หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ ระบุ กลยุทธ์การลงทุนช่วงสั้นมอง SET แกว่งตัวผันผวน อาจมีแรงขายลดความเสี่ยงจากความกังวลผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสงครามการค้าที่ ประธานาธิบดีสหรัฐ ทรัมป์เดินหน้าขึ้นภาษีต่อเนื่องและคาดจะมีการตอบโต้จากประเทศคู่ค้าคาดจะกระทบต่อบรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลก และกดดันทำให้ตลาดหุ้นไทยมีโอกาสทำนิวโลว์
อย่างไรดีหาก SET ปรับตัวลงไปในช่วง 1,100-1,130 จุด จะเป็นโอกาสลงทุน เนื่องจากมี Downside จำกัด ขณะที่พิจารณาเศรษฐกิจของจีนยังมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีแนวโน้มชะลอตัวลงทั้งภาคการผลิตและบริการจากความไม่ชัดเจนของนโยบายภาษี แต่มองจะไม่แย่อย่างที่ตลาดกังวล ด้านเงินเฟ้อไทย มี.ค. น่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อทิศทางการดำเนินนโยบายการเงินของ ธปท. มากนัก ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy”
แนะลงทุน 3 ธีมหลัก-3 ธีมเทรดดิ้ง มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
มอง SET จะแกว่งตัวผันผวน โดยอาจมีแรงขายลดความเสี่ยงจากความกังวลผลกระทบจากแผ่นดินไหวและสงครามการค้า ดังนั้นกลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีมหลักและ 3 ธีมเทรดดิ้งที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
- หุ้นที่คาดเป็นเป้าหมาย ThaiESGX โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต 2) ฐานะการเงินแข็งแกร่ง และ 3) จ่ายปันผลสม่ำเสมอ Div. Yield อย่างน้อย 3% หุ้น SET50 ที่ ADVANC BBL BDMS CPALL PTT และ SET100 BCH BTG
- หุ้นปันผลคุณภาพดี โดย 1) สถิติจ่ายปันผลต่อเนื่องอย่างน้อย 20 ปี และ 2) คาดจ่ายปันผลจากกำไรปี 2567 หลังหักจ่ายระหว่างกาลแล้ว Div. Yield สูงเกิน 4% และ Div. Payout Ratio มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหรือทรงตัว แนะนำ KTB BBL KBANK
- หุ้น Undervalued สำหรับลงทุน คัดเลือกหุ้น SET100 ที่คาดเป็นเป้าหมายของกองทุน โดย 1) ปี 2568 คาดกำไรเติบโต 2) มีความสามารถจ่ายดอกเบี้ยสูง 3) ซื้อขายที่ PER และ PBV 2568F ระดับต่ำกว่า -1SD 4) Div. Yield ปี 2568 อย่างน้อย 2% และ 5) มี SET ESG Rating ระดับ A-AAA แนะนำ MTC MINT AMATA BJC CPF
- Trading Idea: นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้นที่คาดได้ผลบวกทางอ้อมจากเหตุแผ่นดินไหว HMPRO SCCC TRUE ADVANC STECON 2) Domestic Play หากกังวลสงครามการค้ารุนแรงขึ้น CPALL ADVANC TRUE BTG BCH และ 3) หุ้นที่คาดได้อานิสงส์จากเข้าสู่ เม.ย. ซึ่งเป็นช่วงเทศกาลสงกรานต์ จากสถิติให้ผลตอบแทนช่วง เม.ย. เฉลี่ย 2.8% ใน เม.ย. ได้แก่ กลุ่มค้าปลีก (CPAXT CPALL) กลุ่มท่องเที่ยว (MINT) และกลุ่มการแพทย์ (BCH BDMS)
Daily top picks
BCH : มองเป็นหุ้น Defensive ซึ่งปีนี้คาดกำไรปกติจะเติบโตดีสุดในกลุ่มการแพทย์ที่ 15%YoY ปัจจัยหนุนจาก 1) การขยาย/ปรับปรุง รพ. 2) การอัพเกรด รพ. การุญเวช ปทุมธานี เป็น รพ. เกษมราษฎร์ ปทุมธานี 3) การเพิ่มบริการใหม่ๆ และ 4) การดำเนินงานที่เติบโตมากขึ้นที่ รพ. ใหม่ 3 แห่ง อีกทั้ง Valuation ไม่แพง โดยซื้อขายที่ PER 68F ระดับ 22.5 เท่า คิดเป็น -2SD ของ PER เฉลี่ยในอดีต
DIF: มองเป็นหุ้นปลอดภัยภายใต้ตลาดผันผวน โดย 1Q68 คาดกำไรปกติจะเพิ่มขึ้น YoY และ QoQ แรงหนุนจากดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงหลังจากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย อีกทั้งยังมีจุดเด่นจ่ายปันผลสูง โดยปี 68 คาดมีเงินปันผลจ่ายราว 0.9 บาท/หน่วย คิดเป็น Div. Yield สูงราวปีละ 11%