หุ้นวิชั่น – บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI รายงานผลการดำเนินงาน 1. รายได้จากการโอนกรรมสิทธิอสังหาริมทรัพย์เท่ากับ 30,816.65 ล้านบาท ลดลงจากปีที่แล้ว 19.79 ล้านบาท คิดเป็นลดลง0% ซึ่งถือว่าใกล้เคียงกับปีก่อนหน้ามาก ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมาจะเป็นปีที่ท้าทายสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยโดยรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์แบ่งเป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์บ้านและทาวน์เฮ้าส์ 67% อีก 33% เป็นรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุด ในปีนี้ บริษัทฯ มีโครงการอาคารชุดที่สร้างเสร็จและครบกำหนดโอนกรรมสิทธิ์ทั้งหมด 5โครงการ โดยมีโครงการอาคารชุด 2 โครงการที่เริ่มทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ไตรมาสที่ 1 และโอนต่อเนื่องมาตลอดจนถึงไตรมาสที่ 4 ส่วนอีก 3 โครงการเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ไตรมาสที่ 2 และโอนต่อเนื่องมาตลอดจนถึงไตรมาสที่ 4 เช่นกัน ทั้งนี้ในปี 2567 อัตรากำไรขั้นต้นของบริษัทฯและบริษัทย่อยปรับตัวดีขึ้นจากผลของการควบคุมต้นทุนการก่อสร้างได้ดี
2.ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารเท่ากับ 4,301.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 444.56 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 12%เนื่องจากมีการเปิดโครงการจำนวนมากขึ้น โดยค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารของบริษัทฯและบริษัทย่อยคิดเป็น 13.4%เมื่อเทียบกับรายได้รวม เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 12.1%
3. ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมเท่ากับ 393.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 146.85 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 59% เนื่องจากการร่วมค้าและบริษัทร่วมในประเทศออสเตรเสียมีรายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์โครงการเพิ่มขึ้น
4. ต้นทุนทางการเงินเท่ากับ 708.50 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 241.11 ล้านบาท คิดเป็นเพิ่มขึ้น 52% เกิดจากการปรับขึ้น อัตราดอกเบี้ยนโยบาย รวมทั้งหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากการขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ
5. กำไรสุทธิสำหรับปีเท่ากับ 6,189.54 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 200.11 ล้านบาทจากปีที่แล้ว คิดเป็นเพิ่มขึ้น 3% เกิดจากอัตรากำไร ขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นตามที่กล่าวในข้อ 1 และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้าและบริษัทร่วมที่เพิ่มขึ้นตามที่กล่าวในข้อ 3 ส่งผลให้กำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐานเท่ากับ 3.17 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่อยู่ที่ 3.07 บาทต่อหุ้น
6. อัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยสุทธิต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (Net Gearing Ratio) อยู่ที่ระดับ 54% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 สูงขึ้นจากระดับ 44% ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566 เนื่องจากการขยายการลงทุนของกลุ่มบริษัทฯ
อนึ่ง ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2567 บริษัทฯและบริษัทย่อย มียอดสัญญาที่ลูกค้าซื้อบ้านและ/หรืออาคารชุดพักอาศัยแล้วแต่ยังไม่ถึงกำหนดโอนให้ลูกค้า 11,535 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนให้ลูกค้าและสามารถรับรู้เป็นรายได้ในปี 2568 จำนวน 7,545 ล้านบาท และส่วนที่เหลือ 3,990 ล้านบาทในอีก 3 ปีถัดไป ทั้งนี้ยอดสัญญาที่รอส่งมอบหมายถึงยอดจำนวนเงินรวมของบ้านและ/หรืออาคารชุดพักอาศัยที่รอโอนซึ่งบริษัทฯและบริษัทย่อยจะทยอยรับรู้รายได้ในอนาคตตามมาตรฐานการบัญชีคือรับรู้รายได้เมื่อโอนกรรมสิทธิ์