หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด ระบุถึง KTC ว่า KTC รายงานกำไรสุทธิปี 24 เท่ากับ 7.39 พันล้านบาท +2%YoY หนุนจากการโอนกลับหนี้สงสัยจะสูญภายในปีที่ 1.8 พันล้านบาท (เทียบกับปีก่อนที่บันทึกเป็นค่าใช้จ่ายราว 970 ล้านบาท) แต่ทั้งนี้ภาพรวมของผลขาดทุนทางด้านเครดิต +15%YoY จากการเพิ่มขึ้นใน ECL ของสินเชื่อบุคคล จาก 9.9% เป็น 11.5% ของรายได้รวม จากการขยายตัวของสินเชื่อบุคคล
โดยเฉพาะสินเชื่อ KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ที่ +31.8%YoY ส่วนสินเชื่อบัตรเครดิต -0.7%YoY ลดลงเล็กน้อยจากอัตราการผ่อนชำระขั้นต่ำที่เพิ่มขึ้น และการหยุดปล่อยสินเชื่อลูกหนี้สัญญาเช่า -33.8%YoY ส่งผลให้สินเชื่อทั้งปี -1.1%YoY จากความต้องการสินเชื่อที่ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้าและหนี้ภาคครัวเรือนอยู่ในระดับสูง ด้าน NPLs ratio อยู่ที่ 1.95% และมี NPL coverage อยู่ในระดับสูงที่ 369.3% โดยลูกหนี้ S2 และ S3 ลดลง ขณะที่ credit cost ปรับตัวขึ้นเป็น 6.1% จากปีก่อนที่ 5.2% ตามนโยบายการตัดหนี้สูญเพิ่มขึ้น ประกาศจ่ายปันผล 1.32 บาท คิดเป็น Div. yield ที่ 2.8% ขึ้น XD 17 เม.ย.
- แนวโน้ม 1Q25F เติบโตแข็งแกร่ง
แนวโน้ม 1Q25F คาดว่าจะขยายตัวทั้ง QoQ และ YoY โดยได้ประโยชน์จากมาตรการ Easy E-Receipt ช่วยเพิ่มยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต โดยหมวดที่มียอดการใช้จ่ายปรับตัวขึ้นได้แก่หมวดวาไรตี้สโตร์ เช่น การช้อปปิ้งผ่านช่องทางออนไลน์, บริการสั่งอาหารผ่านช่องทางออนไลน์ รวมถึงรับอาสงค์จากสิทธิพิเศษของร้านค้าที่มีการผ่อน 0% เช่นในหมวดเทเลคอม หรือ โทรศัพท์มือถือ ส่งผลให้ยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเป็นไปตามเป้าทั้งปีที่ +10% ส่วนพอร์ตสินเชื่อทั้งหมดจะขยายตัว 4-5% ได้แรงหนุนจาก KTC พี่เบิ้ม รถแลกเงิน ส่วน NPLs ratio ตั้งเป้าให้ไม่เกิน 2% พร้อมแนวโน้มการตั้งสำรองและค่าใช้จ่ายการดำเนินงานที่ลดลงพันล้านบาท +7%YoY
โดยในปี 25F เราคาดสินเชื่อจะขยายตัว 4% ผ่านยอดการใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิต +10% สินเชื่อ KTC Proud +3% และสินเชื่อพี่เบิ้ม รถแลกเงิน ปล่อยใหม่ราว 3 พันล้านบาท ด้าน NIM คาดว่าจะทรงตัวจากปีก่อนที่ 13% จากการปรับสัดส่วนสินเชื่อส่วนบุคคลและสินเชื่อจดทะเบียนมากขึ้น ช่วยชดเชย CoF ที่สูงขึ้น
ด้านคุณภาพลูกหนี้คาดว่าจะควบคุมได้ดีขึ้นจากการเน้นกลุ่มลูกค้าบัตรเครดิตระดับบนที่มีวินัยการชำระหนี้ดี โดยคาด NPLs ratio ที่ 1.9% และ Credit cost ที่ 5% ลดลงจากปีก่อนที่ 6.1% ขณะที่ C/I มีโอกาสปรับขึ้นสู่ระดับ 37.5% (ปีก่อนที่ระดับ 35%) เนื่องจากมีการลงทุนในระบบ IT เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงาน
เราขอแนะนำ “ถือ” โดยมีราคาเป้าหมายเท่ากับ 50.00 บาท อิง PBV 2.95 เท่า ใกล้เคียงค่าเฉลี่ยย้อนหลัง 5 ปี – 1 SD โดย upside ปัจจุบันเริ่มจำกัดจาก ROE ที่ยังอยู่ในแนวโน้มขาลงจากการเพิ่มขึ้นของ Equity ที่มากกว่ากำไรสุทธิ ซึ่งเราคาดการณ์กำไรสุทธิในปี 25-27F มีการเติบโตเพียง 5% CAGR แต่ทั้งนี้ตลาดติดตามผลบวกจากมาตรการคุณสู้เราช่วย และ sentiment บวกจากแนวโน้มการปรับลดดอกเบี้ยนโยบาย
ปัจจัยเสี่ยง: ภาวะเศรษฐกิจที่เปราะบาง, คุณภาพลูกหนี้ที่อ่อนแอ, แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยขาลง, มาตรการจากทางการ
ประเด็นที่มีนัยยะสำคัญด้านความยั่งยืน: การต่อต้านการคอร์รัปชั่นและการติเสินบน (G), นวัตกรรมดิจิทัล (G), การกำกับดูแลกิจการ (G)