หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด ระบุถึง MASTER ว่า ต่างประเทศหนุนการเติบโต
Event
► วานนี้บริษัทให้ข้อมูลแนวโน้มผลประกอบการผ่านรายการ SET Opportunity Day เรามีมุมมองเป็นกลางในช่วงสั้น และคงมุมมองบวกในระยะยาว
Our Take
► รายได้ปี 2024 อยู่ที่ 2,135 ล้านบาท (+11.4% YoY) โดยรายได้ต่างประเทศคิดเป็นสัดส่วน 28% (อินโดนีเซีย 30.8%, เมียนมา 12.5%, จีน 11.9%, กัมพูชา 11.1%, และลาว 9.3%) และรายได้จากลูกค้าต่างประเทศเติบโต 49.6% YoY ขณะที่ในแง่ของปริมาณลูกค้าต่างประเทศอยู่ที่ 14%
► รายได้จากศัลยกรรมปี 2024 แบ่งตามบริการดังนี้
ศัลยกรรมจมูก สัดส่วน 21%
ศัลยกรรมยกคิ้ว ดึงหน้า ตา คอ สัดส่วน 13%
ศัลยกรรมทรวงอก สัดส่วน 10%
Men’s Health สัดส่วน 9%
ที่เหลือประกอบด้วย ดูดไขมัน, ทำตาสองชั้น, ปรับโครงหน้า และตัดหนังหน้าท้อง ตามลำดับ
Outlook
► ตั้งเป้ารายได้เติบโตในระดับ เลขสองหลัก และตั้งเป้าสัดส่วนรายได้จากลูกค้าต่างประเทศที่ 40% โดยจะเพิ่ม Partner Agency อีก 2 ประเทศในปีนี้ คือ กัมพูชาและลาว
► รายได้ในเดือนแรกของ 1Q25 เติบโตจากลูกค้าต่างประเทศประมาณ 18% ส่วนรายได้ในประเทศเติบโตต่ำด้วยเลขหลักเดียว
► การรับรู้ค่าใช้จ่าย PPA ของบริษัทร่วมใน 1Q25 จะเป็น Korawin และ V ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสีย
ข้อเสีย: ทำให้งบ 1Q25 อาจเติบโตเพียง 10-15% YoY และเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี
ข้อดี: หลังจากรายงานงบ 1Q25 ราคาหุ้นจะหมดประเด็น Overhang แม้ว่าจะยังมีรายการ PPA จากบริษัทอื่นอีกใน 2Q-3Q24 แต่ผลกระทบไม่มีนัยสำคัญเท่ากับ V Square ทำให้ราคาหุ้นกลับมาเคลื่อนไหว Outperform ได้หลังงบ 1Q25
► บริษัทตั้งเป้าส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วม (รวมผลกระทบจากรายการ PPA) ที่ 80-100 ล้านบาท ในปี 2025 และปัจจุบันยังไม่มีแผนลงทุนใหม่เพิ่มเติม แต่เน้น การบริหารจัดการ และ เพิ่มประสิทธิภาพการทำกำไรของ Partner ที่มีอยู่ พร้อมขยายตลาดใหม่
► มี 3 โรงพยาบาลใหม่ของ Partner ที่เตรียมเปิดในปี 2025 ได้แก่
โรงพยาบาลกรวิน (Korawin) เปิดวันที่ 11 มี.ค. มีห้องผ่าตัดใหญ่ 4 ห้อง และห้องผ่าตัดเล็ก 3 ห้อง
โรงพยาบาล Wind เปิดใน 2Q25 มีห้องผ่าตัด 3 ห้อง
โรงพยาบาล TYP เปิดใน 3Q25
นอกจากนี้ ยังมีแผนเปิด โรงพยาบาลเฉพาะทาง 2 แห่ง ได้แก่
โรงพยาบาลด้านผมของ TSC
โรงพยาบาลปรับโครงหน้าของ S45
ความเห็น
เรามีมุมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มผลประกอบการระยะสั้น เนื่องจากการเติบโตของรายได้ในประเทศยังไม่สูง YoY ขณะที่รายได้จากต่างประเทศเติบโตสูงกว่าแต่ยังเป็น Low Season และในเดือนมีนาคมเข้าสู่ช่วง รอมฎอนของอินโดนีเซีย
นอกจากนี้ยังมีการรับรู้ค่าใช้จ่าย PPA ของ V Square ซึ่งกระทบต่อส่วนแบ่งกำไรของบริษัทร่วม ทำให้กำไร 1Q25 อาจเติบโตเพียง 10-15% YoY
อย่างไรก็ตาม เรามองบวกในระยะยาว เพราะ 1Q25 จะเป็นไตรมาสที่ต่ำที่สุดของปี และ 2Q25 มีแนวโน้มดีกว่าคาด เนื่องจากบริษัทรับรู้ผลกระทบจาก PPA ของ V Square เร็วกว่าที่คาดไว้ใน 1Q25
ส่วน 2H25 เป็น High Season ของธุรกิจ และไม่มีปัจจัยลบใหม่มากระทบ
เรายังคงประมาณการกำไรปี 2025 ที่ 578 ล้านบาท (+10.7% YoY) ซึ่งต่ำกว่า Consensus ราว 6%
ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PER 2025 เพียง 14.5 เท่า
คงคำแนะนำ “ซื้อ”
ในเชิงกลยุทธ์ การลงทุนช่วงสั้นควรเป็นการ Trading ในกรอบ 28-33 บาท และสามารถ เพิ่มน้ำหนักการลงทุนได้หลังงบ 1Q25 ผ่านไปแล้ว