หุ้นวิชั่น-ทีมข่าวหุ้นวิชั่น รายงาน นายเบญจพล สุทธิ์วนิช ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นของ IVL และ PTTGC ที่ปรับตัวขึ้น คาดมาจากจีน มีการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยปัจจัยหลักๆ คือ การลดการผลิตลง เพื่อเพิ่มการนำเข้า ทำให้ความกังวลต่อซัพพลายของจีนคลายลง
ขณะที่ราคาหุ้นดังกล่าวในช่วงที่ผ่านมา ก็ค่อนข้าง Undervalue มาก
ทั้งนี้มองผลการดำเนินงานของ IVL และ PTTGC ได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปีที่ผ่านมา โดยคาดว่าปีนี้จะสามารถพลิกกลับมามีกำไรได้ จากการมุ่งลดต้นทุนเป็นสำคัญ
ด้านบล.กรุงศรี ระบุ ประเด็นสำคัญ จาก Capital Markets Day (CMD) 2025
ธุรกิจ CPET มุ่งเจาะตลาดเอเชียมองฐานการผลิตเดิมมีจุดแข็งที่พึ่งพา domestic demand (ราว 76% ของรายได้ CPET) ช่วยลดผลกระทบของสงครามการค้า และได้ประโยชน์จากมาตรการกีดกันการค้าต่อสินค้าจากจีน นอกจากนี้มองมีโอกาสขยายการขาย specialty product ได้ราว 20% ภายใน 2027 หรือราว 1 แสนตัน/ปี มองความต้องการใช้ PET ทั่วโลกยังเติบโตเฉลี่ย 4% ในช่วง 2025-27 โดยเฉพาะอินเดียที่มีอัตราการเติบโตสูงสุด คาดเฉลี่ยราว 9% ทั้งนี้บริษัทมีแผนจะ JV กับ partner โดยนำ asset มารวมกันเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน, อยู่ระหว่างพิจารณา optimize asset PTA เพิ่มเพื่อเพิ่มความสามารถในการทำกำไร และอาจมีโอกาสลงทุนในธุรกิจ MEG/MTBE เพิ่มในอินเดีย (ขึ้นกับสถานะทางการเงินของ IVL ในปี 2027 ด้วย) มูลค่าราว 500$mn ซึ่งเป็นการซื้อต่อจาก Indorama Resources ที่เป็นของ Lohia’s family (50:50 JV กับ Adani Enterprises มูลค่าโครงการรวมราว 5,000$mn COD 2029)
– Indovida (ทำ Packaging อยู่ใน CPET) อยู่ระหว่าง spin off ตั้งเป้าภายใน 2026 และตั้งเป้า EBITDA เติบโต 22% ภายใน 2027 เป็นราว 120$mn (Vs. 98$mn ใน 2024) ตามการขยายตลาดในแอฟริกา
– Indovinya (surfactants ในธุรกิจ IOD) ตั้งเป้า EBITDA +43% ภายใน 2027 การเติบโตมาจากทั้งปริมาณขายที่เพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจ, การเพิ่มส่วนแบ่งตลาด, ขยายผลิตภัณฑ์ HVA และการเจาะตลาดเอเชีย ทั้งนี้คงแผน spin off ภายใน 2026 คาดได้เงินทุนราว 1$bn เพื่อนำไปชำระคืนหนี้และต่อยอดการลงทุน
– ธุรกิจ Fibers ตั้งเป้า EBITDA เพิ่ม 76% ภายใน 2027 โดยโตจากการขยายตลาดใน America ตั้งเป้าเพิ่ม EBITDA ราว 27$mn และการลดค่าใช้จ่ายคงที่ รวมถึง optimize asset ตั้งเป้าลดได้ราว 98$mn
– มอง 2025-26 อาจบรรลุกำรขายทรัพย์สิน (ส่วนที่ optimize asset) ได้เงินสดราว 150-200$mn ส่วน EBITDA ที่เพิ่มขึ้นจากการ optimize asset คาดราว 130-140$mn (เป้าเดิม 140-150$mn)
ฝ่ายวิเคราะห์ฯ มอง Neutral ต่อข้อมูลจากการจํากัด Capital Markets Day 2025 ภาพรวมเป้าการเพิ่ม EBITDA ภายใน 2027 ของ IVL มองว่ามีความท้าทายในด้านของเป้าปริมาณขาย (fig3) โดยหากให้สมมติฐานว่า margin แทบไม่เพิ่มเหมือนมุมมองของผู้บริหาร จะเสมือนว่าปริมาณขายต้องเพิ่มกว่า 3.8 ล้านตัน/ปี (MTA) หรือ +27% เพื่อให้เป็นไปตามเป้า Vs. ประมาณการที่คาดปริมาณขายเพิ่มราว 1.5 MTA ในช่วง 2025-27
และปี 2024 ที่ flat y-y สะท้อนว่าส่วนหนึ่งต้องอาศัยการ M&A/JV ซึ่งเรามองว่าเร็วเกินไปที่จะให้น้ำหนัก ทั้งนี้ในส่วนของโอกาสในการเข้าลงทุนใน family asset ในอินเดียในช่วง 2027 มองเป็นบวกในด้านของกลยุทธ์ระยะยาวที่มุ่งเจาะตลาดที่มีโอกาสเติบโตสูงอย่างอินเดีย โดยอยู่ระหว่างรอการเปิดเผยรายละเอียดโครงการดังกล่าวก่อนประเมินผลกระทบ
คงมุมมองปี 2025F ฟื้นสูง y-y คาดกำไรปกติราว 1.1 หมื่นลบ. ได้แรงหนุนจากค่าใช้จ่ายคงที่ลดลงเต็มปี หลังทยอยปิดโรงงานที่ไม่ทำกำไร, integrated spread PET ฟื้นตัวจาก new supply ที่เข้ามาลดลงและโรงผลิตบางส่วน cut run และ stock loss ลดลงตามการเก็บวัตถุดิบหลังผ่านช่วงแรกของการ optimize asset
คงคำแนะนำ Trading Buy ที่ TP25 = 24.0 บาท/หุ้น คงมุมมองสามารถซื้อเก็งกำไรการฟื้นตัวของ PET spread ในช่วงปลาย มี.ค. – 2Q25 ที่มีความต้องการ re-stock และเข้าสู่ช่วงฤดูร้อน (high season) รวมถึงระยะสั้นมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มการฟื้นตัวของกำไรใน 1Q25 จาก stock loss และค่าใช้จ่ายคงที่ที่ลดลง