ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

KKPโชว์กำไรปี 67 ที่ 4,985 ล้านบาท ลดลง 8.4% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลง

           หุ้นวิชั่น – ธนาคารเกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือKKP สำหรับปี 2567 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 4,985 ล้านบาท ปรับลดลงร้อยละ 8.4 เมื่อเทียบกับปี 2566 หลัก ๆ มาจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับลดลงร้อยละ 11.0 จากการชะลอตัวของสินเชื่อตามมาตรการบริหารคุณภาพสินทรัพย์ของธนาคารที่มุ่งเน้นการปล่อยสินเชื่อในประเภทที่มีคุณภาพสูง รวมถึงการปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินตามภาวะอัตราดอกเบี้ย ส่งผลให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวลดลงหากเทียบกับปีก่อนหน้า

 ในขณะที่ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นปรับตัวลดลงตามคุณภาพสินเชื่อที่มีสัญญาณทยอยปรับตัวดีขึ้น จากการมุ่งเน้นบริหารคุณภาพสินทรัพย์มาอย่างต่อเนื่องในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา

           ทางด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ธนาคารยังคงสามารถสร้างรายได้ในระดับที่ดี ส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.5 หากเทียบกับปี 2566 สำหรับรายได้จากธุรกิจตลาดทุนในส่วนของธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management) และธุรกิจการจัดการกองทุน ปรับเพิ่มขึ้นตามการเติบโตของสินทรัพย์ภายใต้การให้คำแนะนำและสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ

           ทั้งนี้ บริษัทหลักทรัพย์เกียรตินาคินภัทรยังคงมีส่วนแบ่งตลาด ในการเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์เป็นอันดับที่ 1 อย่างต่อเนื่อง โดยมีส่วนแบ่งตลาดสำหรับปี 2567 ที่ร้อยละ 22 นอกจากนี้แล้ว ธนาคารยังมีรายได้ในส่วนของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาด ในขณะที่รายได้ที่เกี่ยวข้องกับการปล่อยสินเชื่อ โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ค่านายหน้าประกันปรับตัวลดลง ภายใต้มาตรการชะลอการเติบโตสินเชื่อของธนาคาร

           ภายใต้ความท้าทายของอุตสาหกรรมยานยนต์ที่ยังคงส่งผลกระทบต่อการดำเนินงานของธนาคารในปี 2567 ในส่วนของธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อต่อเนื่องจากปี 2566 ธนาคารยังคงให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับการเร่งบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ และจากมาตรการต่าง ๆ ที่ธนาคารได้ดำเนินการมาเพื่อบริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา ส่งผลให้ธนาคารเห็นสัญญาณที่ดีขึ้น โดยผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นทยอยปรับตัวลดลงและอยู่ในระดับที่ดีกว่ากรอบคาดการณ์ของธนาคาร

            ในขณะที่ผลขาดทุนจากการขายรถยึดปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อยเช่นกันหากเทียบกับปีก่อนหน้า ทั้งนี้ ธนาคารยังคงความระมัดระวังในการพิจารณาตั้งสำรองเพื่อรองรับความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น โดยมีการสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นสำหรับปี 2567 เป็นจำนวน 3,974 ล้านบาท ปรับลดลงร้อยละ 34.7 หากเทียบกับปีก่อนหน้า ตามคุณภาพสินเชื่อที่ดีขึ้นสัญญาณปรับตัวดีขึ้น โดยอัตราส่วนสำรองต่อสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิต ณ สิ้นปี 2567 อยู่ที่ร้อยละ 134.2 ทางด้านอัตราส่วนสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวมยังอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดีที่ร้อยละ 4.2 ณ สิ้นปี 2567

           สำหรับไตรมาส 4/2567 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิเท่ากับ 1,406 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 109.9 จากงวดเดียวกันของปี 2566 หลัก ๆ มาจากการปรับลดลงของผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น โดยปรับตัวลดลงร้อยละ 36.0 รวมถึงผลขาดทุนจากการขายรถยึดที่ปรับตัวลดลงเช่นกัน ตามปริมาณรถยึดที่ทยอยลดลง

           ทางด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย ปรับตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 55.3 หากเทียบกับไตรมาส 4/2566 จากการเพิ่มขึ้นของรายได้ค่าธรรมเนียมในส่วนของธุรกิจตลาดทุน ทั้งในส่วนของธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ ธุรกิจบริหารความมั่งคั่ง ธุรกิจจัดการกองทุน และธุรกิจวาณิชธนกิจ

           นอกจากนี้ ธนาคารยังมีรายได้ในส่วนของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไร หรือ ขาดทุนที่ปรับเพิ่มขึ้นตามภาวะตลาดสุทธิกับรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่ปรับลดลงร้อยละ 16.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยตามมาตรการชะลอตัวของสินเชื่อของธนาคาร และการปรับเพิ่มขึ้นของต้นทุนทางการเงินตามภาวะอัตราดอกเบี้ย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

image not found

[Vision Exclusive] SEAFCO ฐานรากแข็งแรง ตุนงานในมือกว่า 2.6 พันล.

[Vision Exclusive] BAFS เติมน้ำมันเครื่องบินโต คาดไตรมาส 1/68 โตไม่ต่ำ 30%

[Vision Exclusive] BAFS เติมน้ำมันเครื่องบินโต คาดไตรมาส 1/68 โตไม่ต่ำ 30%

GULF ถูกเพิ่มอันดับเครดิต TRIS เป็น “AA-” ชี้แกร่งหลังควบรวม INTUCH

GULF ถูกเพิ่มอันดับเครดิต TRIS เป็น “AA-” ชี้แกร่งหลังควบรวม INTUCH

PTT ซื้อคืนอีก 7.66 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 245.12 ล้านบาท

PTT ซื้อคืนอีก 7.66 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 245.12 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด