หุ้นวิชั่น – SPCG ประมาณการรายได้ ปี68 ที่ 1,000-1,500 ล้านบาท ยอมรับหมด Adder กระทบรายได้ เตรียมเสริมศักยภาพธุรกิจใหม่ เน้นขยายฐานลูกค้าในธุรกิจ โซลาร์รูฟ โอกาสโตต่อเนื่อง ทั้งลูกค้าอุตสาหกรรมและอาคารพาณิชย์ หวังรักษาระดับจ่ายปันผล ที่ 0.8-1.2 บาท / หุ้น แม้มีปัจจัยลบกดดัน
นายพิพัฒน์ วิริยธรานนท์ ผู้อำนวยการฝ่ายการเงิน บริษัท เอสพีซีจี จำกัด (มหาชน) หรือ SPCG เปิดเผยว่าบริษัทประมาณการรายได้ปี 2568 ที่ระดับ 1,000 – 1,500 ล้านบาท จากปีก่อนที่ทำได้ 2,166.64 ล้านบาท โดยโครงการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ 36 แห่ง ที่หมดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าในรูป Adder ลงทำให้รายได้ของบริษัทลดลงไปบ้าง รวมถึงปัจจัยด้านค่าอัตราไฟฟ้าผันแปร (FT) ที่ทางภาครัฐได้มีการกำหนดใหม่มีแนวโน้มลดลง คาดว่าส่งผลโดยตรงต่อภาพรวมรายได้
ทั้งนี้ กลยุทธ์สำหรับปี 2568 บริษัทมีแผนการเพิ่มศักยภาพของธุรกิจ โดยจะเสริมสร้างเทรนด์ธุรกิจใหม่ๆ รักษาคุณภาพสินค้าและการบริการ ความร่วมมือกับพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพิ่มสิทธิประโยชน์ในด้านอื่นๆ โดยจะไม่ลดต้นทุนเพื่อการแข่งขัน และเน้นขยายฐานลูกค้าในธุรกิจ โซลาร์รูฟ ซึ่งปัจจุบันมีภาคเอกชนเป็นหลัก โดยเฉพาะ โรงงานอุตสาหกรรม และ อาคารพาณิชย์ ที่มีการติดตั้งเพื่อกักเก็บพลังงานในช่วงค่าไฟปรับขึ้น
“สำหรับการแข่งขันอนาคตด้านธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์ในรูปแบบโซลาร์ฟาร์มนั้น การทำโซลาร์ฟาร์มในประเทศไทย เป็นธุรกิจที่ต้องรับการอนุมัติจากภาครัฐ การทำธุรกิจจึงต้องร่วมกับภาครัฐเป็นหลัก โดยบริษัทยังคงติดตามโครงการใหม่ๆ ของภาครัฐ หากมีโครงการใหม่ก็พร้อมร่วมมือ รวมถึงในส่วนธุรกิจต่างประเทศนั้นอยู่ระหว่างการศึกษา โดยบริษัทเน้นการลงทุนในประเทศที่มีความคุ้มค่า หากยังไม่แน่ใจจะยังไม่ลงทุนในประเทศนั้น แต่ที่บริษัทลงทุนในญี่ปุ่นเพราะที่ญี่ปุ่นมีความคุ้มค่าทั้งทางนโยบายภาครัฐและพาร์ทเนอร์ที่แข็งแกร่ง” นายพิพัฒน์ กล่าว
ด้านการจ่ายเงินปันผลนั้นขึ้นอยู่กับผลการประกอบการในอนาคต โดยพยายามให้คงระดับที่ 0.8-1.2 บาท / หุ้น เนื่องจากมีหลายปัจจัย ทั้งด้านอุปกรณ์ที่ใช้มานาน ที่ต้องมีค่าดูแลเพิ่ม ในส่วนนี้บริษัทสามารถควบคุมได้ อีกทั้งยังมีเรื่องค่าอัตราไฟฟ้าผันแปร (FT) ที่ทางรัฐเป็นผู้กำหนด ซึ่งบริษัทไม่สามารถควบคุมได้ เป็นปัจจัยที่ส่งผลต่อรายได้
ด้านกรณีพิพาทกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ในการฟ้องศาลแพ่งเรียก 3.7 พันล้าน กฟภ. ฐานละเมิดสัญญาซื้อขายไฟโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในพื้นที่ EEC หลังยกเลิกการให้ความยินยอมโอนสิทธิหน้าที่ตามสัญญา โดย มูลค่าของความเสียหายยังคงต้องติดตาม โดยเบื้องต้นบริษัทมีค่าใช้จ่ายในการระดมทุน การจัดซื้อและพัฒนาจัดซื้อที่ดิน และมีค่าใช้จ่ายอื่นๆ พอสมควร