หุ้นวิชั่น – ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) (KSS) คาดธนาคารที่ฝ่ายวิเคราะห์ศึกษารายงานกำไรสุทธิในไตรมาส 4Q24F ที่ 49,000 ล้านบาท กำไรเพิ่มขึ้น +15% y-y เนื่องจาก i) การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ เช่น bancassurance ii) การลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) ขณะที่กำไรลดลง -11% q-q เนื่องจาก i) การลดลงของ yield on loan ii) การลดลงของเงินลงทุน (FVTPL) iii) การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน (OPEX)
สำหรับเงินปันผลในช่วง 2H24F คาดว่า dividend yield จะอยู่ที่ 3-7% ภาพรวมในปี 2025F คาดว่าธนาคารจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นผลบวกในด้านคุณภาพสินทรัพย์ และธนาคารยังคงมีปันผลที่น่าสนใจ dividend yield คาดว่าจะอยู่ที่ 4-8% ต่อปี ดังนั้นคงน้ำหนักการลงทุนเป็น NEUTRAL และยังคง KBANK และ KTB เป็น Top Pick
ฝ่ายวิเคราะห์คงน้ำหนักการลงทุนเป็น NEUTRAL สำหรับกลุ่มธนาคาร โดยภาพรวมมองว่าในปี 2025F ธนาคารจะได้รับผลกระทบเชิงลบจากทิศทางดอกเบี้ยขาลง โดยคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่ 2.00% จากปัจจุบันที่ 2.25% ซึ่งมีโอกาสปรับลดลงอีก 1 ครั้งในช่วง 1Q25 อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเห็นผลบวกในเรื่องคุณภาพสินทรัพย์ เนื่องจากธนาคารเร่งจัดการคุณภาพสินทรัพย์ตลอดปี 2024F ธนาคารจะเข้มงวดในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น และมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจากภาครัฐ นอกจากนี้ธนาคารยังคงมีปันผลที่น่าสนใจ dividend yield คาดว่าจะอยู่ที่ 4-8% ต่อปี โดยยังคง KBANK และ KTB เป็น Top Pick
คาดกำไรสุทธิใน 4Q24F จะอยู่ที่ 49,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +15% y-y แต่ลดลง -11% q-q ฝ่ายวิเคราะห์คาดว่าในช่วงวันที่ 14-21 มกราคม 2025 กลุ่มธนาคาร 7 แห่งที่ฝ่ายวิเคราะห์ศึกษาจะรายงานกำไรสุทธิที่ 49,000 ล้านบาท โดยกำไรจะเพิ่มขึ้น +15% y-y จาก i) การเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียม-บริการ เช่น bancassurance เป็นต้น ii) การลดลงของค่าใช้จ่ายสำรอง (ECL) จากการตั้งสำรองก้อนใหญ่ของ KTB และ TTB ใน 4Q23 ขณะที่กำไรลดลง -11% q-q จาก i) การลดลงของ yield on loan ii) การลดลงของเงินลงทุน (FVTPL) iii) การเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานตามปัจจัยฤดูกาล
สำหรับสินเชื่อรวมคาดว่าจะเพิ่มขึ้น +0.9% q-q แต่ลดลง -0.7% YTD การเพิ่มขึ้น q-q มาจากสินเชื่อภาคธุรกิจและสินเชื่อภาครัฐ สำหรับคุณภาพสินทรัพย์ NPL ratio คาดว่าจะอยู่ที่ 3.87% เพิ่มจาก 3.78% ใน 3Q24 โดยหลักๆ มาจากกลุ่มลูกค้า SME และรายย่อย
แนวโน้มผลประกอบการในปี 2025F คาดกำไรสุทธิจะอยู่ที่ 222,000 ล้านบาท เติบโต +4% y-y โดยธนาคารจะได้รับแรงกดดันจากการลดลงของ NIM จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง อย่างไรก็ตามเราคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยทำให้ i) สินเชื่อรวมเพิ่มขึ้น ii) รายได้ค่าธรรมเนียม-บริการเพิ่มขึ้น iii) ค่าใช้จ่ายสำรอง (credit cost) ลดลง