หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่นรายงาน บล. หยวนต้า คาด SHR กำไรปกติ 4Q24 ที่ 132 ล้านบาท ฟื้นตัวเด่น QoQ จากขาดทุนปกติ 20 ล้านบาทใน 3Q24 จาก 1) การเข้าสู่ High Season ของกลุ่มโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ซึ่งมีอัตราทำกำไรสูง ทำให้คาด GPM ที่ 39.0% (+80 bps QoQ) ดีขึ้นทั้งๆ ที่คาดว่า RevPar และรายได้ทรงตัว QoQ เพราะกลุ่มโรงแรมใน UK (35% ของรายได้) เริ่มเข้า Low Season 2) โรงแรมในไทยทยอยรับคืนห้องที่รีโนเวทช่วงกลางเดือนพ.ย. 2024 หนุนให้ Capacity ในการให้บริการเพิ่มขึ้น QoQ และ 3) ต้นทุนการเงินคาดที่ 245 ล้านบาท (-14% QoQ) ผลบวกจากการปรับโครงสร้างหนี้และการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของหนี้สินสกุลเงินหลัก (หนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ย ณ สิ้น 3Q24 เป็นสกุลเงินบาท, ดอลลาร์สหรัฐฯ และปอนด์ คิดเป็น 43%/25%/22% ตามลำดับ)
ขณะที่เทียบกับ 4Q23 กำไรปกติเติบโตดี YoY จาก 1) RevPar เฉลี่ยทั้งกลุ่มคาดเติบโต 15% YoY เติบโตดีระดับ 10-15% YoY ในทุกตลาด ยกเว้นโรงแรมใน UK ที่ทรงตัว YoY 2) คาดผลประกอบการของบริษัทร่วมหรือ SO Maldives ดีขึ้น คาดส่วนแบ่งขาดทุนที่ 35 ล้านบาทใน 4Q24 เทียบขาดทุน 66 ล้านบาทใน 4Q23
คาดผลประกอบการ 1Q25 เติบโตทั้ง QoQ และ YoY
แนวโน้ม 1Q25 เบื้องต้นคาดกำไรปกติเติบโตทั้ง QoQ และ YoY หนุนจากช่วง High Season ต่อเนื่องของโรงแรมในไทยและมัลดีฟส์ โรงแรมในไทยได้รับคืนห้องรีโนเวทเฟสที่ 2 ครบ 100% คาดหนุนให้ ADR โรงแรมดังกล่าวเพิ่มขึ้น 15-20% (แผนการรีโนเวทส่วนที่เหลือถูกเลื่อนไปปี 2026 ดังนั้นตลอดปี 2025 กลุ่มโรงแรมในไทยจะรับรู้ผลบวกจากการเติบโตของนักท่องเที่ยวและ ADR ที่เพิ่มขึ้นได้ตลอดทั้งปี)
คงประมาณการ…คาดกำไรปกติปี 2025 เติบโตเด่น 99% YoY
หากกำไรปกติ 4Q24 ออกมาตามคาด กำไรปกติปี 2024 จะอยู่ที่ 159 ล้านบาท ใกล้เคียงคาดการณ์
คงมุมมองบวกต่อการเติบโตของผลประกอบการ SHR ในปี 2025 การเติบโตหนุนจาก 1) RevPar เฉลี่ยทั้งกลุ่มที่ดีขึ้น 8% YoY ด้วยการเติบโตของกลุ่มโรงแรมในไทยและ Outrigger เป็นหลัก 2) ผลบวกจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายและปรับโครงสร้างเงินกู้ของบริษัท ทั้งการ Refinance เงินกู้ในไทยและออกหุ้นกู้สกุลเงินบาทเพื่อไปชำระคืนหนี้สกุลเงิน USD/GBP บางส่วนก่อนกำหนด และ 3) บริษัทร่วมหรือ SO Maldives ในช่วงปลาย 4Q24 ผลการดำเนินงานดีขึ้นจนใกล้เคียงระดับคุ้มทุนจากช่วง High Season และการเพิ่มสัดส่วนนักท่องเที่ยวกลุ่มตะวันออกกลางได้มากขึ้น
คาดส่วนแบ่งขาดทุนปี 2025 ที่ 120 ล้านบาท ลดลงจากราว 224 ล้านบาทในปี 2024
คงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสมที่ 3.30 บาทต่อหุ้น
คงประมาณการและคงคำแนะนำ “ซื้อ” อิงราคาเหมาะสม ณ สิ้นปี 2025 ที่ 3.30 บาทต่อหุ้น (อิง EV/EBITDA Multiple ที่ 7.5 เท่า) หุ้นซื้อขายบน EV/EBITDA ปี 2025 เพียง 6x ซึ่งต่ำกว่า -2SD ของค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปีกลุ่มโรงแรม และ PBV25 ต่ำ 0.5 เท่า สะท้อนว่าหุ้นไม่แพงแล้ว
ประเมินเป็นจังหวะกลับเข้าสะสมรอบใหม่ หลังผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2024 ลุ้นการฟื้นตัวเด่นของผลประกอบการตั้งแต่ 1Q25 เป็นต้นไป
ความเสี่ยงสำคัญ:
จำนวนนักท่องเที่ยวต่ำกว่าคาดการณ์, การระบาด COVID-19 รอบใหม่, เศรษฐกิจถดถอยรุนแรงทั่วโลก และการแข่งขันด้านราคาในระยะถัดไป