ปรับแต่งการตั้งค่าการให้ความยินยอม

เราใช้คุกกี้เพื่อช่วยให้คุณสามารถไปยังส่วนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพและทำหน้าที่บางอย่าง คุณจะพบข้อมูลโดยละเอียดเกี่ยวกับคุกกี้ทั้งหมดภายใต้หมวดหมู่ความยินยอมแต่ละประเภทด้านล่าง คุกกี้ที่ได้รับการจัดหมวดหมู่ว่า "จำเป็น" จะถูกจัดเก็บไว้ในเบราว์เซอร์ของคุณ เนื่องจากมีความจำเป็นต่อการทำงานของฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์... 

ใช้งานอยู่เสมอ

คุกกี้ที่จำเป็นมีความสำคัญต่อฟังก์ชันพื้นฐานของเว็บไซต์ และเว็บไซต์จะไม่สามารถทำงานได้ตามวัตถุประสงค์หากไม่มีคุกกี้เหล่านี้

คุกกี้เหล่านี้ไม่จัดเก็บข้อมูลที่สามารถระบุตัวบุคคลได้

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้แบบฟังก์ชันนอลช่วยทำหน้าที่บางอย่าง เช่น แบ่งปันเนื้อหาของเว็บไซต์บนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย รวบรวมความคิดเห็น และฟีเจอร์อื่นๆ ของบุคคลที่สาม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้วิเคราะห์ใช้เพื่อทำความเข้าใจวิธีการที่ผู้เยี่ยมชมโต้ตอบกับเว็บไซต์ คุกกี้เหล่านี้ช่วยให้ข้อมูลเกี่ยวกับตัวชี้วัด เช่น จำนวนผู้เข้าชม อัตราตีกลับ แหล่งที่มาของการเข้าชม ฯลฯ

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้ประสิทธิภาพใช้เพื่อทำความเข้าใจและวิเคราะห์ดัชนีประสิทธิภาพหลักของเว็บไซต์ซึ่งจะช่วยให้สามารถมอบประสบการณ์การใช้งานที่ดีขึ้นแก่ผู้เยี่ยมชม

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

คุกกี้โฆษณาใช้เพื่อส่งโฆษณาที่ได้รับการปรับแต่งตามการเข้าชมก่อนหน้านี้ และวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแคมเปญโฆษณา

ไม่มีคุกกี้ที่จะแสดง

JMT ไตรมาส3/67 กำไร 430ล้าน คาดไตรมาส 4/67 เก็บหนี้ดีขึ้น

           JMT กำไรสุทธิสำหรับไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 430 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อย 7.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมกำไรสุทธิงวด 9 เดือนแรกของปี 2567 อยู่ที่ 1,215 ล้านบาท ลดลง 17.4% จากปีก่อน โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตั้งเป้าไตรมาส 4/67 เป็นช่วงเก็บหนี้สูงสุด สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง

           บริษัท เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส จำกัด (มหาชน) หรือ JMT บริษัทฯ มีรายได้รวมสำหรับงวด 9 เดือน เท่ากับ 3,947.6 ล้านบาท เติบโตร้อยละ 6.5 โดยรายได้ในส่วนบริหารหนี้ด้อยคุณภาพยังคงมีการเติบโต และจะเติบโตไปพร้อมกับการจัดเก็บกระแสเงินสด ทั้งนี้ สัดส่วนของรายได้ในธุรกิจบริหารหนี้ เท่ากับร้อยละ 89.4 ของรายได้รวมของบริษัท

           บริษัทฯ มียอดกระแสเงินสดจากการจัดเก็บหนี้ (Cash Collection) ในไตรมาส 3/2567 กรณีรวมกระแสเงินสดที่จัดเก็บโดยบริษัทสินทรัพย์ JK เท่ากับ 2,263 ล้านบาท และสำหรับส่วนของบริษัท จะมีการจัดเก็บในไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมาเท่ากับ 1,396 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/2567 ร้อยละ 7 และสำหรับงวด 9 เดือน กรณีกระแสเงินสดที่จัดเก็บรวมบริษัทสินทรัพย์ JK เท่ากับ 6,479 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งนี้ สำหรับการจัดเก็บกระแสเงินสดในส่วนของบริษัท ในรอบ 9 เดือน เท่ากับ 4,154 ล้านบาท

           กำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้น สำหรับไตรมาส 3/2567 เท่ากับ 430 ล้านบาท ลดลงจากงวดเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 7.8 สำหรับงวด 9 เดือน เท่ากับ 1,215 ล้านบาท ลดลงเท่ากับ 255.3 ล้านบาท หรือลดลงร้อยละ 17.4 เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นบริษัทฯ เท่ากับร้อยละ 30.8

           “บริษัทยังคงตั้งเป้าหมายในการจัดเก็บกระแสเงินสดให้เพิ่มขึ้น ด้วยการติดตามลูกค้าอย่างใกล้ชิด โดยคาดการณ์ว่าไตรมาส 4/2567 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ในด้านการจัดเก็บหนี้ด้อยคุณภาพ”

สภาพคล่องและความเพียงพอของเงินทุน

           บริษัทฯ มีกระแสเงินสดเพียงพอต่อการดำเนินกิจการและชำระเงินกู้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้สำรองกระแสเงินสดที่จะต้องชำระเงินกู้ให้กับหุ้นกู้ที่ครบกำหนดจ่ายคืน ที่มีกำหนดไถ่ถอนภายในปี 2567 ไว้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งมีมูลค่ารวมเพียง 1,012.5 ล้านบาท ซึ่งบริษัทมีกระแสเงินสดและเงินสดในบริษัทเพียงพอต่อการจ่ายคืนหุ้นกู้ดังกล่าว

           นอกจากนี้ สำหรับหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนภายใน 1 ปี บริษัทฯ และบริษัทย่อย ได้จัดทำประมาณการทางการเงินสำหรับการชำระหนี้ไว้เรียบร้อยแล้ว โดยจะมีแหล่งเงินมาจากกระแสเงินสดภายในบริษัท เงินปันผลรับที่จะได้รับจากบริษัทย่อยและกิจการร่วมค้า เงินกู้ยืมที่จะได้รับคืนจากกิจการร่วมค้า และการรีไฟแนนซ์ (Refinance) โดยการออกหุ้นกู้ ซึ่งในช่วงปลายไตรมาส 3/2567 ที่ผ่านมา บริษัทประสบความสำเร็จในการปิดการขายหุ้นกู้ 2 ชุดใหม่ อายุ 2 ปี และ 4 ปี อัตราดอกเบี้ย 4.90% และ 5.50% ต่อปีตามลำดับ มูลค่ารวมทั้งสองชุด 1,800 ล้านบาท นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดีครบตามจำนวน

           บริษัทฯ ยังคงสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง และยังคงดำรงอัตราส่วนทางการเงินตามข้อกำหนดสิทธิหุ้นกู้เสมอมา

มุมมองของอุตสาหกรรมในอนาคต

           ในอนาคต อุตสาหกรรมบริหารหนี้ด้อยคุณภาพคาดว่าจะยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่แน่นอนและแนวโน้มการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียในระบบการเงิน การเติบโตนี้ยังได้รับแรงผลักดันจากการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ช่วยให้กระบวนการบริหารหนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เช่น การใช้ระบบวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และปัญญาประดิษฐ์ (AI) เพื่อช่วยในการวิเคราะห์และปรับโครงสร้างหนี้ นอกจากนี้ แนวโน้มการปรับปรุงกฎระเบียบด้านการบริหารหนี้ของรัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มที่จะสนับสนุนธุรกิจในภาคนี้ให้มีความยั่งยืนและเป็นธรรมมากยิ่งขึ้น

แชร์:

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

image not found

[Vision Exclusive] SEAFCO ฐานรากแข็งแรง ตุนงานในมือกว่า 2.6 พันล.

[Vision Exclusive] BAFS เติมน้ำมันเครื่องบินโต คาดไตรมาส 1/68 โตไม่ต่ำ 30%

[Vision Exclusive] BAFS เติมน้ำมันเครื่องบินโต คาดไตรมาส 1/68 โตไม่ต่ำ 30%

GULF ถูกเพิ่มอันดับเครดิต TRIS เป็น “AA-” ชี้แกร่งหลังควบรวม INTUCH

GULF ถูกเพิ่มอันดับเครดิต TRIS เป็น “AA-” ชี้แกร่งหลังควบรวม INTUCH

PTT ซื้อคืนอีก 7.66 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 245.12 ล้านบาท

PTT ซื้อคืนอีก 7.66 ล้านหุ้น มูลค่ารวม 245.12 ล้านบาท

ข่าวล่าสุด

ทั้งหมด