หุ้นวิชั่น – จับตา “ซื้อลูกหนี้ประชาชน” ออกจากระบบธนาคาร ซึ่งหากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ให้น้ำหนักกรณีที่รัฐบาลเปิดโอกาสในการซื้อหนี้เพิ่มเติม หรือว่าจ้างเอกชนในการบริหาร เนื่องจากการสนับสนุนในรูปแบบดังกล่าว มีความเสี่ยงที่รัฐได้รับและต้นทุนด้านนโยบายสูงกว่ากรณีที่รัฐบริหารเอง โดยปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในแง่ของนโยบาย จึงต้องติดตามในระยะถัดไป คงน้ำหนัก Neutral กลุ่มบริหารสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ และเลือก JMT (Trading Buy, TP 15.60 บาท) เป็นหุ้นเด่น
ประเด็น
บทวิเคราะห์ บล. กรุงศรี ระบุว่า แนวคิด “ซื้อลูกหนี้ประชาชน” ออกจากระบบธนาคาร จากภาครัฐเสนอให้มีการซื้อหนี้ของประชาชนทั้งหมดออกจากระบบธนาคาร แล้วให้ประชาชนค่อยๆ ผ่อนชำระในอัตราที่ลดลง พร้อมล้างประวัติเครดิตบูโร โดยอาศัยการลงทุนจากภาคเอกชน เพื่อลดการใช้งบประมาณของรัฐ
ปัจจุบันมีแนวทางที่อาจเป็นไปได้ 3 กรณี i) ให้ภาคเอกชนที่สนใจเข้ามาร่วมลงทุนและบริหาร NPLs ii) อาศัยรัฐวิสาหกิจเป็นหน่วยงานกลาง (อาทิ BAM หรือ SAM) ในการซื้อหนี้เสีย โดยบริหารหนี้ Secured NPLs เอง และว่าจ้างบริษัทเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญติดตามหนี้ Unsecured NPLs (เนื่องจาก BAM และ SAM ไม่มีความชำนาญในธุรกิจดังกล่าว) iii) จัดตั้งหน่วยบริหาร NPLs ขึ้นมาโดยเฉพาะซึ่งจะดำเนินการร่วมกันระหว่างสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นเจ้าของหนี้ และรัฐบาลช่วยในการบริหาร
บล. กรุงศรี มองเป็น Sentiment บวกเล็กน้อยต่อกลุ่ม AMC เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในแง่ของนโยบาย แต่จากทั้ง 3 กรณีมองได้ในลักษณะ
กรณีที่ 1 เปิดโอกาสในการซื้อหนี้เพิ่มเตมแก่เอกชน โดยให้การสนับสนุนอาทิ ซื้อหนี้ Unsecured NPLs ได้ในราคาต่ำที่ 5% ของมูลหนี้ หรือให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำสำหรับการซื้อหนี้เพื่อเป็น Incentive ในการซื้อหนี้ที่อาจเก็บยากกว่าปกติเนื่องจากเป็น NPLs คงค้างในระบบมานาน
กรณีที่ 2 รัฐว่าจ้าง AMC ที่มีความเชี่ยวชาญในการบริหารหนี้เสีย จะเป็นบวกกับกลุ่ม AMC โดยเฉพาะกลุ่มติดตามทวงถามหนี้ Unsecured NPLs (JMT, CHAYO) เนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีรัฐวิสาหกิจที่เชี่ยวชาญด้านนี้ เนื่องจาก BAM และ SAM เน้นหนี้ Secured NPLs ซึ่งหากอิงบนยอดหนี้กลุ่มคนที่มีหนี้ไม่มีหลักประกันต่อคน < 1 แสนบาทที่ 35% ของหนี้ NPLs ราว 1.2 ล้านล้านบาท (ที่มา: ฐานเศรษฐกิจ, NESDC) คิดเป็นมูลค่า 4.2 แสนล้านบาท และโดยทั่วไปธุรกิจติดตามทวงถามหนี้ Unsecured จะได้รับค่า Commission ราว 5-10% ของหนี้ที่ติดตามได้
กรณีที่ 3 รัฐบริหารเองหรือตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่เพื่อบริหารหนี้ดังกล่าว คาดเป็นผลลบจากการเพิ่มการแข่งขันในกลุ่ม AMC ซึ่งอาจทำให้ปริมาณ NPL ที่ซื้อได้มีโอกาสลดลง
หากโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นจริง เรามองน้ำหนักกรณีที่ 1 > กรณีที่ 2 > กรณีที่ 3 เนื่องจากกรณีที่ 1 รัฐได้รับความเสี่ยงต่ำกว่าอีก 2 กรณีซึ่งต้องอาศัยความร่วมมือจากรัฐวิสาหกิจ และรัฐต้องร่วมแบกความเสี่ยงในการบริหารหนี้เสียเอง
คงน้ำหนัก Neutral กลุ่มบริหารสินทรัพย์ ระยะสั้นยังคงชอบธุรกิจบริหารสินทรัพย์ซึ่งมีสัดส่วนรายได้จากหนี้ Unsecured NPLs เป็นหลักจากแนวโน้ม Cash collection ที่ฟื้นตัวต่อเนื่องติดต่อกัน 2 ไตรมาส และคงมุมมองระมัดระวังต่อกลุ่มบริหารหนี้ที่มีสัดส่วนรายได้จาก Secured NPLs
เลือก JMT (Trading Buy, TP 15.60 บาท) เป็นหุ้น Top pick กลุ่มฯ โดยปัจจุบันหุ้นซื้อขายบน PBV 0.7x ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยย้อนหลัง -1.5SD จึงเป็นโอกาสเก็งกำไรจากปัจจัยบวกข้างต้น