจหมูในเวียดนาม และธุรกิจร้าน Fresh Shop เป็นปัจจัยหลักหนุนการเติบโต และภาพอุตสาหกรรมฟาร์มสัตว์ในประเทศยังอยู่ในรอบขาขึ้นของราคาขายเฉลี่ย
เราปรับ PER ในการประเมินมูลค่าจากเดิมที่ 13.5 เท่า เป็น 7.0 เท่า เพื่อเพิ่มความระมัดระวัง สะท้อนความเสี่ยงดังกล่าว และสอดคล้องกับมูลค่าตลาดหุ้นไทยในปัจจุบัน ได้ราคาเหมาะสมใหม่ที่ 4.80 บาท มี Upside gain 55.8% ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายบน PER 25 เพียง 4.6 เท่า ซึ่งต่ำสุดในกลุ่มฟาร์มสัตว์บก และเทียบเท่ากับ -1.5 SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลังในอดีต คงคำแนะนำ “ซื้อ”